14.00 น.
เดินทางถึง ท่าอากาศยานซวงหลิง นครเฉินตู
นครเฉินตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวนและมีประชากรหนาแน่นที่สุดของประเทศจีน ที่มีภูมิประเทศรายรอบไปด้วยเทือกเขา และมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมต่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยมีฤดูร้อนที่อบอุ่นฤดูหนาวที่ไม่หนาวนัก และมีปริมาณความชื้นสูง มีพื้นที่ประมาณ 218,920 ตารางไมล์ (567,000 ตารางกิโลเมตร) ประชากรส่วนหนึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยเชื้อชาติต่างๆ ได้แก่ชาวยี่, ธิเบต, เมี้ยว, หุย และเซี่ยง ชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ส่วนใหญ่มีถิ่นฐานอยู่ในเขตปกครองตนเองของมณฑลเฉิงตู และยังเป็นศูนย์กลางของการเดินทางทั้งทางอากาศและทางรถไฟรวมไปถึงการเป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ, วัฒนธรรมและการปกครอง อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีความเป็น “เมืองจีน” อย่างที่ผู้คนได้จินตนาการไว้
หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่เมือง เมืองโบราณหวงหลงซี (ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.)
นำท่านเที่ยวชม เมืองโบราณหวงหลงซี ซึ่งเป็นหมู่บ้านโบราณสมัยราชวงศ์หมิง ชมความเก่าแก่แบบดั้งเดิม ซึ่งคงรักษาสภาพไว้จนถึงปัจจุบัน เดี๋ยวนี้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำหวงหลงซี มีชาวบ้านมักมาเล่นไพ่นกกระจอก และชิมชากันเป็นกลุ่มๆ ให้เราดูเหมือนในสภาพโบราณจริงๆ จากนั้นเดินทางสู่ เมืองง้อไบ๊
วันที่ 3
ง้อไบ๊ - เล่อซาน - ล่องเรือชมหลวงพ่อโตเล่อซาน - เฉินตู - ร้านยา (แช่เท้า) - เม่าเสี้ยน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมือง เล่อซาน
ถึงเมืองเล่อซาน นำท่าน ล่องเรือชม หลวงพ่อโตเล่อซาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ซึ่งสลักอยู่บนหน้าผาของเขาหลิงหยุน สูง 71 เมตร กว้าง 10 เมตร เป็นผลงานการสลักของพระสงฆ์ แห่งพุทธศาสนาในศตวรรษที่ 8 โดยใช้เวลาทำงานรวม 90 ปี (ราชวงศ์ถัง ค.ศ. 713-803) เป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้กำหนดเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ.1966
นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองเฉินตู
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านแวะ ร้านยา (แช่เท้า) ให้ท่านซื้อยาแก้น้ำร้อนลวกเป่าฟู่หลิง “ยาบัวหิมะ” ยาประจำบ้านที่มีชื่อเสียง พร้อมแช่เท้า ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งในการผ่อนคลายความเครียด และบำรุงการไหลเวียนของโลหิตด้วยวิธีธรรมชาติ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเม่าเสี้ยน (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง)
ค่ำ
ถึง เม่าเสี้ยน Check-in เข้าที่พัก พร้อมบริการอาหารค่ำ หลังอาหารค่ำ พักผ่อนตามอัธยาศัย
พักที่
พัก MAOXIAN INTERNATIONAL HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่ 4
เม่าเสี้ยน - จุดชมวิวหวงหลง 4,007 เมตร - อุทยานแห่งชาติหวงหลง (เดินขึ้น-เดินลง) - ปากหุบเขาจิ่วจ้ายโกว
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เขต อุทยานแห่งชาติหวงหลง (ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง)
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่เขต อุทยานแห่งชาติหวงหลง ระหว่างทางแวะชม จุดชมวิวหวงหลง 4,007 เมตร ให้ถ่ายได้ถ่ายรูปกับวิวอันงดงาม บนระดับความสูงกว่า 4,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล อุทยานแห่งชาติหวงหลง เป็นลำธารสายหนึ่งไหลมาจากภูเขาหิมะนับพันๆ ปี จนหินปูนเกิดตกตะกอนเป็นแอ่งเป็นชั้น ทั้งเล็กและใหญ่กว่า 4,000 ชั้น สูงตั้งแต่ 1.5 - 4.5 เมตร น้ำสีรุ้งในอ่าง เปรียบเปรยเป็นที่เล่นน้ำของนางฟ้าชั้นสวรรค์ ลำธารเรียงรายลดหลั่นเป็นระยะกว่า 3,000 เมตร เป็นรูปร่างต่างๆ แสนมหัศจรรย์และงดงาม ไม่มีที่ใดในโลกเทียบได้ จนมีชื่อว่า หวงหลง หรือ อุทยานแห่งชาติมังกรเหลือง
จากนั้นเดินทางต่อสู่ ปากหุบเขาจิ่วจ้ายโกว ท่านจะได้สัมผัสกับกลิ่นไอธรรมชาติบนผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่หาดูได้ยาก ต้นไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะการเดินทางของท่านอยู่ในระหว่างเดือนกันยายน-เดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง ท่านจะได้สัมผัสกับต้นไม้เปลี่ยนสี สีของใบไม้มีหลากหลายสีสันผสมผสานกับ ละอองหิมะที่โปรยปรายลงมาเพิ่มความงามและเสน่ห์ให้กับจิ่วจ้ายโกวมากขึ้น
ค่ำ
นำท่าน Check-in เข้าที่พัก พร้อมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม
พักที่
พัก XINGYU HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่ 5
อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว (ใช้รถเหมาเข้าอุทยานจิ่วจ้ายโกว)
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว
นำท่านเปลี่ยนขึ้น รถโดยสารของอุทยาน (ใช้รถเหมาเข้าอุทยานจิ่วจ้ายโกว) เพื่อชมมรดกโลกอุทยานแห่งชาติธารสวรรค์ อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว ตั้งอยู่ที่ อำเภอหนานปิง อยู่ทางเหนือของมณฑลเสฉวน ห่างจากตัวเมืองเฉิงตู ประมาณ 500 กิโลเมตร มีอาณาบริเวณถึง 148,260 เอเคอร์ ชาวธิเบตที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มีตำนานเกี่ยวกับการเกิดของภูมิประเทศ จิ่วจ้ายโกวดังนี้ “ต้าเกอผู้มีชีวิต อันเป็นอมตะและนางฟ้าอู่นัวเซอโหม่ ที่อาศัยอยู่ในเทือกเขาลึกนี้ได้ตกหลุมรักซึ่งกันและกัน ต้าเกอจึงได้ขัดกระจกบานหนึ่งจนวาววับด้วยกระแสลมและหมู่เมฆ และมอบให้กับอู่นัวเซอโหม่เป็นของกำนัล แต่โชคร้ายที่อู่นัวเซอโหม่ทำหล่นและแตกเป็นชิ้นเล็ก ชิ้นน้อยถึง 108 ชิ้น ซึ่งภายหลังจึงกลายเป็นทะเลสาบทั้ง 108 แห่งในหุบเขาเก้าหมู่บ้านแห่งนี้” ภายในอาณาบริเวณอุทยานจิ่วจ้ายโกว ประกอบด้วยภูเขาและหุบเขาอันสลับซับซ้อน เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่มีระดับพื้นดินที่ลดหลั่นจึงทำให้เกิดแอ่งน้ำน้อยใหญ่มากมายถึง 114 แอ่ง และกลุ่มน้ำตกใหญ่น้อยรวมถึง 17 กลุ่ม และแม่น้ำซึ่งไหลมาจากหุบเขารวม 5 สาย
ท่านจะได้พบกับความมหัศจรรย์ของอุทยานแห่งนี้ ชมสภาพของน้ำในทะเลสาบมีสีสันที่พิสดารหลากหลาย ประกอบด้วยฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงจนทำไห้เกิดสีสัน อันมหัศจรรย์จนได้ฉายาว่า “7 แดนเทพนิยาย”
ท่านจะได้ชมความงาม เริ่มตั้งแต่ น้ำตกโน่ยื่อหล่าง สูงจากระดับน้ำทะเล 2,365 เมตร กว้าง 320 เมตร สูง 25 เมตร เป็นน้ำตกหินปูนที่กว้างที่สุดของอุทยานจิ่วจ้ายโกว และกว้างที่สุดในประเทศจีน
ต่อด้วย ทะเลสาบกระจก สูงจากระดับน้ำทะเล 2,390 เมตร น้ำลึกโดยเฉลี่ย 11 เมตร ลึกที่สุด 243 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 1.9 แสนตารางเมตร เงาสะท้อนของทะเลสาบกระจก เสมือนกระจกบานใหญ่สะท้อนเงาจากท้องฟ้า ทำให้เกิดภาพพิเศษขึ้นมา คือมีปลาว่ายกลางเมฆหมอก มีนกบินกลางสายน้ำ ริมทะเลสาบมีต้นไม้สองต้นพันกันสูงระฟ้า ทำให้คู่รักนิยมมาถ่ายรูปคู่ที่นี่ เพราะเชื่อกันว่าจะซื่อสัตย์ต่อความรักตลอดไป
จากนั้นนำท่านไปยังไฮไลท์ของจิ่วจ้ายโกว ทะเลสาบดอกไม้ห้าสี หรือ ทะเลสาบนกยูง (เป็นทะเลสาบนกยูง เมื่อมองลงมาจากด้านบน) สูงจากระดับน้ำทะเล 2,472 เมตร ลึก 5 เมตร เป็นทะเลสาบที่มีวิวสวยอันดับต้นๆ ของอุทยานจิ่วจ้ายโกว เนื่องมาจากการกระจายตัวของตะกอนหินปูน สาหร่าย และพืชน้ำ ทำให้เกิดสีหลายสีสวยงามมาก เป็นจุดที่คนนิยมมาถ่าย Pre-Wedding กันมากที่สุด เพราะมีวิวที่สวยงาม และมีจุดถ่ายรูปมากมายเลยทีเดียว
ต่อด้วย ทะเลสาบหมีแพนด้า ซึ่งท่านจะตลึงกับความงดงามที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างไว้อย่างวิจิตพิสดาร ดั่งภาพวาดในจินตนาการ
ปิดท้ายครึ่งวันเช้าด้วย น้ำตกธารไข่มุก สูงจากระดับน้ำทะเล 2,433 เมตร ยอดน้ำตกกว้าง 310 เมตร ความสูง 40 เมตร มีสายน้ำที่ทอดธารลดหลั่นยาวเป็นระยะยาวถึง 310 เมตร ไม่ขาดสายส่องประกายระยิบระยับ เป็นน้ำตกที่มีความงามราวกับเส้นไข่มุก
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารของอุทยานจิ่วจ้ายโกว
นำท่านชมความงดงามของอุทยานจิ่วจ้ายโกวกันต่อในภาคบ่าย โดยนั่งรถยาวตามเส้นทางจือจาวาเพื่อขึ้นไปชม ทะเลสาบยาว ซึ่งเป็นทะเลสาบที่อยู่สูงที่สุดและกว้างที่สุด ของอุทยานจิ่วจ้ายโกว ระดับน้ำลึกที่สุด 100 กว่าเมตร
จากนั้นไปต่อกันที่ ทะเลสาบห้าสี ในอุทยานจิ่วจ้ายโกว ทะเลสาบห้าสี ถือเป็นจุดไฮไลท์อีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด
จากนั้นนั่งรถกลับตามเส้นทางเดิม เพื่อลงไปด้านล่างของอุทยานจิ่วจ้ายโกว
นำท่านชม ทะเลสาบเสือ น้ำตกซู่เจิ้น และ หมู่ทะเลสาบซู่เจิ้น ให้ท่านได้อิสระกับการบันทึกถ่ายภาพและดื่มด่ำกับธรรมชาติ ที่สวยสดงดงามได้อย่างเต็มที่
สมควรแก่เวลา นำท่านกลับสู่ที่พัก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม
พักที่
พัก XINGYU HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่ 6
จิ่วจ้ายโกว - ร้านชา - ผ่านชมเมืองโบราณซงพาน - ทะเลสาบเตี๋ยซี - ตูเจียงเยี่ยน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่ ตูเจียงเอี้ยน ระหว่างทางท่านจะได้พบกับความงามของธรรมชาติ ที่ท่านสัมผัสจากที่ไหนไม่ได้
นำท่านแวะ ชิมชาต้นกำเนิด ซึ่งมีชาหลายประเภทให้ท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝาก
ผ่านชมเมืองโบราณซงพาน สมัยราชวงศ์หมิง เมืองที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้าชาวฮั่นและชาวทิเบต สมัยนั้น ชาวฮั่นนิยมนำใบชา ผ้าแพร เกลือและของใช้ประจำวัน มาแลกเปลี่ยนม้า แกะ ขนแกะ และหนังสัตว์
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านแวะชม ทะเลสาบเตี๋ยซี ที่มีน้ำสีเขียวดั่งเทอควอยซ์บนที่ราบสูง สลับด้วยแนวทิวเขา ทะเลสาบแห่งนี้เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงบ่อยครั้ง และได้กลืนเมืองทั้งเมืองอยู่ใต้ทะเลสาบ สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ ตูเจียงเอี้ยน
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่าน Check-in เข้าที่พัก
พักที่
พัก MINGCHENG TIMES HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่ 7
ตูเจียงเยี่ยน - ร้านผ้าไหม - ร้านหมอนโอโซน - ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า (รวมนั่งรถกอล์ฟ) - ถนนคนเดินซุนชีลู่ - โชว์เปลี่ยนหน้ากาก
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เฉิงตู
นำท่านแวะ ร้านผ้าไหม ชมวิธีการนำเส้นไหมออกมาผลิตเป็นสินค้าทั้งใช้เครื่องจักร และแรงงานคนชมการดึงใยไหมรังแฝด เพื่อมาทำใส้นวมผ้าห่มไหม ซึ่งเหมาะกับการซื้อเป็นทั้งของฝากและใช้เอง
นำท่านแวะ ร้านหมอนโอโซน ซึ่งมีสรรพคุณสำหรับท่านที่เป็นโรคหลับยาก นอนกรน และโรคที่เกี่ยวกับนอน เหมาะกับการซื้อเป็นทั้งของฝากและใช้เอง เพื่อการหลับที่ดีกว่าอย่างแท้จริง
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า (นั่งรถกอล์ฟ) ที่หาชมได้ยาก และเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของประเทศจีน ชมความน่ารักพร้อมสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของเหล่าหมีแพนด้า
ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า อยู่บนเนื้อที่ 600,000 ตารางเมตร ซึ่งใช้เป็นศูนย์เพาะพันธุ์และอนุรักษ์ รวมถึงใช้เป็นสถานที่ศึกษาหมีแพนด้าซึ่งเป็นสัตว์อนุรักษ์ของประเทศจีน
อิสระให้ท่านช้อปปิ้ง ถนนคนเดินซุนชีลู่ มีสินค้าต่างๆ มากมาย ทั้งแบรนด์ต่างประเทศ และในประเทศ อาทิ เสื้อผ้า, รองเท้า, เครื่องหนัง, กระเป๋าเดินทาง, นาฬิกา, เกมส์, ของที่ระลึกต่างๆ ฯลฯ ตามอัธยาศัย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม โชว์เปลี่ยนหน้ากาก ที่ใช้ศิลปะพร้อมความสามารถในการเปลี่ยนหน้ากากแต่ละฉากภายในเสี้ยววินาที โดยที่ไม่สามารถจับตาได้ทัน เป็นการแสดงที่สงวนและสืบทอดกันมาภายในตระกูล หลายชั่วอายุคน ไม่ถ่ายทอดให้บุคคลภายนอกทั่วไป
พักที่
พัก MERCURE CHENGDU NORTH HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่ 8
วัดเหวินซู - ร้านหยก - ถนนคนเดินจิ่งหลี - อาหารสมุนไพร - กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ)
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านชม วัดเหวินซู เป็นวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่ 1 ใน 4 แห่งมณฑลเสฉวน เป็นวัดที่มีชื่อสียงมากที่สุดของมณฑล เสฉวน สร้างในราชวงศ์ถัง แต่ถูกไฟไหม้ในสมัยราชวงศ์หมิง เหลือแต่พระที่ทำด้วยเหล็ก 10 องค์ และต้นสนพันปี 2 ต้น ภายในวัดมีพระหล่อสัมฤทธิ์กว่า 100 รูป ซึ่งหล่อขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง เป็นที่เคารพกราบไหว้ของชาวเมืองเฉินตู
นำท่านชม หยกจีน ของล้ำค่าซึ่งชาวจีนมีความเชื่อว่าหยกคือ สัญลักษณ์ของความดีงาม สติปัญญา และความยุติธรรม รวมไปถึงลัทธิขงจื๊อยังให้ความหมายของหยกในแง่ของสัญญาลักษณ์แห่งปัญญา ความเห็นอกเห็นใจ ความพอประมาณ และความกล้าหาญ ซึ่งหากใครได้ครอบครองหยกจะพบความสุข ความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย ความมีโชค รวมถึงทำให้อายุยืนอีกด้วย ให้ท่านได้เลือกชมหยกที่ได้ผ่านการเจียระไนมาเป็นเครื่องประดับนำโชค อาทิ กำไลหยก แหวนหยก หรือ เผ่เย้า ให้ท่านได้เลือกซื้อเป็นของขวัญของฝาก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ถนนคนเดินโบราณจิ่นหลี่ เป็นถนนคนเดินที่รักษาบรรยากาศสมัยโบราณไว้ได้เป็นอย่างดี มีสินค้าต่างๆ มากมาย ให้ท่านได้ช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ลิ้มรสอาหารพิเศษ ... สมุนไพรจีน
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินซวงหลิง เมืองนครเฉินตู เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
15.05 น.
เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 619
17.20 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ) โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ