21.00 น.
พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตู 4 เคาน์เตอร์ D16-19 สายการบินไทย เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านกระเป๋าและการเช็คอิน จากนั้นเชิญรอ ณ ห้องพักผู้โดยสารขาออก
หมายเหตุ : ทางบริษัทฯได้จัดเตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ 15 วันก่อนการเดินทาง โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน,เช่ารถโค้ช,จองโรงแรมที่พัก,ร้านอาหาร ตลอดจนสถานที่เข้าชมต่างๆ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมให้กับกรุ๊ปทัวร์ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์อันสุดวิสัย อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน,การล่าช้าของสายการบิน,การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน),การนัดหยุดงาน,การก่อการจลาจล,ภัยธรรมชาติ รวมถึงการถูกปฏิเสธการเข้าเมือง อันเป็นผลทำให้การเดินทางล่าช้า หรือ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้ตามโปรแกรม หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ท่านได้ชำระมาแล้ว เพราะทางบริษัทฯได้มีการตกลงชำระค่าใช้จ่ายต่างๆไว้ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายใดๆที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัทฯ มิอาจรับผิดชอบได้
วันที่ 3
เบลด - ล่องเรือทะเลสาบเบลด - ลูบลิยานา - ถ้ำโพสทอยน่า - โอบาเทีย (โครเอเชีย)
07.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น.
นำท่าน ล่องเรือ ชมความงามของ ทะเลสาบเบลด ตัวทะเลสาบเกิดจากการกัดเซาะของ ธารน้ำแข็งโบฮินจ์ (Bohinj Glacier) ในยุคน้ำแข็ง แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ น้ำในทะเลสาบไม่ได้มาจากการละลายของธารน้ำแข็ง แต่มาจากบ่อน้ำร้อนใต้ดินหลายแห่ง น้ำในทะเลสาบนี้จึงใสบริสุทธิ์ และไม่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว
เรือล่องผ่าน ปราสาทเบลด (Bled Castle) ที่ตั้งอยู่บนริมผา ติดทะเลสาบเป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุด จักรพรรดิ์เฮนริคที่ 2 แห่งเยอรมันยกให้เป็นสถานที่พักของ บิชอป อัลเบี่ยม แห่งบริเซน (Bishop Albium of Brixen) ในปี ค.ศ.1004
เดินทางต่อสู่ กรุงลูบลิยานา (Ljubljana) เข้าสู่ จัตุรัสเพรเซเรน จัตุรัสกลางเมืองเป็นจัตุรัสที่มีความสำคัญเช่นเดียวกับจัตุรัสบันไดสเปนในกรุงโรมมีรูปปั้นของ ฟรานซ์ เพรเซเรน กวีที่มีชื่อเสียงของสโลเวเนียเป็นสัญลักษณ์ความรักชาติและเสรีภาพ ใกล้จัตุรัสเป็นโบสถ์ในนิกายฟรานเซสกัน ศิลปะในแบบอาร์ตนูโว
12.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำคณะเดินทางไปเที่ยวชม ถ้ำโพสทอยน่า เปิดให้บริการมากว่า 188 ปี และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 31 ล้านคน เป็นถ้ำที่สวยที่สุดในยุโรป ภายในถ้ำเชื่อมต่อถึงกันเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร เข้าชมภายในถ้ำโดยขบวนรถรางไฟฟ้าที่เปิดให้บริการในปี 1884 อุณหภูมิภายในถ้ำโดยเฉลี่ย 8-10 องศาเซลเซียส ชมส่วนที่ใหญ่ที่สุดภายในถ้ำที่เรียกว่า Classic Karst ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยหลากหลายแบบและสีสันสวยงามสุดพรรณนา ภายในถ้ำยังมีห้องต่างๆ มากมาย ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ราวกับเนรมิต
17.00 น.
ออกเดินทางสู่ เมืองโอบาเทีย เมืองตากอากาศแบบริเวียร่าที่มีอากาศดีตลอดทั้งปี ตัวเมืองลดหลั่นไปตามไหล่เขา เป็นทั้งวิลล่าตากอากาศ, โรงแรมชั้นนำ, แหล่งบันเทิงและร้านอาหาร จัตุรัสกลางเมืองมีรูปปั้นสตรีและนกนางนวล อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง อิสระให้ท่านพักผ่อนกับบรรยากาศชั้นเลิศ
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
HOTEL MILENIJ OPATIJA หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 4
โอบาเทีย - ซาเกรบ เที่ยวชมเมืองหลวงอันเก่าแก่
08.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น.
ออกเดินทางสู่ นครซาเกรบ เมืองหลวงอันเก่าแก่ ศูนย์กลางการปกครอง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศโครเอเชีย
12.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำคณะเที่ยวชมเมือง เริ่มต้นเดินทัวร์จาก จัตุรัสมหาวิหารเซนต์สตีเฟน โบสถ์เก่าแก่ที่มีอายุเกือบ 1,000 ปี เห็นได้จากทุกมุมของเมือง หลังจากถูกกองทัพมองโกลทำลาย ในคริสต์ศตวรรษที่ 13 และแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1880 ก็ได้รับการซ่อมแซมใหม่ให้เป็นรูปแบบนิโอโกธิคดังที่เห็นในปัจจุบัน
ชม ตลาดโดแลค ตลาดกลางแจ้งที่กล่าวกันว่า เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป
ชม ประตูเมืองเก่าสโตนเกท ประตูเมืองที่ยังหลงเหลือมีรูปพระแม่มารีอยู่ รอดพ้นจากไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1731 เชื่อกันว่าเกิดจากปาฏิหาริย์อันศักดิ์สิทธิ์
เข้าสู่ จัตุรัสมหาวิหารเซนต์มาร์ค ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าซาเกรบ สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 13 หลังคามุงด้วยกระเบื้องสีต่างๆ ซึ่งเป็นรูปตราสัญลักษณ์ของ ซาเกรบ โครเอเชีย สลาโวเนีย และดาลมาเชีย รอบๆ จัตุรัสเรียงรายไปด้วย ทำเนียบประธานาธิบดีและรัฐสภา บันทึกภาพแบบพาโนรามา ที่จุดชมวิวตัวเมืองเก่าเขตอัพเพอร์ทาวน์
แล้วนั่งรถรางสู่ โลเวอร์ทาวน์ เขตชุมชนย่านใจกลางเมือง ณ จัตุรัสเยลาซิค ย่านการค้าและศูนย์กลางของเมือง อีกทั้งยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งอันทันสมัยของคนเมือง ร้านค้าและร้านขายของที่ระลึกเรียงรายให้ท่านได้เพลิดเพลินตามอัธยาศัย
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
WESTIN HOTEL ZAGREB หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 5
นครซาเกรบ - อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ - เดินเที่ยวชมอุทยานฯ - สปลิต
07.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น.
เดินทางสู่เมืองพลิตวิเซ่ (Plitvice) แห่งแคว้น Istria & Kvarner ระหว่างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติ และความงามของทิวทัศน์สองข้างทางที่รายล้อมด้วยป่าเขาสลับทุ่งหญ้า ฟาร์มการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์
12.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่ (Plitvice Lakes National Park) ตั้งอยู่ในกลางของประเทศ ถูกค้นพบขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1949 เดินชมธรรมชาติไปตามทางเท้าที่จัดไว้เป็นสัดส่วน ลัดเลาะไปตามทะเลสาบและน้ำตกที่สูงตระหง่าน เป็นอุทยานธารสวรรค์ตามธรรมชาติแห่งยุโรป พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำ มีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้ารวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา บางช่วงเป็นน้ำตกแบ่งเป็น 2 ระดับ น้ำตกที่สูงที่สุดมีความสูง 639 เมตร ที่ต่ำสุดมีความสูง 503 เมตร
นำท่าน ล่องเรือข้ามทะเลสาบ Kozjak เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานฯ องค์การยูเนสโก้จึงได้รับเอาไว้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979
สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางสู่ เมืองสปลิต (Split) เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของโครเอเชีย รองลงมาจากเมืองซาเกรบ ในแคว้นดัลเมเชียนซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธ์ดัลเมเชียน ที่นี่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ, วัฒนธรรมและการคมนาคมที่สำคัญที่สุดของเขตชายทะเล ด้วยมีสนามบินนานาชาติที่สามารถรองรับการเดินทางทางภาคใต้ของโครเอเชียกับหลายเมืองในยุโรป
20.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
RADISSON BLU RESORT SPLIT หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 6
สปลิต - ซีบีนิก - มหาวิหารเซนต์เจมส์ - พระราชวังดิโอคลีเธียน
07.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น.
นำคณะเดินทางสู่ เมืองซีบีนิก (Sibenik) ซึ่งถูกบันทึกในเอกสารตั้งแต่ปี ค.ศ.1066 ในชื่อ แคสทรัม ซีบีนิซี (Castrum Sebenici) เติบโตจากอิทธิพลภายใต้การปกครองของ ฮังกาเรียน-โครแอต รวมถึงเวเนเชียน ขึ้นชมวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาบนป้อมปราการ ANNE ที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึกในยุคกลาง
นำชมสถานที่สำคัญที่สุดของเมืองคือ มหาวิหารเซนต์เจมส์ สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1431-ค.ศ.1535 เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานกันระหว่าง 3 ศิลปกรรมคือ ดัลเมเชียน (ท้องถิ่น), ศิลปะทางเหนือของอิตาลี และทัสคานี สถาปนิคทั้ง 3 ท่าน ได้ใช้เทคนิคชั้นสูงในการสร้างห้องโถงสูงใหญ่และโดมครึ่งวงกลม ทั้งวิหารล้วนสร้างด้วยหินทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของศิลปะโกธิค และเรอเนสซองค์ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน โดยยูเนสโก้ยกให้มหาวิหารแห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2000
12.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
เดินทางกลับสู่เมืองสปลิต (Split) เขตเมืองโบราณสปลิต เป็นที่ตั้งของพระราชวังดิโอคลีเธียน (Diocletian’s Palace) สร้างในราวศตวรรษที่ 3 บนอ่าวอัสพาลาโธส โดยดิโอคลีเธียน จักรพรรดิแห่งโรม ซึ่งพระองค์ทรงพำนักที่พระราชวังแห่งนี้จนสิ้นชีพ ในปี ค.ศ. 305 ชมร่องรอยของพระราชวังที่มีอายุกว่า 1,700 ปี ด้านในเป็นมหาวิหารสร้างในยุคกลางและป้อมปราการ เดิมเพื่อป้องกันข้าศึก UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย อิสระให้ท่านพักผ่อนหย่อนใจบน พรอมมินาด ถนนเลียบทะเลที่งดงามของเมือง
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
RADISSON BLU RESORT SPLIT หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 7
สปริต - เนอุม (บอสเนีย - เฮอเซโกบีนา) - ดูบรอฟนิก - เมืองโบราณ - ขึ้นกำแพงเมืองเก่า
07.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น.
เดินทางสู่ เมืองดูบรอฟนิก ผ่านอาณาเขตดินแดนของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ผ่านเมืองสตอน ที่มีฟาร์มเลี้ยงหอยนางรมอยู่มากมาย ที่มีกำแพงเมืองล้อมรอบตัวเมืองเก่าบนยอดเขาโดยกำแพงเมืองนี้มีความยาว 5.5 กม. โดยมีความยาวเป็นอันดับหนึ่งของยุโรป และเป็นอันดับสองรองจากกำแพงเมืองจีน
เข้าสู่เมืองดูบรอฟนิก (Dubrovnik) เมืองดูบรอฟนิกเป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป สมญานามไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก เป็นเมืองที่มีอำนาจทางทะเลตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และมีความเจริญรุ่งเรืองทางการค้า จึงได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้โดดเด่น ด้วยการตกแต่งพระราชวัง, สร้างโบสถ์, วิหาร สร้างจัตุรัสและน้ำพุ บ้านเรือนต่างๆ ได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างงดงามตามยุคสมัย เสน่ห์ของเมืองอยู่ที่เขตเมืองเก่า (Old Town) ซึ่งตั้งอยู่ในโอบล้อมกำแพงโบราณสูงตระหง่าน ตรงบริเวณพื้นที่ริมทะเลอาเดรียติก เป็นเขตชุมชนเริ่มแรกที่บรรพบุรุษชาว ดูบรอฟนิกมาสร้างบ้านแปงเมืองไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 และสร้างกำแพงเมืองแข็งแรงขึ้นล้อมเมืองไว้ในศตวรรษที่ 13 เพื่อป้องกันภัยจากศัตรู เช่น พวกอาหรับ เวเนเชียน มาชีโดเนียนและเซิร์บ ภายในเขตเมืองเก่ามากมายด้วยสิ่งก่อสร้างโบราณ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้
12.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำเที่ยวชม เมืองเก่าดูบรอฟนิก (Grad) โดยเริ่มต้นจากประตูหลัก (Pile Gate), น้ำพุโบราณทรงกลม (Onfrio Foutain), โบสถ์ฟรานซิสกัน ในสถาปัตยกรรมโกธิก ภายในมีร้านขายยาที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1391
ชม สปอนซ่าพาเลซ (The Sponza Palace) พระราชวังเดิม งดงามในสถาปัตยกรรมโกธิกผสมเรอเนซองส์ เป็นหอจดหมายเหตุที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นเมืองท่าการค้าขายทางทะเลในอดีตจัตุรัสกลางเมือง (Loggia) ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบของชาวเมืองในอดีตโบสถ์เซนต์เบลซ (St.Blaise) นักบุญประจำเมือง สไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลัง
เข้าชม เรคเตอร์พาเลซ (Rector’s Palace)อดีตเคยเป็นที่ทำการรัฐบาล ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวต่างของเมืองโบราณแห่งนี้
นำท่านชมเมืองแบบ พาโนรามาวิวบนกำแพงเมืองโบราณ ที่โอบล้อมรอบเมืองเก่ายาวถึง 1,940 เมตร
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
SHERATON DUBROVNIK RIVIERA HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 8
ดูบรอฟนิก - เคเบิ้ลคาร์ - เคฟทัท - บินสู่เวียนนา
08.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น.
นำท่านขึ้น เคเบิ้ลคาร์ สู่จุดชมวิวบนยอดเขา เสน่ห์ของดูบรอฟนิก อยู่ที่จุดชมวิวของแต่ละแห่งไม่ซ้ำแบบ ขึ้นสู่ยอดเขาบนความสูง 405 เมตร เพื่อชมทัศนียภาพของเมืองแบบพาโนรามา กล่าวกันว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมือง
หลังจากนั้นเดินทางต่อสู่ เมืองเคฟทัท (Cavtat) เป็นเมืองเล็กๆน่ารักริมชายฝั่งทะเลมีชายหาดที่งดงามยาวถึง 15 กิโลเมตร เคยเป็นอาณานิคม ของกรีกในอดีตและต่อมาถูกปกครองโดยโรมันก่อนที่จะถูกชนชาติสลาฟรุกรานจนในที่สุดตกอยู่ภายใต้อานัติการปกครองของสาธารณรัฐกูซาที่ได้ซื้อเคฟทัท นี้จากดยุกพาฟโลวิก
12.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
14.55 น.
ออกเดินสู่ กรุงเวียนนา โดยสายการบินภายในประเทศ
16.25 น.
เดินทางสู่ กรุงเวียนนา
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
RENAISSANCE WIEN HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 9
กรุงเวียนนา - กรุงเทพฯ
07.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น.
ออกเดินทางสู่สนามบิน
09.30 น.
ถึงกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย มีเวลาให้ท่านได้ทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน
13.30 น.
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG937
วันที่ 10
คณะเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ
05.20 น.
สายการบินไทย นำท่านเดินทางกลับถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ