วันที่ 3
เบลด - ถ้ำโพสทอยน่า - ซาเกรบ(โครเอเชีย)
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ “ถ้ำโพสทอยน่า” (POSTOJNA)(ระยะทาง 102 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) / ได้เวลาอันสมควร นำท่าน เข้าชมถ้ำโพสทอยน่า โดยการนั่งรถรางไฟฟ้าของทางถ้ำ (15-20 นาที) จากนั้นเดินชมถ้ำซึ่งถือว่าเป็นถ้ำที่สวยที่สุดในยุโรป มีอายุเก่าแก่กว่า 2 ล้านปี มีความยาวภายในถ้ำถึง 27 กิโลเมตร ผ่านลำธาร เขื่อนเก็บน้ำใต้ดินภายในถ้ำ (ระยะทางเดินประมาณ 2-3 กิโลเมตร) ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยหลากหลายแบบและสีสันสวยงามสุดพรรณนา มีห้องต่างๆ ภายในถ้ำมากมายลดหลั่นเป็นชั้นๆ ราวกับเนรมิตขึ้นมาจากสวรรค์
ท่านจะได้ชมความแปลกของ ปลามนุษย์ (Human Fish) ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกมากกว่า 10 ล้านคนมาเยือนถ้ำแห่งนี้อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย**อุณหภูมิในถ้ำเฉลี่ย 9 องศาเซลเซียส ควรสวมเสื้อคลุมกันหนาวเข้าไปด้วย**
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง บริเวณหน้าถ้ำโพสทอยน่า
บ่าย
นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศข้ามพรมแดนสู่ กรุง “ซาเกรบ”(ZAGREB) (ระยะทาง 198 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) (มีการตรวจวีซ่าก่อนข้ามพรมแดน) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย (CROATIA) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี โดยเมืองซาเกรบได้เฉลิมฉลองครบรอบ 900 ปี ในปี ค.ศ.1994 ที่ผ่านมาเป็นเมืองหลวงที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมและสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์มากมาย และเป็นหัวใจของการปกครอง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศ
นำท่านชม มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen's) (การเข้าชมขึ้นอยู่กับวันและเวลา อาจมีการปิดหรือมีการทำพิธี) สถาปัตยกรรมที่มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี และปัจจุบันได้บูรณะ ปฏิสังขรณ์ในสไตล์นีโอ-โกธิค งดงามด้วยหอคอยแฝดปลายแหลมสีทองอร่าม ภายในประดิษฐานรูปนักบุญองค์สำคัญต่างๆ เช่น นักบุญเซนต์ปีเตอร์, เซนต์ปอลล์ ฯลฯ ชมอักษรโบราณที่เป็นอักษรภาพที่มีอายุนับพันปี
นำท่านชม เมืองตอนล่าง (Lower Town) จัตุรัสกลางเมืองที่ล้อมรอบด้วยห้างร้านนำสมัย แหล่งชุมชนและศูนย์กลางเมืองของชาวซาเกรบ อันเป็นจุดที่รถรางสายสีฟ้าทั้งรุ่นใหม่และเก่า มาประจบกันที่นี่
ชม อนุสาวรีย์ Ban Josip Jelacic นายพลผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อความอิสระจากชาวฮังการี เมื่อปี ค.ศ. 1848
ต่อด้วยนำท่าน ย่าน Flower Square อันเป็นที่ตั้งของโบสถ์ออโธดอก ที่มีเพียงไม่กี่แห่งในกรุงซาเกรบ
นำท่านขึ้น รถรางไฟฟ้า (Funicular) สู่ เมืองตอนบน Upper Town เป็นรถรางสายที่สั้นที่สุดในยุโรป โดยใช้เวลาในการขึ้นเพียง 57 วินาที ชมวิวทิวทัศน์จากจุดชมวิวของเมืองตอนบน ที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 17 ที่มีซุ้มประตูหินเป็น
ผ่านชมโบสถ์ เซนต์ มาร์ก (St. Mark Church) ที่มีหลังคาสวย แปลกตา ไม่เหมือนที่ไหนใดในโลก ชมประตูเมืองโบราณ เป็นที่ตั้งของ รูปไอคอนพระแม่มารี ที่รอดพ้นจากเหตุไฟไหม้ในสมัย ศตวรรษที่ 19 โดยในเหตุการณ์ตอนนั้นทุกอย่างถูกเผาไหม้ มีเพียงรูปไอคอนที่ยังคงเหลือ จนทำให้ผู้คนมากราบไหว้บูชาขอสิ่งปาฏิหารย์ และมีการนำแผ่นหินอ่อนเขียนคำว่า ฮวา-ล่า (HVALA) แปลว่า “ขอบคุณ” มาติดไว้ตามผนังจนเต็มไปหมด
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
โรงแรมที่พักระดับ 4 - 5 ดาว หรือระดับเทียบเท่า
วันที่ 4
ซาเกรบ - อุทยานแห่งชาติ พลิทวิเซ่ - ซาดาร์
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่ “อุทยานแห่งชาติ พลิตวิเซ่” National Park Plitvice Jezera (ระยะทาง 130 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
ระหว่างทางแวะถ่ายรูปที่ พิพิธภัณฑ์สงครามกลางแจ้ง ณ เมือง “คาโลวัช” Karlovac เมืองผลิตเบียร์ชื่อดังของประเทศโครเอเชีย ผ่านชมธรรมชาติและความงามของทิวทัศน์สองข้างทางที่รายล้อมด้วยป่าเขาสลับ ทุ่งหญ้า ฟาร์มเกษตร
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านชมความสวยงาม อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ (National Park Plitvice Jezera) ที่ตั้งอยู่ใจกลางของประเทศ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปี 1979 อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 269 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำมีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา ท่านจะเพลิดเพลินเดินชมความงามของทะเลสาบและน้ำตกที่ไหลรวยรินลงสู่ทะเลสาบทั่วทุกหนทุกแห่งนำท่านเดินชมธรรมชาติอันสวยงาม ชมฝูงปลาแหวกว่ายในสระน้ำใสราวกระจกสะท้อนสีครามของท้องฟ้า แวดล้อมด้วยหุบเขา ต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น
นำท่านสู่ท่าเรือ ล่องเรือข้าม KOZJAK LAKE ที่เชื่อมระหว่างทะเลสาบล่างขึ้นสู่ชั้นบนของอุทยาน (LOWER & UPPER LAKE) จากนั้นเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามและอลังการของ LOWER LAKE ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และงดงามท่ามกลางหุบเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่าน อีกทั้งยังเชื่อมต่อด้วยน้ำตกต่างๆมากมาย นำท่านเดินชมทะเลสาบต่างๆ ตามทางเดินสะพานไม้ที่เชื่อมแต่ละทะเลสาบเข้าด้วยกันทั้ง 16 แห่ง และนอกจากนั้นบริเวณรายล้อมยังเต็มไปด้วยถ้ำน้อยใหญ่และชม Big Waterfalls ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งนี้
จากนั้นนำท่านเดินทางออกจากพลิทวิเซ่ ตอนกลางของประเทศโครเอเชียสู่เมือง “ซาดาร์” (ZADAR) (ระยะทาง 119 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง) แคว้น “ดัลมาเชีย” เป็นแคว้นทางตอนใต้ที่มีลักษณภูมิอากาศและภูมิประเทศแบบเมดิเตอร์เรเนียนขนานแท้ หากใครเคยได้ยินชื่อหรือรู้จักสุนัขพันธุ์ “ดัลมาเชี่ยน” ดินแดนดัลมาเชียน แห่งนี้คือต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์นี้นี่เอง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก
โรงแรมที่พักระดับ 4 - 5 ดาวหรือระดับเทียบเท่า
วันที่ 5
ซาดาร์ - ซีบีนิค - โทรเกียร์ - สปลิท
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมือง “ซีบีนิค” (SIBENIK) (ระยะทาง 90.2 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่านชมตัวเมืองเก่าริมฝั่งทะเลอาเดรียติก ที่มีหลังคาอาคารบ้านเรือนทำด้วยกระเบื้องสีแสด สไตล์เรอเนอซองส์ ที่ได้รับอิทธิพลจากทางอิตาลี
ชม สภาว่าการเมืองเก่า THE OLD LOGGIA ที่สร้างขึ้นราว ค.ศ. 15 ผ่านเมืองเก่าที่ถูกสร้างขึ้นในยุคโบราณ
ชม มหาวิหารเซนต์เจมส์ (St. James) หรือ เซนต์จาคอบ (St. Jakob) ที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมอิตาเลี่ยน – ดัลเมเชี่ยนได้อย่างลงตัวงดงามด้วยยอดโดมและหลังคาที่ประดับด้วยแผ่นหิน จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ ในปี ค.ศ.2000
จากนั้นเมื่อได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมือง “โทรเกียร์” (TROGIR) (ระยะทาง 46.6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที)เมืองสวยที่เป็นมรดกโลก ระหว่างทางผ่านชมเมืองที่มีสภาพเป็นเกาะอยู่โดดเดี่ยวสวยงามมีชื่อเสียงของโครเอเชีย คือ เมืองพรีโมสเตน ซึ่งเป็นเมืองเล็กที่สวยงามและเป็นเกาะเล็กๆ ในสมัยก่อนมีคนยกย่องให้ชาวเมืองนี้เป็นชาวเมืองที่มีความอดทนมาก ต่อการใช้ชีวิตเนื่องจาก ภูมิประเทศเป็นภูเขาหินแต่ยังอุตสาหะปลูกพืชและทำการเกษตรกรรม
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านชม เขตเมืองเก่าโทรเกียร์ ที่มีสถาปัตยกรรมในสไตล์ กรีก– โรมันโบราณ อาทิเช่น ประตูเมืองเก่า ที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อศตวรรษที่ 16, หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14
ผ่านชม มหาวิหารเซ็นต์ลอร์เลนซ์ ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาก่อสร้างนับสิบปี ที่มีความงดงามด้วยกรอบและบานประตูหินแกะสลัก มีรูปปั้นสิงโต อดัม&อีฟและรูปสลักนักบุญเซนต์ลอร์เลนต์องค์สำคัญ ที่ผู้สร้างมหาวิหารแห่งนี้อุทิศให้ มีเวลาให้ท่านเดินเล่นในเมืองเก่า เลือกซื้อสินค้าท้องถิ่นที่ระลึกมากมายในเขตเมืองเก่าโทรเกียร์แห่งนี้
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมือง “สปลิท” (SPLIT) (ระยะทาง 28.4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศโครเอเชีย เป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของโครเอเชีย สามารถนั่งเรือข้ามฟากระหว่างประเทศไปที่ประเทศอิตาลีได้ ณ เมืองแห่งนี้
นำท่านชม “พระราชวังดิโอคลีเชี่ยน” ที่สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเชี่ยนที่ต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 10 ปี UNESCO ในยุคสมัยของจักรพรรดิ์ดิโอเคลีเชี่ยน เป็นช่วงยุคสมัยเริ่มต้นของจักรวรรดิโรมันตะวันออก หรือ จักรวรรดิไบแซนไทน์นั่นเอง พระราชวังดิโอเคลเชี่ยนได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979 ชมห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ชมลานกว้างซึ่งล้อมไว้ด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้านและเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม
อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัยไม่ว่าจะเป็นสินค้าพื้นเมือง, ร้านเนคไท, ร้านรองเท้า, ร้านช็อคโกแลต, ร้านเครื่องหนัง, ร้านกระเป๋า และอื่นๆอีกมากมาย หรือหากท่านใดไม่ชอบการช้อปปิ้งอาจมานั่งดื่มกาแฟบริเวณหน้าอ่าว ที่เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟ เรียงรายตลอดแนวกำแพงฝั่งที่ติดกับทะเล ดูวิถีชีวิตของผู้คนชาวสปลิท และนั่งนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนเมืองสวยแห่งนี้
ค่ำ
รับประทานอาคารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
โรงแรมที่พักระดับ 4 - 5ดาว หรือระดับเทียบเท่า
วันที่ 6
สปลิท - มาลี สตอน - ดูบรอฟนิค
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ “อ่าวมาลี สตอน” (MALI STON) (ระยะทาง 211 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชั่วโมง) ก่อนเดินทางถึง เมืองมาลี สตอน
ท่านจะได้ข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศบอสเนีย (แวะถ่ายรูปและซื้อของฝากพื้นเมือง) บริเวณเมืองที่มีชื่อว่าว่า เมืองนีอุม เป็นประเทศเพื่อนบ้านของโครเอเชีย โดยประชากรส่วนใหญ่ก็เป็นชาวโครเอเชีย (มีการตรวจวีซ่า) ต่อด้วยนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนอีกครั้งหนึ่งเพื่อกลับเข้าสู่ ประเทศโครเอเชีย
เดินทางถึง เมืองมาลี สตอน เป็นที่ตั้งของสถานที่เพาะพันธุ์หอยนำท่านล่องเรือเยี่ยมชม ฟาร์มเลี้ยงหอย ชมขั้นตอนต่างๆ ของการเลี้ยงหอยแล้วให้ท่านได้ชิมหอยนางรมสดๆ จากทะเลอาเดรียติก พร้อมด้วยเครื่องเคียง จิบไวน์สดเติมเต็มรสชาติ ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามของอ่าวมาลี สตอน
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมือง “ดูบรอฟนิค”(DUBROVNIK) (ระยะทาง 53.3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติก เมืองทางตอนใต้ของสาธารณรัฐโครเอเชีย เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย และเป็นเมืองที่สวยงามติดอันดับต้นๆของโลก ซึ่งในอดีตเมื่อปี 1991 เมืองดูบรอฟนิค ได้เป็นเป้าหมายถูกโจมตีจากกองทหารยูโกสลาฟ บ้านเรือนกว่าครึ่ง อนุสาวรีย์ต่างๆ เสียหาย และทรุดโทรม และหลังจากนั้นในปี 1995 ได้มีการได้มีการลงนามในสนธิสัญญา ERDUT สงบศึก และเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ UNESCO และสหภาพยุโรป ได้ร่วมกันบูรณะ ซ่อมแซม เมืองส่วนที่เสียหายขึ้นใหม่ในระยะเวลาอันสั้น ปัจจุบันเมืองดูบรอฟนิค ก็กลับมาสวยงามอีกครั้ง และมีการส่งเสริมให้เป็นมรดกโลกอีกเมืองหนึ่งชมทัศนียภาพของเมืองซึ่งดูบรอฟนิค ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลอาเดรียติค ตัวเมืองจะเป็นป้อมปราการโบราณที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
ชมแนว กำแพงป้อมปราการ ที่มีขนาดกว้างขวางใหญ่โต ที่ท่านสามารถขึ้นไป ชมความงดงามของตัวเมืองได้อย่างดี ได้เวลาอันสมควร ชมกำแพงเมืองโบราณขึ้นชมความสวยงามของแนวหลังคาสีส้มตระหง่านไปทั้งเมืองเก่า กำแพงแห่งนี้มีความยาวรวมกันประมาณ 2 กิโลเมตร ท่านจะได้เพลิดเพลินชมความสวยงาม โดยว่ากันว่าใครมาเมืองดูบรอฟนิคแล้วไม่ได้ขึ้นมาชมกำแพงเมืองโบราณแห่งนี้ ถือว่ามาไม่ถึงดูบรอฟนิ
จากนั้นให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกบริเวณ จัตุรัสกลางเมือง ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบและประกอบกิจกรรมของชาวเมืองในอดีต รวมถึงสถานที่ลงโทษผู้กระทำผิดด้วย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกกับ เสาหินอัศวิน, หอนาฬิกา ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1444 หน้าปัดทำด้วยเหล็ก มีความพิเศษตรงลูกกลมๆ ใต้หน้าปัดซึ่งแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อน และรูปปั้นของ นักบุญ St. Blaise ซึ่งมีโบสถ์ประจำเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลังเพิ่มเสน่ห์มนต์ขลังสวยสดงดงาม
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง เมนูพิเศษ กุ้ง LOBSTER ย่าง เสิร์ฟพร้อมสปาเก็ตตี้ ริมทะเลอาเดรียติค
ที่พัก
โรงแรมที่พักระดับ 4 - 5 ดาว
วันที่ 7
ดูบรอฟนิค - กอตอร์(มอนเตเนโกร) - บุดวา
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
ช่วงเช้ามีเวลาช่วงสั้น ๆ ให้ท่านได้อิสระพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สถานีเคเบิลคาร์ เพื่อขึ้น กระเช้าไฟฟ้า สู่ยอดเขา SRD ที่มีความสูง 400 เมตร เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีและความงดงามทะเลอาเดรียติก ยามสีน้ำเงินของทะเลอาเดรียติกตัดกับสีส้มแสดของกระเบื้องหลังคาเมืองเก่า สวยงามเกินจินตนาการมากว่าคำบรรยายใด ๆ
ได้เวลาอันสมควรนำท่านช้อปปิ้งละลายเงินคูน่าก่อนเดินทางออกจากประเทศโครเอเชีย ซื้อของฝากจาก “Konzum” ซุปเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นที่มีสินค้าหลากหลายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “KRAS”ช็อคโกแลตท้องถิ่นยี่ห้อที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปตะวันออก, ไวน์โลกเก่าท้องถิ่น “Dingac”, “Postup” จากองุ่นพันธุ์ท้องถิ่น “Plavac Mali”คุณภาพระดับเดียวกับไวน์ฝรั่งเศสหรืออิตาเลี่ยน และสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย อิสระให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านข้ามพรมแดนสู่ ประเทศมอนเตเนโกร (MONTENEGRO) แปลความหมายเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า BLACK MOUNTAIN หรือ "ภูเขาสีดำ" ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์คริสเตียน ปัจจุบันมอนเตเนโกร เป็นประเทศสมาชิของสหประชาชาติ และพยายามร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป
พิเศษ !! นำท่าน ล่องเรือข้ามฝั่งจาก “ท่าเรือคาเมนาริ” (Kamenari) สู่ “ท่าเรือเลเปทาเน่” (Lapetane) ท่านจะได้ชื่นชมความสวยงามของทะเลอาเดรียติค ผสมผสานด้วยทิวทัศน์ของภูเขา ทุกท่านจะได้สัมผัสการท่องเที่ยว “ประเทศมอนเตเนโกร” (Montenegro) ในอีกสไตล์หนึ่ง
นำเดินทางสู่ เมือง “กอเตอร์” (KOTOR) มรดกโลก UNESCO แห่งแรกของประเทศมอนเตเนโกรที่ได้รับการรับรองในปี ค.ศ.1979 ระหว่างทางท่านจะได้ชมเมืองเก่าและธรรมชาติที่สวยงาม
นำท่านชม ST.TRIPHUN CHURCH โบสถ์นิกายคาทอลิก และ ST.NIKOLA CHURCH โบสถ์นิกายออโธดอกซ์
นำท่านสู่ เมือง “บุดวา” (BUDVA) (ระยะทาง 94 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.15 ชั่วโมง)เป็นเมืองโบราณตั้งอยู่บนชายฝั่งอาเดรียติค เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งที่ตั้งอยู่รอบทะเลอาเดรีตติค โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 2,500 ปี ปัจจุบันได้รับฉายาว่าเป็น “ริเวียร่าแห่งมอนเตเนโกร”
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก
โรงแรมที่พักระดับ 4-5 ดาว
วันที่ 8
บุดวา - พอตกอริซ่า - สนามบิน - เวียนนา - เอาท์เลทพาร์นดอฟ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเที่ยวชม เมืองเก่า “บุดวา” (BUDVA) เมืองติดชายหาดที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวอย่างหนาแน่น
นำท่านชม ST.JOHN CHURCH โบสถ์คาทอลิก ซึ่งใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมของบาทหลวงสมัยก่อน
ชม SANTA MARIA CHURCH และ CHURCH OF TRINITY ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามมีเวลาให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าของฝากจากเมืองบุดว่าได้ตามอัธยาศัย
และเมื่อได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ กรุง พอดกอริซ่า เมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกร
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ สนามบิน พอดกอรีซา สนามบินนานาชาติ ณ เมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกร
15.00 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดย ออสเตรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบิน OS 728 (ใช้เวลาบิน ประมาณ 1:40 ช.ม.)
16.40 น.
เดินทางถึง กรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย
พิเศษ!!! นำท่านเดินทางออกนอกสนามบิน เพื่อช้อปปิ้ง ณ พาร์นดอร์ฟเอาท์เลท สถานที่ช้อปปิ้งเอาท์เลทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรีย
หมายเหตุ: วันจันทร์ – วัพฤหัสบดี เปิด 09.30 น. – 20.00 น.
วันศุกร์ เปิด 09.30 น. – 21.30 น.
วันเสาร์ เปิด 09.00 น. – 18.00 น.
วันอาทิตย์ปิด
**เพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้งของท่าน อิสระมื้อเย็นตามอัธยาศัย**
19.30 น.
นำท่านเดินทางกลับสู่ สนามบินเวียนนา
หมายเหตุ ระหว่างรอเครื่องในสนามบินเวียนนา ท่านสามารถซื้อสินค้าในสนามบิน หากราคาสินค้าใน บิลเดียวกันเกิน 75 ยูโร สามารถทำภาษีคืนได้ (TAX REFUND) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ INFORMATION สนามบินเวียนนา
23.20 น.
ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบิน OS 025 (ใช้เวลาบิน ประมาณ 10 ชั่วโมง
14.20 น.
เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ