วันที่ 1
กรุงเทพฯ - ย่างกุ้ง - หงสาวดี - วัดไจ๊คะวาย - เจดีย์ชเวมอดอร์ - พระราชวังบุเรงนอง - คิมปูนแค้มป์ - พระธาตุอินทร์แขวน (รวมรถขึ้นพระธาตุ)
04.30 น.
พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคาร 1 ขาออก ชั้น 2 ประตู 1 เคาท์เตอร์สายการบินไทยแอร์เอเชีย Thai Air Asia (FD) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
07.15 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงย่างกุ้ง โดยเที่ยวบิน FD 251
หมายเหตุ สายการบินแอร์เอเชียมีบริการล็อกที่นั่งและ Hot Seat บริการสำหรับลูกค้าที่มีความประสงค์ต้องการนั่งแถวหน้าและนั่งติดกันหรือเลือกที่นั่งได้ เนื่องจากตั๋วเครื่องบินของคณะเป็นตั๋วกรุ๊ประบบ Randomไม่สามารถล็อกที่นั่งได้ ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกันในคณะ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสายการบิน
* ในกรณีต้องการล็อกที่นั่งไปกลับค่าใช้จ่ายในการล็อกที่นั่งไปกลับ 200 บาท/ท่าน/เที่ยว
* ต้องการล็อคที่นั่งแถวหน้า Hot Seat
แถวที่ 1 ค่าบริการล็อกที่นั่ง ขาละ 500 บาท/เที่ยว/ท่าน ไปกลับ 1,000 บาท/ท่าน
แถวที่ 2-5 ค่าบริการล็อกที่นั่ง ขาละ 400 บาท/เที่ยว/ท่าน ไปกลับ 800 บาท/ท่าน
แถวที่ 6-8 ค่าบริการล็อกที่นั่ง ขาละ 200 บาท/เที่ยว/ท่าน ไปกลับ 400 บาท/ท่าน
** กรุณาแจ้งพนักงานขายทุกครั้งก่อนทำการจองค่ะ**
08.00 น.
เดินทางถึง สนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่เมียนม่าร์ ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองหงสาวดี หรือ เมืองพะโค (Bago) ซึ่งในอดีตเป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองมอญโบราณที่ยิ่งใหญ่ และ อายุมากกว่า 400ปี อยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้ง (ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.
จากนั้น นำท่าน ตักบาตรพระสงฆ์กว่า 1,000 รูป ที่ วัดไจ้คะวาย สถานที่ที่มีพระภิกษุและสามเณรไป ศึกษาพระไตรปิฎกเป็นจำนวนมาก ท่านสามารถนำสมุด ปากกา ดินสอไปบริจาคที่วัดแห่งนี้ได้
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร **เมนูพิเศษ กุ้งแม่น้ำเผาตัวใหญ่ท่านละ 1ตัว **
บ่าย
หลังอาหารนำท่านเข้าชมพระธาตุที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหงสาวดี เป็นเจดีย์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองและเป็น 1 ใน 5 มหา บูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า เจดีย์ชเวมอดอร์ หรือ พระธาตุมุเตา (ShweMordore) ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า
นำท่านนมัสการ ยอดเจดีย์หัก ซึ่งชาวมอญและชาวพม่าเชื่อกันว่าเป็นจุดที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ซึ่งเจดีย์นี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ของไทย เคยมาสักการะ เจดีย์องค์นี้เป็นศิลปะที่ผสมผสานระหว่างศิลปะพม่าและศิลปะของมอญได้อย่างกลมกลืน พระเจดีย์สูง 377 ฟุต สูงกว่า พระเจดีย์ชเวดากอง 51 ฟุต มีจุดอธิษฐานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงบริเวณยอดฉัตร ที่ตกลงมาเมื่อปี พ.ศ. 2473 ด้วยน้ำหนักที่มหาศาล ตกลงมายังพื้นล่างแต่ยอดฉัตร กลับยงคงสภาพเดิมและไม่แตกกระจายออกไป เป็นที่ร่ำลือถึงความศักดิ์-สิทธ์โดยแท้ และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่พระเจ้าหงสาลิ้นดำ ใช้เป็นที่เจาะพระกรรณ (หู) ตามพระราชประเพณีโบราณเพื่อทดสอบความกล้าหาญก่อนขึ้นครองราชย์ ท่านจะได้นมัสการ ณ จุดอธิษฐานอันศักดิ์สิทธิ์ และสามารถนำธูปไปค้ำกับยอดของเจดีย์องค์ที่หักลงมาเพื่อเป็นสิริมงคลซึ่งเปรียบเหมือนดั่ง ค้ำจุนชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป
จากนั้นนำท่านชม พระราชวังบุเรงนอง และ บัลลังก์ผึ้ง (KanbawzaThardi Palace) ซึ่งเพิ่งเริ่มขุดค้นและบูรณปฏิสังขรณ์เมื่อปี พ.ศ.2533 จากซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลืออยู่ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าโบราณสถานแห่งนี้เป็นที่ประทับของ พระเจ้าบุเรงนองท่านผู้ที่ได้รับคำสรรเสริญว่าเป็น ผู้ชนะสิบทิศ และเป็นที่ประทับของ พระนางสุพรรณกัลยา และ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งต้องตกเป็นเชลยศึก เมื่อต้องเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า แต่ปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้ได้เหลือเพียงแต่ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ และถูกสร้างจำลองพระราชวังและตำหนักต่างๆ ขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงจากพงศาวดาร
นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองไจ้โท แห่งรัฐมอญระหว่างทางท่านจะได้พบกับสะพานเหล็กที่ข้ามผ่านชมแม่น้ำสะโตงสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งในอดีตขณะที่ 2 สมเด็จพระนเรศวรกำลังรวบรวมคนไทยกลับอโยธยา ได้ถูกทหารพม่าไล่ตามซึ่งนำทัพโดยสุรกรรมาเป็นกองหน้าพระมหาอุปราชาเป็นกองหลวง ยกติดตามกองทัพไทยมากองหน้าของพม่าตามมาทันที่ริมฝั่งแม่น้ำสะโตง ในขณะ ที่ฝ่ายไทยได้ข้ามแม่น้ำไปแล้วพระองค์ได้คอยป้องกันมิให้ข้าศึกข้ามตามมาได้ ได้มีการปะทะกันที่ริมฝั่งแม่น้ำสะโตงสมเด็จพระนเรศวรทรงใช้พระแสงปืนคาบชุดยาวเก้าคืบยิงถูกสุรกรรมาแม่ทัพหน้าพม่าเสียชีวิตบนคอช้าง กองทัพของพม่าเห็นขวัญเสีย จึงถอยทัพกลับกรุงหงสาวดี พระแสงปืนที่ใช้ยิงสุรกรรมาตายบนคอช้างนี้ได้นามปรากฏต่อมาว่า“พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง"นับเป็นพระแสง อัษฎาวุธอันเป็นเครื่องราชูปโภคยังปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้ วันนี้
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระธาตุอินทร์แขวน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึง คิ้มปูนแค้มป์ ซึ่งเป็นจุดสำหรับทำการเปลี่ยนเป็นรถบรรทุกหกล้อ (เป็นรถประจำเส้นทางชนิดเดียวที่จะสามารถขึ้นพระธาตุอินทร์แขวนได้)ใช้เวลาเดินทางจากคิมปูนแค้มป์ถึงยอดเขาประมาณ 1 ชั่วโมง พิเศษสุด นำท่านนั่ง กระเช้าไฟฟ้า ขึ้นสู่ สถานีพระธาตุ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ให้ท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศอันสวยงามอีกแบบของการขึ้นชมพระธาตุอินแขวน **หมายเหตุ ในกรณีกระเช้าปิดหรือมีเหตุสุดวิสัยจากธรรมชาติที่ไม่สามารถขึ้นได้ ทางบริษัทฯจะเปลี่ยนเป็นขึ้นรถบรรทุกแทนโดยสงวนสิทธิ์การคืนเงินทุกกรณี**
เชิญทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยนำท่านชม เจดีย์ไจ้ทีโย หรือ พระธาตุอินทร์แขวน KyaikhtiyoPagoda (Golden Rock) แปลว่า ก้อนหินทอง อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร ลักษณะเป็นเจดีย์องค์เล็กๆ สูงเพียง 5.5 เมตร ตั้งอยู่บนก้อนหินกลมๆ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอย่างหมิ่นเหม่ แต่ชาวพม่ามักยืนกรานว่าไม่มีทางตก เพราะพระเกศาธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุอยู่ภายในพระเจดีย์องค์ย่อมทำให้หินก้อนนี้ทรงตัวอยู่ได้อย่างสมดุลเรื่อยไปตามคติการบูชาพระธาตุประจำปีเกิดของชาวล้านนา พระธาตุอินทร์แขวนนี้ให้ถือเป็นพระธาตุปีเกิดของปีจอ แทนพระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์โดยเชื่อว่าถ้าผู้ใดได้มานมัสการพระธาตุอินทร์แขวนนี้ครบ 3ครั้งผู้นั้นจะมีแต่ความสุขความเจริญพร้อมทั้งขอสิ่งใดก็จะได้สมดั่งปรารถนาทุกประการท่านสามารถเตรียมแผ่นทองคำไปเพื่อปิดทององค์พระธาตุอินทร์แขวน (เข้าไปปิดทองได้เฉพาะสุภาพบุรุษ ส่วนสุภาพสตรี สามรถอธิฐาน และฝากสุภาพบุรุษเข้าไปปิดแทนได้ **สำหรับจุดไหว้พระธาตุด้านบนจะมีบริการแผ่นทองคำเปลวราคาเริ่มต้น 2,000จ๊าต/ชุด**
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารในโรงแรม
จากนั้นท่านสามารถขึ้นไปนมัสการหรือนั่งสมาธิที่พระเจดีย์ได้ตลอดทั้งคืนแต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับสุภาพบุรุษ จะเปิดถึงเวลา 21.00 น. ควรเตรียมเสื้อกันหนาวหรือกันลมหรือผ้าห่มผ้าพันคอเบาะรองนั่งเนื่องจากบริเวณพื้นที่นั้นมีความเย็นมาก
หมายเหตุ : โรงแรมบนพระธาตุอินแขวน สร้างเพื่อความสะดวกสบายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปกราบนมัสการพระธาตุอินแขวน โรงแรมไม่ได้หรูหราเหมือนเมืองย่างกุ้งและมีโรงแรมจำกัด แต่ได้เรื่องความสะดวกจากการเดินทาง บางโรงแรมมีเป็นห้องพัดลม เนื่องจากบนเขามีอากาศเย็นสบาย และไม่สามารถเลือกหรือรีเควสโรงแรมได้
ที่พัก
Kyaikhto, Mountain Top , Yoyolae , Golden Rock Hotel
หมายเหตุ : ในกรณีพักโรงแรม Golden Rock Hotel จะขึ้นอินแขวนได้แค่ครั้งเดียวค่ะ
หมายเหตุ : โรงแรมบนพระธาตุอินแขวน สร้างเพื่อความสะดวกสบายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปกราบนมัสการพระธาตุอินแขวน โรงแรมไม่ได้หรูหราเหมือนเมืองย่างกุ้งและมีโรงแรมจำกัด แต่ได้เรื่องความสะดวกจากการเดินทาง บางโรงแรมมีเป็นห้องพัดลม เนื่องจากบนเขามีอากาศเย็นสบายและไม่สามารถเลือกหรือรีเควสโรงแรมได้
วันที่ 2
พระธาตุอินทร์แขวน - หงสาวดี - เจดีย์ไจ้ปุ่น - พระนอนชเวตาเลียว - พระนอนตาหวาน - พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
05.00 น.
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า อิสระตามอัธยาศัย สำหรับผู้ที่ต้องการใส่บาตรพระธาตุอินแขวน กิจกรรมนี้ไม่ได้บังคับนะคะ สำหรับอาหารที่จะใส่บาตรสามารถซื้อได้โดยจะมีร้านค้าจำหน่ายราคาอาหารเริ่มต้นชุดละ 3,000-10,000 จ๊าต
ดอกไม้ธูปเทียนเริ่มต้นชุดละ 2,000 จ๊าต ทำบุญตามอัธยาศัย
06.30 น.
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
07.30 น.
นำท่านอำลาที่พัก ออกเดินทางกลับ เปลี่ยนนั่งรถถึง คิมปุนแค้มป์ เปลี่ยนเป็นรถโค้ชปรับอากาศ เดินทางสู่ กรุงหงสาวดี
จากนั้น นำชม เจดีย์ไจ๊ปุ่น (Kyaik Pun Buddha) สร้างในปี 1476 มีพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทั้ง 4ทิศ สูง 30 เมตร ประกอบด้วย องค์สมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า (ผินพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ) กับพระพุทธเจ้าในอดีต สามพระองค์คือ พระพุทธเจ้ามหากัสสปะ (ทิศตะวันตก)เล่ากันว่าสร้างขึ้นโดยสตรีสี่พี่น้องที่มีพุทธศรัทธาสูงส่งและต่างให้สัตย์สาบานว่าจะรักษาพรหมจรรย์ไว้ชั่วชีวิต ต่อมา 1 ใน 4 สาวหนีไปแต่งงาน ร่ำลือกันว่าทำให้พระพุทธรูปองค์นั้นเกิดรอยร้าวขึ้นทันที
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร **เมนูพิเศษ กุ้งแม่น้ำเผาตัวใหญ่ท่านละ 1ตัว **
บ่าย
นมัสการ
พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว (ShewThalyang Buddha) กราบนมัสการพระพุทธรูปนอนที่ที่มีพุทธลักษณะที่สวยงามในแบบของมอญ ในปี พ.ศ.2524 ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่าทั่วประเทศและเป็นพระนอนที่งดงามที่สุดของ พม่าองค์พระยาว 55 เมตร สูง 16 เมตรถึงแม้จะไม่ใหญ่เท่าพระพุทธไสยาสน์เจ้าทัตจีที่ย่างกุ้ง แต่ก็งามกว่าโดยพระบาทจะวางเหลื่อมพระบาท เป็นลักษณะที่ไม่เหมือนกับพระนอนของไทยนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองย่างกุ้ง
จากนั้น
สักการะพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี (KyaukHtatgyi Buddha) หรือ พระนอนตาหวานนมัสการพระพุทธรูปนอนที่มีความยาว 55ฟุต สูง 16ฟุตซึ่งเป็นพระที่มีความพระที่มีความสวยที่สุดมีขนตาที่งดงามพระบาทมีภาพมงคล 108 ประการ
นำท่านชมและนมัสการ
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) พระเจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปีเจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง หรือ ตะเกิง ชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพม่าสถานที่แห่งนี้มี ลานอธิฐาน จุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียน ไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิรมงคลนอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศรวม 8องค์หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตพระเจดีย์นี้ได้รับการบูรณะและต่อเติมโดยกษัตริย์หลายรัชกาลองค์เจดีย์ห่อหุ้มด้วยแผ่นทองคำทั้งหมดน้ำหนักยี่สิบสามตันภายในประดิษฐานเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวนแปดเส้นและเครื่องอัฐะบริขารของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนทั้งสามพระองค์บนยอดประดับด้วยเพชรพลอยและอัญมณีต่างๆจำนวนมากและยังมีเพชรขนาดใหญ่ประดับอยู่บนยอดบริเวณเจดีย์จะได้ชมความงามของวิหารสี่ทิศซึ่งทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆงานศิลปะและสถาปัตยกรรมทุกชิ้นที่รวมกันขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของพุทธเจดีย์ล้วนมีตำนานและภูมิหลังความเป็นมาทั้งสิ้นชมระฆังใบใหญ่ที่อังกฤษพยายามจะเอาไปแต่เกิดพลัดตกแม่น้ำย่างกุ้งเสียก่อนอังกฤษกู้เท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นภายหลังชาวพม่า ช่วยกันกู้ขึ้นมาแขวนไว้ที่เดิมได้จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีซึ่งชาวพม่าถือว่าเป็นระฆังศักดิ์สิทธิ์ให้ตีระฆัง 3ครั้งแล้วอธิษฐานขออะไรก็จะได้ดั่งต้องการชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรโดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไปเช่นสีเหลือง, สีน้ำเงิน, สีส้ม, สีแดงเป็นต้น
วันเกิด
|
อาทิตย์
|
จันทร์
|
อังคาร
|
พุธ
|
พุธกลางคืน
|
พฤหัสบดี
|
ศุกร์
|
เสาร์
|
สัตว์สัญลักษณ์
|
ครุฑ
|
เสือ
|
สิงห์
|
ช้างมีงา
|
ช้างไม่มีงา
|
หนูหางยาว
|
หนูหางสั้น
|
พญานาค
|
คำไหว้พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
วันทามิอุตตมะชมพูวระฐาเนสิงกุตตะเรมะโนลัมเมสัตตังสะรัตนะ
ปฐมังกกุสันธังสุวรรณะตันตังธาตุโยธัสสะติทุติยังโกนาคะมะนังธัมมะการะนังธาตุโย
ธัสสะติตติยังกัสสปังพุทธจีวะรังธาตุโยธัสสะติจตุกังโคตะมังอัตถะเกศาธาตุโยธัสสะติ
อหังวันทามิตุระโตอหังวันทามิธาตุโยอหังวันทามิสัพพะทาอหังวันทามิสิระสา
*** อธิษฐานพร้อมด้วยใบไม้ที่แปลว่าชัยชนะและความสาเร็จ ***19.00 น.
บริการอาหารค่ำณ ห้องอาหารโรงแรม
เต็มอิ่มกับเมนูสุดพิเศษ บุฟเฟ่ต์นานาชาติซีฟู๊ดอาหารทะเลสดเติมไม่อั้น เชิญท่านอิ่มอร่อยกับอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติไม่จำกัดเวลาและพักผ่อนตามอัธยาศัย
ที่พัก
PARK ROYALYANGON HOTEL 5*
วันที่ 3
ย่างกุ้ง - สิเรียม - เจดีย์เยเลพญา - เจดีย์โบตะทาวน์ - เทพทันใจ - เทพกระซิบ - ตลาดสก๊อต - กรุงเทพฯ
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองสิเรียม (Thanlyin) ซึ่งอยู่ห่างจากย่างกุ้งประมาณ 45กิโลเมตรเมื่อเดินทางถึงสิเรียม ชมความสวยงามแปลกตาของเมือง ซึ่งเมืองนี้เคยเป็นเมืองท่าของโปรตุเกสในสมัยโบราณ ตั้งแต่ในสมัย นายพลฟิลิปเดอบริโต ยี นิโคเต จนมาสิ้นสุดเมื่อปีพ.ศ. 2156 ร่วมสมัยพระเจ้าทรงธรรมกรุงศรีอยุธยา ท่านจะเห็นเศษซากกำแพงสไตล์ ลูซิตา เนียนบาโรกตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำย่างกุ้งที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำอิระวดี นำท่านนั่งเรือ
ชม พระเจดีย์เยเลพญา (KyaikHwawWunPagoda) พระปางมารวิชัยอันงดงามบนเกาะกลางน้ำอายุนับพันปี เป็นที่สักการะของชาวสิเรียม เกาะนี้ไม่ว่าน้ำจะขึ้นสักเท่าไหร่ก็ไม่มีวันน้ำท่วมได้ ที่บริเวณท่าเทียบเรือบนเกาะ
นำท่านไหว้สักการะเพื่อขอพร พระจกบาตร หรือ พระอุปคุป ที่เป็นที่นับถือของชาวพม่าสามารถซื้ออาหารเลี้ยงปลาดุกตัวขนาดใหญ่นับร้อยๆ ตัวที่ว่ายวนเวียนให้เห็นครีบหลังที่โผล่เหนือผิวน้ำ
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับ ย่างกุ้ง
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร **เมนูพิเศษ เป็ดปักกิ่ง+สลัดกุ้งมังกร**
บ่าย
จากนั้น นำท่านขอพร นัตโบโบยีหรือพระเทพทันใจ เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทย วิธีการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบยี) เพื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปราถนาก็ ให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วยหรือผลไม้อื่นๆมาสักการะ นัตโบโบยี จะชอบมาก จากนั้นก็ให้เอาเงินจะเป็นดอลล่าบาทหรือจ๊าด ก็ได้ (แต่แนะนำให้เอาเงินบาทดีกว่าเพราะเราเป็นคนไทย)แล้วเอาไปใส่มือของนัตโบโบยีสัก 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึกกลับมา 1ใบ เอามาเก็บรักษาไว้จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยีแค่นี้ท่านก็จะสมตามความปรารถนาที่ขอไว้
จากนั้นนำท่านข้ามฝั่งไปอีกฟากหนึ่งของถนน เพื่อสักการะ เทพกระซิบ ซึ่งมีนามว่า “อะมาดอว์เมี๊ยะ” ตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้ารักษาศีล ไม่ยอมกิน เนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัตซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้วซึ่งการขอพรเทพกระซิบต้องไปกระซิบเบาๆ ห้ามคนอื่นได้ยิน ชาวพม่านิยมขอพรจากเทพองค์นี้กันมากเช่นกันการบูชาเทพกระซิบบูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้
จากนั้น นำท่านเที่ยวชม ตลาดโบโจ๊ก อองซาน (BogyokeAung San) หรือ ตลาดสก๊อต (Scot Market) เป็นตลาดเก่าแก่ของชาวพม่า สร้างขึ้นโดยชาวสก๊อตในสมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เป็นลักษณะอาคารเรียงต่อกันหลายหลัง สินค้าที่จำหน่ายในตลาดแห่งนี้มีหลากหลายชนิด เช่น เครื่องเงิน ที่มีศิลปะผสมระหว่างมอญกับ พม่าภาพวาด งานแกะสลักจากไม้ อัญมณี หยก ผ้าทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป แป้งทานาคา เป็นต้น (หากซื้อสิ้นค้าหรืออัญมณีที่มีราคาสูงควรขอใบเสร็จรับเงินด้วย ทุกครั้ง เนื่องจากจะต้องแสดงให้ศุลกากรตรวจ)
สมควรเวลาเดินสู่ สนามบินนานาชาติมิงกาลาดง
19.25 น.
ออกเดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 258
21.15 น.
เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม