20.00 น.
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง บริเวณอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 2 ชั้น 3 ประตู 2 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ (XJ) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอินรับบัตรโดยสาร (แนะนำให้โหลดของที่ไม่จำเป็นลงใต้ท้องเครื่อง)
**หมายเหตุ**
เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที และผู้โดยสารพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 30 นาที
09.40 น.
เดินทางถึง สนามบินชิโตเซะ เกาะฮอกไกโด เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น ดินแดนโรแมนติคทางเหนือที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งคำว่า “ฮอกไกโด” หมายถึง เส้นทางสู่ทะเลเหนือ จากนั้นนำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ***
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติโอนุมะ (Onuma Quasi National Park) อุทยานแห่งนี้นับเป็นสถานที่ที่รวบรวมเอาความงดงามของธรรมชาติมาไว้ในที่เดียวกัน เพราะมีทั้งทัศนียภาพที่งดงามของเกาะ ทะเลสาบ และภูเขาไฟโคมะงาตาเกะ แต่สิ่งที่ถือเป็นไฮไลต์ของการท่องเที่ยวของคือ จุดระหว่างทะเลสาบโอนุมะและทะเลสาบโคนุมะ เนื่องจากจะมีเส้นทางการเดินคาบสมุทรและเกาะแก่งต่างๆที่เชื่อมต่อด้วยสะพานเล็กๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินสำรวจพื้นที่ได้ทั้งหมดภายในเวลาประมาณ 15-60 นาที หรืออาจจะเช่าจักรยานสำหรับปั่นไปรอบๆทะเลสาบโอนุมะ (ซึ่งราคาเช่าจะอยู่ที่ 500 เยน/ชั่วโมง และ 1,000 เยน/วัน)
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นเมืองท่าเรือแห่งแรกในญี่ปุ่นที่เปิดทำการค้าขายกับต่างประเทศในปี 1854 จนปี 1859 ฮาโกดาเตะได้เป็น 1 ใน 5 เมืองของญี่ปุ่นที่เป็นเมืองท่าเรือค้าขายอย่างสมบูรณ์แบบ ทีนี้ชาวตะวันตกก็ไหลหลั่งเข้ามาในเมืองฮาโกดาเตะ และได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่กันหลายชนชาติ มีตึกรามบ้านช่องที่มีสถาปัตยกรรมตะวันตกมากมายที่เรายังสามารถเห็นได้ในเขตเมืองเก่าย่านโมโตมาชิ
นำท่านชม ป้อมโกเรียวคาคุ (Fort Goryokaku) โกเรียวคาคุเป็นป้อมปราการแบบตะวันตกที่สร้างเสร็จเมื่อ 150 ปีก่อน วิวมุมกว้างอันงดงามของป้อมปราการรูปดาวและคูป้อมโดยรอบจะปรากฏแก่สายตาของผู้ชมจากลานสังเกตการณ์ของหอคอยโกเรียวคาคุที่มีความสูง 107 เมตร ซึ่งอยู่ติดกับตัวป้อม คูป้อมรายล้อมไปด้วยต้นซากุระกว่า 1,600 ต้น ทำให้หอคอยโกเรียวคาคุกลายเป็นจุดชมซากุระลำดับต้นๆ ของฮอกไกโดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ในฤดูร้อน (หมายเหตุ ค่าทัวร์ไม่รวมค่าขึ้นหอคอยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 840 เยน)
จากน้ำนำท่านสู่ โกดังอิฐแดงริมน้ำ (Red Brick Warehouses) โกดังอิฐซึ่งสร้างขึ้นในปี 1909 ได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมด มีร้านอาหารและร้านของที่ระลึกต่างๆ ที่นี่นั้นเรียกได้ว่าศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถานบันเทิงที่ให้บรรยากาศเก่าๆ ด้วยสิ่งก่อสร้างที่ดูคลาสสิกที่แม้จะดูเก่าแก่แต่ก็มีคลาสในเวลาเดียวกัน โดยเดิมทีที่นี่เคยเป็นคลังสินค้าอิฐสีแดงที่เคยใช้ค้าขายในปลายสมัยเอโดะ ภายหลังจากที่ไม่ได้ใช้งานเป็นคลังสินค้าอีกต่อไปแล้ว จึงได้ทำการปรับเปลี่ยนจนการมาเป็นเหมือนดังปัจจุบัน
วันที่ 3
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ - ย่านเมืองเก่าโมโตมาชิ - ภูเขาไฟโชวะ ชินซัน (ไม่รวมกระเช้า) + สวนหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน - หุบเขานรกจิโกกุดานิ - เมืองซัปโปโร - มิตซุยเอ้าท์เลท
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market) นับเป็นตลอดช่วงเช้าที่บรรยากาศแสนจะคึกคักของเมืองฮาโกดาเตะ เพราะภายในตลาดนั้นเต็มไปด้วยร้านขายอาหารทะเลสด ไม่ว่าจะเป็น ปูคานิ ไข่ปลาแซลม่อน และหอยเม่นทะเล หรือจะเป็นผลไม้ต่างๆก็มีให้เลือกช้อปเลือกชิมกันมากมาย โดยเมนูที่ฮอตฮิตต้องลองเมื่อมาเยือนถึงถิ่นแหล่งกำเนิดของวัตถุดิบชั้นเลิศก็คือ Uni-Ikura Domburi โดยตลาดแห่งนี้นั้นจะมีพื้นที่ประมาณ 4 ช่วงตึก เปิดเปิดเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่ตอนเช้าตีห้าถึงเที่ยงตรง
จากนั้นนำท่านสู่ ย่านเมืองเก่าโมโตมาชิ (Motomachi District) หรือ ท่าเรือเมืองฮาโกดาเตะ ย่านนี้นับเป็นย่านที่มีประวัติยาวนานเป็นร้อยปี แถมสิ่งปลูกสร้างต่างๆก็ยังคงมีการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม โดยท่าเรือแห่งนี้นับเป็นท่าเรือแรกที่เปิดให้มีการค้าระหว่างประเทศในปี 1854 ทำให้มีผู้ค้าจำนวนมากจากรัสเซีย จีน และประเทศตะวันตก ได้ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และยังกลายเป็นอีกย่านยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชอบมาเยือนเมื่อมาเที่ยวยังเมืองฮาโกดาเตะอีกด้วย
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ภูเขาไฟโชวะ ชินซัน (Showa Shinzan) ภูเขาไฟที่เกิดขึ้นใหม่และมีอายุน้อยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเกิดขึ้นจากการเกิดแผ่นดินไหวและก่อตัวขึ้นบนพื้นที่ราบทุ่งข้าวสาลี ในระหว่างปี 1943-1945 นับเป็นอีกหนึ่งภูเขาไฟที่ยังไม่มอดดับสนิทและยังคงมีควันกำมะถันลอยอยู่เหนือปล่องภูเขาไฟให้เห็นจนถึงปัจจุบันเกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม
นำท่านเข้าชม สวนหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park) เป็นสถานที่เพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาล ซึ่งเป็นหมีที่ใกล้สูญพันธุ์และหาดูได้ยาก โดยในญี่ปุ่นจะพบหมีสีน้ำตาลนี้ได้ที่เกาะฮอกไกโดเท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมลูกหมีสีน้ำตาลได้อย่างใกล้ชิดผ่านกระจกใส และมีหมีโตเต็มวัยที่ไม่ดุร้ายโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูทีเดียว หากใครต้องการใกล้ชิดกว่านี้ก็สามารถเข้าไปยังห้องสังเกตการณ์พิเศษ กรงมนุษย์ ซึ่งจะมองเห็นหมีสีน้ำตาลเดินผ่านไปมา และได้ยินเสียงและกลิ่นของหมีผ่านรูระบายอากาศเล็กๆ นอกจากนี้ยังยังขายขนมปัง และแอปเปิ้ล ให้นักท่องเที่ยวได้ป้อนอาหารหมีอีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หุบเขาจิโกคุดาหนิ (Jigokudani หรือ Hell Valley) หรือเรียกอีกอย่างว่า “หุบเขานรก” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Shikotsu Toya เมือง Noboribetsu น้ำร้อนในลำธารของหุบเขาแห่งนี้มีแร่ธาตุกำมะถัน ซึ่งบ่อนี้ส่วนใหญ่เป็นเป็นบ่อน้ำร้อนกำมะถัน อุณหภูมิประมาณ 50 องศาเซลเซียส ตลอดทาง ก็จะมีบ่อน้ำเล็กๆ บางบ่อมีอุณหภูมิที่ร้อนกว่าและยังมีบ่อโคลนอีกด้วย ถือเป็นแหล่งกำเนิดน้ำแร่และออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด และบริเวณทางเข้าด้านหน้าหุบเขาจะมียักษ์ถือกระบองอยู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง เชื่อว่าช่วยปกป้องเมืองนี้ ยักษ์ที่อาศัยอยู่ในจิโกกุดานิเรียกว่า “ยุคิจิน” เป็นยักษ์ดีที่จะนำเอาโชคร้ายไปแล้วจะทำให้ผู้คนมีความสุข นี่เป็นยักษ์ 2 สีอยู่ระหว่างทางขึ้นไปหุบเขานรก
นำท่านเดินทางกลับ เมืองซัปโปโร
จากนั้นนำท่านอิสระช้อปปิ้ง มิตซุยเอ้าท์เลท เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ของซัปโปโร ศูนย์รวมแฟชั่นทันสมัยแหล่งรวมพลของสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังจากทั่วโลกให้ท่านเลือกชมและซื้อมากมาย
ค่ำ
***อิสระรับประทานอาหารเย็น ตามอัธยาศัย***
ที่พัก
SMILE SAPPORO PREMIUM HOTEL ระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 4
เมืองบิเอะ - สระน้ำสีฟ้า - เมืองอาซาฮิคาว่า - หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่า - เมืองฟุราโน่ - หมู่บ้านเทพนิยาย นิ้งเกิ้ลเทอเรส - อิออน ทาวน์
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านสู่ เมืองบิเอะ (Biei) เป็นเมืองขนาดเล็กของฮอกไกโด โดยเมืองแห่งนี้มีภูมิทัศน์ทางธรรมชาติที่งดงาม รายล้อมไปด้วยภูเขาและทุ่งนาอันกว้างใหญ่
จากนั้นนำท่านชม สระน้ำสีฟ้า (Blue Pond) เป็นแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่มีสีฟ้าสดใส เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ชื่นชอบธรรมชาติ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบิเอ นี้เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญหลังการสร้างเขื่อน เพื่อป้องกันการเกิดโคลนถล่มจากภูเขา ทำให้น้ำถูกกั้นไม่ให้ออกจากเขื่อน น้ำถูกกักเก็บรวมกันจนเกิดเป็น Blue Pond ที่มีสีฟ้าสวยสดใส แตกต่างจากบ่อน้ำตามธรรมชาติอื่นๆ และยังมีตอไม้สูงที่สวยงามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้บ่อน้ำแห่งนี้โดดเด่นน่าไปเที่ยวชม
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่า (Asahikawa Ramen Village) ราเมนของที่นี่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์และได้รับการกล่าวขานถึงความอร่อยมายาวนานกว่าทศวรรษ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่าได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดยรวบรวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองอาซาฮิคาว่าทั้ง 8 ร้านมาอยู่รวมกันเป็นอาคารหลังคาเดียว เสมือนหมู่บ้านราเมนที่รวบรวมร้านดังขั้นเทพไว้ในที่เดียว และยังมีห้องเล็กๆที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านแห่งนี้ให้สำหรับผู้ที่สนใจได้มาศึกษาอีกด้วย
เที่ยง
***อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย***
บ่าย
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองฟุราโน่ (Furano) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเกาะฮอกไกโด จึงถูกเรียกขานว่า “สะดือของฮอกไกโด”รายล้อมไปด้วยภูเขาขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาโทกาจิในกลุ่มภูเขาไฟไดเซ็ทสึซัน ภูเขาอาชิเบ็ทสึ และภูเขายูบาริ เมืองฟุราโน่นั้นมีสภาพอากาศเย็นและแห้งมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูกผลิตผลทางการเกษตร โดยเฉพาะดอกไม้ แต่ในช่วงฤดูหนาวในเวลาที่หิมะตก ก็จะเป็นลานหิมะขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเทพนิยาย นิงเกิ้ลเทอเรส (Ningle Terrace) เป็นหมู่บ้านขนาดเล็กๆที่เต็มไปด้วยกระท่อมไม้น่ารัก สร้างเรียงรายไปตามทางเดินเหมือนกับศิลปะในเทพนิยาย กระท่อมแต่ละหลังก็คือร้านขายของแต่ละร้าน ซึ่งประกอบด้วยร้านค้า 15 ร้าน ที่จำหน่ายสินค้างานฝีมือและสินค้าพื้นเมือง โดยมีร้านกาแฟ Chu Chu no Ie ตั้งอยู่ใจกลางของหมู่บ้าน ร้านค้าต่างๆ จะอยู่ไม่ไกลกันมาก ทำให้ดูเหมือนเป็นหมู่บ้านซึ่งอยู่ท่ามกลางป่า คล้ายบ้านในเทพนิยาย หน้าหนาวเช่นนี้ก็จะได้บรรยากาศหิมะแบบขาวโพลน แต่ในฤดูร้อนก็จะได้บรรยากาศของป่าสนเขียวขจีกับบ้านไม้ในป่าสน
จากนั้นนำท่านช้อปปิ้ง อิออน ทาวน์ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของฮาซาฮิกาว่า อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกกัน อาทิ ขนมโมจิ เบนโตะ ผลไม้ และขนมขึ้นชื่อของญี่ปุ่น อย่างคิทแคท สามารถหาซื้อได้ที่นี่เช่นกัน
ค่ำ
***อิสระรับประทานอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย***
ที่พัก
SMILE ASAHIKAWA HOTEL ระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 5
เนินพระพุทธเจ้า - เมืองโอตารุ - คลองโอตารุ - พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี - โรงเป่าแก้วคิตาอิชิ - ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ - ดิวตี้ฟรี - ร้านสินค้ามือสอง - ถนนทานุกิโคจิ
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เนินพระพุทธเจ้า (HILL OF BUDDHA) ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโรทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเป็นผลงานการสร้างชิ้นเอกอีกชิ้นหนึ่งของทาดาโอะ อันโดะ สถาปนิกชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัลพริตซ์เกอร์ที่ถือว่าที่สุดรางวัลของสถาปนิก โดยมีลักษณะเป็นเนินเขาล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูปมีความสูงมากถึง 13.5 เมตรและมีน้ำหนัก 1500 ตัน พื้นที่ที่ล้อมรอบจะมีค่อยๆลาดลง อีกทั้งราย ล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม ช่วงฤดูร้อนที่จะแวดล้อมได้สีม่วงของต้นลาเวนเดอร์ และช่วงฤดูหนาวที่เหมือนอยู่ท่ามกลางความขาวสะอาดของหิมะที่ขาวโพลน และอีกจุดหนึ่งที่พลาดไม่ได้นั่นคือการเดินลอดไปตามอุโมงค์ที่มาความยาว 40 เมตร ที่เมื่อเดินไปจนถึงจุดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่อยู่บริเวณปลายทางของอุโมงค์แล้วมองย้อนขึ้นไป จะมองเห็นเหมือนมีแสงสะท้อนอยู่รอบๆองค์พระพุทธรูปเปรียบเสมือนรัศมีแสงแห่งฟ้า ซึ่งไม่สามารถมองได้จากทางด้านนอก ถือเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทางสถาปนิกตั้งใจออกแบบเพื่อให้ทุกๆส่วนมีความพิเศษไม่แพ้กัน นับว่าเป็นอีกหนึ่ง Unseen Hokkaido สถานที่ที่มีความมหัศจรรย์และคุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับการมาเยือน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโอตารุ เป็นเมืองท่าในฮอกไกโด ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครซัปโปโร เป็นเมืองท่าหลักของอ่าวมาเป็นเวลานานจึง มีอาคารเก่าแก่มากมาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
จากนั้นนำท่านชม คลองโอตารุ คลองสายเล็กๆ ที่ไหลผ่านกลางเมือง สัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ ที่มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติคประดับตกแต่งด้วยโคมไฟถนนแบบวิคตอเรียน
เที่ยง
***อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย***
บ่าย
จากนั้นนำท่านสู่ พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมกล่องดนตรีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายสไตล์ ลักษณะของอาคารเป็นอาหารเก่าแก่ 3 ชั้น ภายนอกถูกสร้างขึ้นจากอิฐแดง และโครงสร้างภายในทำด้วยไม้ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1910 ตัวอาคารได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมจากชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่ ภายในมีสินค้าให้เลือกหลากหลายกว่า 3,400 ชนิด มีหลายราคาให้เลือกซื้อได้ตามสะดวก
นำท่านสู่ โรงเป่าแก้วคิตาอิชิ โรงเป่าแก้วชื่อดังของเมืองโอตารุ ชมการสาธิตการเป่าแก้วด้วยวิธีกรรมดั้งเดิม หรือหากท่านใดชื่นชอบการประดิษฐ์สิ่งของที่ไม่เหมือนใครก็สามารถเข้าร่วมขั้นตอนทำเครื่องแก้วแบบ DIY เพื่อสร้างผลงานเป็นของตนเองได้ หรือจะเลือกซื้อสินค้าสวยๆที่มีอย่างหลากหลายก็ได้เช่นกัน อุตสาหกรรมการทำผลิตภัณฑ์จากแก้วของชาวโอตารุนั้น เริ่มต้นหลังจากอุตสาหกรรมประมงเริ่มถดถอยในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวเมืองลายคนจึงหันไปผลิตเครื่องแก้วเพื่อเป็นการทดแทนรายได้ ปัจจุบันเมืองโอตารุก็ยังขึ้นชื่อในอุตสาหกรรมเครื่องแก้วอยู่
เดินทางสู่ ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ เพลิดเพลินกับบรรยากาศน่ารัก ของตัวการ์ตูนแมวชื่อดัง คิตตี้ ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
นำท่านอิสระช็อปปิ้ง ดิวตี้ฟรี (Duty Free) ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ทั้ง เสื้อผ้า น้ำหอม ต่างๆมากมาย
จากนั้นนำท่านจุใจช้อปปิ้ง ร้านสินค้ามือสอง ภายในร้านจะมีจำหน่ายสินค้าสภาพดี เช่น กระเป๋า นาฬิกา รองเท้า และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เครื่องจานชาม ชุดกาแฟ ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น
จากนั้นอิสระช้อปปิ้ง ถนนทานุกิโคจิ เป็นย่านการค้าเก่าแก่ของเมืองซัปโปโร โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 7 บล็อก ภายในนอกจากจากจะเป็นแหล่งรวมร้านค้าต่างๆ อย่างร้านขายกิโมโน เครื่องดนตรี วิดีโอ โรงภาพยนตร์แล้ว ยังมีร้านอาหารมากมาย ทั้งยังเป็นศูนย์รวมของเหล่าวัยรุ่นด้วย เนื่องจากมีเกมเซ็นเตอร์ และตู้หนีบตุ๊กตามากมาย ร้อนดองกี ร้าน 100 เยน นอกจากนั้นที่นี่ยังมีการตกแต่งบนหลังคาด้วยตุ๊กตาทานุกิขนาดใหญ่
ค่ำ
***บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร***
ที่พัก
SMILE SAPPORO PREMIUM HOTEL ระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 6
สนามบินชิโตเซะ - กรุงเทพฯ(สนามบินดอนเมือง)
เช้า
นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินชิโตเซะ
***อิสระรับประทานอาหารเช้าที่สนามบิน ตามอัธยาศัย***
10.00 น.
ออกเดินทางบินลัดฟ้ากลับสู่ กรุงเทพมหานคร โดย สายการบิน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ (XJ) เที่ยวบินที่ XJ621 (ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
15.50 น.
เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพและประทับใจ