08.00 น./08.30 น.
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ บริเวณผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 9 เคาน์เตอร์ U เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน GULF AIR (GF) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอินรับบัตรโดยสาร
**หมายเหตุ**
- เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที และผู้โดยสารพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 30 นาที
*** เดินทางวันที่ 7-13 พ.ย., 5-11, 12-18 ธ.ค. 62 พร้อมกัน ณ เวลา 08.00 น. ***
*** เดินทางวันที่ 17-23 ต.ค. 62 พร้อมกัน ณ เวลา 08.30 น. ***
- เที่ยวบินขาไปและขากลับ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลาบิน ทั้งนี้เป็นการารเปลี่ยนแปลงตามตารางบิน ของแต่ละเดือนแต่ละซีซั่น ก่อนทำการออกตั๋วภายในทุกครั้ง กรุณาเชคกับทางเจ้าหน้าที่บริษัท ตามวันที่ ที่ลูกค้าเดินทาง
วันที่ 3
ล่องเรือท้องกระจก - ทะเลทรายวาดิรัม(นั่งรถจีปตะลุยทะเลทราย)
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน ล่องเรือท้องกระจก (Glass Boat) แล่นในทะเลแดง ชมความใสของน้ำทะเล, ปะการัง, ปลาทะเลหลากชนิด, เม่นทะเล, แมงกะพรุน ฯลฯ
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านออกเดินทางสู่ ทะเลทรายวาดิรัม (Wadi Rum) หรือ หุบเขาแห่งพระจันทร์ (The Valley of the Moon) ระยะทาง 74 กิโลเมตร วาดิรัมมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ว่ากันว่ามีมนุษย์อยู่อาศัยมาแล้วตั้งแต่ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล แม้ว่าจะมีสภาพแวดล้อมแห้งแล้ง หาสิ่งมีชีวิตอยู่ได้ยากก็ตาม เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง The martial ซึ่งถูกสมมุติให้เป็น ดาวอังคาร เนื่องจากสีของทรายที่นี่ ว่ากันว่า คล้ายสีของทรายบนดาวอังคาร ในทะเลทรายวาดิรัมมีภาพเขียนฝาหนังของมนุษย์ยุคโบราณหลายจุด แสดงให้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยนั้น วาดิรัมเคยเป็นที่การอาศัยของมนุษย์หลายชาติชน หลายอารยธรรม หลายวัฒนธรรม ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ทั้งพวกนาบีเทียน ที่มีหลักฐานเป็นภาพบนหินในรูปแบบของพวกนาบีเทียน วิจิตรกรรมฝาผนัง และสถานที่ประกอบพิธีกรรม เผ่าเบดูอินก็เช่นเดียวกัน มีหลักฐานว่าพวกเราอาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ หุบเขาแห่งนี้ถูกค้นพบโดยการปีนเขาในปี 1987 โดยโทนี่ ฮอวอร์ด,ดี เทย์เลอร์, มิค ชอร์และ อัล เบเกอร์ ฮอวอร์ดและเทย์เลอร์ เขียนหนังสือคู่มือสองเล่มเพื่อแนะนำการเดินและปีนหุบเขาวาดิรัม นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมการขี่อูฐ และเที่ยวซาฟารีด้วยม้า ทัวร์นี้รวมค่าใช้จ่ายของกิจกรรม นั่งรถ 4WD ตะลุยทะเลทราย นั่งไม่เกิน 4 ท่านต่อคัน ** ไม่รวมทิปคนขับรถ ท่านละ 2 USD **
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ แคมป์
ที่พัก
Mazayen Camp หรือเทียบเท่า
วันที่ 4
เมืองเพตรา - วิหารสลักเพตรา - ช่องแคบชิคพิศวง - ทะเลเดดซี
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ แคมป์
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองเพตรา (Petra) ระยะทาง 115 กิโลเมตร นครหินแกะสลักโบราณที่ซ่อนตัวอย่างลึกลับในหุบเขาวาดี มูซา หุบเขาที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลเดดซีกับอ่าวอะกาบา แต่เดิมนั้นเป็นนครแห่งการค้าขนาดใหญ่ซึ่งต่อมาถูกละทิ้งเป็นเวลานานกว่า 700 ปี จนเมื่อโยฮัน ลูทวิช บวร์คฮาร์ท นักสำรวจชาวสวิส เดินทางผ่านมาพบเห็นเข้าเมื่อปี ค.ศ. 1812 ต่อมาได้รับลงทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2528 โดยกล่าวอธิบายไว้ว่า "เป็นหนึ่งในสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดของมรดกทางวัฒนธรรมแห่งมวลมนุษยชาติ" ชมวิหารน้อยใหญ่ในเมืองเปตรา ที่แกะสลักภูเขาทั้งลูก และชมภาพศิลปะแกะสลักอีกมากมาย ลัดเลาะไปตามหุบเขาและเดินเท้าเข้าสู่รอยแยกของเปลือกโลก ที่ซ่อนความยิ่งใหญ่ตระการตาของมหาวิหารปราสาททรายสีชมพู เอล คาซเนห์
ชม ปราสาททรายสีชมพู สถานที่ที่เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “อินเดียน่า โจนส์” ภาค 3 ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า มหาวิหารแกะสลักเสลาจากภูเขาอย่างกลมกลืนได้สัดส่วนและสวยงามน่าอัศจรรย์ เป็นอาคาร 2 ชั้น ประดับด้วยเสาแบบคอรินเทียนส์และรูปคน ซึ่งสลักขึ้นจากเขาบริเวณกลางเมือง ว่ากันว่าเป็นคลังที่เก็บสมบัติของฟาโรห์ ** ไม่รวมค่าทิปขี่ม้า โดยประมาณ 3 USD ** (ไม่รวมค่าขี่ลา, ขี่อูฐ, รถม้าลาก สนในกรุณาติดต่อที่หัวหน้าทัวร์)
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านออกเดินทางสู่ ช่องแคบชิคพิศวง (The Siq) เป็นช่องแคบในหุบเขาที่มีซอกหินสีสันลวดลายอันงดงาม ซึ่งเกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลก และการซัดเซาะของน้ำเป็นเวลาหลายล้านปี มีความยาวประมาณ 1.2 ก.ม. ช่วงที่แคบที่สุดประมาณ 3 เมตร และสูงสุดถึง 160 เมตร ภูเขาและแท่งผาที่เว้าแหว่งแบบนี้เกิดการกัดกร่อนของธรรมชาติเป็นเวลาหลายพันปี เลยกลายเป็นช่องและซอกเล็ก ๆ ระหว่างหุบเขาเมื่อบวกกับสีสันของหินที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ กว่าจะทะลุถึงลานกว้างโล่งในโอบกอดของหินผาที่เรียกว่า เทรชเชอรี (Treasury) หรือท้องพระคลัง มุมที่นักท่องเที่ยวทุกคนปรารถนาอยากจะเห็นด้วยสองตาเปล่า นี่คือมุมที่เป็นเหมือนโลโก้ของนครสีชมพู เดิมทีเป็นเพียงหน้าผาธรรมดา แต่ชาวนาบาเทียนลงมือแกะสลักได้อย่างน่าทึ่ง
นำท่านออกเดินทางสู่ ทะเลเดดซี หรือ ทะเลมรณะ (Dead Sea) ระยะทาง 201 กิโลเมตร ทะเลสาบน้ำเค็มที่มีความเข้มข้นของเกลือสูง เค็มกว่าทะเลทั่วไปถึง 4 เท่า ทะเลเดดซี ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขายูเดียที่ด้านเหนือ และที่ราบสูงทรานสจอร์แดนที่ด้านตะวันออก แม่น้ำจอร์แดนจะไหลจากทางเหนือมายังทะเลเดดซีนี้ ซึ่งมีความยาว 80 ก.ม. และมีความกว้างถึง 18 กิโลเมตร ส่วนพื้นที่นั้น 1,020 ตารางกิโลเมตร ละอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 417.5 เมตร ชาวอาหรับจะเรียกทะเลสาบเดดซีกันว่า "อัลบาห์รัลไมยิต” หมายความว่า ทะเลมรณะ เช่นเดียวกับภาษาอังกฤษ สำหรับทะเลสาบเดดซี เป็นจุดหมายปลายทางของผู้ชื่นชอบในการเดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ เป็นทะเลที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ยกเว้นแต่แบคทีเรียและเห็ดราบางชนิดเท่านั้น นักท่องเที่ยวมักจะถ่ายรูปการลอยตัวเหนือน้ำในทะเลเดดซี เนื่องจากความเข้มข้นของเกลือสูง อิสระให้ท่านเล่นน้ำทะเล และให้ท่านพิสูจน์ว่าสามารถลอยตัวได้
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
ที่พัก
Holiday Inn Resort Dead Sea ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 5
นครโบราณเจราช - อัมมาน - ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน - ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเจราซ (The Roman city of Jerash) ระยะทาง 91 กิโลเมตร เมืองปอมเปย์แห่งตะวันออก
ชม ซุ้มประตูกษัตรย์เฮเดรียน (Hadrian 's Arch) และ สนามแข่งม้าฮิปโปโดมพลาซ่า ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุม พบปะ สังสรรค์ของชาวเมืองที่ยังคงหลงเหลืออยู่ภายในเมือง ตัวเมืองสูญหายเป็นเวลาหลายพันปีจากแผ่นดินไหว จนกระทั่งมีการขุดค้นในช่วงปลาย คริสต์ศตวรรษที่ 19 เมืองโบราณเจราชจึงเผยโฉมให้กับชาวโลกอีกครั้ง
จากนั้นนำท่านเดินเข้าประตูทางทิศใต้ ชม โอวัลพลาซ่า (Oval Plaza) สถานที่ชุมนุมพบปะสังสรรค์ของชาวเมือง
ชม โรมันโบราณ (South Roman Theatre) ซึ่งก็คือโรงละครทางทิศใต้ สร้างในราวปี ค.ศ. 90-92 จุผู้ชมได้ถึง 3,000 คน มีจุดเสียงสะท้อนตรงกลางโรงละคร เชิญทดสอบกับความอัศจรรย์เพียงพูดเบาๆ ก็จะมีเสียงสะท้อนก้องเข้ามาในหูของเรา
จากนั้นนำท่านชม น้ำพุใจกลางเมือง (Nymphaeum) ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.191 เพื่ออุทิศแด่เทพธิดาแห่งขุนเขา ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเมืองแห่งนี้ มีที่พ่นน้ำเป็นรูปหัวสิงโตทั้งเจ็ด และตกแต่งด้วยเทพต่างๆ ประจำซุ้มด้านบนของน้ำพุ
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านออกเดินทางกลับ เมืองหลวงอัมมาน (Amman) ระยะทาง 50 กิโลเมตร
ชม ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (Citdael) ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุการณ์ต่างๆรอบเมือง ให้ท่านอิสระถ่ายรูปตรงจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองแห่งนี้ โดยมีฉากหลังเป็นโรงละครโรมันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์แดน ที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 6,000 คน และ ตึกรามบ้านช่องที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง อันแปลกตายิ่งนัก
นำท่านช้อปปิ้ง สินค้าพื้นเมือง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
Days Inn Or Amman West Hotel ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 6
จอร์แดน - บาห์เรน - มัสยิด Al Fateh - ประตูสู่บาห์เรน (Bab al Bahrain) - ตลาดพื้นเมือง Manama Souq - บาห์เรน - กรุงเทพฯ
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติอัมมาน ควีน อาเลีย
11.45 น. / 12.35 น.
บินลัดฟ้าสู่ บาห์เรน โดย สายการบิน GULF AIR เที่ยวบินที่ GF972 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที
15.00 น.
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติบาห์เรน ประเทศบาห์เรน หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นนำท่านเข้าชม มัสยิด Al Fateh หนึ่งในมัสยิดที่ขึ้นชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ที่ถูกตั้งชื่อตามกษัตริย์ผู้สร้างเมือง ‘Ahmed Al Fateh’ เป็นสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1987 และเป็นมัสยิดที่ถูกตกแต่งด้วยวัสดุชั้นเลิศที่รวบรวมมาจากทั่วโลก อาทิเช่น ลูกแก้วตกแต่งบนพื้นจากอิตาลี โคมไฟจากออสเตรีย หรือแม้แต่ประตูไม้สุดอลังการที่ทำจากอินเดีย ซึ่งนอกจากจะเป็นมัสยิดที่เป็นจุดศูนย์รวมดวงใจของชาวบาห์เรนแล้ว ในปี 2006 มัสยิดแห่งนี้ยังถูกประกาศให้เป็นหอสมุดแห่งชาติอีกด้วย *** หมายเหตุ : หากวันเวลาดังกล่าวทางมัสยิดมีกิจกรรมทางศาสนาหรือมีประกาศห้ามเข้าชมภายในมัสยิดด้วยเหตุผลใดก็ตาม ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเข้าชม และทางคณะทัวร์จะให้ท่านได้ฟังบรรยายและการถ่ายรูปจากภายนอกมัสยิดเท่านั้น
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าชม ประตูสู่บาห์เรน (Bab al Bahrain) ออกแบบโดย Sir Charles Belgrave ที่ปรึกษาเจ้าผู้ครองรัฐบาห์เรนเพื่อเป็นทางเข้าไปสู่ตลาดมานามาซึ่งเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญและแหล่งจับจ่ายของท้องถิ่น สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อ ค.ศ.1945 และได้รับการตกแต่งเพิ่มเติมในปี ค.ศ.1986 เพื่อปรับเปลี่ยนให้มีรูปร่างเป็นสถาปัตยกรรมอิสลามมากขึ้น
จากนั้นเราจะพาท่านไปเปิดประตูสู่วัฒนธรรมวิถีชีวิตการเป็นอยู่ของชาวบาห์เรนที่ ตลาดพื้นเมือง Manama Souq ตลาดใจกลางเมืองที่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของชาวเมือง ซึ่งที่นี่ท่านจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นอย่างเป็นกันเองพร้อมช้อปปิ้งของฝาก
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติบาห์เรน เพื่อนำท่านเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย
22.20 น. / 22.25 น.
ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย โดย สายการบิน กัลฟ์แอร์ (GF) เที่ยวบินที่ GF152 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
วันที่ 7
กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ)
08.55 น./09.30 น.
เดินทางถึง สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ