วันที่ 3
เมืองจัยปูร์ - เมืองบิคาเนอร์ - วิหารคาร์นีมาทา
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบิคาเนอร์ (BIKANER) ระยะทาง 320 กิโลเมตร (ใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร) สมัยอดีตยังไม่มีเมืองบิคาเนอร์ บริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Mawar Land of the Dead พ่อค้าตามเส้นทางสายไหม ยังต้องใช้ผ่านไปมา จึงมีโจรหลายก๊ก ยึดครองพื้นที่หย่อมเล็ก และยังไม่มีใครครอบครองดินแดนแห่งนี้ เจ้าชาย Rao Bika แห่งแคว้นโยธปุระ (จ๊อดปูร์) เกิดความน้อยใจในคำพูดพระบิดา จึงตัดสินใจมุ่งหน้าเดินทางก่อนลงหลักปักฐานต่อสู้กับพวกโจร นำความร่มเย็นเข้ามาสู่ดินแดนแห่งความตาย จนชาวบ้านท้องถิ่นเข้าร่วมในการต่อสู้กับพวกโจร จนท้ายสุดเมืองบิคาเนอร์ถูกตั้งขึ้น
จากนั้นเดินทางต่อไปยัง เมืองบิคาเนอร์
เที่ยง
เดินทางถึง เมืองบิคาเนอร์ นำท่านเข้าสู่ที่พัก และรับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย
นำท่านชม วิหารคาร์นีมาทา (Karni mata Temple) สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 สร้างเพื่ออุทิศ ให้แด่หนูที่มีความเชื่อ ว่าเป็นเหล่าลูกหลานของเทพธิดา Karni mata ที่เป็นร่างอวตารของเทพธิดา Durga (เทพธิดาแห่งพลัง และชัยชนะ) ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาฮินดู ที่ผู้ศรัทธาจะนำนม อาหารดีๆ มามอบให้แด่หนูเหล่านี้ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ หลายคนไม่กล้าเข้าสู่วิหารนี้ เพราะกลัวหนู ได้เวลาสมควรเดินทางกลับเข้าสู่ที่พัก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
ที่พัก
HOTEL LALLGARH PALACE ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ 4
เมืองบิคาเนอร์ - ป้อมจูนนาการ์ - เมืองจัยแซลเมียร์
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านชม ป้อมสีแดงแห่งเมืองบิคาเนอร์ หรือ ป้อมจูนนาการ์ (Junagarh Fort) วังมหาราชาที่อยู่ในสภาพดีสุดแห่งหนึ่งในราชาสถาน สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1588 ถูกสร้างขึ้นโดยราชปุต Rao Bika ด้วยการต่อสู้กับชนพื้นเมือง จนสามารถตั้งถิ่นฐานแม้ผ่านการรุกรานจากมหาโมกุลหลายครั้ง แต่ทะเลทรายที่อยู่รอบด้าน รวมทั้งความกล้าหาญของนักรบ ช่วยให้เมืองอยู่รอดเสมอมา ภายในป้อมใหญ่ แบ่งเป็นหลายส่วน เช่น Chandra Mahal, Phool Mahal, Karan Mahal และ Anoop Mahal
จากนั้นชม พิพิธภัณฑ์ Ganga Golden Jubilee
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
บ่าย
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองจัยแซลเมียร์ (JAISALMER) ระยะทาง 300 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง จัยแซลเมียร์ คือเมืองที่ได้รับสมญานามว่า “นครสีทอง” ตั้งอยู่บนที่ราบสูง กลางที่ราบทะเลทรายธาร์ มีกำแพงสูงใหญ่ดูโอฬาร เป็นเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ทางตะวันตกสุดของแคว้นราชาสถาน ในอดีตเคยเป็นเส้นทางการค้าที่ สำคัญระหว่างอินเดียกับตะวันออกกลาง นครแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นจากหินทรายสีเหลืองเป็นส่วนใหญ่ เมื่อยามต้องแสงอาทิตย์อัสดงที่ไล้ลงบนพื้นผิวของหินเหล่านี้ ก็จะปรากฏให้เห็นเป็นสีทองอร่ามตา และนี่คือที่มาของสมญา “นครสีทอง” ด้วยเหตุที่จัยแซลเมียร์เคยเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ ส่งผลให้พ่อค้าวาณิชย์ในตระกูลดังๆ หลายๆคนร่ำรวยกันอย่างมหาศาล กลายเป็นอภิมหาเศรษฐี มีคฤหาสน์ที่ใหญ่โตมโหฬาร
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
ที่พัก
HOTEL DESERT TULIP ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ 5
เมืองจัยแซลเมียร์ - ชมทะเลสาบกาดซิซาร์ - ขี่อูฐทะเลทรายทาร์
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นชม ป้อมจัยแซลเมียร์ (Jaisalmer Fort) ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางทะเลสาบ สร้างโดย Bhatti Rajput rule Rawal Jaisal ค.ศ. 1156 บนเขาทิตรีกูฏ โดยป้อมนี้ถือว่าเป็นป้อมที่สร้างลำดับที่ 2 ของรัฐราชสถาน ชมความสวยงามของปราสาททรายที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางทะเลทราย ภายในป้อมมีบ้านพักของชาวบ้านที่พำนักอยู่อาศัยมานานนับร้อยปี ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพของเมืองจัยแซลเมียร์โดยรอบ
นำท่านชม คฤหาสน์ของเสนาบดี หลังแรกคือ Nathmal Ji Ki Haveli สูง 5 ชั้น ที่สร้างราว ค.ศ.ที่ 19 โดย Lalu และ Hathi 2 พี่น้องศิลปินและสถาปนิกเอก ที่สร้างอย่างวิจิตรบรรจง ด้วยการฉลุลายผนังอย่างละเอียดอ่อน และอีกหลังคือ Patwon ki Haveli ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจัยแซลเมียร์ ซึ่งภายในจะจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
บ่าย
นำท่าน ชม ทะเลสาบกาดซิซาร์ (Gadsisar Lake) โอเอซิสขนาดมหึมาท่ามกลางทะเลที่สร้างโดยมหาราชาวาลกาดซี ในราว ค.ศ.ที่ 14 ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของเมืองจัยแซลเมียร์ รอบๆทะเลสาบมีวัดเล็กๆ ในช่วงฤดูหนาวจะได้พบเห็นนกนานาชนิดโดยรอบบริเวณทะเลสาบ
จากนั้น นำท่าน ขี่อูฐสู่ทะเลทรายทาร์ ชม Sam Sand Dunes ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปราว 45 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังใน จัยแซลเมียร์ เนินทรายแห่งนี้เป็นที่ซึ่งโค้งขอบฟ้าจรดกับผืนแผ่นทรายได้อย่างงดงามเกินคำบรรยาย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
HOTEL DESERT TULIP ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ 6
เมืองจัยแซลเมียร์ - ป้อมเมห์รานกาห์ - เมืองจ๊อดปูร์
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองจ๊อดปูร์ (JODHPUR) ในเวลาประมาณ 6 ชั่วโมง เมืองโรแมนติกแห่ง นครสีฟ้า “จ๊อดปูร์” หรือเมืองโยธะปุระ นครแห่งนักรบ ที่ทั่วทั้งเมืองเป็นสีฟ้าราวกับน้ำทะเล เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในแคว้นราชาสถาน ถูกตั้งขึ้นเป็นราชธานี โดย Rao Jodha แห่งราชวงศ์ Rathor
เดินทางมาถึงเมือง “จ๊อดปูร์” จากนั้นนำท่านเช็คอินเข้าสู่ที่พัก เตรียมทานอาหาร
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
บ่าย
นำท่าน ชม ป้อมเมห์รานกาห์ (Mehrangarh Fort) เป็น 1 ใน 4 พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ป้อมปราการที่ยาวเหยียดข้ามเขาถึง 125 ลูก ภายในมีพระราชวังที่สวยงามและใหญ่ที่สุด และเป็นจุดชมวิวเมืองสีฟ้าที่ดีที่สุด ไม่มีป้อมปราการแห่งไหนในราชาสถานเด่นหง่าเทียบเท่า Mehrangarh Fort ไม่ว่าจะมองจากจุดไหนๆ ของเมืองจ๊อดปูร์ มหาปราการหินถูกสร้างบนเนินเขาสูง 122 เมตร ใน ค.ศ.1459 เมื่อฤาษีท่านหนึ่งบอกแก่มหาราชาจ๊อดธะ (Jodha) พระองค์ควรสร้างเมืองขึ้นที่นี่
จ๊อดปูร์ เป็นศูนย์กลางอาณาจักรใหญ่แต่ครั้งโบราณ ป้อมจึงถูกเสริมเติมแต่งจนมีขนาดใหญ่มหึมา ป้อมเมห์รันกาห์นี้ภายในตกแต่งประดับประดาด้วยแก้วหลากสี แบ่งเป็นห้องหรือท้องพระโรงขนาดใหญ่อีกหลายแห่ง อาทิ ตำหนัก Moti Mahal, Sheesh Mahal, Phool Mahal
จากนั้น นำท่านชม วัด Chamunda Mataji จากนั้นห่างจาก Mehrangarh Fort ไปประมาณ 1 กิโลเมตร ท่านจะได้ชมสิ่งปลูกสร้างสะอาดตา “Jaswant Thada” ก่อสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง และเป็นที่ฝังศพของมหาราชา Jaswant Singh ที่สองและสมาชิกคนอื่นๆ ในราชวงศ์
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
ที่พัก
HOTEL THE FERN / SAROVAR PORTICO HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ 7
เมืองจ๊อดปูร์ - เมืองเมาท์อาบู - กลุ่มวัดเชนดิลวารา
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมาท์อาบู (MOUNT ABU) ระยะทาง 336 กิโลเมตร หรือเรียกว่า ภูเขาราชาเทวะ มีความสูงประมาณ 1,250 เมตร จากระดับน้ำทะเลจึงทำให้อากาศเย็นสบายทั้งปี เป็นเมืองพักผ่อน เนื่องจากแคว้นราชาสถานเป็นเขตทะเลทรายเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผู้คนหนีร้อนมาพักผ่อนที่นี่ และยังเป็นที่นิยมของคู่ฮันนีมูน เมาท์อาบูยังเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์และยังเป็นที่แสวงบุญของผู้ที่นับถือศาสนาเชน เดินทางมาถึง “เมาท์อาบู” จากนั้นนำท่านเช็คอินเข้าสู่โรงแรมที่พัก
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
บ่าย
นำท่านชม กลุ่มวัดเชนดิลวารา (Dilwara Jain Temples) ที่สลักเสลาด้วยหินอ่อนอย่างวิจิตรบรรจง ซึ่งมีจำนวน 5 วัด ตั้งอยู่บนทิวเขานอกเมืองชม วัดวิมาลวาสาหิ (Vimal Vasahi) และวัด Tejpal ฯลฯ
จากนั้น ชมจุดชมนก Trevor’s Tank (หากมีเวลาพอ) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
ที่พัก
HOTEL HILLOCK ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ 8
เมืองเมาท์อาบู - ชมวิหารเชน - เมืองรานัคปูร์ - เมืองอุไดปูร์
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองรานัคปูร์ (RANAKPUR) นำท่าน ชมวิหารเชน (Ranakpur Jain Temple) เป็นวิหารของศาสนาเชน สร้างโดยคหบดี Dharna Sah เมื่อเกือบ 500 ปีก่อน ภายในประกอบด้วยห้องโถงกว่า 24 ห้อง โดมทั้งหมด 80 โดม และเสาถึง 1,144 ต้น เสาแต่ละต้นจะถูกแกะสลักอย่างงดงามมาก คิดเป็นพื้นที่แกะสลักกว่า 3,000 ตารางเมตร ทั้งหมดถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีเยี่ยม เมื่อสร้างวัดนี้จำเป็นต้องสร้างเมืองขึ้นมาเพื่อเป็นที่อาศัยของคนงานนับหมื่น และเป็นสถานที่ ที่สำคัญแห่งหนึ่งซึ่งผู้คนเดินทางมาเพื่อแสวงบุญ ทั้งยังเป็นที่ที่ใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญมากสำหรับผู้นับถือศาสนาเชน เมืองดังกล่าวตั้งชื่อว่า "รานัคปูร์" เพื่อเป็นเกียรติแด่มหารานา แห่งราชาอาณาจักร ผู้อนุญาตให้สร้างวัด
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอุไดร์ปูร์ (UDAIPUR) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแคว้นราชาสถาน และตั้งอยู่ริมทะเลสาบฟิโชล่า เป็นราชธานีแห่งที่สองของอาณาจักร Mewar อุไดปูร์เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อด้านความโรแมนติกและเพียบพร้อม ไปด้วยความงามของทะเลสาบ พระราชวังและน้ำพุที่สวยงาม
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
ที่พัก
HOTEL GOLDEN TULIP ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ 9
เมืองอุไดปูร์ - ซิตี้ พาเลช - ฟาเตห์ ประกาห์ พาเลช - ล่องเรือทะเลสาบพิโคลา
เช้า
รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่าน ชมซิตี้ พาเลช (Udaipur City Palace) หรือ พระราชวังฤดูหนาว ซึ่งส่วนหนึ่งมีการดัดแปลงกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม พระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยหินแกรนิตและหินอ่อน ภายในประดับประดาด้วยกระจกและแก้วหลากสี นับเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นราชาสถาน ปัจจุบันบางส่วนยังคงเป็นที่ประทับของราชตระกูล และมีการจัดแสดงวัตถุโบราณที่มีค่ามากมายให้ผู้คนเข้าชม
นำท่าน ชมภายนอก ของ ฟาเตห์ ประกาห์ พาเลช (Fateh Prakash Palace) ซึ่งมหาราชาองค์หนึ่งอยากได้เฟอร์นิเจอร์คริสตัลมาประดับวัง แต่ไม่ชอบเครื่องเรือนสไตล์ยุโรป จึงบัญชาให้กรมช่างในราชอาณาจักรทำเครื่องเรือนต้นแบบจากไม้ แกะสลักลวดลายสวยงามก่อนส่งไปยังอังกฤษเพื่อให้บริษัทคริสตัลทำเฟอร์นิเจอร์ตามแบบนั้น จากนั้นจึงค่อยส่งกลับมาประดับไว้ที่วังแห่งนี้
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่าน ล่องเรือในทะเลสาบพิโคลา (Lake Pichola Cruise) ชมทิวทัศน์รอบทะเลสาบในยามเย็น ทะเลสาบนี้มีความกว้าง 3 กม. ยาว 4 กม. มีเกาะอยู่ 2 เกาะคือ Jag Niwas และ Jag Mandir เกาะ Jag Niwas เป็นที่ตั้งของ The Lake Palace สร้างโดย Maharana Jagat Singh ll เมื่อปี 1743 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน แต่ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวไปเรียบร้อยแล้ว ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณคืนละ 15,000 บาท ไปจนถึง 200,000 กว่าบาท
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
ที่พัก
HOTEL GOLDEN TULIP ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ 10
เมืองอุไดปูร์ - วัดจักดิศ - Saheliyon Ki Bari - เมืองมุมไบ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านชม วัดจักดิศ (Jagdish Temple) เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอุไดปูร์ และเป็นที่เคารพสักการะสำหรับชาวเมืองอุไดปูร์เป็นอย่างยิ่ง สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1651 จากนั้นอิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งของที่ระลึกตามอัธยาศัย
จากนั้น เดินทางสู่ สวน Saheliyon Ki Bari ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 โดยมหารานาซันแกรมซิงห์ที่ 2 (Maharana Sangram Singh ll) เพื่อให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงในช่วงฤดูร้อน ภายในสวนตบแต่งไปด้วยต้นไม้หลากหลายนานาชนิดพันธุ์ โดดเด่นด้วยน้ำพุที่สร้างความเย็นฉ่ำให้บริเวณข้างเคียง ชมความงามของสระบัวที่กว้างใหญ่ บริเวณภายในสวนยังมีห้องนั่งเล่นที่ประดับประดาไปด้วยแก้วและหินสีงดงามมาก
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน (แบบกล่อง)
หลังอาหาร สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางต่อไปยังสนามบินฯ
17.20 น.
“เหิรฟ้าสู่เมืองมุมไบ” โดยสายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบินที่ AI-644
19.00 น.
เดินทางถึง สนามบินในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย
20.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ และพักผ่อนตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลา เดินทางสู่สนามบินฯ เพื่อทำการตรวจเอกสารในการเดินทาง
วันที่ 11
เมืองมุมไบ - กรุงเทพฯ /สุวรณภูมิ
01.50 น.
“เหิรฟ้ากลับสู่กรุงเทพฯ” โดยสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบินที่ AI-330
07.45 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิ์ภาพ