วันที่ 1
กรุงเทพฯ(สนามบินดอนเมือง) - ย่างกุ้ง - เจดีย์เยเลพญา - เจดีย์โบตาทาวน์(เทพทันใจ) - เทพกระซิบ - พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
09.00 น.
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคาร 1 ออกชั้น 3 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน แอร์เอเชีย โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกจัดเตรียมเอกสารการเดินทางและสัมภาระให้กับท่าน
**หมายเหตุ**
เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที และผู้โดยสารพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 30 นาที
12.05 น.
บินลัดฟ้าสู่ ย่างกุ้ง ประเทศพม่า โดย สายการบิน แอร์ เอเชีย เที่ยวบินที่ FD255 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง (ไม่มีอาหารบนเครื่อง)
**สำหรับโปรแกรมที่เดินทางตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป สายการบินมีการปรับตารางเวลาการเดินทางเป็นเวลา เดินทางออกจากสนามบินดอนเมืองเวลา 11.40 น. และจะเดินทางถึงสนามบินย่างกุ้งในเวลา 12.25 น.**
12.55 น.
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมิงกลาดง เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าไทย 30 นาทีกรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่นเพื่อสะดวกในการนัดหมาย) หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
นําท่านเดินทางสู่ เมืองสิเรียม (Sireum) ซึ่งอยู่ห่างจากย่างกุ้งประมาณ 45 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทาง 1ชม.) เมืองแห่งนี้เคยเป็นเมืองเมืองท่าของ โปรตุเกสในสมัยโบราณ ตั้งแต่ในสมัย นายพลฟลิป เดอ บริโต ยี นิโคเต จนมาสิ้นสุดเมื่อปี พ.ศ. 2156 ร่วมสมัยพระเจ้าทรงธรรมกรุงศรีอยุธยา ท่านจะเห็นเศษซากกําแพงสไตล์ลูซติา เนียนบาโรก (Lusitanian Baroque) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำย่างกุ้งทีเชื่อมต่อกับแม่น้ำอิระวดี
นําท่านนั่งเรือชม พระเจดีย์เยเลพญา (Kyaik Hwaw Wun Pagoda) พระปางมารวิชัยอันงดงามบนเกาะกลางนlาอายุนับพันปี เป็นที่สักการะของชาวสิเรียม เกาะนี้ไม่ว่าน้ำจะขึ้นสักเท่าไหร่ก็ไม่มีวันน้ำท่วมได้ที่บริเวณท่าเทียบเรือบนเกาะ นำท่านสักการะและขอพรเพื่อเป็นศิริมงคล พระจกบาตรหรือพระอุปคุปที่ชาวพม่านับถือ ท่านสามารถซื้ออาหารเพื่อเลี้ยงปลานับร้อยที่อยู่ในบริเวณวัดได้
นำท่านชม เจดีย์โบตาทาวน์ (Botataung Pagoda) สร้างโดยทหารพันนายเพื่อบรรจุพระบรมธาตุที่พระสงฆ์อินเดีย 8 รูป ได้นำมาเมื่อ 2,000 ปีก่อน ในปี 2486 เจดีย์แห่งนี้ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ากลางองค์จึงพบโกศทองคำบรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุอีก 2 องค์และพบพระพุทธรูปทอง เงิน สำริด 700 องค์ และจารึกดินเผาภาษาบาลี นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าชมภายในบริเวณรอบๆเจดีย์ คือ พระพุทธรูปทองคำ ประดิษฐานในวิหารด้านขวามือเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีลักษณะงดงามยิ่งนัก
นำท่านสักการะขอพร นัตโบโบยี หรือ เทพทันใจ ซึ่งชาวพม่ารวมถึงชาวไทยนิยมไปกราบไหว้บูชา ด้วยที่เชื่อว่าเมื่ออธิษฐานสิ่งใดแล้วจะสมปรารถนาทันใจ วิธีการสักการะเทพทันใจ นำดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย หรือผลไม้อื่นๆมาสักการะนัตโบโบยี ซึ่งท่านจะชอบมาก (บริเวณวัดจะมีขาย) จากนั้นก็ให้ท่านนำเงินเงินบาท (แบงค์ 20, 50, 100 บาท) ไปใส่มือของนัตโบโบยี 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึกกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บรักษาไว้ จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยี แค่นี้ท่านก็จะสมตามความปรารถนาที่ขอไว้
นำท่านสักการะขอพร เทพกระซิบ หรือ อะมาดอว์เมี๊ยะ ตามตำนานเล่าว่า เป็นธิดาของพญานาค ที่ศรัทธาในพุทธศาสนา จนสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัตที่ชาวพม่าเคารพกราบไหว้กัน โดยท่านสามารถกระซิบที่ข้างหูเบาๆ ห้ามให้คนอื่นได้ยิน และนำน้ำนมไปจ่อไว้ที่ปาก บูชาด้วยข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษ…ลิ้มรสอาหารเมียนมาต้นตำรับที่ร้าน Padonmar
จากนั้นนำท่านชม
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) พระมหาเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่า (1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า) เป็นเจดีย์ทองคำที่งดงาม ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมืองย่างกุ้ง มีความสูง 109 เมตร ประดับด้วยเพชร 544 เม็ด ทับทิม นิล และบุษราคัมอีก 2,317 เม็ด มหาเจดีย์ชเวดากองมีทองคำโอบหุ้มอยู่น้ำหนักถึง 1,100 กิโลกรัม โดยช่างชาวพม่า จะใช้ทองคำแท้ตีเป็นแผ่นปิดองค์เจดีย์ไว้รอบ ว่ากันว่าทองคำที่ใช้ในการก่อสร้างและซ่อมแซมพระมหาเจดีย์แห่งนี้มากมายมหาศาลกว่าทองคำที่เก็บอยู่ในธนาคารชาติอังกฤษเสียอีก รอบๆฐานพระมหาเจดีย์รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ นับร้อยองค์ มีซุ้มประตูสี่ด้าน ยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์ประกอบด้วยเพชรและพลอยมากมาย ภายในองค์พระมหาเจดีย์ได้บรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุธเจ้าจำนวน 8 เส้น เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะเมีย และยังเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ซึ่งมีทั้งผู้คนชาวพม่า และชาวต่างชาติพากันสักการะทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่ขาดสาย ณ ที่แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นความงามของวิหารทิศที่ทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆ ที่เรียกว่า พยาธาตุ รายรอบองค์พระเจดีย์ ภายในประดิษฐานพระประธานสำหรับให้ประชาชนมากราบไหว้บูชา
ท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียน ไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์พระมหาเจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐาน เพื่อเสริมสร้างบารมีและสิริมงคล เป็นจุดสำคัญของพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานแห่งนี้ เป็นจุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบ จึงได้รับสมญานามว่าผู้ชนะสิบทิศ นอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศรวม 8 องค์ หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตน เพื่อความสิริมงคลแก่ชีวิต
วันเกิด
|
อาทิตย์
|
จันทร์
|
อังคาร
|
พุธ
|
พุธกลางคืน
|
พฤหัสบดี
|
ศุกร์
|
เสาร์
|
สัตว์สัญลักษณ์
|
ครุฑ
|
เสือ
|
สิงห์
|
ช้างมีงา
|
ช้างไม่มีงา
|
หนูหางยาว
|
หนูหางสั้น
|
พญานาค
|
ที่พัก
Best Western Green Hill / Summit Parkview Hotel ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 2
เจดีย์สุเล - พระเจดีย์เองตอหย่า - วัดงาทัตจี - วัดเจาทัตจี - พระเจดีย์กาบาเอ - พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว - พระวัดบารมี พระเกษาธาตุมีชีวิต - กรุงเทพ(สนามบินดอนเมือง)
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางนมัสการ เจดีย์สุเล ที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองย่างกุ้ง ตามตำนานระบุว่าเจดีย์ถูกสร้างขึ้นในช่วงพระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์ชีพอยู่ ทำให้เจดีย์องค์นี้เก่าแก่กว่า 2,500 ปี ตำนานกล่าวว่า เทพโบโบจี อันเป็นเทพารักษ์ประจำเมือง ได้ชี้ตำแหน่งของเนินเขาสิงคุตตระซึ่งเป็นพื้นที่สมควรสำหรับการประดิษฐานพระเกศธาตุ โดยตำแหน่งที่ปรากฏตัวของเทพโบโบจีนั้นก็คือตำแหน่งของเจดีย์สุเลในปัจจุบัน
จากนั้นนำท่านขอพร ณ พระเจดีย์เองตอหย่า
นำท่านชม พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี (Kyauk That gyi Buddha) หรือ พระนอนตาหวาน ซึ่งเป็นพระนอนที่มีความสวยงามที่สุดและดวงตาสวยที่สุดของประเทศพม่า ที่บริเวณพระบาทมีภาพวาดรูปสรรพสิ่ง อันล้วนเป็นมิ่งมงคลสูงสุด ประกอบด้วยลายลักษณธรรมจักรข้างละองค์ในบริเวณใจกลางฝ่าพระบาท และล้อมด้วยรูปอัฎจุตรสตกมงคล 108 ประการ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดงาทัตจี (Ngar Htet Gyi) ซึ่งมีพระพุธรูปองค์ใหญ่ คือหลวงพ่องาทัตจี แปลว่า หลวงพ่อที่สูงเท่าตึก 5 ชั้น เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่แกะสลักจากหินอ่อน ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ เครื่องทรงเป็นโลหะ ส่วนเครื่องประกอบด้านหลังจะเป็นไม้สักแกะสลักทั้งหมด และสลักป็นลวดลายต่างๆ จำลองแบบมาจากพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยยะตะนะโบง (สมัยมัณฑเลย์)
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ พระเจดีย์กาบาเอ (Kaba Aye pagoda) เมืองย่างกุ้ง เป็นเจดีย์ทรงกลม ซึ่งมีทางเข้าทั้งหมดห้าด้านด้วยกัน นายอูนุ นายกคนแรกของพม่า ได้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ชำระพระไตรปิฎก เจดีย์กาบาเอ ถ้ามองดูแล้วก็ดูแปลกตาและมีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านใน ส่วนคำว่า กาบาเอ ในภาษาพม่านั้น หมายถึง โลกแห่งสันติสุข ที่นี่ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1952 เจดีย์แห่งนี้เป็นที่รำลึกถึงการประชุมประสภาสงฆ์ระดับโลก ครั้งที่ 6 เพื่อให้บังเกิดสันติสุขแก่ชาวโลกของพุทธศาสนา ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในปี 1954 หลังจากพม่าได้รับเอกราชจากอังกฤษนั่นเอง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองหงสาวดี
นำท่านชม พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว (Shwethalyaung Buddha) มีความยาว 60 เมตร สูง 17 เมตร สร้างขึ้นโดย พระเจ้ามิคทิปปะ ใน พ.ศ. 1537 ในสมัยมอญเรืองอำนาจ มีพุทธลักษณะงดงาม โดยจะวางพระบาทเหลื่อมพระบาทต่างจากพระพุทธไสยาสน์ของไทยที่นิยมวางพระบาทเสมอกัน ด้านหลังพระองค์มีภาพวาดที่สวยงาม เมื่อครั้งก่อนพระพุธรูปองค์นี้ถูกปล่อยให้ทรุดโทรมจนกลายเป็นเพียงกองอิฐท่ามกลางป่ารก จนถึงปี พ.ศ. 2424 เมื่ออังกฤษสร้างทางรถไฟสายพม่า จึงได้พบพระนอนองค์นี้ จากนั้นในปี พ.ศ. 2491 หลังพม่าได้รับเอกราชก็มีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ โดยทาสีและปิดทองใหม่ จนกลายเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามในปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถเลือกซื้อของฝาก อาทิ ไม้แกะสลัก ไม้จันทร์หอม ผ้าปักพื้นเมือง ผ้าพิมพ์เป็นรูปต่างๆไว้เป็นของฝากได้อีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดบารมี พระเกษาธาตุมีชีวิต ให้สักการะพระเกศาของพระพุทธเจ้า ที่เชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่จริง ด้วยองค์พระเกศาธาตุนี้ เมื่อนำมาวางบนจานแก้วจะสามารถเคลื่อนไหวได้ อีกทั้งวัดนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นที่เก็บองค์พระบรมสารีริกธาตุ ไว้มากที่สุดด้วยไม่ว่าจะเป็นของพระโมคาลา พระสารีบุตร และองค์พระอรหันต์ต่างๆอีกด้วย
ค่ำ
อิสระรับประทานอาหารตามอัธยาศัย ณ สนามบิน
19.25 น.
บินลัดฟ้าสู่ ดอนเมือง โดย สายการบิน แอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD258 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที (ไม่มีอาหารบนเครื่อง)
**สำหรับโปรแกรมที่เดินทางตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป สายการบินมีการปรับตารางเวลาการเดินทางเป็นเวลาเดินทางออกจากสนามบินย่างกุ้งเวลา 21.40 น. และจะเดินทางถึงสนามบินดอนเมืองในเวลา 23.25 น.**
21.15 น.
เดินทางถึง สนามบินนานาชาติดอนเมือง ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ