เอกสารกรุณาเตรียม 2 ชุด ยกเว้น เอกสารที่ออกจากทางราชการและทางธนาคารขอเป็นตัวจริง 1 ชุด และสำเนา 1 ชุด
ในวันยื่นวีซ่าหนังสือเดินทางต้องนำส่งเข้าสถานทูตและระหว่างรอผลการอนุมัติวีซ่า ไม่สามารถดึงหนังสือเดินทางออกมาได้
**ลูกค้ากรุณาอย่ายึดติดกับการยื่นขอวีซ่าในอดีต เพราะสถานทูตมีการเปลี่ยนแปลงกฎและเอกสารการยื่นอยู่เรื่อยๆ**
หมายเหตุ : การยื่นวีซ่าแต่ละครั้งกับบริษัททัวร์ จะต้องทำการยื่นวีซ่า ประเภทหมู่คณะ เท่านั้น โดยการยื่นเป็นหมู่คณะ ต้องมีจำนวน 15 คน ขึ้นไป โดยทางศูนย์รับยื่น จะเป็นผู้กำหนดวันยื่นวีซ่าเท่านั้น ถ้าหากผู้เดินทางไม่สามารถไปยื่นวีซ่าในวันที่กำหนดได้ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (Premium) ดังนี้
- • ในกรณีที่เหลือระยะเวลายื่นวีซ่าน้อยกว่า 11 วันทำการ นับจากวันเดินทาง มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ท่านละ 2,200 บาท
- • ในกรณีที่เหลือเวลายื่นวีซ่าเหลือน้อยกว่า 5 วันทำการ จะมีค่า Fast Track เพิ่มเติมอีก ท่านละ 400 บาท รวมเป็น 2,600 บาท
**ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ผู้เดินทางต้องชำระกับทางศูนย์รับยื่นโดยตรง**
1. หนังสือเดินทางประเทศไทย (Thailand Passport) หนังสือเดินทาง ต้องมีหน้าเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้า อายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทางกลับและหนังสือเดินทางจะต้องไม่ชำรุด (หนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วย)
***ในกรณีที่ถือพาสปอร์ต สัญชาติไทย แต่พำนักอยู่ต่างประเทศ, ทำงานอยู่ต่างประเทศ หรือนักเรียน นักศึกษาศึกษาอยู่ต่างประเทศ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทให้ทราบทันที เพราะการยื่นขอวีซ่าจะมีเงื่อนไข และ ข้อกำหนดของทางสถานทูตต้องการเพิ่มเติม และ บางสถานทูตอาจไม่สามารถยื่นขอวีซ่าในประเทศไทยได้ ข้อกำหนดนี้รวมไปถึงผู้เดินทางที่ถือพาสปอร์ตต่างชาติด้วย***
2. รูปถ่ายรูปถ่ายสีหน้าตรงขนาด 1.5 x 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (พื้นหลังขาวเท่านั้น ถ่ายไม่เกิน 6 เดือนห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับไม่ใส่คอนแทคเลนส์ รูปไม่เลอะหมึก)
3. หลักฐานการเงิน
3.1 กรณีผู้เดินทาง ออกค่าใช้จ่ายเอง สำเนาสมุดบัญชี หรือ Statement บัญชีออมทรัพย์ธรรมดาของธนาคารทั่วไป ส่วนตัวของผู้เดินทาง ย้อนหลัง 3 เดือน (รบกวนลูกค้าทำรายการเดินบัญชี โดยการ ฝากหรือถอน ก่อน แล้วค่อยปรับยอดเงินในบัญชีไม่เกิน 7 วันก่อนวันยื่นวีซ่า และหากบัญชีกระโดดเดือนต้องขอเป็น Statement เท่านั้น)
3.2 กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง (บุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่ายได้ ต้องเป็น พ่อ แม่ พี่น้องที่มีสายเลือดเดียวกัน หรือสามีภรรยา เท่านั้น)
3.2.1. ต้องทำเป็นหนังสือรับรองค่าใช้จ่ายในการเดินทาง (Sponsor Letter) พร้อมเอกสารแสดงความสัมพันธ์ เช่น สูติบัตร ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส เป็นต้น
3.2.2. ถ่ายสำเนาสมุดบัญชี หรือ Statementย้อนหลัง 3 เดือนของบุคคลที่ออกค่าใช้จ่าย
3.2.3. เอกสารแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่ออกให้และผู้ที่ถูกรับรองค่าใช้จ่ายให้ เช่น สำเนาทะเบียนสมรส สูติบัตร ทะเบียนบ้าน
**สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีติดลบ บัญชีฝากประจำ, บัญชีกระแสรายวัน บัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ พันธบัตร ตราสารหนี้ กองทุน และสลากออมสิน**
4. หลักฐานการทำงาน
- เจ้าของกิจการ หนังสือรับรองการจดทะเบียน(DBD)ที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน อายุไม่เกิน 3 เดือน หรือ สำเนาใบทะเบียนการค้า(พค.0403)
- เป็นพนักงาน หนังสือรับรองการทำงาน จากบริษัทฯ ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, วันเริ่มทำงาน
(ขอเป็นภาษาอังกฤษมีอายุ 1 เดือน ชื่อ-สกุลต้องตรงตามหน้าพาสปอร์ต ใช้คำว่า “TO WHOM IT MAY CONCERN” แทนชื่อสถานทูตที่ยื่น)
- นักเรียนหรือนักศึกษา ใช้หนังสือรับรองการเรียนที่ออกจากสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่
(ขอเป็นภาษาอังกฤษมีอายุ 1 เดือน ชื่อ-สกุลต้องตรงตามหน้าพาสปอร์ต ใช้คำว่า “TO WHOM IT MAY CONCERN” แทนชื่อสถานทูตที่ยื่น)
5. เอกสารส่วนตัว
-
สำเนาทะเบียนบ้าน
-
สูติบัตร
(กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี)
-
ทะเบียนสมรส/ทะเบียนหย่า/มรณะบัตร
(ถ้ามี)
-
ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล
(ถ้ามีการเปลี่ยน)
6. กรณีเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศพร้อมบิดา มารดา
6.1 บิดาหรือมารดา ต้องทำหนังสือชี้แจงเป็นภาษาอังกฤษว่าให้เด็กเดินทางไปต่างประเทศกับใครมีความสัมพันธ์เป็นอะไรกันกับเด็ก คนละ 1 ชุด (ลูกค้าเขียนหรือพิมพ์ขึ้นเอง)
6.2 บิดาหรือมารดา ต้องขอหนังสือยินยอมให้เด็กเดินทางไปต่างประเทศจากเขตหรืออำเภอ (1 ใบ ต่อ เด็ก 1 ท่าน เท่านั้น)
6.3 ในกรณีพ่อหรือแม่ปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียวให้ขอหนังสือปกครองบุตรจากเขตหรืออำเภอและ
จะต้องเป็นหนังสือที่มีการสืบพยานและหลักฐานเสร็จเรียบร้อยแล้วเท่านั้น
6.4ท่านจะต้องนำหนังสือยินยอมให้เด็กเดินทางไปต่างประเทศ
ตัวจริง จากข้อ 6.2 หรือ หนังสือปกครองบุตรเป็น
สำเนา จากข้อ 6.3ไปแปลประทับตรากับกรมการกงสุลให้เสร็จเรียบร้อยก่อนนำมายื่นมิเช่นนั้นทางศูนย์รับยื่น vfs จะไม่รับยื่นเอกสารของบุตรท่านโดยเด็ดขาด
6.5 เนื่องจากการประทับตรากงสุล จะมีการเสียค่าใช้จ่ายหากท่านไม่แน่ใจว่าเอกสารใช้ได้หรือไม่ รบกวนสอบถามบริษัททัวร์ก่อนนำไปประทับตรากงสุล มิเช่นนั้นท่านอาจจะต้องไปเสียเงินและเสียเวลาอันมีค่าของท่านเพื่อไปทำเอกสารใหม่อีกรอบ หากเอกสารที่ท่านทำมาแล้วนั้นกลายเป็นเอกสารที่ใช้ยื่นไม่ได้
***โปรดอ่าน ก่อนที่ท่านจะไปทำหนังสือยินยอมจากเขตหรืออำเภอให้บุตรของท่าน***
-
หากเด็กเดินทางไปกับบิดา จะต้องมีหนังสือยินยอมจากมารดา จากอำเภอต้นสังกัด
(โดยมารดาจะต้องคัดหนังสือยินยอม และระบุว่าให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับบิดา) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตมารดามาด้วย
-
หากเด็กเดินทางกับมารดา จะต้องมีหนังสือยินยอมจากบิดา จากอำเภอต้นสังกัด
(โดยบิดาจะต้องคัดหนังสือยินยอม และระบุว่าให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดา) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดามาด้วย
-
หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อมกับบิดาและมารดา
ทั้งบิดาและมารดาจะต้องคัดหนังสือระบุยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับใคร มีความสัมพันธ์เป็นอะไรกันกับเด็ก จากอำเภอต้นสังกัด พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดาและมารดา
-
กรณีเด็กที่บิดา-มารดาหย่าร้าง จะต้องแนบสำเนาใบหย่า และมีการสลักหลังโดยมีรายละเอียดว่าฝ่ายใดเป็นผู้มีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว
*** กรณีที่บิดาหรือมารดาไม่มี passport แล้วใช้ ID Card แทนต้องทำจดหมายชี้แจงว่าทำไมไม่มี passport ***
-กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บิดา-มารดาลงชื่อรับรองในแบบฟอร์มสมัครวีซ่า พร้อมเดินทางมาสัมภาษณ์กับบุตรที่สถานทูตด้วย ทั้งสองท่าน(เฉพาะคิวเดี่ยวเท่านั้น)
7. หากพ่อหรือแม่มีวีซ่าเชงเก้นอยุ่แล้วและไม่ได้ยื่นวีซ่าพร้อมลูก ให้ทำจดหมายชี้แจงภาษาอังกฤษ อธิบายว่ามีวีซ่าเชงเก้นของประเทศอะไร ระบุวันเริ่มและวันหมดอายุวีซ่าพร้อมทั้งถ่ายสำเนาหน้าพาสปอร์ตและหน้าวีซ่านั้นมาแนบด้วย
8.ท่านไม่จำเป็นต้องเซ็น รับรองสำเนาถูกต้อง ให้ท่านเซ็นเฉพาะ
แบบฟอร์มใบคำร้องขอวีซ่าเท่านั้น