21.35 น.
เดินทางถึง สนามบินซีอานเซียงหยาง เมืองหลวงของมณฑลส่านซี ตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีแม่นำเว่ยไหลผ่าน มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปีได้ถูกสถาปนาเป็นราชธานีในนาม “นครฉางอาน” เคยเป็นนครหลวงในสมัยต่างๆ รวมทั้งสิ้น 13 ราชวงศ์ซีอานได้เป็นศูนย์กลางการติดต่อทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างจีนกับประเทศต่างๆทั่วโลก เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมอันเลื่องชื่อ มีโบราณสถาน โบราณวัตถุเก่าแก่อันล้ำค่ าและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจีน หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านสู่ สถานีรถไฟความเร็วสูง เพื่อเดินทางสู่ เมืองลั่วหยาง อดีตราชธานีที่ยิ่งใหญ่สืบต่อกันมาถึง 10 ราชวงศ์ ยืนยาวนับเป็นที่สองรองจากซีอาน จักรพรรดินี “บูเซ็คเทียน” โปรดปรานเมืองลั่วหยางมาก ตั้งให้เป็นราชธานีในสมัยที่พระองค์ประกาศตนเป็นฮ่องเต้หญิง พระราชทานนามเมืองว่า “นครเสินตู” มีความหมายว่า “เทพนคร”
หมายเหตุ : เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว กระเป๋าเดินทางและสัมภาระของลูกค้าต้องลากขึ้น-ลงรถไฟเอง
บ่าย
นำท่านชม วัดเส้าหลิน (รวมรถอุทยาน) ตั้งอยู่อำเภอเติ้งฟง เมืองเจิ้งโจว ราชธานีโบราณในสมัยราชวงศ์เซี่ย ซึ่งก่อตั้งโดยภิกษุชาวอินเดียนามว่า “พระโพธิธรรม” ซึ่งเป็นผู้นำพุทธศาสนานิกายเซน เข้ามาเผยแพร่พระศาสนาเมื่อราวปี พ.ศ. 1070 โดยเน้นการฝึกญาณสมาธิเพื่อให้เข้าถึงสัจธรรม ต่อมาอารามแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของการฝึกฝนศิลปะการป้องกันตัวที่รู้ จักกันดีในนาม “กังฟู” นำชมสิ่งสำคัญในวัดเส้าหลิน อันได้แก่ วิหารสหัสพุทธ สถานที่ประดิษฐานประติมากรรมรูปพระพุทธเจ้าในอดีต ปัจจุบันและอนาคต
รวม 1,000 องค์
นำท่านชม ป่าเจดีย์ หรือ ถ่าหลิน ที่มีหมู่เจดีย์กว่า 200 องค์ ซึ่งเป็นสถานที่บรรจุอัฐิของอดีตเจ้าอาวาสของวัดเส้าหลิน
จากนั้นชม การแสดงกังฟู ที่มีการสืบทอดเป็นบทเรียนและมีการจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชม ที่โรงเรียนฝึกกังฟูในบริเวณใกล้เคียงวัดเส้าหลิน
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านผ่านชม ประตูเมืองลี่จิง ประตูเมืองโบราณสมัยราชวงศ์สุย หนึ่งใน 8 แลนด์มาร์คสำคัญของเมือง ตัวอาคารมีทั้งหมด 4 ชั้น ในยามค่ำคืนจะมีการประดับประดาโคมไฟอย่างสวยงาม
นำท่านเดินชมถนนโบราณหมิงชิง ถนนสายประวัติศาสตร์ของชาวลั่วหยาง ทั้งสองข้างทางจะลายรอบไปด้วยบ้านเก่า อีกทั้งร้านขายสินค้าของฝาก ที่ระลึก และอาหารท้องถิ่นให้ท่านได้เลือกชิมอย่างจุใจ
วันที่ 3
ลั่วหยาง - ผาหินแกะสลักหลงเหมิน(รวมรถอุทยาน) - ศาลเจ้ากวนอู - วัดม้าขาว - เมืองหลิงเป่า
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านชม ผาหินแกะสลักหลงเหมิน (หลงเหมินสือคู) หรือ ถ้ำประตูมังกร หมู่ถ้ำพันพระที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอี๋เจียง เป็นพุทธสถานเก่าแก่ที่สำคัญ และน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งหนึ่งของจีน สร้างราวปี พ.ศ. 1038 ในสมัยเว่ยเหนือ และสร้างเพิ่มเติมเรื่อยมาจนถึงสมัยราชวงศ์ถัง โดยการเจาะหน้าผาหินให้เป็นถ้ำหรืออุโมงค์เข้าไป แล้วสลักเสลาเป็นรูปพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ เทวดา นางฟ้า ทวารบาล รวมถึงการเขียนภาพจิตรกรรมลงบนผนังถ้ำ สร้างโดยการอุปถัมภ์ของชนชั้นนสูงในสมัยนั้นๆ บูเซ็คเทียนสมัยเป็นฮองเฮาเคยพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นจำนวนมากเพื่อบูรณะถ้ำหินหลงเหมินแห่งนี้ การสร้างถ้ำพระพุทธแห่งนี้ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียและเอเชียกลาง ปัจจุบันยูเนสโก้ประกาศให้หลงเหมินเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 2000
นำชม วัดถ้ำเฟิ่งเซียนซื่อ ชมพระประธานสูง 17 เมตรสลักอยู่กลางแจ้ง แวดล้อมด้วยพระโพธิสัตว์และทวยเทพ กล่าวกันว่าใช้พระพักตร์ของพระนางบูเซ็คเทียนเป็นแบบในการแกะสลัก
จากนั้นนำท่านชม ศาลเจ้ากวนอู ตัั้งอยู่ทางใต้ของเมืองลั่วหยางออกไป 7 กิโลเมตร ภายในบริเวณมีรูปปั้นกวนอูแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยสามก๊ก(ค.ศ.220-265) ผู้ซึ่งได้รับสมญานามให้เป็นถึงมหาเทพแห่งความจงรักภักดี คุณธรรมและความกล้าหาญของชาวจีน อีกทั้งยังเป็นที่ฝังศีรษะของกวนอูซึ่งโจโฉเป็นผู้ที่จัดพิธีฝังให้อย่างสมเกียรติ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลาง ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ วัดม้าขาว สร้างขึ้นเมื่อสมัยราชวงศ์ฮั่น วัดม้าขาวถือว่าเป็นปฐมสังฆาราม หรือ วัดพุทธแห่งแรกในประเทศจีน ปัจจุบันมีอาคารศาลาต่างๆ เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปฝ่ายมหายานมากมาย สร้างสมัยแตกต่างกัน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น ราชวงศ์หยวน มีห้องโถงต่างๆ เช่น ห้องเทพเจ้าแห่งสวรรค์ ห้องประดิษฐานพระพุทธเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ห้องพระไวโรจนะ ห้องแนะทางสวรรค์ ในแต่ละห้องมีพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพระโพธิสัตว์ทั้งห้าพระองค์ มีหอพระไตรปิฎก ภายนอกวัดมีพระเจดีย์อิฐเรียกว่า จวิ๋นหยุน เป็นพระเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในจีน ยังมีศิลาจารึก ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง รวมแล้วกว่า 40 หลัก ด้านหน้าวัดทั้งสองข้าง มีรูปม้าแกะสลัก 2 ตัวขนาดเท่าตัวจริง แกะสลักจากหินทรายสมัยราชวงศ์ซ่ง วัดม้าขาวยังคงเป็นสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธศาสนิกชนประเทศต่างๆ จำนวนมากไปนมัสการ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองหลิงเป่า (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
Lingbao Ramada Encore ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 4
เมืองหลิงเป่า - ซีอาน - พิพิธภัณฑ์กองทหารดินเผาจิ๋นซี(รวมรถอุทยาน) - โชว์ราชวงศ์ถัง
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางกลับสู่ เมืองซีอาน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองหลวงของมณฑลส่านซี ตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีแม่น้ำเว่ยไหลผ่าน มีประวัติศาสตร์ยาว นานกว่า 3,000 ปี ได้ถูกสถาปนาเป็นราชธานีในนาม “นครฉางอาน” เคยเป็นนครหลวงในสมัยต่างๆรวมทั้งสิ้น13 ราชวงศ์ ซีอานได้เป็นศูนย์กลางการติดต่อทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างจีนกับประเทศต่างๆทั่วโลก เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมอันเลื่องชื่อ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลาง ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านชม พิพิธภัณฑ์กองทัพทหารม้าจิ๋นซีฮ่องเต้ (รวมรถอุทยาน) สถานที่สำคัญที่สุดของเมืองซีอาน ที่ได้รับการประกาศรับรองจากองค์กรยูเนสโก้ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก ในปี ค.ศ. 1987)
นำท่านชม หุ่นปั้นนักรบกองทหารอารักขาสุสาน ซึ่งถูกฝังไว้ใต้ดินพร้อมกับจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ สุสานทหารหุ่นแห่งนี้ ชาวนาจีนได้ขุดค้นพบในปี ค.ศ. 1974 เป็นจำนวนกว่า 7,000 ตัว หุ่นทหารทุกตัวมีขนาดเท่าตัวคนจริง และมีใบหน้าแตกต่างกันทุกตัว มีบันทึกว่าสุสานแห่งนี้ ใช้แรงงานทาสเป็นจำนวนถึง 726,000คน ใช้เวลาก่อสร้าง 36 ปี นำชมประวัติฯบนจอยักษ์ 360 องศา ผ่านชมบริเวณที่คาดว่าเป็น สุสานของจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ ปฐมจักรพรรดิของประเทศจีนที่ได้ทรงรวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ ปัจจุบันมีการค้นพบที่ตั้งของสุสานแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดสุสาน คงอยู่ในระหว่างการศึกษาถึงวิธีการป้องกันการเสื่อม สภาพของวัตถุโบราณที่อาจเสียหายเมื่อถูกอากาศภายนอก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ เกี๊ยวซีอาน
นำชม โชว์ราชวงศ์ถัง อันตระการตาชมการแสดงนาฏศิลป์ ชุดต่างๆในสมัยราชวงศ์ถังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญทางวิทยาการและศิลปะที่รุ่งเรืองอย่างสูงสุด
ที่พัก
Xian Holiday Inn Express ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 5
เจดีย์ห่านป่าใหญ่ - กำแพงเมืองซีอาน - ผ่านชมจัตุรัสหอกลอง หอระฆัง - ถนนมุสลิม - ซีอาน(สนามบินซีอานเซียงหยาง) - กรุงเทพฯ(สนามบินดอนเมือง)
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านชม เจดีย์ห่านป่าใหญ่ (Big Goose Pagoda) แห่งวัดฉือเอิน สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 652 โดย ถังเกาจง(หลี่จื้อ) ฮ่องเต้องค์ที่สาม แห่งราชวงศ์ถัง และ ได้นิมนต์พระภิกษุสวนจั้ง หรือรู้จักในนามพระถังซัมจั๋งพระเถระที่มีชื่อเสียงที่สุดในสมัยถัง ซึ่งใช้เวลากว่า 15 ปี จาริกไปถึงอินเดียและได้นำพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา กลับมาเผยแผ่ ในแผ่นดินจีนให้มาอยู่ที่วัดฉือเอินแห่งนี้ พระถังซัมจั๋งได้ใช้เวลาออกแบบและร่วมสร้างเจดีย์ห่านป่าใหญ่ในวัดฉือเอิน เพื่อใช้ในการเก็บรักษาพระไตรปิฎก ที่ท่านได้นำมาจากอินเดียและแปลเป็นภาษาจีนนับจำนวนกว่าพันเล่ม
นำท่านผ่านชม กำแพงเมืองซีอาน ที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง มีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี (ค.ศ.1374-1378) และได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี กำแพงจากทิศเหนือถึงทิศใต้ยาว 2.8 กิโลเมตร ทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตกยาว 4.2 กิโลเมตร ความยาวโดยรอบ 14 กิโลเมตร สูง 12 เมตร มีประตูเข้าออกทั้งสี่ด้านรวม 13 ประต
เที่ยง
รับประทานอาหารกลาง ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านผ่านชม จัตุรัสหอกลอง และ หอระฆัง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซีอาน บนถนนซีต้าเจีย เป็นสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์หมิง ต่อมาในสมัยราชวงศ์ชิงได้ทำการบูรณะขึ้นมาใหม่สองครั้ง โดยรักษารูปแบบเดิมไว้ มีความสูง 33 เมตร หน้ากว้าง 9 เมตร และลึก 3 เมตร โครงสร้างหลังคาเป็นไม้ 3 ชั้น ฐานอิฐสูง 77 เมตร กว้าง 52.6 เมตร ยาว 38 เมตร ประตูด้านเหนือและใต้สูงและกว้าง 6 เมตร ชั้นล่างก่อเป็นผนังอิฐและประตูทางเข้า ชั้นที่สองและชั้นที่สามเป็นเครื่องใม้หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบ สร้างขึ้นในปีที่ 17 แห่ง การครองราชย์ของพระจักรพรรดิหงหวู่ (จูหยวนจาง) ซึ่งเป็นพระจักรพรรดิองค์แรกของราชวงศ์หมิง ทางเดินผ่านประตูปูด้วยหินแกรนิต มีความคงทนแข็งแรงทนทาน พร้อมให้ท่านถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ฝั่งตรงข้ามเป็น จัตุรัสหอระฆัง เป็นสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์หมิง เดิมแขวนระฆัง 1 ใบ เพื่อตีระฆังบอกเวลาตอนกลางวัน สูง 38 เมตร ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส สง 8.6 เมตร กว้างและยาว 35.5 เมตร ก่อด้วยอิฐดำ มีประตูทั้ง 4 ทิศ สูงและกว้าง 6 เมตร หลังคาสี่เหลี่ยมสองชั้นปลายแหลม
ให้ท่านอิสระ ช็อปปิ้งถนนมุสลิม เนื่องด้วยในอดีตซีอาน หรือ นครฉางอัน นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของกองคาราวานที่จะเดินทางไปยังเส้นทางสายไหม ในตัวเมืองจึงมาชาวต่างประเทศมากมายหลายสัญชาติ โดยเฉพาะชาวเอเชียกลางและอาหรับก็มีอยู่จำนวนมากมายเช่นกัน ซึ่งต่างก็ได้ฝากผลงานไว้ในเมนูอาหาร อีกทั้งยังทำการเผยแพร่ศาสนาอิสลามเข้ามาในจีนด้วย ทำให้ปัจจุบัน นครซีอานจะมีกลุ่มชาวมุสลิมอยู่มาก ซึ่งชาวมุสลิมนั้นก็ได้มาตั้งชุมชนอยู่ที่ถนนมุสลิมที่นี่เอง ถนนมุสลิมนั้นเนื่องจากหลักการศาสนาที่ไม่ทานหมู ดังนั้นอาหารที่นี่ส่วนมากจะเป็นเมนูเนื้อ ทัั้งวัวและแพะเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับท่านที่ไม่ทานเนื้อวัว ก็สามารถเลือกซื้ออาหารประเภทอื่นได้ที่นี่เช่นกัน
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
สมควรแก่เวลานำท่านสู่ สนามบินซีอานเซียงหยาง
22.50 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ FD589 (ไม่รวมค่าอาหารร้อนบนเครื่อง)
01.45 น.
เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ