11.30 น.
พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ D เคาท์เตอร์สายการบินไทยแอร์เวย์ โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
หมายเหตุ
สำหรับลูกค้าที่เลือกวันเดินทางพีเรียด 10-15 , 22-27 ส.ค. //26-30 ก.ย. // 24-29 ต.ค.62 ไฟล์ทบินขาไปจะเปลี่ยนเวลาบินออกจากกรุงเทพฯ เวลา 14.00 น. ถึงมอสโควเวลา 19.45 น. เวลานัดหมายที่สุวรรณภูมิเวลา 11.30 น. (กรุณาเช็คหรือสอบถามที่เจ้าหน้าที่ก่อนทำการจอง)
19.45 น.
เดินทางถึง ท่าอากาศยานโดโมเดโดโว่ เมืองมอสโคว ประเทศรัสเซีย ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 4 ชั่วโมง) พบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่
นำท่านเดินทางสู่ กรุงมอสโคว์ เมืองหลวงของรัสเซีย ครองอันดับเมืองที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการเดินทางของประเทศ จัดว่าเป็นเมืองที่น่าเที่ยวมากเมืองหนึ่ง ประกอบด้วยสถาปัตยกรรมทั้งเก่าและใหม่ มีโบสถ์ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากกว่า 200 แห่ง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาสแปร์โรว์ฮิลส์ (Sparrow Hills) หรือ เนินเขานกกระจอก จุดชมทัศนียภาพของกรุงมอสโคว ที่สามารถชมด้านล่างได้เกือบทั้งหมด จึงทำให้เลนิน ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ในอดีตเลือกเนินเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งบ้านพักของตน ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมอสโคว ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในรัฐเซีย
หมายเหตุ
ไฟล์ทบินพีเรียด 10-15 , 22-27 ส.ค. //26-30 ก.ย. // 24-29 ต.ค.62 ขาไปที่เที่ยววันแรกจะถูกสลับไปวันสุดท้ายหรือวันอื่นสลับตามโปรแกรมตามความเหมาะสมของสถานการณ์หน้างาน
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ค (Saint Petersburg) โดยรถไฟความเร็วสูง Sapsan Fast Train (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) **รอบของรถไฟ อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม** เมืองที่ได้รับสมญานามว่า “ราชินีแห่งยุโรปเหนือ” เพราะทัศนียภาพที่สวยงามของเมือง เมืองนี้สร้างโดยพระเจ้าซาร์ปิเตอร์มหาราช เมื่อ พ.ศ.2246 โดยตัวเมืองเริ่มสร้างด้วยการถมทราย และหินเป็นจำนวนมาก เพราะว่าพื้นที่เดิมนั้นเป็นดินเลนทะเล เหตุผลในการทรงเลือกทางออกทะเลบอลติค ที่สามารถติดต่อไปทางยุโรปและประเทศอื่นๆได้ เพื่อการพัฒนาและปรับเปลี่ยน ประเทศรัสเซียให้ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆได้ ต่อมาจึงได้รับสมญานามว่า “หน้าต่างแห่งยุโรป”
บ่าย
เดินทางสู่ ป้อมปีเตอร์ และปอลด์ (Peter and Paul Fortress) สิ่งแรกที่สร้างในเมืองเซนต์ปิเตอร์สเบิร์ค สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1703ในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดของเมือง โดยมีความสูงถึง 122.5 เมตร ลักษณะเป็นรูปทรงหกเหลี่ยม เป็นศิลปะแบบบารอค ปัจจุบันด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใช้เป็นที่ฝังพระศพของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช และพระบรมวงศานุวงศ์แห่งราชวงศ์โรมานอฟ นอกจากนี้ยังมีภาพเขียนของนักบุญ รวมรูปพระแม่มารีศักดิ์สิทธิ์ที่งดงาม อันเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของคริสต์ศาสนิกชน
จากนั้นเดินทางสู่ มหาวิหารไอแซค (Saint Isaac’s Cathedral) วิหารที่ถือว่าได้รับการตกแต่งอลังกาลมากที่สุด ยอดโดมฉาบด้วยทองคำแท้ 100 กิโลกรัม และภายในใช้หินอ่อน และหินอื่นๆ กว่า 43 ชนิด ในอดีตเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่สถานที่แห่งนี้ จึงได้มีการก่อสร้างขึ้นใหม่ ในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ในปี ค.ศ. 1818 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ชื่อ Auguste de Montferrand โดยใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 40 ปีมีการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบเรเนสซองส์ และบาโรก ตัววิหารใหญ่โต สีขาวบริสุทธิ ประดับด้วยประติมากรรมเหล็กอันงดงาม เป็นโบสถ์ออร์โทดอกซ์แห่งเดียวที่ประดับประดาตกแต่งด้วยกระจกสีอย่างวิจิตรบรรจง และยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวเมืองที่นี่ให้ความนับถือเป็นอย่างมาก เนื่องจากในอดีตตัวเมืองถูกถล่มด้วยระเบิดของทหารนาซีจนราบคาบ แต่มหาวิหารไอแซคแห่งนี้กลับได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
วันที่ 3
พระราชวังฤดูร้อน หรือ พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ - พระราชวังฤดูหนาว - พิพิธภัณฑ์เฮอมิเทจ - โบสถ์หยดเลือด
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังฤดูร้อน หรือ พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ (Peterhof Palace) พระราชวังที่สวยงาม ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช เป็นพระราชวังที่สรรสร้างโดยศิลปินเอกในสมัยนั้น ที่ชื่อว่า ฟรานเชสโก ราสเทรลลี่ และ เลอ บรอง ซึ่งทั้งสองคนแบ่งกันสร้างพระราชวังนี้ โดยตัวภายในพระราชวังเป็นหน้าที่หลัก ของ ราสเทรลลี่ ออกแบบความงามในสไตล์ผสมเรอเนสซองส์ “บารอค”และคลาสสิก พระเจ้าปีเตอร์หมายมั่นปั้นมือกับพระราชวังนี้มาก วางโครงสร้างงานไปยาวถึง 10 ปี ราสเทรลลี่ บรรจงสร้างพระราชวังอย่างประณีตเน้นการตกแต่งภายในที่เลือกจะใช้ โคมไฟระย้า งานไม้แกะสลักและภาพวาดสีน้ำมันเป็นหลักด้านนอกจะเป็นหน้าที่ของ เลอ บรอง เขาถูกพระเจ้าปีเตอร์เชิญมาสร้างลานน้ำพุ โดยเฉพาะ ลานน้ำพุแห่งนี้ถือเป็นจุดหลักของประสาทแห่งนี้ก็ว่าได้ ด้วยความยิ่งใหญ่ตระการตาและแสงของพระอาทิตย์กระทบผิวน้ำ และขอบอ่างสีทองมัน รวมถึงบรรยากาศร่มรื่นของต้นไม้นานาพันธุ์จึงทำให้เกิดภาพที่สวยงามราวกับดินแดนในเทพนิยาย
** ในส่วนของน้ำพุทางพระราชวังจะปิดในฤดูหนาว ประมาณช่วงเดือนตุลาคม จนถึงเดือนพฤษภาคม และอาจปิดทำการในวันจันทร์สิ้นเดือน หรือวันจันทร์กับวันอังคาร (2วันติดต่อกัน) ซึ่งเป็นธรรมเนียมวันหยุดของชาวพื้นเมืองรัสเซีย ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ในการเพิ่มวันหยุดหรืออาจจะปิดทำความสะอาดโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรณีที่พระราชวังฤดูร้อนปิด ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ปรับเปลี่ยนโปรแกรมได้ความเหมาะสม โดยจะเปลี่ยนไปเข้าพระราชวังอื่นที่เปิดหรือสถานที่อื่นๆในช่วงเวลาดังกล่าว**
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมือง ในพระราชวังอเล็กซานเดอร์ พิเศษ เมนูวอสก้า + ไข่ปลาคาเวียร์
บ่าย
เดินทางสู่ พระราชวังฤดูหนาว (Winter Palace) ที่ประกอบไปด้วยห้องต่างๆ ถึง 1,050 ห้อง สถานที่แห่งนี้เคยใช้เป็นที่รับรองการเสด็จเยือนประเทศรัสเซียของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในการเจริญสัมพันธไมตรี อดีตเคยเป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์โรมานอฟ ระหว่างปี ค.ศ.1732 -1917 ตั้งอยู่ระหว่างท่าวัง กับ จัตุรัสพระราชวัง ภายนอกของพระราชวังใช้โทนสีเขียว และ ขาว ด้วย สถาปัตยกรรมบารอค ปัจจุบันบางส่วนของพระราชวังฤดูหนาวได้เปิดให้ประชาชนเข้าชมในฐานะ
พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ (TheState Hermitage Museum) ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมงานศิลปะล้ำค่าของโลกกว่า 8 ล้านชิ้น รวมทั้งภาพเขียนของจิตรกรเอกระดับโลก อย่างเช่น ลิโอนาโด ดาวินซี่,ปิกัสโซ่,แรมบรันด์,แวนโก๊ะ เป็นต้น จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง
**ในบางช่วงพระราชวังอาจมีการปิดโดยมิได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ดังนั้นหากวันที่เดินทางตรงกับช่วงวันปิดเข้าชม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ปรับเปลี่ยนโปรแกรมได้ตามความเหมาะสม โดยจะเปลี่ยนไปเข้าพระราชวังอื่นที่เปิดหรือสถานที่อื่นๆในช่วงเวลาดังกล่าว**
เดินทางสู่ มหาวิหารคาซาน (KAZAN CATHEDRAL) ได้ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ปีค.ศ. 1708 ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บนถนนเนฟสกี้ ในสมัยก่อนเป็นโบสถ์เล็กๆ ต่อมาในสมัยของพระเจ้าปอลด์ที่ 1 ในปีค.ศ. 1800 ได้ทำการสร้างวิหารใหม่ ให้ยิ่งใหญ่และสวยงามมากขึ้นกว่าเดิมมหาวิหารแห่งนี้มีลักษณะรูปทรงครึ่งวงกลม มีเสาหินวางเรียงแถวยาวอย่างเป็นระเบียบประกอบไปด้วยเสาโรมัน 96 ต้น และโดมขนาดใหญ่ซึ่งมียอดสูงถึง 90 เมตร ด้านนอกของวิหารมีสวนสาธารณะที่ชาวรัสเซียจะมาพักผ่อนหย่อนใจ
เดินทางสู่ โบสถ์หยดเลือด (Church of the Savior on Spilled Blood) ซึ่งพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ทรงสร้างให้เป็นเกียรติแด่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 พระราชบิดาของพระองค์ ผู้ประกาศเลิกทาส ด้วยความหวังดีต่อประชาชน ปรากฎว่าชาวรัสเซียไม่เข้าใจ เพราะหลังเลิกทาส ชาวนากลับมีความเป็นอยู่ที่จนลง เป็นผลให้พวกชาวนารวมตัวกันว่าแผนปลงพระชนม์ โดยส่งหญิงชาวนาผู้หนึ่งติดระเบิดพลีชีพวิ่ง เข้ามาขณะพระองค์เสด็จผ่าน ต่อมาบริเวณถนนที่เกิดเหตุนั้นถูกสร้างโบสถ์ครอบไว้ กลายเป็นโบสถ์หยดเลือดมาจนถึงทุกวันนี้
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
Park Inn Pribaltijskaya ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 4
สถานีรถไฟความเร็วสูง - เมืองมอสโคว์ - จัตุรัสแดง มหาวิหารเซนต์บาซิล - ห้างสรรพสินค้า GUM - ถนนอาร์บัตสตรีท - ชมการแสดงละครสัตว์
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นเดินทางกลับสู่ เมืองมอสโคว์ โดย รถไฟความเร็วสูง Sapsan Fast Train (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) **รอบของรถไฟ อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม**
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
ชม จัตุรัสแดง (Red Square) สถานที่สำคัญใจกลางเมืองมอสโคว์สร้างในสมัยคริสศตวรรษที่ 17 ที่เป็นศูนย์รวมเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ เช่นงานเทศกาลเฉลิมฉลอง หรือการประท้วง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และยังถือได้ว่าเป็นจัตุรัสที่มีความสวยงามมากที่สุดในโลกบริเวณโดยรอบ ยังประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญของประเทศ อีกหลายแห่งที่สามารถได้ชมอันได้แก่
มหาวิหารเซนต์ บาซิล (Saint Basil’s Catherdral) สถานที่ที่ซึ่งถูกยอมรับว่าสวยงามที่สุดในเมืองมอสโคว์ จนได้รับการขนานนามว่า “โบสถ์ลูกกวาด”สร้างขึ้นด้วยศิลปะรัสเซียโบราณ ประกอบด้วยยอดโดม 9 ยอดสีสันสวยงาม โดยสถาปนิก ปอสนิก ยาคอฟเลฟ (Postnik Yakovlev) ในสมัยพระเจ้าอีวานที่ 4 จอมโหด เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานในการรบชนะเหนือกองทัพมองโกลที่เมืองคาซาน และด้วยความสวยสดงดงาม วิจิตรบรรจงของวิหาร จึงทำให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าอีวานที่ 4 เป็นอย่างมาก จึงมีคำสั่งให้ปูนบำเหน็จ แก่สถาปนิก ด้วยการควักลูกตาทั้งสองข้างทิ้งเสีย เพื่อไม่ให้สถาปนิคผู้นี้สามารถสร้างสิ่งสวยงามกว่านี้ได้อีก การกระทำของพระองค์ในครั้งนั้น ส่งผลให้ทุกคนขนานนามว่า “พระเจ้าอีวานจอมโหด” (Ivan the terrible)
ชม หอนาฬิกาซาวิเออร์ (Saviour clock tower) ที่ตั้งอยู่บนป้อมสปาสสกายา เป็นศิลปะแนวโกธิค ปลายยอดถูกประดับด้วยดาว 5 แฉกที่ทำมาจาก ทับทิม โดยพรรคคอมมิวนิสต์เป็นผู้ประดับในปี ค.ศ.1995
นำท่านเข้าชมและช้อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้ากุม (GUM Department store) สถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ของเมืองมอสโคว์ สร้างในปี ค.ศ.1895 ปัจจุบันเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำ จำหน่ายสินค้าแบรนด์เนม เสื้อผ้า เครื่องสำอาง น้ำหอม แบรนด์ดังที่มีชื่อเสียงที่เป็นรุ่นล่าสุดชม
สถานีรถไฟใต้ดินกรุงมอสโคว์ (Moscow Metro) ตื่นตากับการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีกับสถาปัตยกรรมหลากหลายรูปแบบ เช่นการประดับด้วยกระจกสี หินอ่อน
จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง ถนนอารบัต (ArbatStreet) ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของแหล่งประวัติศาสตร์และถือว่าเป็นหนึ่งในย่านโบราณที่สุดของมอสโคว์ ที่มีชื่อปรากฏในประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 โดยตลอดความยาว 1.8 กิโลเมตร ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านคาเฟ่ และยังเป็นแหล่งชุมนุมของศิลปินอินดี้ ที่มาโชว์ฝีมือกันจัดแบบไม่มีใครยอมใคร
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านชมความน่ารักของบรรดาสัตว์แสนรู้ และตื่นตากับการแสดงกายกรรมมายากลของ ละครสัตว์ Circus Show โดยเป็นนักแสดงมืออาชีพ พร้อมกับเหล่าสัตว์ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี หลังจากจบการแสดง ท่านสามารถถ่ายภาพกับสัตว์แสนรู้เพื่อเป็นที่ระลึกได้อีกด้วย
**กรณีละครสัตว์งดการแสดงซึ่งบางกรณีงดการแสดงโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่าบริการส่วนนี้ให้**
ที่พัก
IZAMAILOVO DELTA HOTEL ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 5
พระราชวังเคลมลิน - โบสถ์อัสสัมชัญ - พิพิธภัณฑ์อเมอรี่แชมเบอร์ - สนามบินโดโมเดโดโว่ (เมืองมอสโคว)
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นชมความสวยงามและเจริญรุ่งเรืองของ กรุงมอสโคว์ ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงของประเทศสหพันธรัฐรัสเซียที่ยิ่งใหญ่
นำท่านเข้าชม พระราชวังเคลมลิน สัญลักษณ์ของอดีตสหภาพโซเวียต อันเป็นจุดกำเนิดของประวัติศาสตร์รัสเซียที่มีมายาวนานในอดีตเป็นเพียงป้อมปราการไม้ธรรมดาที่นี่เปรียบเสมือนหัวใจของกรุงมอสโคว์ อีกทั้งยังเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์ทุกพระองค์จนกระทั่ง พระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราชทรงเสด็จไปประทับ ณ พระราชวังเซนต์ปิเตอร์สเบิร์ก ชาวรัสเซียเชื่อว่าที่นี่เป็นที่สถิตย์ของพระเจ้าปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่สำหรับการจัดประชุมของรัฐบาล และรับรองแขกระดับประเทศ ชมโบสถ์อัสสัมชัญ วิหารหลวงเก่าแก่ ที่ถือว่าสำคัญที่สุดในเคลมลิน ซึ่งสร้างโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียนโดยสร้างทับลงบนโบสถ์ไม้เก่าที่มีมาก่อนแล้ว ใช้เพื่อในการประกอบพิธีราชาภิเษก และการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านชม พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์ ตั้งอยู่อยู่ในเขตพระราชวังเครมลิน สิ่งที่ไม่ควรพลาดชม ได้แก่ มงกุฎทองคำของราชวงศ์โมโนมาคจักรพรรดิคอนสแตนติน โมโนมาคได้พระราชทานมงกุฎนี้ให้กับเจ้าชายวลาดิมีร์ โมโนมาค (Vladimir Monomakh) เมื่อราว 700 ปีเศษ มาแล้ว สวยงามมาก ทำจากทองคำประดับด้วยขนเสือเซเบิล (Sable) และอัญมณีล้ำค่าต่างๆมากมาย และได้ใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจนถึงปี พ.ศ. 2225
ชม โบสถ์อัสสัมชัญ วิหารหลวงเก่าแก่ ที่ถือว่าสำคัญที่สุดในเครมลิน ซึ่งสร้างโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน โดยสร้างทับลงบนโบสถ์ไม้เก่าที่มีมาก่อน แล้วใช้เพื่อในการประกอบพิธีราชาภิเษก และการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
ชม ระฆังพระเจ้าซาร์ (The Tsar Bell) และ ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ เป็นตัวอย่างผลงานศิลปะชิ้นโตอันเลื่องชื่อของรัสเซีย ขนาดอันใหญ่โตและความงดงามเป็นตัวดึงดูดให้ผู้คนมาเยี่ยมชม ลองมาดูด้วยตาตัวเองแล้วคุณจะประทับใจกับขนาดอันมหึมาของที่นี่
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางเข้าสู่ สนามบินโดโมเดโดโว่ มอสโคว
22.05 น.
เดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย (TG) เที่ยวบินที่ TG 975
**หมายเหตุ**
สำหรับลูกค้าที่เลือกวันเดินทางพีเรียด 10-15 , 22-27 ส.ค. //26-30 ก.ย. // 24-29 ต.ค.62 ไฟล์ทบินขาไปจะเปลี่ยนเวลาบินออกจากมอสโควเวลา 22.00 น. ถึงกรุงเทพฯเวลา 11.10 น.
วันที่ 6
สนามบินสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ)
11.10 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม