วันที่ 1
กรุงเทพฯ - ย่างกุ้ง - หงสาวดี - วัดไจ้คะวาย - เจดีย์ชเวมอดอว์ - พระราชวังบุเรงนอง - พระธาตุอินทร์แขวน
06.00 น.
พร้อมกัน ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์ F โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับอำนวยความสะดวกจัดเตรียมเอกสารการเดินทางให้กับท่าน
08.45 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงย่างกุ้ง โดย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG701 (มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
09.40 น.
เดินทางถึง สนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่พม่าช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองหงสาวดี (ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
นำท่าน ตักบาตรพระสงฆ์กว่า 1,000 รูป ที่ วัดไจ้คะวาย สถานที่ที่มีพระภิกษุและสามเณรไป ศึกษาพระไตรปิฎกเป็นจำนวนมาก ท่านสามารถนำสมุด ปากกา ดินสอไปบริจาคที่วัดแห่งนี้ได้
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (กุ้งแม่น้ำย่างคนละ 1 ตัว)
บ่าย
จากนั้นนำท่านสักการะ พระเจดีย์ชเวมอดอว์ เจดีย์นี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์แห่งหงสาวดี และนับเป็น 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า คนไทยนิยมเรียกว่า "พระธาตุมุเตา" ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งครั้งก่อนเป็นสถานที่ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ ก่อนออกศึกของบูรพกษัตริย์ ในสมัยโบราณกาล ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์มอญหรือพม่า รวมทั้งพระเจ้าบุเรงนองด้วย และเมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระนางสุพรรณกัลยา ทรงประทับอยู่ในหงสาวดี ก็เคยเสด็จมานมัสการพระเจดีย์องค์นี้ ยังเคยผ่านการพังทลายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาแล้วถึง 4 ครั้ง ทำให้ปลียอดของเจดีย์องค์นี้หักพังลงมาแต่ด้วยความศรัทธาที่ชาวเมืองมีต่อเจดีย์องค์นี้จึงได้ทำการสร้างเจดีย์ชเวมอดอว์ขึ้นมาใหม่ในปีพ.ศ.2497 ด้วยความสูงถึง 374 ฟุต (ตอนแรกที่สร้างสูง 70 ฟุต) นับเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพม่าส่วนปลียอดที่พังลงมาก็ได้ตั้งไหว้ที่มุมหนึ่งขององค์เจดีย์เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชาควบคู่ไปกับเจดีย์องค์ปัจจุบัน ท่านจะได้นมัสการ ณ จุดอธิษฐานอันศักดิ์สิทธิ์และสามารถนำธูปไปค้ำกับยอดของเจดีย์องค์ที่หักลงมาเพื่อเป็นสิริมงคล ซึ่งเปรียบเหมือนดั่งค้ำจุนชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป
จากนั้นนำท่านชม พระราชวังบุเรงนอง สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2109 เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางทางการปกครองและใช้ออกว่าราชการ ปี พ.ศ. 2142 ในสมัยพระเจ้านันทบุเรง ซึ่งพระราชวังเดิมนั้นเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์และถูกจับเป็นตัวประกัน มีการค้นพบเสาและกำแพงเดิมที่ถูกฝังอยู่ในดิน รัฐบาลพม่าจึงได้ทำการขุดค้นและสร้างพระราชวังบุเรงนองขึ้นมาใหม่ โดยถอดแบบจากของเดิม ซึ่งพระตำหนักที่ประทับบรรทมสีทองเหลืองอร่ามที่ดูโดดเด่นชวนมองในรูปแบบสถาปัตยกรรมพม่า และท้องพระโรงที่ใช้ออกว่าการก็ดูโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมพม่าสีทองเหลืองอร่ามทั้งภายนอกและภายใน **วันที่ 10-20 เมษายนของทุกปี(เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) พระราชวังปิดไม่ให้เข้าชม ปรับโปรแกรมไปยังวัดพระไฝเลื่อนแทน**
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ คิมปูนแค้มป์ (เชิงเขาไจ้ก์โท) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ระหว่างทางท่านจะเห็นแม่น้ำสะโตง ซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีความสัมพันธ์กับพระนเรศวรมหาราช พระองค์สามารถยิงพระแสงปืนข้ามน้ำที่กว้างใหญ่นี้ไปต้องแม่ทัพพม่า จนได้รับชัยชนะ จากนั้นนำท่านเปลี่ยนรถเป็นรถบรรทุกขึ้นบนภูเขาไจ้ก์โท เพื่อเดินทางสู่โรงแรมที่พัก ระหว่างทางชมทัศนียภาพอันสวยงามสองข้างทาง
(นั่งรถบรรทุกขึ้นไปจนถึงจุดบนสุดของภูเขาไจ้ก์โทที่เป็นที่ตั้งของพระธาตุอินทร์แขวน ในกรณีคณะทัวร์เดินทางไม่ถึง 15 ท่าน สำหรับรถบรรทุกขึ้นบนพระธาตุอินทร์แขวน ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิใช้รถร่วมกับคณะอื่น ซื่งอาจใช้เวลาพอสมควร)
พิเศษ!!!! เพิ่มฟรี นั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน (1 เที่ยว) เพื่อบริการนักท่องเที่ยวขึ้นไปไหว้พระธาตุสะดวกสบายขึ้น ใช้เวลาเพียง 10 นาที จากสถานีเขาฤษีขึ้นไปถึงสถานีองค์พระธาตุ (ในกรณีที่กระเช้าปิดจะทำการนั่งรถขึ้นถึงจุดสูงสุดตามปกติและไม่มีการคืนค่าใช้จ่ายใดๆให้)
เชิญชมทัศนียภาพงดงาม ตื่นตาตื่นใจกับ "พระธาตุอินทร์แขวน" (ซึ่งอยู่ใกล้ที่พักมากใช้เวลาเดินเพียง 10 นาที) พระธาตุอินทร์แขวน ตั้งอยู่ที่เมืองไจ้โท อำเภอสะเทิม เขตรัฐมอญของประเทศพม่า อยู่บนยอดเขา เหนือระดับน้ำทะเล 3,615 ฟุต มีลักษณะเด่นเป็นก้อนหินสีทองขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันอย่างหมิ่นเหม่ เหมือนจะหล่นและท้าทายแรงดึงดูดของโลกโดยไม่ตกลงมา นับเป็น 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวพม่าต้องไปสักการะ และยังเป็นพระธาตุประจำปีจอ (สุนัข) ที่คนเกิดปีนี้ต้องไปนมัสการสักการะครั้งหนึ่งในชีวิต
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หรือ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
หลังอาหารค่ำ เชิญท่านไปสักการะพระธาตุ ตามอัธยาศัย นมัสการ เทพทันใจพระธาตุอินทร์แขวน ซึ่งเป็น นักพรตที่มีความศักดิ์สิทธ์อีกแห่งหนึ่ง ท่านสามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ได้ตลอดคืน ถ้าจะสักการะกลางแจ้งเป็นเวลานานบริเวณระเบียงที่ยื่นสู่พระเจดีย์ไจ้โท ควรเตรียมเสื้อกันหนาว หรือกันลม หรือผ้าห่ม ผ้าพันคอ เบาะรองนั่งเพราะพื้นที่นั่งมีความเย็นมาก พระเจดีย์องค์นี้เปิดตลอดคืน (แต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับบุรุษที่เข้าไปปิดทององค์เจดีย์เปิดถึงเวลา 22.00น.) พระธาตุอินทร์แขวนนี้ เป็นที่มาและแรงบันดาลใจของกวีซีไรส์ ปี พุทธศักราช 2534 มาลา คำจันทร์ ที่แต่งวรรณกรรม เรื่อง “เจ้าจันท์ผมหอม นิราศพระธาตุอินทร์แขวน”
ที่พัก
YOE YOE LAY HOTEL / KYAIKHTO HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 2
พระธาตุอินทร์แขวน - หงสาวดี - พระนอนชเวตาเลียว - เจดีย์ไจ๊ปุ่น - ย่างกุ้ง - พระนอนตาหวาน - เจดีย์ชเวดากอง
เช้าตรู่
เชิญท่านสักการะ พระธาตุอินทร์แขวน หรือ ถวายอาหารพระธาตุอินทร์แขวน ท่านจะพบกับบรรยากาศยามเช้าที่สดชื่น ทิวทัศน์งดงาม ความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนภูเขา ถ่ายภาพและชมทัศนียภาพรอบ ๆ พระธาตุ พิสูจน์ความมหัศจรรย์ว่าพระธาตุองค์นี้ตั้งอยู่ได้อย่างไร โดยไม่ล้มหรือหล่นลงมาการที่ก้อนหินสีทองวางหมิ่นเหม่บนหน้าผามานานนับพันปี โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไปก็ดูคล้ายกับลอยอยู่เหนือหน้าผา ราวกับพระอินทร์นำไปแขวนไว้กลางอากาศนับเป็นอัศจรรย์เจดีย์
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นให้ท่านได้เก็บสัมภาระแล้วออกเดินทางกลับสู่ หงสาวดี ตามเส้นทางเดิม ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองหงสาวดี (กุ้งแม่น้ำย่างคนละ 1 ตัว)
บ่าย
นำท่านสักการะ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียวเป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่า มีความยาว 60 เมตร สูง 17 เมตร สร้างขึ้นโดยพระเจ้ามิคทิปปะ ใน พ.ศ. 1537 ในสมัยมอญเรืองอำนาจ มีพุทธลักษณะงดงาม โดยจะวางพระบาทเหลื่อมพระบาท ต่างจากพระพุทธไสยาสน์ของไทยที่นิยมวางพระบาทเสมอกัน ด้านหลังพระองค์มีภาพวาดที่สวยงาม เมื่อครั้งก่อนพระพุธรูปองค์นี้ถูกปล่อยให้ทรุดโทรมจนกลายเป็นเพียงกองอิฐท่ามกลางป่ารก จนถึงปี พ.ศ. 2424 เมื่ออังกฤษสร้างทางรถไฟสายพม่า จึงได้พบพระนอนองค์นี้ จากนั้นในปี พ.ศ. 2491 หลังพม่าได้รับเอกราชก็มีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ โดยทาสีและปิดทองใหม่ จนกลายเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามในปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถเลือกซื้อของฝาก อาทิ ไม้แกะสลัก ไม้จันทร์หอม ผ้าปักพื้นเมือง ผ้าพิมพ์เป็นรูปต่างๆ
จากนั้นนำท่านชม เจดีย์ไจ๊ปุ่น ซึ่งมีอายุมากกว่า 500 ปี เป็นพระพุธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทั้ง 4 ทิศ ที่มีความงดงามเป็นเอกของศิลปะแบบมอญ ประกอบ ด้วยพระสมณะโคดม (ทิศเหนือ), พระโกนาคม (ทิศใต้), พระกกุสันโธ (ทิศตะวันออก) และพระมหากัสสปะ (ทิศตะวันตก) สร้างโดยสี่สาวพี่น้องที่อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนาสร้างพระพุทธรูปแทนตนเอง และสาบานตนไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ ซึ่งมีพระพุทธรูปองค์หนึ่งได้เกิดพังทลายและได้มีการบูรณะใหม่ทำให้พระพุทธรูปองค์นี้มีลักษณะสวยงามแตกต่างไปจากองค์อื่นๆนำท่านเดินทางกลับเมืองย่างกุ้ง(ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
หลังจากนั้นนำท่านสักการะ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี ซึ่งเป็นพระนอนที่มีความสวยงามที่สุดและดวงตาสวยที่สุดของประเทศพม่าที่บริเวณพระบาทมีภาพวาดรูปสรรพสิ่ง อันล้วนเป็นมิ่งมงคลสูงสุด ประกอบด้วยลายลักษณธรรมจักรข้างละองค์ใน บริเวณใจกลางฝ่าพระบาท และล้อมด้วยรูปอัฎจุตรสตกมงคล 108 ประการ พระบาทมีลักษณะซ้อนกันซึ่งแตกต่างกับศิลปะของไทย
นำท่านสักการะ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระมหาเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่า เป็นเจดีย์ทองคำที่งดงาม ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมืองย่างกุ้ง มีความสูง 109 เมตร ประดับด้วยเพชร 544 เม็ด ทับทิม นิล และบุษราคัมอีก 2,317 เม็ด มหาเจดีย์ชเวดากองมีทองคำโอบหุ้มอยู่น้ำหนักถึง 1,100 กิโลกรัม โดยช่างชาวพม่า จะใช้ทองคำแท้ตีเป็นแผ่นปิดองค์เจดีย์ไว้รอบ ว่ากันว่าทองคำที่ใช้ในการก่อสร้างและซ่อมแซมพระมหาเจดีย์แห่งนี้มากมายมหาศาลกว่าทองคำที่เก็บอยู่ในธนาคารชาติอังกฤษเสียอีก รอบๆฐานพระมหาเจดีย์รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ นับร้อยองค์ มีซุ้มประตูสี่ด้าน ยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์ประกอบด้วยเพชรและพลอยมากมาย ภายในองค์พระมหาเจดีย์ได้บรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุธเจ้าจำนวน 8 เส้น เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะเมีย และยังเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ซึ่งมีทั้งผู้คนชาวพม่า และชาวต่างชาติพากันสักการะทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่ขาดสาย ณ ที่แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นความงามของวิหารทิศที่ทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆ ที่เรียกว่า พยาธาตุ รายรอบองค์พระเจดีย์ ภายในประดิษฐานพระประธานสำหรับให้ประชาชนมากราบไหว้บูชา
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
GRAND MERCURE / SULE SHANGRI-LA ระดับ 5 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 3
ย่างกุ้ง - เจดีย์โบตะทาวน์(เทพทันใจ) - เทพกระซิบ - ช้อปปิ้งตลาดสก๊อต - กรุงเทพฯ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านนมัสการ เจดีย์โบตะทาวน์ ซึ่งโบตะทาวน์ แปลว่า เจดีย์นายทหาร 1,000 นาย ได้สร้างเจดีย์โบตะทาวน์นี้และทรงนำพระเกศธาตุ ไว้ 1 เส้น ก่อนที่จะนำไปบรรจุที่เจดีย์ชเวดากองและเจดีย์สำคัญอื่นๆ เมื่อเดินเข้าไปในเจดีย์สามารถมองเห็นพระเกศาธาตุได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าชมภายในบริเวณรอบๆเจดีย์ คือ พระพุธรูปทองคำประดิษฐานในวิหารด้านขวามือ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีลักษณะงดงามยิ่งนัก ตามประวัติว่าเคยประดิษฐานอยู่ในพระราชวังมัณฑะเลย์ ครั้งเมื่อพม่าตกเป็นอาณานิคมอังกฤษในปี พ.ศ. 2428 ถูกเคลื่อนย้ายไปยังพิพิธภัณฑ์กัลป์กัตตาในอินเดีย ทำให้รอดพ้นจากระเบิดของฝ่ายพันธมิตรที่ถล่มพระราชวังมัณฑะเลย์ ต่อมาในปี 2488 พระพุทธรูปองค์นี้ถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์วิกตอเรียและแอลเบิร์ต และด้านซ้ายมือจะเป็นรูปปั้น นัตโบโบยี หรือ เทพทันใจ ซึ่งชาวพม่ารวมถึงชาวไทยนิยมไปกราบไหว้บูชา ด้วยที่เชื่อว่าเมื่ออธิษฐานสิ่งใดแล้วจะสมปรารถนาทันใจ
จากนั้นนำท่าน สักการะเทพกระซิบ หรือ อะมาดอว์เมี๊ยะ ตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้ารักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัตซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว การบูชานั้นจะต้องกระซิบขอพรที่ข้างหูเบาๆ และบูชาด้วยมะพร้าว กล้วยนากที่เขาจัดไว้เป็นชุดแล้ว นอกจากนี้ยังนิยมบูชาด้วยน้ำนม และข้าวตอก รวมทั้งดอกไม้ ซึ่งมักจะเป็นดอกมหาหงส์ ที่คนพม่านิยมใช้บูชาพระกันทั่วไป
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (เป็ดปักกิ่ง+สลัดกุ้งมังกร)
**วันที่ 10-20 เมษายนของทุกปี ร้านหยุดทำการ จะเปลี่ยนไปทานร้านอื่นแทนและปรับเป็นเมนูปกติ**
บ่าย
จากนั้นนำท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองที่ ตลาดสก๊อตมาร์เก็ต ซึ่งสร้างเมื่อครั้งพม่ายังคงเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษให้ท่านได้เลือกชมและเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกพื้นเมืองมากมายในราคาถูก เช่น ไม้แกะสลักพระพุทธรูปไม้หอมแกะสลัก แป้งทานาคา ผ้าปักพื้นเมือง เครื่องเงิน ไข่มุก และหยกพม่า
***ตลาดสก็อตจะปิดช่วง 10-20 เม.ย. ของทุกปี (เวลาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง) จะเปลี่ยนแปลงโปรแกรมโดยนำคณะไปยังห้างสรรพสินค้าของย่างกุ้งแทน**
18.20 น.
ออกเดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG704 (มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
20.15 น.
คณะเดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ