วันที่สาม ::
อาราชิยาม่า-วัดเทนริวจิ-ป่าไผ่-วัดคินคาคุจิ-วัดชินเนียวโด
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่อาราชิยาม่า (Arashiyama) เป็นสถานที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่ง ของเกียวโต ตั้งอยู่ค่อนไปทางตะวันตกของตัวเมือง เป็นที่ที่มีธรรมชาติสวยงาม ในฤดูใบไม้ผลิจะมี ซากุระบานสวยมากมาย และในฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีใบไม้แดง นอกจากนี้ยังมีป่าไผ่ที่อุดมสมบูรณ์ เขียวสวยตลอดปี นอกจากธรรมชาติแล้วก็ยังมีย่านโบราณที่ดูสงบริมฝั่งแม่น้ำ ทั้งยังมีวัดเก่าแก่ ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก วัดเทนริวจิ และก็มีสะพานยาวสวยสร้างขึ้นในสมัยเฮอัน ซึ่งถือเป็น จุดเด่นของที่นี่ ชื่อว่า สะพานโทเง็ทสึเคียว (Togetsukyo) มีความหมายว่า สะพานชมจันทร์ โดยมี ภูเขาอาราชิยาม่าเป็นฉากหลังทอดยาวข้ามแม่น้ำโฮซึ ปัจจุบันนี้ อาราชิยาม่า ถือได้ว่าเป็น 1 ใน 10 แหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่ควรพลาดของญี่ปุ่นเลยทีเดียว ระหว่างทางจากสะพานยังมีทางเดินที่ สองข้างทางเหมือนอุโมงค์ไผ่ ให้ความรู้สึกสงบและสดชื่นเย็นสบายตลอดเส้นทาง
นอกจากนี้ยังมี วัดเทนริว (Tenryu-ji) ซึ่งเป็นวัดนิกายเซนซึ่งเก่าแก่สร้างเสร็จเมื่อ ค.ศ.1345 เพื่ออุทิศให้แก่ พระจักรพรรดิโกะไดโงะ ภายในมีสวนโซเง็นฉิ (Sogenchi) ที่เป็นสวนดั้งเดิมตั้งแต่วัดสร้างเสร็จและ ไม่ไกลจากบริเวณวัดจะเป็นทางเดินป่าไผ่ (Bamboo Groves) ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์เด่นอีกจุดหนึ่งของ อาราชิยาม่าเช่นกัน วัดเทนริวจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ.1994 อีกด้วย
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านชม วัดคินคากุจิ (Kinkakuji) ซึ่งมีศาลาทองเป็นจุดเด่นของวัด ลักษณะเป็นอาคารสามชั้น ชั้นแรกสร้างตามแบบพระราชวัง ชั้นสองสร้างตามแบบบ้านซามูไร ชั้นสามสร้างตามแบบ วัดพุทธในนิกายเซน ด้านหน้ามีบึงน้ำขนาดน้ำใหญ่รายล้อมด้วยภูมิทัศน์อันงดงาม ในอดีตเป็นที่ ประทับของโชกุนโท-กุกาว่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งของเกียวโตซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษทิ่ 15 ก่อน ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1955 นับเป็นสถาปัตยกรรมที่ยังคงไว้ซึ่งรูปแบบของสถาปัตยกรรม ญี่ปุ่นโดยแท้ รู้จักจากภาพยนตร์การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง อิคิวซัง
นำท่านเดินทางต่อไปยังวัดชินเนียวโด (Shinnyo-do Temple) วัดพุทธนิกายมหายานสร้างขึ้น ในสมัยเฮอัน เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในความสวยงามช่วงใบไม้เปลี่ยนสีอีกวัดหนึ่งที่ไม่ควรพลาด เช่นกัน
เย็น
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
MYSTAY KYOTO SHIJO หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ ::
วัดคิโยมิสึ-วัดโทฟุคุจิ-ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ-นาโงย่า
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเข้าชมวัดคิโยมิสึ (Kiyomizudera) หรือวัดน้ำใส มีอายุเก่าแก่กว่าเมืองเกียวโต โดยก่อตั้ง ขึ้นใน ค.ศ.788 ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองเกียวโต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุด แห่งหนึ่งของจังหวัด แต่อาคารต่างๆ ที่เห็นในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2176 ชื่อของวัด ซึ่งมีความหมายว่าน้ำบริสุทธิ์นั้นมีที่มาจากน้ำตกโอโตวาโนะทากิ ที่ไหลผ่านเนินเขาลงมาบริเวณวัด ซึ่งเชื่อกันว่าผู้ใดได้ดื่มน้ำจากที่นี่ก็จะมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงไม่เจ็บไม่ไข้ และเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2549 วัดคิโยมิสึได้รับการเสนอชื่อเข้าร่วมพิจารณาคัดเลือกให้เป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคใหม่ และอาคารหลักของวัดนี้ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นอีกด้วย
นำท่านชม วัดโทฟุคุจิ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสถานีเกียวโต เป็นเป็นวัดพุทธในนิกายเซน สร้างมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.1798 โดยมีสถาปัตยกรรมการก่อสร้างเหมือนวัดโทไดจิ (Todaiji) ในเมืองนาระ ใน ฤดูใบไม้ร่วงราวเดือนพฤศจิกายน รอบๆ บริเวณวัดแห่งนี้จะสวยงามมากเป็นพิเศษด้วยสีของ ใบไม้หลากสีที่กำลังจะร่วงหล่นจากต้นเมเปิ้ล (Kaede) ซึ่งที่นี่จำนวนกว่า 2,000 ต้น นอกจาก ใบไม้เปลี่ยนสีที่เลื่องชื่อแล้ว ยังมีโบราณสถานสำคัญๆ ที่ควรมาสักการะอยู่มากมาย วัดโทฟุคุจิ เป็นอีกสถานที่อีกหนึ่งที่ขึ้นเป็นทะเบียนมรดกโลก
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านชมศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Shrine) เป็นศาลเจ้าชื่อดังที่นักท่องเที่ยวที่มาเกียวโต ทุกคนต่างเดินทางมาดู โทริอิ (Torii) หรือประตูศาลเจ้า ที่เรียงต่อทอดยาว จากตีนเขาไปถึงยอดเขา สูงถึง 233 เมตร ประตูโทริที่เรียงรายกันเป็นอุโมงสีแดง นี้เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็น อย่างดี เมื่อเดินตามอุโมงค์โทริอิไปได้สักพักก็จะเจอทางแยก ของประตูโทริที่กั้นด้วยประตูใหญ่แล้ว แยกย่อยเป็นประตูเล็กออกมาอีกทีหนึ่ง พอเดินไปได้ครึ่งทาง ก็จะพบกับจุดชมวิวยทสุซึจิ เป็นจุดที่ มองเห็นเกียวโตและภูเขาที่ล้อมรอบเกียวโตเอาไว้
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองนาโงย่าเป็นเมืองหลวงของจังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ตอนกลางของ ประเทศญี่ปุ่นไม่ห่างจากเมืองโอซาก้าและเกียวโตมากนัก จังหวัดไอจิเป็นเมืองที่รู้จักกันในฐานะ ศูนย์กลางการผลิตวัสดุก่อสร้างและรถยนต์ รวมทั้งเป็นเมืองท่าที่สำคัญเนื่องจากตั้งอยู่ริมชายฝั่ง มหาสมุทรแปซิฟิคและถือเป็นเมืองใหญ่อันดับสี่ของญี่ปุ่นรองจากมหานครโตเกียว โยโกฮาม่า และ โอซาก้า ถึงแม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่แต่มีบรรยากาศเป็นเหมือนเมืองเล็กๆ ไม่ค่อยจอแจและ วุ่นวายนัก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
MEITETSU GRAND HOTEL NAGOYA หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า ::
โครันเค-ยะมะนะชิ-ฟูจิคาวาคูชิโกะ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร
โรงแรมนำท่านเดินทางสู่เมืองอะซึเคะ (Asuke) ตั้งอยู่ในภาคกลางของจังหวัดไอจิ นำท่านชมความงามของหุบเขาโครันเค ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไอชิโคเง็น เมืองโทโยตะ มีชื่อเสียงอย่างมาก ในเรื่องความงามของใบไม้เปลี่ยนสี โดยเฉพาะบนภูเขาอีโมริ ที่เต็มไปด้วย เมเปิลราว 4,000 ต้น ต้นเมเปิ้ลนี้ได้ถูกปลูกทีละต้นทีละต้นมาตั้งแต่สมัยเอโดะและในช่วงตั้งแต่ กลางเดือนพฤศจิกายน ถึงวันที่ 2 เดือนธันวาคมจะมีงานเทศกาลต้นเมเปิ้ลแห่ง Korankei ใน ตอนกลางคืนจะเปิด light up ให้บรรยากาศที่แตกต่างจากตอนกลางวัน ช่วงระหว่างงานเทศกาล จะมีร้านรวงมาออกร้าน นักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศจะมาชื่นชมและเข้าร่วมงานเทศกาลนี้ แต่พอถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิดอกด็อกทูทไวโอเลต หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า คะตะคุริ ก็จะพากันผลิบาน อวดดอกสีม่วงสวยสดมาแทนที่ ดึงดูดใจผู้ที่รักในธรรมชาติมาท่องเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นเดินทางสู่จังหวัดยะมะนะชิ ตั้งอยู่บริเวณภูมิภาคจูบุของประเทศญี่ปุ่น มีเมืองหลวง อยู่ที่เมืองโคฟุ ยะมะนะชิ เป็นจังหวัดที่ถูกปิดล้อมด้วยภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิซึ่งเป็นจุดที่ นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันมาก มีสินค้าขึ้นชื่อ คือ ไวน์ ที่เมืองโคะฟุมีชื่อเสียงมากในอุตสาหกรรม อัญมณี และมีทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงาม
จากนั้นเดินทางต่อไปยังทะเลสาบคาวาคุจิโกะ เป็นหนึ่งในทะเลสาบ 5 แห่งบริเวณภูเขาไฟฟูจิ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาที่ทะเลสาบแห่งนี้ เนื่องจากเป็นจุดที่สามารถชื่นชมความงาม ของภูเขาไฟฟูจิได้ดีที่สุดอีกจุดหนึ่ง นอกจากนั้นยังสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่สวยงามไม่ว่า จะเป็นช่วงซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง
เย็น
รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก (บุฟเฟ่ต์ขาปู)
ที่พัก
MIFUJIEN HOTEL หรือเทียบเท่า
ท่านสามารถผ่อนคลายกับการแช่น้ำแร่ธรรมชาติ (ONSEN) เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าและ จะทำให้ผิวพรรณสวยงาม และยังช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีอีกด้วย
วันที่หก ::
โอชิโนะฮัคไค-ฟูจิชั้น 5-โตเกียว-วัดอาซากุสะ-ช้อปปิ้งชินจูกุ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางไปชมบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ โอชิโนะ ฮัคไค บ่อน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะ บนภูเขาไฟฟูจิ ที่ใช้เวลาอันยาวนานในการไหลลงมาสู่พื้นดินและซึมซาบไปยังบ่อน้ำแต่ละบ่อน้ำ ดังนั้นน้ำที่อยู่ในบ่อจะเป็นน้ำที่ใสสะอาดและสดชื่นมาก ในปี 1985 สถานที่แห่งนี้ยังได้ถูกเลือก ให้เป็น 1 ใน 100 อันดับแหล่งน้ำจากธรรมชาติที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ภูเขาไฟฟูจิ ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเกาะญี่ปุ่นด้วยความสูง 3,776 เมตรจาก ระดับน้ำทะเลและรูปทรงกรวยคว่ำที่ได้สัดส่วน เป็นแรงบันดาลใจให้กับการสร้างสรรค์ผลงาน ของศิลปินทั้งนักประพันธ์และกวีผู้มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น เกิดการระเบิดครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1707 หรือกว่าสามร้อยปีมาแล้วส่งผลให้มีเถ้าลาวาลอยฟุ้งขึ้นปกคลุมเป็นรัศมีกว้างไกลไปถึงกรุงโตเกียวในสมัยเอโดะ ซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 100 กิโลเมตร
นำท่านขึ้นชมความงามกันแบบใกล้ชิดยังบริเวณ ชั้น 5 ของภูเขาไฟฟูจิ (หรือชั้นสูงสุดที่ทางอุทยานฯ อนุญาตให้ขึ้นได้ในวันนั้นๆ) เพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบของภูเขาไฟที่สามารถมองเห็น ทะเลสาบทั้งห้ากระจายอยู่โดยรอบ และเทือกเขาเจแปนแอลป์ที่ทอดตัวยาวขนานกับเส้นทางขึ้น สู่ภูเขาไฟ (จะสามารถเห็นได้หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย)
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น โตเกียวตั้งอยู่บริเวณภาคคันโต ของญี่ปุ่น คำว่า ìโตเกียวî หมายถึง ìนครหลวงตะวันออกî โตเกียวแต่เดิมเป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่ชื่อเอโดะ เมื่อโชกุน โทกุงะวะ อิเอะยะสึได้เป็นโชกุนในปี ค.ศ.1603 เมืองเอโดะจึงได้กลายเป็น ศูนย์กลางของรัฐบาลทหารของเขาซึ่งมีอำนาจปกครองทั้งประเทศ เมืองโตเกียวมีระบบการปกครอง แบบพิเศษซึ่งรวมการปกครองในรูปแบบจังหวัดและเมืองไว้ด้วยกัน และ เป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุด และมีประชากรมากที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง
นำท่านชมวัดอาซากุสะ (Asakusa Kannon) หรือชื่อเดิมคือวัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) ที่ เรียกกันว่าวัดอาซากุสะเพราะวัดอยู่ย่านอาซากุสะของเมืองโตเกียว ในอดีตวัดอาซากุสะเป็นวัดที่ เหล่าโชกุนและซามูไรมักจะมาสักการะและขอพรจากเทพเจ้าคันนอนเป็นประจำ และสิ่งที่ขอพร ไปนั้นก็ประสบผลจริงทำให้ซามูไรและโชกุนจึงมีความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก จุดเด่นของ วัดอาซากุสะคันนอน นั่นก็คือ โคมไฟขนาดยักษ์ สีแดงสูง 4.5 เมตร ที่แขวนอยู่ที่บริเวณประตู คามินาริมî (ประตูฟ้าฟาด) ทั้งสองข้างของโคมแดงจะเป็นรูปปั้นของ 2 เทวบาลผู้รักษาประตู ได้แก่ ฟูจิน (FUJIN) เจ้าแห่งสายลม อยู่ทางด้านขวา ส่วนด้านซ้าย คือ ไรจิน (RAIJIN) เจ้าแห่งอสุนีบาต โดยมี ถนนนากามิเสะ ถนนร้านค้า แหล่งรวมสินค้าของที่ระลึกต่างๆ มากมาย อาทิ พวงกุญแจ ตุ๊กตาแมวกวัก ดาบซามูไร ชุดกิโมโน ร่มญี่ปุ่น โดยเฉพาะ ขนมอาเกมันจู ขนมขึ้นชื่อของ วัดอาซากุสะก็สามารถหาซื้อได้ที่ถนนแห่งนี้เช่นกัน
จากนั้นอิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่ชินจูกุ (Shinjuku) ซึ่งคำว่าชินจูกุ หมายถึง ที่พำนักใหม่ ในสมัยเอโดะ โทกุงะวะ อิเอะยะสึ ได้มีคำสั่งให้สำรวจย่านนี้ตามคำขอของพวกพ่อค้า และตั้งเมืองหน้าด่านขึ้นบนถนนโคชุไคโด ไม่นานก็กลายเป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในสมัยนั้น มีทั้ง โรงน้ำชา ร้านค้า โรงเตี๊ยมและหอคณิกาอีกกว่า 50 แห่ง ในปัจจุบัน ชินจูกุเป็นย่านแห่งความเจริญ อันดับหนึ่งของกรุงโตเกียว ท่านจะได้พบกับห้างสรรพสินค้า และร้านขายของนับเป็นพัน ๆ ร้าน ซึ่งจะมีผู้คนนับหมื่นเดินกันขวักไขว่ ถือเป็นจุดที่นัดพบยอดนิยมอีกด้วย เชิญท่านเลือกชมสินค้า มากมาย อาทิเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปรุ่นล่าสุด IPOD, MP-3, NOTEBOOK, SANRIO SHOP, GAMES SHOP, นาฬิกา เสื้อผ้า รองเท้าแฟชั่นทันสมัย และเครื่องสำอาง เป็นต้น
เย็น
รับประทานอาหารค่ำ (ไม่รวมค่าอาหาร) เพื่อให้ท่านได้ใช้เวลาช้อปปิ้งอย่างคุ้มค่า
ที่พัก
SHINJUKU PRINCE HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด ::
ถนนสายแปะก๊วย-อิออนนาริตะ-สนามบินนาริตะ-กรุงเทพฯ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (กรุณาตรวจเช็คสิ่งของและสัมภาระให้เรียบร้อย)
แวะชมถนนสายแปะก๊วย ถนนอิโชนามิกิ ตั้งอยู่ในย่านเมจิจิงกุที่ทั้งสองฝั่งของถนนปลูกต้นแปะก๊วย อยู่เรียงราย จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่าถนนสายแปะก๊วย ซึ่งในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือน ธันวาคม ต้นแปะก๊วยทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองน่าดู ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทาง มาชมความงามของต้นแปะก๊วยยังถนนแห่งนี้ บ้างก็มาเพื่อวาดภาพ บ้างมาเดินเล่น บ้างก็มาจิบกาแฟในร้านกาแฟริมถนน เป็นต้น
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อิออน พลาซ่า เมืองนาริตะ ศูนย์รวมแห่งสินค้าชั้นนำนานาชนิด ทั้ง กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า นอกจากนี้ยังมี ร้าน 100 เยนและซุปเปอร์มาร์เกต เพื่อให้ท่านได้ช้อปปิ้ง และเลือกซื้อขนมและของฝากอย่างเต็มที่ก่อนเดินทางกลับ
กลางวัน
รับประทานอาหารเที่ยงแบบอิสระ (ไม่รวมค่าอาหาร) เพื่อให้ท่านได้ใช้เวลาช้อปปิ้งอย่างคุ้มค่า
14.30 น.
นำท่านเดินทางสู่สนามบินนาริตะ
17.30 น.
เหิรฟ้าสู่ เมืองไทย โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 677
22.30 น.
เดินทางถึงเมืองไทย พร้อมกับความประทับใจเต็มเปี่ยม