วันที่สาม
ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ - ปราสาททองคินคาคุจิ - เมืองอาราชิยาม่า - รถไฟสายโรแมนติก - ป่าไผ่ - สะพานโทเก็ตสึเคียว - มิสุอิ แจ๊สดรีม เอ้าท์เล็ต
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ” หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกเป็นศาลเจ้าชินโต(Shinto)ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต(Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักสิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย(บ้างก็ว่าท่านชอบแปลงร่างเป็นจิ้งจอก) จึงสามารถพบเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายด้วยเช่นกัน ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีก คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือกว่าพันปีมาแล้ว
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “ปราสาททอง” หรือเรียกกันว่า “คินคาคุจิ” ปราสาทที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่ของโชกุนในสมัยโบราณ ตั้งตระหง่านกลางสระน้ำ
โอบล้อมด้วยสวนสไตล์ญี่ปุ่นโบราณที่ได้รับการดูแลและอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม ตัวปราสาทโดดเด่นด้วยสีทองส่องประกายระยับยามกระทบแสงอาทิตย์ เงาปราสาททาบลงบนผืนน้ำคล้ายกับมีปราสาทใต้น้ำอีกหนึ่งหลัง ให้ท่านได้เก็บภาพอย่างใกล้ชิดกับตัวปราสาทและบรรยากาศโดยรอบ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ “เมืองอาราชิยาม่า” เพื่อเดินทางไปสัมผัสกับ “รถไฟสายโรแมนติก (Sagano Romantic Train)” เสน่ห์ของรถไฟเก่าสุดคลาสสิคนี้มีมุมมองที่น่ารื่นรมย์ของทิวทัศน์ตลอดเส้นทาง ท่านจะได้ชมความงามของแมกไม้ โตรกผา ภูเขา เรียบแม่น้ำโฮซูกาวา ด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติก
**ในกรณีรถไฟซากาโน่เต็ม ช่วงเทศกาลท่องเที่ยว เช่น ใบไม้เปลี่ยนสี, ซากุระ เป็นต้น อาจเปลี่ยนไปนั่งรถไฟ JR ท้องถิ่นแทน**(ความสวยงามของสีสันใบไม้...ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
จากนั้นนำท่านชมความสวยงาม ร่มรื่น ของทิวไผ่ อันเขียวขจี นับหมื่นต้นตลอดข้างทาง ณ “สวนป่าไผ่(Bamboo Groves)” เป็นเส้นทางเดินเล็กๆที่ตัดผ่านในกลางสวนป่าไผ่ สามารถเดินเล่นให้บรรยากาศที่แปลกและหาได้ยาก ยิ่งถ้าช่วงไหนที่มีแสงอาทิตย์รอดผ่านตัวป่าไผ่ลงมายังพื้นด้านล่างก็จะยิ่งสวยมาก โดยเฉพาะถ้ามีลมพัดมาพร้อมกันก็จะเป็นเสียงกิ่งก้านของต้นไผ่กระทบกันไปมา บริเวณใกล้ๆจะเป็นร้านขายของพื้นเมืองที่ทำมาจากต้นไม้ เช่น ตะกร้าไม้ไผ่, ถ้วย, กล่องใส่ของ หรือเสื้อเสื้อสานจากไผ่ เป็นร้านดั้งเดิมของคนท้องถิ่น ร้านขายของฝาก ของที่ระลึกต่างๆ ซึ่งอยู่ระหว่างสองข้างทาง ก่อนที่เราจะนำท่านชม “สะพานโทเก็ตสึเคียว(Togetsukyo Bridge)” หรือนิยมเรียกว่า “Moon Crossing Bridge” เป็นเสมือนสัญลักษ์ของอาราชิยาม่า ถูกสร้างขึ้นในสมัยเฮอันและมีการบูรณะซ่อมแซมอยู่เรื่องๆ สะพานนี้มีความสวยงามอย่างมากเพราะด้านหลังนั้นเป็นภูเขาสูงใหญ่และด้านล่างเป็นแม่น้ำที่ทั้งสองฝั่ง เป็นบริเวณที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบ และเลื่องลือว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดอีกแห่งในเกียวโต
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “มิสุอิ แจ๊สดรีม เอ้าท์เล็ต” ซึ่งเป็น Outlet Malll ด้วยพื้นที่กว่า 39,300 ตารางเมตร ที่นี่จึงรวบรวมร้านค้าแบรนด์เนมชั้นนำและร้านอาหารญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงไว้มากกว่า 240 ร้าน นอกจากนี้ก็จะมีส่วนนั่งพักเท้า นั่งพักผ่อนหลังเดินช้อปปิ้งมาเหนื่อยๆ กว่า 200 ที่นั่ง ให้ท่านได้ซื้อสินค้ามากมายในราคาลดพิเศษ ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าและของฝากได้ตามอัธยาศัย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำแบบอิสระ เพื่อให้ท่านได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า (ไม่รวมค่าอาหาร)
ที่พัก
YOKKAICHI MIYAKO HOTEL ***หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว
วันที่สี่
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ - ทาคายาม่าจินยะ (ด้านนอก)+ ย่านซันมาชิซูจิ - คามิโคจิ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านมรดกโลก “หมู่บ้านชิราคาวาโกะ” นำท่านชมสถานที่พิเศษสุด ซึ่งแสดงถึงความสามารถและพยายามของชนชาติญี่ปุ่นโบราณ หมู่บ้านที่ได้รับเลือกจากองค์การ ยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1995 ท่านจะได้พบกับบ้านในแบบกัสโชสึคุริ ซึ่งเป็นแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ชื่อนี้ได้มาจากคำว่า กัสโช ซึ่งแปลว่าพนมมือ ตามรูปแบบของบ้านที่หลังคาชันถึง 60 องศา มีลักษณะคล้ายสองมือที่พนมเข้าหากัน ตัวบ้านมีความยาวประมาณ 18 เมตร และมีความกว้าง 10 เมตร ซึ่งโครงสร้างของบ้านสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว แต่ยังคงความแข็งแรงสามารถรองรับหิมะที่ตกมาอย่างหนักในช่วงฤดูหนาวได้ดี ให้อิสระท่านเดินชมความสวยงามของหมู่บ้านแห่งนี้ตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านสู่ “ทาคายาม่าจินยะ” หรือ จวนผู้ว่าแห่งเมืองทาคายามาในอดีต (ไม่รวมค่าเข้าชมด้านใน) เป็นทั้งที่ทำงาน และที่อยู่อาศัยของผู้ว่าราชการจังหวัดฮิดะ เป็นเวลากว่า 176 ปี ภายใต้การปกครองของโชกุนตระกูลโตกุกาว่า ในสมัยเอโดะ หรือกว่า 300 ปีที่แล้ว ให้ท่านเลือกชมและซื้อสินค้าพื้นเมือง ณ “เขตเมืองเก่าซันมาชิซูจิ” ซึ่งเต็มไปด้วยบ้านเรือน และร้านค้าน่ารักๆ ที่ยังคงอนุรักษ์รูปแบบของบ้านโบราณ และกลิ่นไอในสมัยเอโดะกว่า 300 ปีก่อน ให้ท่านได้เก็บบรรยากาศอันน่าประทับใจ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “คามิโคจิ” นับได้ว่าเป็นสถานที่พักผ่อนที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่ง ด้วยทัศนียภาพงดงามที่ธรรมชาติได้สรรสร้างขึ้น ซึ่งได้รับการขนานนามว่า สวิสเซอร์แลนด์แดนญี่ปุ่น ที่แห่งนี้ในสมัยก่อนยังไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายนัก กระทั่งปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 มิชชันนารีชาวอังกฤษชื่อ นายวอลเตอร์ เวสตัน ได้ค้นพบสถานที่แห่งนี้และได้เขียนแนะนำเมืองคามิโคจิในหนังสือของเขา จนกระทั่งปัจจุบันจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ซึ่งท่านสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของสะพานคัปปะบาชิ สัญลักษณ์ของคามิโคจิที่ทอดข้ามแม่น้ำอะซึสะ เป็นสะพานแขวนนที่ทำจากไม้ หากยืนบนสะพานจะสามารถมองเห็นเทือกเขายะเกะตะเกะ และเทือกเขาโฮตากะทางด้านเหนือสวยงามมาก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
OKADA RYOKAN ***หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว
พิเศษ! ณ โรงแรมที่พักแห่งนี้ ท่านจะได้สัมผัสกับการอาบน้ำแร่ หรือ เรียกอีกอย่างว่าออนนเซ็น เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า การอาบน้ำแร่ จะทำให้ เลือดลมดี, ผิวพรรณสดใส, สุขภาพดี, ผ่อนคลายความเมื่อยล้า และยังช่วยในระบบการเผาผลาญของร่างกายอีกด้วย
วันที่ห้า
ปราสาทมัตสึโมโต้ (ด้านนอก) - ไร่วาซาบิไดโอะ - ภูเขาไฟฟูจิ - โอชิโนะ ฮัคไค - ออนเซ็น+ขาปูยักษ์ไม่อั้น
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม “ปราสาทมัตสึโมโต้” (ชมด้านนอก) สัญลักษณ์ของเมือง และได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่มีความสวยงามที่สุดของญี่ปุ่น ที่สามารถรอดพ้นการถูกทำลายจากเพลิงของสงครามมาได้จนถึงปัจจุบัน ตัวปราสาทมีผนัง ที่ทาด้วยสีดำสนิททำให้มีฉายาว่า ปราสาทอีกาดำ ยิ่ง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “ไร่วาซาบิไดโอะ” ตื่นตาตื่นใจกับ “ต้นวาซาบิ”มากมาย พร้อมเรียนรู้ถึงขั้นตอนการเพาะปลูกและการนำมาทำเป็นอาหาร ท่านสามารถเลือกซื้อขนมและของที่ระลึกที่ทำมาจากวาซาบิสดๆ หรือจะเลือกชิม “ไอศกรีมรสวาซาบิ” รสชาติดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแถบนี้เท่านั้น อิสระให้ท่านได้บันทึกภาพความงามของแปลงวาซาบิตามอัธยาศัย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านขึ้นสู่ “ภูเขาไฟฟูจิ” ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเกาะญี่ปุ่นด้วยความสูง 3,776 เมตรจากระดับน้ำทะเล นำท่านขึ้นชมความงามกันแบบใกล้ชิดยังบริเวณ “ชั้น 5” ของภูเขาไฟฟูจิ (หรือชั้นสูงสุดที่ทางอุทยานฯอนุญาตให้ขึ้นได้ในวันนั้นๆ) เพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบของภูเขาไฟ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “โอชิโนะฮัคไค” บ่อน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขาไฟฟูจิ ที่ใช้เวลาอันยาวนานในการไหลลงมาสู่พื้นดิน และซึมไปยังบ่อน้ำแต่ละบ่อ ดังนั้นน้ำที่อยู่ในบ่อ จะเป็นน้ำที่ใสสะอาด และสดชื่นมาก ในปี 1985 สถานที่แห่งนี้ยังได้ถูกเลือกให้เป็น 1 ใน 100 อันดับ แหล่งน้ำจากธรรมชาติที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม พิเศษ!!ทานขาปูยักษ์ อันขึ้นชื่อของญี่ปุ่น แบบไม่อั้น
ที่พัก
FUJINOBOU KAEN HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว
พิเศษ! ณ โรงแรมที่พักแห่งนี้ ท่านจะได้สัมผัสกับการอาบน้ำแร่ หรือ เรียกอีกอย่างว่าออนนเซ็น เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า การอาบน้ำแร่ จะทำให้ เลือดลมดี, ผิวพรรณสดใส, สุขภาพดี, ผ่อนคลายความเมื่อยล้า และยังช่วยในระบบการเผาผลาญของร่างกายอีกด้วย
วันที่หก
ฮาโกเน่ – หุบเขาโอวาคุดานิ(ไข่ดำ) - ล่องเรือทะเลสาบอาชิ - มหานครโตเกียว - วัดอาซากุสะ+ถ่ายภาพโตเกียวสกายทรี - ย่านชินจูกุ - อิออนพลาซ่า
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ “ฮาโกเน่” เพื่อ เดินทางสู่ “หุบเขาโอวาคุดานิ” (โดยรถบัส) หุบเขานรก ที่เกิดขึ้นจากการปะทุขึ้นมาของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อหลายพันปีก่อน ทำให้เกิดบ่อน้ำร้อนผุดขึ้นมาจากใต้ดิน น้ำและควันเหล่านี้จะมีส่วนผสมของกำมะถันอยู่ด้วยโดยความร้อนของน้ำที่ผุดขึ้นมานั้นสามารถต้มไข่ให้สุกได้เลยทีเดียว และไข่ที่ต้มจากบ่อนี้เปลือกของไข่จะมีสีดำสนิทซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อกันว่า “กินไข่ดำหนึ่งฟองจะทำให้อายุยืนขึ้นเจ็ดปี” และนำท่าน “ล่องเรือโจรสลัด” (ล่องสั้น 10 นาที) ยังบริเวณ “ทะเลสาบอาชิ” เพื่อให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติและชมความงามของทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อกว่า 3,000 ปีที่แล้ว
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ “มหานครโตเกียว” ให้ทุกท่านนมัสการเจ้าแม่กวนอิมทองคำ ณ “วัดอาซากุสะ” วัดที่ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ภายในประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำที่ศักดิ์สิทธิ์ ขนาด 5.5 เซนติเมตร ซึ่งมักจะมีผู้คนมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดทั้งปี ประกอบกับภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของโคมไฟยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยความสูง 4.5 เมตร ซึ่งแขวนห้อยอยู่ ณ ประตูทางเข้าที่อยู่ด้านหน้าสุดของวัด ที่มีชื่อว่า “ประตูฟ้าคำรณ” และถนนจากประตูเข้าสู่ตัววิหารที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมทองคำ มีชื่อว่า “ถนนนากามิเซะ” ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าขายของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ มากมาย อาทิ ขนมนานาชนิด ของเล่น รองเท้า พวงกุญแจที่ระลึก ฯลฯ ให้ทุกท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึก
และนำทุกท่านเดิน ถ่ายรูปคู่กับ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงโตเกียว ณ ริมแม่น้ำสุมิดะ “หอคอยโตเกียวสกาย ทรี”(Tokyo Sky tree) หอส่งสัญญาณโทรคมนาคมที่สูงที่สุดในโลก ... เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2555 โดยหอนี้มีความสูง 634 เมตร สามารถทำลายสถิติความสูงของหอกวางตุ้ง ในมณฑลกว่างโจว ซึ่งมีความสูง 600 เมตร และหอซีเอ็น ทาวเวอร์ ในนครโทรอนโต ของแคนาดา มีความสูง 553 เมตร ... ทิวทัศน์ของ “หอคอยโตเกียวสกายทรี”ที่บรรจุเทคโนโลยีแนวหน้าสุดสามารถมองเห็นได้จากละแวกวัดอาซะกุซ่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบเมืองเก่าของเอะโดะ
จากนั้นนำท่านสู่ “ย่านชินจูกุ” ย่านแห่งความเจริญอันดับหนึ่งของกรุงโตเกียว ท่านจะได้พบกับห้างสรรพสินค้า และร้านขายของเป็นพันๆ ร้าน ซึ่งจะมีผู้คนนับหมื่นเดินกันขวักไขว่ ถือเป็นจุดนัดพบยอดนิยมอีกด้วย เชิญท่านเลือกชมสินค้ามากมาย อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า, กล้องถ่ายรูป, นาฬิกา, เสื้อผ้า, รองเท้าแฟชั่น และเครื่องสำอาง เป็นต้น อิสระให้ท่านได้เพลินเพลินกับการ “เลือกชมและซื้อ” สินค้าตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ “อิออนพลาซ่า” ศูนย์รวมแห่งสินค้านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นขนมญี่ปุ่น ผลไม้ และอาหารนานาชนิดใน ซุปเปอร์มาร์เก็ต อิสระให้ท่านได้เพลินเพลินกับการ “เลือกชมและซื้อ” สินค้าตามอัธยาศัย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำแบบอิสระ เพื่อให้ท่านได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า (ไม่รวมค่าอาหาร)
สมควรแก่เวลา เดินทางสู่ “สนามบินฮาเนดะ” เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ
วันที่เจ็ด
สนามบินฮาเนดะ - กรุงเทพฯ
02.20 น.
เหิรฟ้าสู่เมืองไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 661
04.50 น.
เดินทางถึงเมืองไทย พร้อมกับความประทับใจเต็มเปี่ยม