บ่าย
เชิญท่านเดินชม หมู่บ้านยูฟูอิน หมู่บ้านต้นแบบ OTOP ของญี่ปุ่น ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึงวันละ 11,000 คน ภายในหมู่บ้านมีร้านค้าการฝีมือมากมาย ชมร้านเครื่องแก้ว ร้านขนมญี่ปุ่นปรุงสดๆ ร้อนๆ และสะอาดสะอ้าน และเลือกซื้อของที่ระลึกมากมาย ชมทะเลสาบเก่าแก่โบราณ ชมปลาพันธุ์ที่หายากนานาชนิดอยู่อาศัยในทะเลสาบอย่างธรรมชาติ
ห้ามพลาด!! Milch Yufuin ชีสคัพ ที่อร่อยที่สุดในโลก / B Speak โรลเค้กชื่อดังของยูฟูอิน /ทะเลสาบคิรินโกะ
จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองเบปปุ
ชม บ่อทะเลเดือด (Sea Hell) บ่อน้ำร้อนสีฟ้าอมเขียว ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นบ่อน้ำร้อนที่สวยที่สุดในบรรดาบ่อน้ำร้อนแปลกในเมืองนี้ โดยจะปล่อยควันสีขาวพวยพุ่งจากรอบบ่อตลอดเวลา ซึ่งบ่อทะเลเดือดเกิดขึ้นภายหลังการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 1,000 ปีก่อน
วันที่ 3
เบปปุ - ชมยอดเขาไดเคนโบะ - คุมาโมโต้ - ปราสาทคุมาโมโต้ (ด้านนอก) - เมืองโบราณซากุระโนะบาบะ โจไซเอ็น
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.30 น.
นำท่านเดินทางสู่ จุดชมวิวยอดเขาไดเคนโบะ ตั้งอยู่ ณ ความสูง 936 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุด เป็นมุมที่สวยงามของภูเขาไฟอะโสะที่ใหญ่ที่สุด และวิวเมืองอะโสะทั้งเมือง สามารถชมวิวได้ทุกทิศทาง 360 องศา มีร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่คอยให้บริการอีกด้วย ปัจจุบันเป็นภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะคิวชูด้วยเส้นผ่าศูนย์กลาง 120 กิโลเมตร ความงามสะดุดตา จนมีผู้ขนานนามว่าเป็นภูเขาไฟฟูจิลูกที่ 2 ของประเทศญี่ปุ่น ผ่านชม ทุ่งหญ้าคุซาเซนริ มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าพื้นราบ รูปร่างสี่เหลี่ยมที่ถูกปกคลุมด้วยต้นหญ้าเขียวขจี ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่มีความสวยงามมาก ซึ่งมีพื้นที่โดยรวม 785,000 ตารางเมตร มีศูนย์กลางเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ โดยมีม้ายืนเล็มหญ้าอยู่รอบบริเวณ ซึ่งเป็นภาพความงดงามตามธรรมชาติแบบชนบท ถึงกับมีนักประพันธ์ และนักเขียนจำนวนมากแต่งโคลงกลอนเอาไว้
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร แบบไก่เทอริยากิ
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคุมาโมโต้ เมืองที่มีความร่มรื่นและเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญสมัยสงครามกลางเมืองของญี่ปุ่น (ค.ศ.1887) และเป็นเมืองปากประตูอุทยานแห่งชาติอะโสะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟสองลูก คือ ภูเขาไฟอะโสะ และภูเขาไฟคิวยิว
นำท่านชม ปราสาทคุมาโมโต้ (ถ่ายรูปจากภายนอก) ตัวปราสาทตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขากลางเมืองคุมาโมโต้ ในสถาปัตยกรรมคลาสสิกที่มีความสวยงาม อายุกว่า 420 ปี ภายในปราสาทมีห้องโถงเป็นที่เก็บสมบัติ วัตถุมีค่า รูปภาพปราสาทต่างๆและได้รับฉายา "ปราสาทดำ" สร้างขึ้นโดยขุนพลผู้โด่งดัง คิโยมาสะ คะโตะ ในปี ค.ศ. 1960 ภายในเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงวัตถุโบราณ
นำชม เมืองโบราณซากุระโนะบาบะ โจไซเอ็น (Sakurano Baba Josaien) บริเวณเชิงเขาของปราสาท ออกแบบและตกแต่งสไตล์ย้อนยุคให้เข้ากับบรรยากาศเมืองเก่า ซึ่งจะมีร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึก ขนมขึ้นชื่อของเมืองคุมาโมโต้ และร้านอาหารต่างๆมากมาย
หากมีเวลานำท่านชม ศาลเจ้าคุมาโมโต้ อินาริ (Kumamoto Inari Shrine) ศาลเจ้าของนิกายชินโตที่มีความเก่าแก่นี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1496 มาจากความเชื่อและศรัทธา และส่วนหนึ่งในการปกป้องปกป้องปราสาทคุมาโม้โต้ (Kumamoto Castle) จากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร แบบยากินิกุ
ที่พัก
Kumamoto Castle หรือเทียบเท่า
วันที่ 4
คุมาโมโต้ - นั่งเรือเฟอร์รี่สู่ ชิมาบาระ - ออนเซ็นเท้า OBAMA ONSEN - นางาซากิ - โบสถ์โออุระ (ภายนอก) - คฤหาสน์โกลฟ์เวอร์ - สวนสันติภาพ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น.
เช็คเอ้าท์จากโรงแรมที่พัก
จากนั้นเดินทางสู่ ท่าเรือเมืองคุมาโมโต้
09.25 น.
ออกเดินทางสู่ เมืองชิมาบาระ เมืองแห่งปลาคาร์ฟของญี่ปุ่น เป็นเมืองท่องเที่ยวที่อุดมไปด้วยแหล่งน้ำใต้ดิน โดย เรือเฟอร์รี่ เรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ สามารถบรรทุกรถยนต์ได้นับสิบคันข้ามทะเล ระหว่างทางท่านจะเพลิดเพลินกับการให้อาหารฝูงนกนางนวลจำนวนมาก ที่บินตามมาส่งท่าน
11.15 น
สัมผัสประสบการณ์ ออนเซ็นแช่เท้า ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น ณ OBAMA ONSEN-HOT FOOT 105 ผ่อนคลายให้เท้าได้มีแรงเดินต่อก็ต้องมาแช่ออนเซ็นเท้า มีที่นั่งไว้สำหรับแช่น้ำแร่ยาวถึง 105 เมตร พร้อมกับชมวิวที่สวยงาม หรือจะเดินไปบนทางเดินคอนกรีตพื้นขรุขระที่ตั้งใจทำขึ้นสำหรับนวดเท้า มีน้ำร้อนอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส เดินไปก็ได้นวดเท้าไปด้วย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
ออกเดินทางสู่ เมืองนางาซากิ เมืองเก่าแก่อันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองท่าทางการค้า จุดแรกเริ่มที่อารยธรรมตะวันตกสมัยใหม่ได้แพร่เข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นเมื่ออดีต
นำชม คฤหาสน์โกลฟ์เวอร์ สไตล์ยุโรปที่สร้างโดย Mr. Thomas Glover ด้วยความชื่นชอบบรรยากาศความสวยงามของเมืองนางาซากิแต่ยังคงความเป็นอยู่แบบสกอตแลนด์ จึงได้คิดริเริ่มในการสร้างคฤหาสน์สไตล์ยุโรป ขึ้นมาในปี ค.ศ. 1863 จนได้รับ รางวัล Second Class Order of the Rising Sun ในสมัยนั้น
แวะถ่ายรูป (ภายนอก) ของ โบสถ์โออุระ (Oura Catholic Church) ตั้งอยู่ใกล้กับสวนโกลฟ์เวอร์ (Glover Garden) เป็นโบสถ์คริสตศาสนานิกายคาทอลิก สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1863 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1867 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของสมัยเอโดะ นับได้ว่าเป็นโบสถ์ที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและยังได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติของชาติที่มีความเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นอีกด้วย
นำท่านชม สวนสันติภาพ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์การทิ้งระเบิดปรมาณู เตือนใจชาวนางาซากิ ให้ระลึกถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งสงครามโลกครั้ง ที่ 2 ในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ภายในสวนแห่งนี้ ได้สร้างอนุสาวรีย์รูปแบบต่างๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ และความสงบสุขของมนุษยชาติ อีกทั้งยังมีน้ำพุ และแผ่นศิลาหินสีดำ ที่สร้างขึ้นเพื่อไว้อาลัยแด่ผู้เคราะห์ร้ายที่เสียชีวิต เนื่องจากระเบิดปรมาณู และน้ำพุนี้สร้างเพื่อไว้อาลัยแด่ผู้ที่ขาดน้ำ ภายหลังจากทั้งเมืองเต็มไปด้วยกัมมันตภาพรังสี
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร แบบชาบู ชาบู
ที่พัก
New Nagasaki Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 5
นางาซากิ - ศาลเจ้ายูโทคุอินาริ - เฮ้าส์เทนบอช - ฉลองเทศกาลปีใหม่ 2020
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.30 น.
นำท่านเดินทางสู่ ศาลเจ้ายูโทคุอินาริ (Yutoku Inari Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ของเมืองซากะ(Saga) ที่มีอายุหลายร้อยปี โดยศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประทับของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ สร้างขึ้นในปีค.ศ.1688 เป็นศาลเจ้านิกายชินโตประจำตระกูลนาเบะชิมะผู้ปกครองเมืองซากะ ในสมัยเอโตะ เป็นศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่และสำคัญเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น เชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประทับของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนชาวญี่ปุ่นต่างเคารพและนิยมมาสักการะขอพรเกี่ยวกับความสำเร็จด้านธุรกิจ และความปลอดภัย โดยด้านบนของศาลเจ้าแห่งนี้ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง จึงได้ถูกนำมาใช้เป็นฉากในละครหลายเรื่อง รวมถึงละคนไทยชื่อดังอย่างเรื่องกลกิโมโนอีกด้วย
11.00 น.
นำท่านเดินทางสู่ เฮ้าส์เทนบอช หมู่บ้านฮอลแลนด์แห่งเดียวของญี่ปุ่น
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน แบบบุฟเฟ่ต์
บ่าย
เชิญท่านเพลิดเพลินกับ เฮ้าส์เทนบอช หรือ “หมู่บ้านฮอลแลนด์” ของประเทศญี่ปุ่น ที่นี่ได้รวบรวมสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมขนานแท้ของฮอลแลนด์(เนเธอร์แลนด์) และชาวดัชท์ไว้ด้วยกัน ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับบรรยากาศรอบๆ อาทิ กังหันแบบฮอลแลนด์ ทุ่งดอกไม้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกทิวลิป,ทุ่งดอกกุหลาบ,ล่องเรือชมบรรยากาศของเฮ้าส์เทนบอชได้อย่างสบายใจ หรือท่านที่ชอบความตื่นเต้นเชิญที่สวนสนุกเฮ้าส์เทนบอช ที่แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ 6 โซนคือ Thriller Fantasy Museum, Art Garden, Utrecht, Binnenstad, Breukelen และ Nieuwstad มีกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์หมีเท็ดดี้, โรงภาพยนตร์แบบ 4-5 มิติหลายโรง, พิพิธภัณฑ์ศิลปะ, ล่องเรือไปตามคลองที่ยาวกว่า 6 กิโลเมตร, ชมเมืองสไตล์ยุโรป, ขี่จักรยานชมเมือง และล่องเรือโจรสลัดของการ์ตูนดัง One Piece (รวมบัตรผ่านประตู และเล่นเครื่องเล่นได้ไม่จำกัด / 1 Day Passport)
ค่ำ
**อิสระอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวของท่าน**
ที่พัก
Nikko Huis Ten Bosch หรือเทียบเท่า
ให้ท่านได้ สัมผัสกับการอาบน้ำแร่ญี่ปุ่น เพื่อเป็นการพักผ่อนจากการที่ได้เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางหรือทำกิจกรรมมาตลอดทั้งวัน การแช่น้ำแร่ธรรมชาติเป็นวัฒธรรมดั้งเดิมและเก่าแก่ของชาวญี่ปุ่นมาช้านาน จนปัจจุบันยังคงได้รับการรักษาและสืบทอดต่อเนื่องกันมาเป็นอย่างดี และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในนานาประเทศ ซึ่งเชื่อว่าช่วยในเรื่องการบำรุงการไหลเวียนโลหิต
วันที่ 6
เฮ้าส์เทนบอช - ช้อปปิ้งคาแนล ซิตี้ ฮากาตะ - ฟุคุโอกะ - กรุงเทพฯ
08.00 น.
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
10.00 น.
ออกเดินทางสู่
คาแนลซิตี้ อิสระให้ท่านได้เดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
- คาแนล ซิตี้ ฮากาตะ (Canal City Hakata) เป็นศูนย์รวมร้านค้า และร้านอาหารขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมน้ำ ภายในมีการขุดคลองให้ไหลผ่านใจกลางห้างแห่งนี้ด้วย นอกจากนั้นยังมีโรงภาพยนตร์ โรงละคร ร้านตู้เกมส์ รวมทั้งโรงแรมอีก 2 แห่ง ถูกออกแบบมาให้เป็นพื้นที่เปิดโล่งๆ กว้างๆ มีรูปทรง และสีสันที่แปลกตาเพื่อให้ได้บรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตรงกลางของคลองจำลองนี้จะมีการแสดงน้ำพุแสงสีเสียง ตั้งแต่เปิดจนปิด ทุกๆ ครึ่งชั่วโมง มีร้านค้ามากกว่า 250 ร้าน ทั้งร้านที่มีเฉพาะในญี่ปุ่น และร้านมาจากต่างประเทศ มีร้านอาหารให้บริการหลากหลายแบบทั้งอาหารญี่ปุ่น และอาหารชาติอื่นๆ ในราคาที่ไม่ได้แพงกว่าข้างนอกมากนัก โดยเฉพาะที่ชั้น 5 จะมีส่วนที่เรียกว่า ราเมน สเตเดียม ที่จะมีร้านราเมนที่มาจากส่วนต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งราเมนสไตล์ฟุคุโอกะที่เรียกว่าฮากาตะราเมนด้วย
- ฮากะตะ คาวาบาตะ (Hakata Kawabata) ถนนช้อปปิ้งแบบมุงหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดของฟุคุโอกะ ตลอดทั้งสองข้างทางเดินยาว 400 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้ากว่าร้อยร้าน สินค้าก็มีเลือกซื้อมากมายประเภททั้งเสื้อผ้า ของกิน ของใช้ ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าทั่วๆ ไป ทีเด็ดของที่นี่คือร้านที่มีสินค้าจากเต้าหู้ มีทั้งมาสก์เต้าหู้ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ และผลิตภัณฑ์จากเต้าหู้แท้ๆ ของฟุคุโอกะที่ต้องลอง
- ช้อปขนมของฝากที่ สถานี Hakata ใครที่จะหาซื้อของฝาก หรือชิมของอร่อยแบบไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล ไปหากันได้ที่สถานี Hakata ที่ตึก Deito ซึ่งเชื่อมต่ออยู่กับตัวสถานีเลย ตึกนี้มี 3 ชั้น คือชั้นใต้ดิน ชั้น 1 และชั้น 2 โดยร้านขนม ร้านของฝากนานาชนิดจะอยู่ที่ชั้น 1 มีทั้งโซนที่เรียกว่า Hakata Souvenir Street บริเวณนั้นยังมีช็อปเล็กๆ อีกเพียบมีทั้งขนมหรือของฝากยอดฮิตทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็น ช็อคโกแล็ต คิทแคทรสต่างๆ ชาเขียวและอื่นๆ อีกมากมาย - หรือจะตามเสียง ดอง ดอง ดอง ดองกี้ ดองกี้โฮเต้ ... เสียงเพลงสไตล์อนิเมะที่เปิดให้ลูกค้าคุ้นหูตลอดเวลา สลับกับประกาศขอบคุณลูกค้าที่มาใช้บริการของร้านเป็นภาษาต่างๆ ถึง 5 ภาษารวมถึงภาษาไทย เป็นเสียงเพลงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะกับร้าน “ดองกี้โฮเต้” หรือที่หลายๆ คนเรียกกันว่า ร้านดองกี้ ร้านขายสินค้าอุปโภค-บริโภคราคารวมภาษีแล้วสุดประหยัดของญี่ปุ่น
ห้ามพลาด!! ช้อปปิ้ง Lucky BAG (ถุงนำโชค) จากร้านค้าแบรนด์ต่างๆที่จัดสินค้าของเขารวมอยู่ในถุงใบเดียว และจำหน่ายในราคาพิเศษสุด ซึ่งจะทำเฉพาะในช่วงปีใหม่ระหว่างวันที่ 1-3 มกราคมนี้เท่านั้นเที่ยง
**อิสระอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย เพื่อให้ท่านได้ช้อปปิ้งอย่างเต็มที่**
17.00 น.
ออกเดินทางสู่ สนามบิน
19.00 น.
เหินฟ้ากลับสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบิน TG 8109 Charter Flight ใช้เวลาบิน 5.30 ชั่วโมง (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
23.00 น.
ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ