วันที่ 3
มอสโคว์ - เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก(โดยรถไฟความเร็วสูง) - พุชกิน - พระราชวังแคเทอรีน
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่ สถานีรถไฟมอสโคว์ เพื่อออกเดินทางสู่ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4
ชั่วโมง)
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเดินทางชม พระราชวังแคทเทอรีน พระราชวังแคทเธอรีน เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1717 โดยพระนางแคทเธอรีนที่ 1 พระมเหสีของปีเตอร์มหาราช ซึ่งได้ครองราชย์หลังจากปีเตอร์มหาราชสวรรคต ทรงประสงค์สร้างวังแห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นพระราชวังฤดูร้อน โดยสถาปนิกชาวเยอรมันแต่ใด้รับการต่อเติมและตกแต่งใหม่ในหลายยุคหลายสมัย พระนางแคทเธอรีนที่ 2 ทรงโปรดปรานศิลปะแบบนีโอคลาสสิค พระนางจึงสั่งให้ตกแต่งใหม่ในแบบที่พระองค์ชอบ การตกแต่งพระราชวังใหม่ในแต่ละครั้งจึงเปรียบเสมือนการแสดงอำนาจและบารมีของผู้เป็นเจ้าของในแต่ละยุค ซึ่งจากการตกแต่งที่ผสมผสานหลายครั้งจึงเกิดรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “รัสเซี่ยนบาโรค” ที่หรูหรา และงดงามดังเช่นในปัจจุบัน ยุคที่รุ่งเรืองที่สุดว่ากันว่าทั้งพระราชวังและรูปปั้นตกแต่งประดับประดาด้วยทองคำกว่า 100 กิโลกรัม ถึงขนาดมีข่าวลือว่าหลังคาของวังเป็นทองคำแท้ๆเลยทีเดียว แต่พระราชวังก็ได้ถูกทำลายโดยกองทัพเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้รับความเสียหายอย่างมาก การซ่อมแซมรูปลักษณ์ภายนอกและบางห้องของพระราชวังเสร็จทันงานฉลองครบ 300 ปีของเมือง ในปี 2003
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
Meininger Hotel ระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 4
เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก - พระราชวังฤดูร้อน(ปีเตอร์ฮอฟ) - พระราชวังฤดูหนาว - พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ - ถนนเนฟสกี้
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าชม พระราชวังฤดูร้อน หรือ พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ สร้างขึ้นตามบัญชาของซาร์ปีเตอร์มหาราช ภายในพระราชวังประกอบด้วยพระที่นั่งหลายองค์และอุทยานหลายแห่ง ตกแต่งสถาปัตยกรรมบารอค ด้วยความงดงามของมันทำให้มีสมญาว่าเป็น "วังแวร์ซายแห่งรัสเซีย" ตั้งอยู่ริมฝั่งอ่าวฟินแลนด์ เป็นพระราชวังขนาดเล็ก ประกอบด้วยสวนพักผ่อน พลับพลา น้ำพุมากมายกว่า 200 แห่ง ประดับประดาด้วยรูปปั้นสีบอรนซ์ ออกแบบโดย ศิลปินจากฝรั่งเศษและอิตาลี อาคารหลักของพระราชวังหลวงตั้งอยู่ในตำแหน่งของแนวภูเขาธรรมชาติทางทิศใต้พระราชวังถูกออกแบบให้ขนาบข้างด้วยสวน โดยมีส่วนของน้ำพุและสวนหย่อมบางส่วน จะอยู่ติดกับฝั่งทะเล
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเดินทางชม พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ (The State Hermitage Museum) หรือ พระราชวังฤดูหนาว เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาด ใหญ่จัดแสดงงานศิล์ปะกว่า 2 ล้าน 5 แสนชิ้น โดยมีจุดเริ่มต้นจากพระนางแคเทอรีนมหาราชินี ได้ริเริ่มนำผลงานศิลป์ มาเก็บไว้ต่อมาในช่วงสหภาพโซเวียตทางการก็ได้นำผลงานจากพระราชวังหลายๆ แห่งมารวมกับไว้ ณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ อาคารเอกของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือ พระราชวังฤดูหนาว พระราชวังที่มีสถาปัตยกรรมแบบบารอค ลักษณะเป็นสี่เหลียมผืนผ้า สูง 30 เมตร อดีตพระราชวังหลวงของราชวงศ์ โรมานอฟ โดยพระราชวังแห่งนี้ยุติบทบาทการบริหารแผ่นดินในช่วงการปฏิวัติของคอมมิวนิสต์ ในปี ค.ศ. 1917 ปัจจุบันภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 3 ชั้น มีพื้นที่จัดแสดงหลักอาทิ ห้องศิลปะคลาสสิก ห้องศิลปะสมัยนีโอคลาสสิกและสมัยใหม่ และ ห้องศิลปะรัสเซีย นอกจากผลงานศิลปะแล้วบริเวณพิพิธภัณฑ์ยังมีองครักษ์แมวเหมียว 4 ขาให้ท่านได้สัมผัสความน่ารักอีกด้วย
จากนั้นทำนเดินชมความงดงามของสถาปัตยกรรม ร็อคโคโค่ ณ ถนนเนฟสกี้ และเลือกชมสินค้าท้องถิ่นตามอัธยาศัย
ค่ำ
***อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย***
ที่พัก
Meininger Hotel ระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 5
ป้อม ปีเตอร์ แอนด์ พอล - โบสถ์หยดเลือด - มหาวิหาร เซนต์ ไอแซ็ค - มอสโคว์(โดยรถไฟความเร็วสูง)
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชม ป้อมปีเตอร์ แอนด์ พอล สร้างขึ้นปี ค.ศ 1703 ในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ตั้งอยู่บนเกาะวาซิลเยฟสกี้ (Vasilievsky Island) ใช้ป้องกันกองทัพสวีเดนในช่วงมหาสงครามเหนือ (The Great Northern War) บริเวรภายในป้อมปราการ มีวิหารชื่อวิหารปีเตอร์แอนด์พอล เพื่อเป็นเกียรติ์แด่นักบุญปีเตอร์ และนักบุญพอลเพื่อเป็นการเผยแพร่ศาสนา ความสูงของยอดแหลมคือ 122.5 เมตร ในอดีตเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดของเมืองและห้ามสร้างสิ่งก่อสร้างใดสูงกว่า ภายในทำการตกแต่งด้วยศิลปะบารอกซึ่งนับว่าแตกต่างจากโบสถ์ ทั่วไปในรัสเซีย
นำท่านเดินทางชม โบสถ์หยดเลือด พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ทรงสร้างขึ้นบนบริเวณที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 พระบิดาถูกลอบปลงพระชนม์ เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระบิดา ทรงนำรูปแบบสถาปัตยกรรมของรัสเซียในคริสต์ศตวรรษที่ 16-17 มาใช้ในการก่อสร้าง มีลักษณะรูปร่างคล้ายวิหารเซนต์บาซิลที่เมืองมอสโคว์
จากนั้นนำท่านเข้าชม มหาวิหารเซนต์ไอแซ็ค วิหารเซนต์ไอแซคถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1710 ตามเจตจำนงของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช โดยใช้หินแกรนิตชิ้นเดียวขนานกว่า 118 ตัน จำนวน 48 ชิ้น เพื่อนำมันมาเป็นฐานรองรับโดมที่ใหญ่ติดระดับโลกอีกชิ้นหนัก 67 ตัน ในส่วนของภายในโบสถ์ เริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้าที่มีการแกะสลักไม้โอ๊กและสัมฤทธิ์ ที่มีน้ำหนักถึง 6 ตัน ในส่วนของภายในโบสถ์นั้นประกอบไปด้วยรูปหล่อของเหล่าบรรดานักบุญชื่อดังอยู่ที่ผนังห้อง ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมดกว่า 40 ปี ทางเข้าของวิหารมีรูปหล่อทองเหลืองของพระเจ้าปีเตอร์มหาราชตั้งตระหง่าน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ริเริ่มก่อสร้างศาสนสถานแห่งนี้
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟ นคร เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อโดยสารรถไฟ SAPSAN กลับกรุงมอสโคว์ (ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง)
ค่ำ
***บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร***
ที่พัก
Cosmos Hotel ระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 6
พระราชวังเครมลิน - จัตุรัสแดง - มหาวิหาร เซนต์ บาเซิล - พิพิธภัณฑ์ อาร์เมอรี่
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าชม พระราชวังเครมลิน คำว่า เครมลิน ในภาษารัสเซียนั้น มีความหมายแปลว่าป้อมปราการ ภายในพระราชวังเคลมลินจึงประกอบไปด้วยพระราชวัง วิหารสำคัญๆ และที่ทำการของรัฐบาล พระราชวังเครมลินเดิมเคยเป็นพระตำนักของซาร์ในมอสโก หลังจากการปฏิวัติของคอมมิวนิสต์ พระราชวังเครมลินก็ได้กลายมาเป้นทีทำการของรัฐบาล จนกระทั่งการล่มสลายของสหภาพโซเวียต จึงได้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ดังปัจจุบัน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมทรัพย์สมบัติของอดีตพระเจ้าแผ่นดิน รูปเคารพทางศาสนา ล้วนเก็บอยู่ในห้องต่างๆ ใน พระราชวังเครมลิน มากมายจนประเมินค่าไม่ได้ ดังนั้นกระบวนการเข้าออก สถานที่แห่งนี้จะมีความเข้มงวดเป็นพิเศษ
จากนั้นนำท่านชม จัตุรัสแดง จัตุรัสแดงถูกตั้งขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 ภายใต้พระราชโองการของพระเจ้าอีวานมหาราช การสร้างจัตุรัสแดงนี้มีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของพระราชวังเครมลิน ต่อมาในสมัยของพระเจ้าซาร์อีวานที่ 4
จากนั้นนำท่านชม มหาวิหารเซนต์เบซิล มหาวิหารที่ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของจัตุรัสแดง โดยจะเป็นจุดที่ทำการเฉลิมฉลองวันชาติ หรือ โดยเฉพาะในช่วงวันประกาศชัยชนะในมหาสงครามรักชาติ (The great patriotic war) เป็นการประกาศชัยชนะเหนือนาซีเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งต่อมาได้มีพิธีการสวนสนาม แสดงแสนยานุภาพทางการทหาร ณ จัตุรัสแห่งนี้เป็นประจำทุกปี นอกจากนั้น จัตุรัสแดงยังเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์บรรจุศพของวลาดิมีร์ เลนิน ผู้นำคอมมิวนิสต์คนแรก ที่ได้นำลัทธิมากซ์มาปรับใช้และปฏิวัติสังคม ตัวสุสานสร้างด้วยหินอ่อนสีแดง หีบศพของท่านเลนินวางอยู่บนแท่นหินมีโลงแก้วครอบไว้ นี่เป็นอีกอนุสรณ์สถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่ (Kremlin Armoury Chamber) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศรัสเซีย ที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บสะสมทรัพย์สมบัติล้ำค่าต่างๆ ทั้งเครื่องทรง มงกุฎ บัลลังค์ และเครื่องใช้ต่างๆ มากกว่า 2.7 ล้านชิ้น ภายในมีการแบ่งโซนการจัดแสดงในแต่ละยุค นับตั้งแต่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14-15 ถึงช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่สมบูรณ์ที่สุดของรัสเซีย (หมายเหตุ ภายในพิพิธภัณฑ์ห้ามทำการถ่ายรูปโดยเด็ดขาด)
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
Cosmos Hotel ระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 7
มอสโคว์ - บาห์เรน - มัสยิดกลาง Al Fateh - ป้อมปราการบาห์เรน - ประตูสู่บาห์เรน - ตลาดพื้นเมือง
04.00 น.
นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินโดโมเดโดโว กรุงมอสโคว์ เพื่อเดินทางต่อไปยัง ประเทศบาห์เรน
07.30 น.
ออกเดินทางสู่ ประเทศบาห์เรน โดย สายการบิน GULF AIR เที่ยวบินที่ GF013 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
12.40 น.
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติบาห์เรน ประเทศบาห์เรน (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าไทย 4 ช.ม.กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่นเพื่อสะดวกในการนัดหมาย) หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หรือ ห้องอาหารของโรงแรม
บ่าย
นำท่านชม มัสยิดกลาง Al Fateh Mosque หนึ่งในมัสยิดที่ขึ้นชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ที่ถูกตั้งชื่อ ตามกษัตริย์ผู้สร้างเมือง ‘Ahmed Al Fateh’ เป็นสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1987 และเป็นมัสยิดที่ถูกตกแต่งด้วยวัสดุชั้นเลิศที่รวบรวมมาจากทั่วโลก อาทิเช่น ลูกแก้วตกแต่งบนพื้นจากอิตาลี โคมไฟจากออสเตรีย หรือแม้แต่ประตูไม้สุดอลังการที่ทำจากอินเดีย ซึ่งนอกจากจะเป็นมัสยิดที่เป็นจุดศูนย์รวมดวงใจของชาวบาห์เรนแล้ว ในปี 2006 มัสยิดแห่งนี้ยังถูกประกาศให้เป็นหอสมุดแห่งชาติอีกด้วย (หมายเหตุ : หากวันเวลาดังกล่าวทางมัสยิดมีกิจกรรมทางศาสนาหรือมีประกาศห้ามเข้าชมภายในมัสยิดด้วยเหตุผลใดก้ตาม ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเข้าชม และทางคณะทัวร์จะให้ท่านได้ฟังบรรยายและการถ่ายรูปจากภายนอกมัสยิดเท่านั้น)
จากนั้นเราจะพาท่านไปสัมผัสและฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ 5,000 ปี ที่ ป้อมปราการบาห์เรน (Qal’at al – Bahrain) หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า ‘Bahrain Fort’ แหล่งอารยธรรมโบราณที่นักโบราณคดีคาดว่ามันถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วง 2,300 ปี ก่อนคริสตศักราช ซึ่งในอดีตมันเคยเป็นทั้งที่พำนักของกษัตริย์ ป้อมปราการสำหรับป้องกันเมืองจากข้าศึก และยังเป็นสถานที่ๆ ชาวสุเมเรี่ยนเชื่อว่าเป็นจุดนัดพบเพื่อเข้าถึงพระเจ้า และที่ป้อมปราการแห่งนี้ท่านจะได้เห็นความน่ามหัศจรรย์ใจของภูมิปัญญาในการก่อสร้างป้อมปราการขึ้นมาจากหินจนมีความแข็งแกร่งมานานนับพันปีที่แม้แต่นักโบราณคดีก็ยังหาคำตอบที่แน่ชัดไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO World Heritage Site ในปี ค.ศ.200
จากนั้นนำท่านสู่ ประตูสู่บาห์เรน (Bab al Bahrain) ออกแบบโดย Sir Charles Belgrave ที่ปรึกษาเจ้าผู้ครองรัฐบาห์เรนเพื่อเป็นทางเข้าไปสู่ตลาดมานามาซึ่งเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญและแหล่งจับจ่ายของท้องถิ่น สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อ ค.ศ. 1945 และได้รับการตกแต่งเพิ่มเติมในปี ค.ศ. 1986 เพื่อปรับเปลี่ยนให้มีรูปร่างเป็นสถาปัตยกรรมอิสลามมากขึ้น
จากนั้นเราจะพาท่านไปเปิดประตูสู่วัฒนธรรมวิถีชีวิตการเป็นอยู่ของชาวบาห์เรนที่ ตลาดพื้นเมือง (Manama Souq) ตลาดขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของชาวเมือง ซึ่งที่นี่ท่านจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นอย่างเป็นกันเอง พร้อมช็อปปิ้งของฝากอันเป็นเอกลักษณ์จากประเทศบาห์เรน และลิ้มรสอาหารพื้นเมืองขนานแท้ที่หาชิมที่ไหนไม่ได้ในโลกนี้ นอกจากที่นี่เท่านั้น
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หรือ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
Juffair Gate Hotel ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 8
บาห์เรน - ประเทศไทย
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ สนามบิน
09.00 น.
บินลัดฟ้าสู่ กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ) ประเทศไทย โดย สายการบิน GULF AIR เที่ยวบินที่ GF152 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง 10 นาที
20.10 น.
เดินทางถึง สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ