22.00 น.
คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ ดอนเมือง กรุงเทพฯ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ชั้น 3 เคาน์เตอร์เช็คอิน หมายเลข 8สายการบิน Thai Lion Airโดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ อำนวยความสะดวกตลอดขั้นตอนการเช็คอิน และ หัวหน้าทัวร์ให้คำแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง ข้อควรทราบ : ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืน จะมีโทษปรับและจับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ศุลกากร ด่านตรวจคนเข้าเมือง
บ่าย
นำท่านเข้าสู่ จังหวัดไซตามะ เป็นจังหวัดที่อยู่ติดกับเมืองหลวงโตเกียว เป็นหนึ่งในจังหวัดปริมณฑล ตั้งอยู่กึ่งกลางภูมิภาคคันโต มีประชากรอาศัยอยู่ทั้งหมดประมาณ 7.15 ล้านคนนอกจากนี้จังหวัดไซตามะยังมีโรงผลิตเหล้าเก่าแก่ที่มีชื่อมากมายถึง 30 โรงด้วยกัน โดยส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 100 ปี และยังเปิดโอกาสให้ท่านได้ลิ้มลองกับรสชาติความอร่อยของเหล้าญี่ปุ่น
นำท่านเดินทางสู่ คาวาโกเอะ (Kawagoe) เป็นเมืองโบราณสมัยเอโดะ จนมีฉายาว่า ลิตเติ้ลเอโดะ (Koedo) อยู่ใกล้กับโตเกียวเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง คนส่วนใหญ่จึงนิยมเที่ยวคาวาโกเอะแบบวันเดย์ทริปจากเมืองโตเกียว เพราะเป็นเมืองที่มีสเน่ห์และเดินทางไปเที่ยวง่าย คาวาโกเอะจะมีถนนเส้นหลักชื่อ Kurazukuriมีอาคารบ้านเรือนสมัยก่อน ให้บรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในเมืองเมื่อหลายร้อยปีก่อน ผู้คนจึงขนานนามเมืองแห่งนี้ว่าเอโดะน้อย หรือ Little Edo หรือ Koedoมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น ปราสาทคาวาโกเอะ, วัดคิตาอิน (Kitain Temple) และอาคารบ้ายเรือนต่างๆ
นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาพิงค์มอส หรือ สวน Hitsujiyama เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงด้วยความงดงามของดอกชิบะซากุระ (Shibazakura) หรือดอกพิงค์มอส (Pink Moss) กว่า 400,000 ต้น บนพื้นที่ 17,600 ตารางเมตรสวนจะปลูกดอกพิงค์มอสเต็มภูเขา “Shibazakura Hill” สามารถมองลงไปเห็นเมืองชิชิบุได้แบบวิวพาโนรามาดอกพิงค์มอสจะบานเต็มที่ ช่วงกลางเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี แถมที่สวนนี้ยังมีต้นซากุระนานาพันธุ์ปลูกอยู่ภายในสวนกว่า 1,000 ต้นอีกด้วย ** ในกรณีที่ PinkMossไม่บานขอสงวนสิทธิ์ในการพาไปเที่ยว โกเท็มบะ เอาท์เล็ท แทน ***
วันที่ 3
ภูเขาไฟฟูจิชั้น5 - พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว - อาซากุสะ - ชินกุ
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ฟูจิยาม่า ฟูจิซัง หรือ ที่เรารู้จักกันทั่วไปในนามของ ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji)ตั้งอยู่ระหว่าง จ.ชิซึโอกะ และ จ.ยามานาชิ ภูเขาที่มีความสูงเหนือจากระดับน้ำทะเล 3,776 เมตร ภูเขาที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเรื่องความสวยงามที่ธรรมชาติได้มอบมาให้อย่างลงตัว และยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนประเทศญี่ปุ่นในตลอดทุกฤดูกาล ซึ่งในปี พ.ศ. 2556 ที่ผ่านมา องค์การยูเนสโก้ ได้ประกาศให้ภูเขาไฟฟูจิ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมอีกด้วย
นำท่านเดินทางขึ้นสู่ ภูเขาไฟฟูจิ ชั้นที่ 5 (ทางบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ไม่ขึ้น ในกรณีที่อากาศไม่เอื้ออำนวย หรือ ทางขึ้นปิด โดยเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลทางขึ้นจะเป็นผู้พิจารณาและตัดสินใจเท่านั้น กรณีที่ไม่สามารถขึ้นได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการชดเชยเงินคืนไม่ว่ากรณีใดๆ เพราะทางบริษัทได้ชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดในลักษณะของการเหมาจ่ายเรียบร้อยแล้ว)เมื่อถึงที่ภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 ทุกท่านจะได้พบกับความสวยงามของตัวภูเขาและวิวโดยรอบของภูเขาไฟฟูจิ และสัมผัสกับอากาศที่บริสุทธิ์ เย็นสบาย อิสระให้ทุกท่านได้เก็บภาพความประทับใจเก็บไว้ตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกซึ่งเป็นสัญลักษณ์รูปภูเขาไฟฟูจิในหลากหลายบรรยากาศได้อีกด้วย ที่บนภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 นี้ ยังเป็นที่ตั้งของ ศาลเจ้าโคมิตาเคะ (KomitakeJinja) ของศาสนาลัทธิชินโต เป็นที่สักการะบูชาและอธิฐานขอพร อีกทั้งยังเป็นที่สำหรับบวงสรวงท่านเทนกุ โดยมีความเชื่อว่ารอบของฟูจิซังชั้น 5 นี้ ถูกเรียกว่า “Tengu no niwa” “สวนของท่านเทนกุ” (ปีศาจที่มีจมูกแดงยื่นออกมา) โดยมีความเชื่อว่าที่นี่ท่านเทนกุปกครองอยู่นั่นเอง และ ยังว่ากันว่า ศาลเจ้าแห่งนี้มีสมบัติของท่านเทนกุหลงเหลืออยู่มากมาย อย่างเช่น ขวานขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักกว่า 375 กิโลกรัม ตกอยู่ที่พื้นในสวน ซึ่งในสมัยก่อนมีผู้คนนิยมมาทดลองยกขวานนี้กันมากมาย เป็นต้น จึงเป็นที่มาว่าทำไมภูเขาไฟฟูจิ จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนต่างเคารพบูชาและนิยมมาซื้อเครื่องรางของขลังกลับไปเป็นฝากของเป็นที่ระลึก
นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว (Experience Earthquake)ที่จำลองเรื่องราวของภูเขาไฟฟูจิ และท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของการจำลองเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเกิดแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เทคโนโลยี วิวัฒนาการ การวางแผนป้องกันต่อภัยธรรมชาติที่ประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้นี้ ให้ท่านอิสระเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านนมัสการเจ้าแม่กวนอิมทองคำ ณ วัดอาซากุสะ (Sensoji Temple) วัดที่ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดแห่งหนึ่งใน กรุงโตเกียว ภายในประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำที่ศักดิ์สิทธิ์ ขนาด 5.5 เซนติเมตร ซึ่งมักจะมีผู้คนมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดทั้งปี ประกอบกับภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของโคมไฟยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยความสูง 4.5 เมตร ซึ่งแขวนห้อยอยู่ ณ ประตูทางเข้าที่อยู่ด้านหน้าสุดของวัด ที่มีชื่อว่า “ประตูฟ้าคำรณ” และถนนจากประตูเข้าสู่ตัววิหารที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมทองคำ มีชื่อว่า ถนนนากามิเซะ (Nakamise Road) ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้า ขายของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ มากมาย เช่น ขนมนานาชนิด ของเล่น รองเท้า พวงกุญแจที่ระลึก ฯลฯ ให้ทุกท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึก
นำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้งชินจุกุ (Shinjuku)ให้ท่านอิสระและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้ามากมายและ เครื่องใช้ ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องเล่นเกมส์หรือสินค้าที่จะเอาใจคุณผู้หญิงด้วย กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า แบรนด์เนม เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่น เครื่องสำอางยี่ห้อดังของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น KOSE , KANEBO , SK II , SHISEDO และอื่นๆ อีกมากมาย
ค่ำ
อิสระอาหารค่ำ ตามอัธยาศัยเพื่อสะดวกแก่การช้อปปิ้ง
ที่พัก
TOYOKO INN HOTEL NARITA หรือเทียบเท่า
วันที่ 4
อิสระเต็มวันหรือเลือกซื้อทัวร์ดิสนีย์แลนด์
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อิสระเต็มวัน ให้ท่านอิสระช้อปปิ้ง หรือเดินทางสู่สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ โดยมีไกด์คอยให้คำแนะนำในการเดินทาง อาทิ
- ศาลเจ้าเมจิเป็นศาลเจ้าหลวงในศาสนาชินโต ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศและเป็นที่สถิตย์วิญญาณขององค์สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ ซึ่งเป็นจักรพรรดิที่มีความสำคัญกับประเทศญี่ปุ่นยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง และได้รับความเคารพจากชาวญี่ปุ่นยุคปัจจุบันมากที่สุด
- ย่านฮาราจูกุแหล่งรวมเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า ของวัยรุ่นญี่ปุ่น หากคุณคือคนที่กำลังมองหาซื้อเสื้อผ้าแบบแปลกๆ หรือต้องการหาซื้อเสื้อผ้าแนว Cost Play ท่านยังสามารถหาได้จากที่นี่อีกด้วย หรือ ถ้าต้องการเห็นวัยรุ่นญี่ปุ่นแต่งตัวแบบแปลกๆ ก็สามารถมาดูได้ที่นี่ได้ จะมีวัยรุ่นญี่ปุ่นน่ารักๆ เดินกันเต็มถนนเหมือนกับถนนสายแบรนด์เนมโอโมโตะซานโดะ นอกจากนั้นแล้ว ท่านยังได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ดังระดับโลก อาทิ CHANNEL, Dior, LOUIS VULTTON, ZARA, GAP หรือสาวก ONITSUKA TIGER ที่ต้องการหารองเท้าแบบต้นฉบับ MADE IN JAPAN ที่ SHOP นี้มีแบบให้เลือกสรรมากมาย อีกทั้งยังมีร้านขายตุ๊กตา KITTY DORAENMON หรือตุ๊กตา LINE สุดแสนน่ารักไว้คอยเอาใจคุณหนู อีกทั้งยังมี SHOP ใหญ่ของ กระเป๋าสุดฮิต BAO BAO ISSEY MIYAKE, เสื้อ COMME DES GARCONS อีกด้วย
- ย่านชิบุย่าศูนย์กลางแฟชั่นวัยรุ่นในโตเกียวหามุมถูกใจถ่ายภาพคู่ไว้เป็นที่ระลึกกับ “ฮาจิโกะ” รูปปั้นสุนัขแสนรู้ที่กลายเป็นจุดนัดพบยอดฮิตสำหรับหนุ่มสาวโตเกียว อัพเดทแฟชั่นสไตล์โตเกียวที่ตึก(109) อิจิมารุคิว ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับและแฟชั่นชั้นนำของญี่ปุ่นในฤดูต่างๆอื่นๆมากมาย
เที่ยง
เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้ง อิสระอาหารเที่ยงตามอัธยาศัย
บ่าย
หรือหากท่านใดมีความประสงค์จะเลือกซื้อ
ดิสนีย์แลนด์ เพิ่มท่านละ 2,700.- บาท
(ไม่รวมค่าเดินทาง) ดีสนีย์แลนด์โลกแห่งจินตนาการของราชาการ์ตูนญี่ปุ่นซึ่งเป็นดิสนีย์แลนด์แห่งแรกที่สร้างนอกประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2526 จากการถมทะเลและใช้ทุนสร้างกว่า 600 ล้านบาท ให้ท่านสนุกสนานกับเครื่องเล่นนานาชนิด
(ไม่จำกัดจำนวนการเล่น) ผจญภัยในดินแดนต่างๆ ให้ท่านเล่นเครื่องเล่นตัวใหม่จากภาพยนตร์การตูนเรื่องดัง Toy Story ชมฉากรบกลางทะเลคาริเบียนในดินแดนโจรสลัดจากภาพยนตร์ The Pirate of Caribbean เขย่าขวัญกับบ้านผีสิงใน Haunted Mantionสัมผัสความน่ารักของตุ๊กตาเด็กนานาชาติในโลกใบเล็ก Small World ชมภาพยนตร์สามมิติThe Invention of the Year ให้ท่านได้สนุกสนานพร้อมกับการจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกน่ารักในดิสนีย์แลนด์อีกทั้งยังจะได้สัมผัสกับตัวการ์ตูนเอกจากวอลดิสนีย์ อย่าง มิกกี้เม้าส์ มินนี่เม้าส์ พร้อมผองเพื่อนการ์ตูนอีกมากมายสนุกกับการจับจ่ายซื้อของที่ระลึกน่ารักในดิสนีย์แลนด์
การเดินทางจากนาริตะสู่โตเกียว
- จากโรงแรมแถวย่านนาริตะสู่สนามบินนาริตะใช้รถบัสบริการฟรีของทางโรงแรม แต่เนื่องด้วยจะต้องเริ่มตั้ง แต่ 9.00 น.เป็นต้นไปเพราะเนื่องจากในตอนเช้าระหว่าง 6.00 - 9.00 น เป็นช่วงที่มีลูกค้าใช้บริการไปสนามบิน เป็นจำนวนมากซึ่งอาจจะทำให้ขึ้นรถบัสไม่ครบตามจำนวนผู้เดินทางทั้งหมด
- รถไฟสาย Keisei Skylinerเป็นรถไฟที่วิ่งจากสนามบินนาริตะไปสถาณีอูเอะโนะเพียง 41 นาทีโดยใช้ความ เร็วในการวิ่ง 160 ก.ม./ชม.โดยค่าตั๋วจะอยู่ที่เที่ยวละ 2,470 เยน/ท่าน โดยเวลาที่ให้บริการ 7.28-18.20 น เพราะฉะนั้นก่อนเดินทางกลับควรเช็คเที่ยวสุดท้ายว่าหมดตอนกี่โมง
- รถไฟสาย Narita Express (N'EX) เป็นรถไฟเข้าเมืองจากค่าย JR ถือว่าเป็นรถไฟที่ราคาค่อนข้างสูงนิดนึงแต่ตั๋วรถไฟจะเป็นแบบระบุที่นั่งบนรถไฟได้เลยโดยไม่ต้องกลัวว่าขึ้นไปแล้วเราจะไม่มีที่นั่งเบาะสามารถหมุนเข้า หากันได้มีอาหารขายบนรถไฟโดยค่าตั๋วรถไฟจะอยู่ที่ราคาเที่ยวละ 3,190 เยน/ท่านโดยเวลาที่รถไฟให้บริการตั้งแต่เวลา 7.44-19.42 น เพราะฉะนั้นก่อนเดินทางกลับควรเช็คเที่ยวสุดท้ายว่าหมดตอนกี่โมง
- Airport Limousine Bus เป็นอีก 1 ทางเลือกในการเดินทางเข้าโตเกียวแต่รถบัสนี้จะจำกัดจำนวนผู้โดยสาร ต่อรอบโดยต่อรอบจะรับอยู่ 35-40 ท่านต่อเที่ยวโดยจะใช้ระยะเวลาในการเดินทาง 80-100 นาที ราคา 3,000 เยน/ท่าน/เที่ยว เวลาที่ให้บริการ 5.55-17.30 น ถ้าเด็กอายุตำกว่า 12 จะเสียครึ่งราคา
- Taxi ในส่วนของรถแท็กซี่นี้ค่าโดยสารจากโตเกียว สู่โรงแรมที่พักย่านนาริตะจะอยู่ที่ราคา 20,000-25,000 เยน (โดยราคานี้จะไม่รวมค่าทางด่วน)
ค่ำ
อิสระอาหารค่ำ ตามอัธยาศัยเพื่อสะดวกแก่การช้อปปิ้ง
ที่พัก
TOYOKO INN HOTEL NARITA หรือเทียบเท่า
วันที่ 5
วัดนาริตะ ซัน - สนามบินนาริตะ - กรุงเทพ (ดอนเมือง)
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำทุกท่านสู่ วัดนาริตะซัน ชินโชจิ (NaritasanShinshoji Temple) เป็นวัดพุทธเก่าแก่ ขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเสียงมากของเมืองนาริตะ สร้างขึ้นในปี 940 ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาตินาริตะ ภายในวัดมีอาคารที่หลากหลายตั้งอยู่ในบริเวณทีกว้างขวาง เช่น ห้องโถงหลัก เจดีย์ 3 ชั้นสไตล์ Tahotoมีชื่อว่า Great Pagoda of Peace นอกจากนี้ยังมีสวนญี่ปุ่น และสวนยุโรปอีกด้วย
08.00 น.
นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติ นาริตะ ประเทศญี่ปุ่น
11.00 น.
ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติ ดอนเมือง กรุงเทพฯ โดย สายการบินThai Lion Air เที่ยวบินที่ SL301 ** มีเสริฟ SNACK บนเครื่อง มีจอทุกที่นั่งดูหนัง/ฟังเพลง ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง **
16.45 น.
เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ