08.40 น.
เดินทางถึง สนามบินชิโตเซะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว [สำคัญมาก!! ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่น หากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้]
เมืองบิเอะ (Biei) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณกลางเกาะฮอกไกโด ที่ได้ชื่อว่า “Small Town Of The Most Beautiful Hills” ความเล็กที่แสนน่ารักของเมืองนี้อยู่ที่ภาพวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาวิวระหว่างสองข้างทางที่เต็มไปด้วยทุ่งข้าวบาร์เล่ย์สีเหลืองทองตัดสลับกับไร่ข้าวโพดและมันฝรั่งสีเขียวสดโดยมีสีฟ้าครามของท้องฟ้าตัดเป็นฉากหลังสลับเนิน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สระอะโออิเคะ หรือ บ่อน้ำสีฟ้า (Blue Pond) ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำ Bieigawa ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองบิเอะ ตั้งชื่อตามสีของน้ำที่เกิดจากแร่ธาตุตามธรรมชาติ โดยเกิดขึ้นจากการกั้นเขื่อนเพื่อป้องกันไม่ให้โคลนภูเขาไฟ Tokachi ที่ปะทุขึ้นเมื่อปี 1988 ไหลเข้าสู่เมือง ชมน้ำสีฟ้าที่สดใสเกินกว่าบ่อน้ำตามธรรมชาติทั่วไป และตอไม้สูงจำนวนมากที่สะท้อนให้เห็นความใสแปลกตาที่แสนพิเศษของน้ำในบ่อ
หมู่บ้านราเมง (Ramen Village) ซึ่งเมืองแห่งนี้ มีประวัติศาสตร์การทำราเมนมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีน้ำซุปแบบฉบับของตัวเอง โดยหมู่บ้านราเมน ถือกำเนิดมาในปี 1996 เพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสรสชาตแบบดั้งเดิมของร้านราเมนที่มีชื่อเสียงทั้ง 8 ร้านได้อย่างเต็มที่
บ่าย
เดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติ ไดเซ็ตสึซัง (Daisetsuzan National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่เรียกได้ว่าตั้งอยู่ใจกลางของภูมิภาคฮอคไกโด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามหลังคาของฮอกไกโด (The Roof of Hokkaido) โดยในปี 1934 และตื่นตาตื่นใจกับฤดุใบไม้เปลี่ยนสี ทั่วทั้งบริเวณอุทยานจะเต็มไปด้วยต้นไม้ที่กำลังพากันเปลี่ยนสีสัน (โดยปกติใบไม้เปลี่ยนสีที่เกาะฮอกไกโดจะเปลี่ยนสีประมาณช่วงต้นเดือนตุลาคม-กลางพฤศจิกายน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
น้ำตกกิงกะและน้ำตกริวเซ เพลิดเพลินไปกับความสวยงามของธรรมชาติของน้ำตกที่จัดได้ว่าเป็นวิวธรรมชาติที่สวยที่สุดติดหนึ่งในร้อยของญี่ปุ่น น้ำตกทั้งสองแห่งนี้มีต้นน้ำอยู่ในเขตภูเขาโซอุนเคียว สามารถสัมผัสความแรงของสายน้ำที่ไหลรวมกันกลายมาเป็นแม่น้ำอิชิคาริได้หลังจากฤดูหนาว ส่วนในช่วงฤดูหนาวน้ำตกทั้งสองแห่งนี้จะแข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็ง
กระเช้าคุโรดาเกะ นำท่านชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดแสนโรแมนติกนับได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโดขนาดตัวกระเช้าสามารถบรรจุผู้โดยสารได้มากถึง 101 ที่นั่งและใช้เวลาเดินทางไปถึงด้านบนสุดประมาณ 7 นาที นับว่าเป็นเส้นทางชมใบไม้แดงที่ไม่ควรพลาดสำหรับเส้นทางฮอกไกโด พาท่านสัมผัสกับความงามไปพร้อมความตื่นเต้นกับกระเช้าลอยฟ้าห้อยขา เพื่อให้ท่านได้ชมธรรมชาติของใบไม้เปลี่ยนสีแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด (กระเช้าลอยฟ้าอาจหยุดให้บริการในวันที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย หรือมีเหตุการณ์สุดวิสัยทั้งนี้ทางบริษัทขออนุญาตปรับเปลี่ยนรายการเพื่อความเหมาะสม)
อิออน มอลล์ อาซาฮีคาว่า (Aeon mall Asahikawa) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของฮาซาฮิกาว่า อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกกัน อาทิ ขนมโมจิ เบนโตะ ผลไม้ และขนมขึ้นชื่อของญี่ปุ่น อย่าง คิทแคท สามารถหาซื้อได้ที่นี่เช่นกัน
วันที่ 3
เนินพระพุทธเจ้า - ร้านของฝากที่ระลึก - เลือกซื้อผลิตภัณท์ของฝากจากโรงงานช็อกโกแลต - โอตารุ - คลองโอตารุ - พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี - โรงเป่าแก้วคิตาอิชิ - ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ - มิตชุยเอาเล้ตท์ - บุฟเฟ่ต์ ขาปูยักษ์ 3 ชนิด
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เดินทางสู่ เนินแห่งพระพุทธเจ้า หรือ Hill of the Buddha ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองซัปโปโร่ ที่ถูกออกแบบโดย Mr.Tadao ando สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น พระพุทธรูปมีความสูงถึง 13.5 เมตร และมีน้ำหนักมากถึง 1500 ตัน ล้อบรอบด้วยธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดู ฤดูร้อนรายล้อมไปด้วยดอกลาเวนเดอร์ ฤดูหนาวก้อจะรู้สึกได้ถึงความงดงามของหิมะที่ขาวโพลน นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆเรียกได้ว่าเป็น Unseen Hokkaido เลยทีเดียว ร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึก ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซัปโปโร่ ภายในมีสินค้าลดราคามากมาย ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าภายในร้าน
แวะซื้อของฝากที่ โรงงานช็อคโกแลตอิชิยะ (Shiroi Koibito Park) แหล่งผลิตช็อคโกแลตที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ตัวอาคารของโรงงานถูกสร้างขึ้นในสไตล์ยุโรปแวดล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ ซึ่งมี ช็อคโกแลตที่ขึ้นชื่อที่สุดของที่นี้คือ Shiroi Koibito ซึ่งมีความหมายว่า ช็อคโกแลตขาวแด่คนรัก ท่านสามารถเลือกซื้อกลับไปให้คนที่ท่านรักทาน หรือว่าซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านได้
เดินทางสู่ เมืองโอตารุ (Otaru) เป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร
ชม คลองโอตารุ (Otaru Canal) ที่มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ คลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีกครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยมีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตร
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
บ่าย
ชม นาฬิกาไอน้ำโบราณ สไตล์อังกฤษที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น นาฬิกานี้จะพ่นไอน้ำ มีเสียงดนตรีดังขึ้นทุกๆ 15 นาที เหมือนกับนาฬิกาไอน้ำอีกเรือนที่แคนาดา
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ เป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมือง โรงเป่าแก้วคิตาอิชิ มีชื่อเสียงทางด้านการเป่าแก้วมายาวนาน โดยในอดีตนั้นจุดประสงค์ของการเป่าแก้วเพื่อใช้เป็นทุ่นให้เรือ แต่ปัจจุบันนี้เป้าหมายของการเป่าแก้วเพื่อใช้เป็นของใช้หรือของที่ระลึกแทน ซึ่งโรงเป่าแก้วคิตาอิชิเป็นโรงงานที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุด โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1901 ท่ามกลางโรงเป่าแก้วที่มีอยู่มากมาย และผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโรงงานแห่งนี้ก็คือโคมไฟแก้วและลูกบอลแก้วนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีสอนวิธีการเป่าแก้วให้กับนักท่องเที่ยวด้วย
ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ เพลิดเพลินกับบรรยากาศน่ารักๆ ของตัวการ์ตูนแมวชื่อดัง คิตตี้ ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
แหล่งช้อปปิ้ง MITSUI OUTLET PARK SAPPORO เป็นห้างสรรพสินค้ารูปแบบ Outlet mall ขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ตั้งอยู่ที่เมือง Kita-Hiroshima ชานเมืองทิศตะวันออกซัปโปโร ใกล้เส้นทางที่ไปยัง สนามบินชิโตเซ่ เปิดให้บริการเมื่อเดือนเมษายน ปี 2012 ภายในห้างมีร้านค้าแบรนด์ต่างๆกว่า 128 ร้าน รวมถึงร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์อาหารขนาดใหญ่จุ 650 ที่นั่ง และร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าจากฟาร์มท้องถิ่นประจำจังหวัดฮอกไกโด
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร **พิเศษสุดๆ กับเมนูปูสุดอร่อย 3 ชนิด แบบไม่อั้น**
ที่พัก
T MARK SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 4
ศาลเจ้าฮอกไกโด - ทำเนียบรัฐบาลเก่าออกไกโด - ผ่านชมหอนาฬิกาเมืองซัปโปโร - ตลาดปลาซัปโปโร่โจไง - ช้อปปิ้ง JR TOWER - ช้อปปิ้งทานุกิโคจิ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido shrine) ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ซัปโปโร เป็นศาลเจ้าศาสนาพุทธนิกายชินโตถือเป็นศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่แห่งหนึ่งในเกาะฮอกไกโด ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1871 ในปัจจุบันก็ยังคงมีความเกี่ยวข้องผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวฮอกไกโดอย่างลึกซึ้งเริ่มตั้งแต่การมาสักการะในวันปีใหม่ การปัดเป่ารังควาญ วันเซ็ตสึบุน พิธีสมรสและอื่นๆ เป็นต้น ในเขตศาลเจ้าที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีกระรอกป่ามาเยี่ยมทักทาย และจะคราครํ่าไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาชมดอกซากุระและดอกบ๊วยซึ่งจะบานสะพรั่งพร้อมๆ กันเมื่อฤดูใบไม้ผลิมาเยือน
ชม ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office) เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2416 เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร็อคอเมริกา ที่เลียนแบบมาจากอาคารทำเนียบรัฐบาลแห่งรัฐแมสซาซูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ที่ใช้อิฐมากกว่า2.5 ล้านก้อนเป็นอิฐที่ทำมาจากหมู่บ้านซิโรอิชิและโทโยชิร่า ตึกนี้ผ่านการใช้งานมายาวนานกว่า 80 ปีและได้ย้ายไปที่ทำการหลังใหม่เป็นตึกใหม่ทันสมัยสูง 10 ชั้นตั้งอยู่ทางด้านหลังตึกเก่า แต่ความงดงามที่เห็นนั้นได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่หลังจากถูกไฟไหม้เมื่อปี พ.ศ.2454 แต่ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่ง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมสำคัญของชาติเมื่อปี พ.ศ. 2512
ผ่านชม หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower) ตั้งอยุ่ท่ามกลางกลุ่มตึกสูงสมัยใหม่ เป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่มากและเป็นอีกสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองซัปโปโรอีกแห่งหนึ่ง สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2421 เดิมทีเป็นโรงฝึกงานของมหาวิทยาลัยฮอกไกโดแต่ได้ปรับเปลี่ยนสร้างเป็นหอนาฬิกาและมีระฆังตีบอกเวลาตั้งแต่ พ.ศ.2424 จนถึงปัจจุบันก็ยังสามารถบอกเวลาได้อยู่ และด้วยความเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองซัปโปโรมานานจึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองซัปโปโร
ตลาดซัปโปโรโจไง (Sapporo Jogai Market) ประกอบด้วยร้านค้า และร้านอาหารกว่า 80 ร้าน เรียงรายตลอดบล็อกขึ้นไปนอกตลาดขายส่งซัปโปโร (Sapporo’s Central Wholesale Market) เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ร้านค้าต่างๆจำหน่ายอาหารทะเลเป็นส่วนใหญ่ เช่น ปู หอยเม่นทะเล ไข่ปลาแซลมอน ปลาหมึก และหอยเชลล์ ผลผลิตอื่นๆในท้องถิ่น เช่น ข้าวโพด แตงโม และมันฝรั่งตามฤดูกาล ราคาก็เหมาะสมไม่แพงมากนัก
เที่ยง
***อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ณ ตลาดปลา***
บ่าย
JR TOWER แหล่งที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชื่อดังและร้านค้ามากมายให้ท่านได้ช้อปปิ้ง เช่น ร้าน BIC CAMERA จำหน่ายกล้องดิจิตอล, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิคส์, ร้าน100เยน, ร้าน UNIQLO ขายเสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่นอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นบนชั้น 10 ของตึก ESTA ยังมี พิพิธภัณฑ์ราเมน เป็นแหล่งรวมราเมนชื่อดังทั่วทั้งเกาะฮอกไกโด มาอยู่รวมกันที่นี่ ให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบราเมนได้ลิ้มรสชิมราเมนจากเมืองต่างๆ ได้อย่างจุใจ
อิสระช้อปปิ้ง ณ ถนนทานุกิโคจิ (Tanukikoji) เป็นย่านช้อปปิ้งเก่าแก่ ที่เปิดให้บริการยาวนานกว่า 100 ปี จุดเด่นของย่านนี้คือการสร้างหลังคาที่คลุมทั่วตลาด ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก พายุหิมะเข้า ก็สามารถมาเดินช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ยังมีร้านค้ามากถึง 200 ร้าน โดยมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนสินค้าก็มีทั้งเสื้อผ้าและรองเท้าแบรนด์ดังอย่าง Uniqlo, New Balance, Adidas, Puma เป็นต้น และที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือร้าน Daiso ที่ทุกอย่างราคา 100 เยน รวมไปถึงร้าน Donki ที่มีขายทุกอย่างตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไปถึงเครื่องสำอางค์ในราคาที่ถูกจนน่าตกใจ หรือถ้าเดินจนหมดแรงที่นี่ก็มีร้านอาหารดังๆหลายร้านคอยให้บริการอยู่ด้วย
ค่ำ
***อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย ณ แหล่งช้อปปิ้ง***
ที่พัก
T MARK SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 5
ซัปโปโร(สนามบินชิโตเซะ) - กรุงเทพฯ(สนามบินดอนเมือง)
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม [หรือ SET BOX]
นำท่านเช็คเอาท์ และ ตรวจสอบสัมภาระก่อนเดินทางไปยัง สนามบินชิโตเซะ
ถึง สนามบินชิโตเซะ ทำการเช็คอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระ
09.55 น.
นำท่านกลับสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ621 (บริการอาหารเช้าและน้ำดื่มบนเครื่อง)
15.10 น.
เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ