วันที่ 1
กรุงเทพฯ - ย่างกุ้ง - หงสาวดี - วัดไจ้คะวาย - เจดีย์ชเวมอดอร์ - พระราชวังบุเรงนอง - คิมปูนแค้มป์ - พระธาตุอินทร์แขวน นั่งกระเช้าไฟฟ้า (รวมรถขึ้นพระธาตุ)
04.30 น.
พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคาร 1 ขาออก ชั้น 2 เคาท์เตอร์สายการบินนกแอร์ ประตู 6 Nok Air (DD) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
06.30 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงย่างกุ้ง โดย สายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน DD 4230
07.15 น.
เดินทางถึง สนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว Nok Air (DD) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน (เวลาท้องถิ่นที่เมียนม่าร์ ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองหงสาวดีหรือ เมืองพะโค(Bago) ซึ่งในอดีตเป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองมอญโบราณที่ยิ่งใหญ่ และ อายุมากกว่า 400ปี อยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้ง (ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง
จากนั้นนำท่านตักบาตรพระสงฆ์กว่า 1,000 รูป ที่วัดไจ้คะวาย สถานที่ที่มีพระภิกษุและสามเณรไป ศึกษาพระไตรปิฎกเป็นจำนวนมากท่านสามารถนำสมุด ปากกา ดินสอไปบริจาคที่วัดแห่งนี้ได้
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร **เมนูพิเศษ กุ้งแม่น้ำเผาตัวใหญ่ท่านละ 1 ตัว **
บ่าย
หลังอาหารนำท่านเข้าชมพระธาตุที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหงสาวดี เป็นเจดีย์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองและเป็น 1 ใน 5 มหา บูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า เจดีย์ชเวมอดอร์ หรือ พระธาตุมุเตา(ShweMordore) ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า นำท่านนมัสการ ยอดเจดีย์หักซึ่งชาวมอญและชาวพม่าเชื่อกันว่าเป็นจุดที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ซึ่งเจดีย์นี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ของไทย เคยมาสักการะ เจดีย์องค์นี้เป็นศิลปะที่ผสมผสานระหว่างศิลปะพม่าและศิลปะของมอญได้อย่างกลมกลืน พระเจดีย์สูง377 ฟุต สูงกว่า พระเจดีย์ชเวดากอง 51 ฟุต มีจุดอธิษฐานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงบริเวณยอดฉัตร ที่ตกลงมาเมื่อปี พ.ศ. 2473 ด้วยน้ำหนักที่มหาศาล ตกลงมายังพื้นล่างแต่ยอดฉัตร กลับยงคงสภาพเดิมและไม่แตกกระจายออกไป เป็นที่ร่ำลือถึงความศักดิ์-สิทธ์โดยแท้ และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่พระเจ้าหงสาลิ้นดำ ใช้เป็นที่เจาะพระกรรณ (หู) ตามพระราชประเพณีโบราณเพื่อทดสอบความกล้าหาญก่อนขึ้นครองราชย์ ท่านจะได้นมัสการ ณจุดอธิษฐานอันศักดิ์สิทธิ์ และสามารถนำธูปไปค้ำกับยอดของเจดีย์องค์ที่หักลงมาเพื่อเป็นสิริมงคลซึ่งเปรียบเหมือนดั่งค้ำจุนชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป
จากนั้นนำท่านชม พระราชวังบุเรงนอง และ บัลลังก์ผึ้ง(KanbawzaThardi Palace) ซึ่งเพิ่งเริ่มขุดค้นและบูรณปฏิสังขรณ์เมื่อปี พ.ศ.2533 จากซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลืออยู่ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าโบราณสถานแห่งนี้เป็นที่ประทับของ พระเจ้าบุเรงนอง ท่านผู้ที่ได้รับคำสรรเสริญว่าเป็น ผู้ชนะสิบทิศ และเป็นที่ประทับของ พระนางสุพรรณกัลยา และ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งต้องตกเป็นเชลยศึก เมื่อต้องเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า แต่ปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้ได้เหลือเพียงแต่ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ และถูกสร้างจำลองพระราชวังและตำหนักต่างๆ ขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงจากพงศาวดาร
นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองไจ้โท แห่งรัฐมอญ ระหว่างทางท่านจะได้พบกับสะพานเหล็กที่ข้ามผ่านชมแม่น้ำสะโตงสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งในอดีตขณะที่2 สมเด็จพระนเรศวรกำลังรวบรวมคนไทยกลับอโยธยา ได้ถูกทหารพม่าไล่ตามซึ่งนำทัพโดยสุรกรรมาเป็นกองหน้าพระมหาอุปราชาเป็นกองหลวง ยกติดตามกองทัพไทยมากองหน้าของพม่าตามมาทันที่ริมฝั่งแม่น้ำสะโตง ในขณะ ที่ฝ่ายไทยได้ข้ามแม่น้ำไปแล้วพระองค์ได้คอยป้องกันมิให้ข้าศึกข้ามตามมาได้ ได้มีการปะทะกันที่ริมฝั่งแม่น้ำสะโตงสมเด็จพระนเรศวรทรงใช้พระแสงปืนคาบชุดยาวเก้าคืบยิงถูกสุรกรรมาแม่ทัพหน้าพม่าเสียชีวิตบนคอช้าง กองทัพของพม่าเห็นขวัญเสีย จึงถอยทัพกลับกรุงหงสาวดี พระแสงปืนที่ใช้ยิงสุรกรรมาตายบนคอช้างนี้ได้นามปรากฏต่อมาว่า“พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง"นับเป็นพระแสง อัษฎาวุธอันเป็นเครื่องราชูปโภคยังปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระธาตุอินทร์แขวนใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึง คิ้มปูนแค้มป์ซึ่งเป็นจุดสำหรับทำการเปลี่ยนเป็นรถบรรทุกหกล้อ (เป็นรถประจำเส้นทางชนิดเดียวที่จะสามารถขึ้นพระธาตุอินทร์แขวนได้) ใช้เวลาเดินทางจากคิมปูนแค้มป์ถึงยอดเขาประมาณ 1 ชั่วโมง
พิเศษสุด นำท่านนั่งกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นสู่สถานีพระธาตุ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ให้ท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศอันสวยงามอีกแบบของการขึ้นชมพระธาตุอินแขวน
**หมายเหตุ ในกรณีกระเช้าปิดหรือมีเหตุสุดวิสัยจากธรรมชาติที่ไม่สามารถขึ้นได้ ทางบริษัทฯจะเปลี่ยนเป็นขึ้นรถบรรทุกแทนโดยสงวนสิทธิ์การคืนเงินทุกกรณี**
เชิญทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
นำท่านชม เจดีย์ไจ้ทีโยหรือพระธาตุอินทร์แขวน Kyaikhtiyo Pagoda (Golden Rock) แปลว่า ก้อนหินทอง อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร ลักษณะเป็นเจดีย์องค์เล็กๆ สูงเพียง 5.5 เมตร ตั้งอยู่บนก้อนหินกลมๆ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอย่างหมิ่นเหม่ แต่ชาวพม่ามักยืนกรานว่าไม่มีทางตก เพราะพระเกศาธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุอยู่ภายในพระเจดีย์องค์ย่อมทำให้หินก้อนนี้ทรงตัวอยู่ได้อย่างสมดุลเรื่อยไปตามคติการบูชาพระธาตุประจำปีเกิดของชาวล้านนา พระธาตุอินทร์แขวนนี้ให้ถือเป็นพระธาตุปีเกิดของปีจอ แทนพระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์ โดยเชื่อว่าถ้าผู้ใดได้มานมัสการพระธาตุอินทร์แขวนนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ความสุขความเจริญ พร้อมทั้งขอสิ่งใดก็จะได้สมดั่งปรารถนาทุกประการ
ท่านสามารถเตรียมแผ่นทองคำไปเพื่อปิดทององค์พระธาตุอินทร์แขวน (เข้าไปปิดทองได้เฉพาะสุภาพบุรุษ ส่วนสุภาพสตรี สามรถอธิฐาน และฝากสุภาพบุรุษเข้าไปปิดแทนได้ **สำหรับจุดไหว้พระธาตุด้านบนจะมีบริการแผ่นทองคำเปลวราคาเริ่มต้น 2,000จ๊าต/ชุด**
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารในโรงแรม
จากนั้นท่านสามารถขึ้นไปนมัสการหรือนั่งสมาธิที่พระเจดีย์ได้ตลอดทั้งคืนแต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับสุภาพบุรุษ จะเปิดถึงเวลา 21.00น. ควรเตรียมเสื้อกันหนาวหรือกันลมหรือผ้าห่มผ้าพันคอเบาะรองนั่งเนื่องจากบริเวณพื้นที่นั้นมีความเย็นมาก
ที่พัก
Kyaikhto, Mountain Top , Yoyolae , Golden Rock Hotel
วันที่ 2
พระธาตุอินทร์แขวน - เจดีย์ไจ้ปุ่น - พระนอนชเวตาเลียว - พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี - พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
05.00 น.
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า อิสระตามอัธยาศัย สำหรับผู้ที่ต้องการใส่บาตรพระธาตุอินแขวน กิจกรรมนี้ไม่ได้บังคับนะคะ สำหรับอาหารที่จะใส่บาตรสามารถซื้อได้โดยจะมีร้านค้าจำหน่ายราคาอาหารเริ่มต้นชุดละ 3,000-10,000จ๊าต ดอกไม้ธูปเทียนเริ่มต้นชุดละ2,000จ๊าต ทำบุญตามอัธยาศัย
06.30 น.
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
07.30 น.
นำท่านอำลาที่พัก ออกเดินทางกลับ เปลี่ยนนั่งรถ ถึง คิมปุนแค้มป์ เปลี่ยนเป็นรถโค้ชปรับอากาศ เดินทางสู่ กรุงหงสาวดี
จากนั้นนำชม เจดีย์ไจ๊ปุ่น (Kyaik Pun Buddha) สร้างในปี 1476 มีพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทั้ง 4ทิศ สูง 30 เมตร ประกอบด้วย องค์สมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า (ผินพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ) กับพระพุทธเจ้าในอดีต สามพระองค์คือ พระพุทธเจ้ามหากัสสปะ (ทิศตะวันตก)เล่ากันว่าสร้างขึ้นโดยสตรีสี่พี่น้องที่มีพุทธศรัทธาสูงส่งและต่างให้สัตย์สาบานว่าจะรักษาพรหมจรรย์ไว้ชั่วชีวิต ต่อมา 1 ใน 4 สาวหนีไปแต่งงาน ร่ำลือกันว่าทำให้พระพุทธรูปองค์นั้นเกิดรอยร้าวขึ้นทันที
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร **เมนูพิเศษ กุ้งแม่น้ำเผาตัวใหญ่ท่านละ 1 ตัว **
บ่าย
นมัสการ
พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว (ShewThalyang Buddha) กราบนมัสการพระพุทธรูปนอนที่ที่มีพุทธลักษณะที่สวยงามในแบบของมอญ ในปี พ.ศ.2524 ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่าทั่วประเทศและเป็นพระนอนที่งดงามที่สุดของพม่าองค์พระยาว 55 เมตร สูง 16 เมตรถึงแม้จะไม่ใหญ่เท่าพระพุทธไสยาสน์เจ้าทัตจีที่ย่างกุ้ง แต่ก็งามกว่าโดยพระบาทจะวางเหลื่อมพระบาท เป็นลักษณะที่ไม่เหมือนกับพระนอนของไทยนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองย่างกุ้ง
จากนั้นสักการะ
พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี (KyaukHtatgyi Buddha) หรือ พระนอนตาหวาน นมัสการพระพุทธรูปนอนที่มีความยาว 55 ฟุต สูง 16 ฟุตซึ่งเป็นพระที่มีความพระที่มีความสวยที่สุดมีขนตาที่งดงามพระบาทมีภาพมงคล 108 ประการ
นำท่านชมและนมัสการ
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) พระเจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปีเจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง หรือ ตะเกิง ชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพม่าสถานที่แห่งนี้มี ลานอธิฐาน จุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียน ไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิรมงคลนอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศรวม 8 องค์หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต พระเจดีย์นี้ได้รับการบูรณะและต่อเติมโดยกษัตริย์หลายรัชกาลองค์เจดีย์ห่อหุ้มด้วยแผ่นทองคำทั้งหมดน้ำหนักยี่สิบสามตันภายในประดิษฐานเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวนแปดเส้นและเครื่องอัฐะบริขารของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนทั้งสามพระองค์บนยอดประดับด้วยเพชรพลอยและอัญมณีต่างๆจำนวนมากและยังมีเพชรขนาดใหญ่ประดับอยู่บนยอดบริเวณเจดีย์จะได้ชมความงามของวิหารสี่ทิศซึ่งทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆงานศิลปะและสถาปัตยกรรมทุกชิ้นที่รวมกันขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของพุทธเจดีย์ล้วนมีตำนานและภูมิหลังความเป็นมาทั้งสิ้นชมระฆังใบใหญ่ที่อังกฤษพยายามจะเอาไปแต่เกิดพลัดตกแม่น้ำย่างกุ้งเสียก่อนอังกฤษกู้เท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นภายหลังชาวพม่า ช่วยกันกู้ขึ้นมาแขวนไว้ที่เดิมได้จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีซึ่งชาวพม่าถือว่าเป็นระฆังศักดิ์สิทธิ์ให้ตีระฆัง 3ครั้งแล้วอธิษฐานขออะไรก็จะได้ดั่งต้องการชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรโดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไปเช่นสีเหลือง, สีน้ำเงิน, สีส้ม, สีแดงเป็นต้น
วันเกิด |
อาทิตย์ |
จันทร์ |
อังคาร |
พุธ |
พุธกลางคืน |
พฤหัสบดี |
ศุกณ์ |
เสาร์ |
สัตว์สัญลักษณ์ |
ครุฑ |
เสือ |
สิงห์ |
ช้างมีงา |
ช้างไม่มีงา |
หนูหางยาว |
หนูหางสั้น |
พญานาค |
คำไหว้พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
วันทามิอุตตมะชมพูวระฐาเนสิงกุตตะเรมะโนลัมเมสัตตังสะรัตนะ
ปฐมังกกุสันธังสุวรรณะตันตังธาตุโยธัสสะติทุติยังโกนาคะมะนังธัมมะการะนังธาตุโย
ธัสสะติตติยังกัสสปังพุทธจีวะรังธาตุโยธัสสะติจตุกังโคตะมังอัตถะเกศาธาตุโยธัสสะติ
อหังวันทามิตุระโตอหังวันทามิธาตุโยอหังวันทามิสัพพะทาอหังวันทามิสิระสา
*** อธิษฐานพร้อมด้วยใบไม้ที่แปลว่าชัยชนะและความสาเร็จ ***19.00 น.
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารชาบูชิ บุฟเฟ่ต์ อร่อยเต็มอิ่มกับชาชูชิ สุกี้หม้อไฟและซูชิ ข้าวปั้นสารพัดหน้าในเครือโออิชิ
ที่พัก
PARK ROYALYANGON HOTEL 5* หรือ SEDONA HOTEL YANGON 5*
วันที่ 3
ย่างกุ้ง - สิเรียม - เจดีย์เยเลพญา - วัดบารมี - เจดีย์โบตะทาวน์ - เทพทันใจ - เทพกระซิบ - ตลาดสก๊อต - กรุงเทพฯ
เช้า
บริการอาเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมหาร
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองสิเรียม (Thanlyin) ซึ่งอยู่ห่างจากย่างกุ้งประมาณ 45 กิโลเมตรเมื่อเดินทางถึงสิเรียม ชมความสวยงามแปลกตาของเมือง ซึ่งเมืองนี้เคยเป็นเมืองท่าของ โปรตุเกสในสมัยโบราณ ตั้งแต่ในสมัย นายพลฟิลิป เดอ บริโต ยี นิโคเต จนมาสิ้นสุดเมื่อปีพ.ศ. 2156 ร่วมสมัยพระเจ้าทรงธรรมกรุงศรีอยุธยา ท่านจะเห็นเศษซากกำแพงสไตล์ ลูซิตา เนียนบาโรก (Lusitanian Baroque ) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำย่างกุ้งที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำอิระวดี
นำท่านนั่งเรือ ชม พระเจดีย์เยเลพญา (Kyaik Hwaw Wun Pagoda) พระปางมารวิชัยอันงดงามบนเกาะกลางน้ำอายุนับพันปี เป็นที่สักการะของชาวสิเรียม เกาะนี้ไม่ว่าน้ำจะขึ้นสักเท่าไหร่ก็ไม่มีวันน้ำท่วมได้ ที่บริเวณท่าเทียบเรือบนเกาะ
นำท่านไหว้สักการะเพื่อขอพรพระจกบาตรหรือพระอุปคุปที่เป็นที่นับถือของชาวพม่าสามารถซื้ออาหารเลี้ยงปลาดุกตัว ขนาดใหญ่นับร้อยๆ ตัวที่ว่ายวนเวียนให้เห็นครีบหลังที่โผล่เหนือผิวน้ำ
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับย่างกุ้ง
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร **เมนูพิเศษ เป็ดปักกิ่ง+สลัดกุ้งมังกร **
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดบารมี ให้สักการะพระเกศาของพระพุทธเจ้า ที่เชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่จริง ด้วยองค์พระเกศาธาตุนี้เมื่อนำมาวางบนมือ จะสามารเคลื่อนไหวได้อีกทั้งวัดนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นที่เก็บองค์พระบรมสารีริกธาตุไว้มากที่สุดด้วยไม่ว่าจะเป็นของพระโมคาลา พระสารีบุตร และองค์พระอรหันต์ต่าง ๆพร้อมรับพระธาตุเพื่อนำกลับไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลฟรี!!ชมเจดีย์โบตาทาวน์ สร้างโดยทหารพันนายเพื่อบรรจุพระบรมธาตุที่พระสงฆ์อินเดีย 8รูป ได้นำมาเมื่อ 2,000ปีก่อน ในปี 2486เจดีย์แห่งนี้ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ากลางองค์จึงพบโกศทองคำบรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุอีก 2องค์ และพบพระพุทธรูปทอง เงิน สำริด 700องค์ และจารึกดินเผาภาษาบาลี และตัวหนังสือพราหมณ์อินเดียทางใต้ ต้นแบบภาษาพม่า ภายในเจดีย์ที่ประดับด้วยกระเบื้องสีสันงดงาม และมีมุมสำหรับฝึกสมาธิหลายจุดในองค์พระเจดีย์
จากนั้นนำท่านขอพร นัตโบโบยีหรือพระเทพทันใจ เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทยวิธีการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบยี)เพื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปราถนาก็ ให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วยหรือผลไม้อื่นๆมาสักการะ นัตโบโบยี จะชอบมาก จากนั้นก็ให้เอาเงินจะเป็นดอลล่า บาทหรือจ๊าด ก็ได้ (แต่แนะนำให้เอาเงินบาทดีกว่าเพราะเราเป็นคนไทย)แล้วเอาไปใส่มือของนัตโบโบยีสัก 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึกกลับมา 1ใบ เอามาเก็บรักษาไว้จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยีแค่นี้ท่านก็จะสมตามความปรารถนาที่ขอไว้
จากนั้นนำท่านข้ามฝั่งไปอีกฟากหนึ่งของถนน เพื่อสักการะ เทพกระซิบซึ่งมีนามว่า“อะมาดอว์เมี๊ยะ”ตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้ารักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัตซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้วซึ่งการขอพรเทพกระซิบต้องไปกระซิบเบาๆ ห้ามคนอื่นได้ยิน ชาวพม่านิยมขอพรจากเทพองค์นี้กันมากเช่นกันการบูชาเทพกระซิบ บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม ตลาดโบโจ๊ก อองซาน(BogyokeAung San)หรือ ตลาตสก๊อต(Scot Market) เป็นตลาดเก่าแก่ของชาวพม่า สร้างขึ้นโดยชาวสก๊อตในสมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เป็นลักษณะอาคารเรียงต่อกันหลายหลัง สินค้าที่จำหน่ายในตลาดแห่งนี้มีหลากหลายชนิด เช่น เครื่องเงิน ที่มีศิลปะผสมระหว่างมอญกับพม่าภาพวาด งานแกะสลักจากไม้ อัญมณี หยก ผ้าทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป แป้งทานาคา เป็นต้น (หากซื้อสิ้นค้าหรืออัญมณีที่มีราคาสูงควรขอใบเสร็จรับเงินด้วย ทุกครั้ง เนื่องจากจะต้องแสดงให้ศุลกากรตรวจ)
สมควรเวลาเดินสู่ สนามบินนานาชาติมิงกาลาดง
ค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร เมนูก๋วยเตี๋ยวเลิศรสหรืออาหารจานด่วน
สมควรเวลาเดินสู่ สนามบินนานาชาติมิงกาลาดง
21.00 น.
ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD 4239
22.45 น.
เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม