บ่าย
นำเที่ยวชม พระราชวังอมาเลียนบอร์ก (Amalienborg Palace) บริเวณด้านนอกที่ประทับในฤดูหนาวของราชวงศ์แห่งเดนมาร์กนับตั้งแต่ ค.ศ. 1794 ตกแต่งแบบสไตล์ร็อคโคโค่ และจะมีการเปลี่ยนทหารยามหน้าวังทุกวันตอนเที่ยงเมื่อสมเด็จพระราชินีนาถเสด็จประทับอยู่ที่นี่
จากนั้นให้อิสระท่านชมบริเวณ จัตุรัสซิตี้ฮอลล์ (City Hall) จุดถ่ายรูปสวยงามประจำเมือง และท่านจะสามารถสัมผัสบรรยากาศครึกครื้นของใจกลางเมือง
ช้อปปิ้งสินค้าย่าน ถนนสตรอยก์ (Stroget Street) ถนนช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดในโลก เริ่มจากศาลาว่าการเมืองไปสิ้นสุดที่ Kongens Nytorv ที่มีสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง อาทิ Louis Vuitton, Emporio Armani, Bang & Olufsen, Tommy Hilfiger, Hermès, Gucci, Burberry ฯลฯ
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ มัลโม (Malmo) ประเทศสวีเดน
วันที่ 3
มัลโม - โคเปนเฮเกน - เรือสำราญ DFDS
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านชม เมืองมัลโม ที่ได้ชื่อว่าใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศสวีเดน โดยตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ
นำท่านชม ปราสาทมัลโม Malmöhus Slott (ด้านนอก) สร้างขึ้นมาโดยกษัตริย์อีริกแห่งปอมเมอเรเนียในปี ค.ศ.1436 ก่อนที่พระเจ้าคริสเตียนที่ 3 แห่งเดนมาร์ก จะทรงโปรดให้มีการปรับปรุงใหม่ในช่วงปี ค.ศ.1530 ซึ่งเป็นช่วงที่เมืองมัลโมยังอยู่ภายใต้การปกครองของเดนมาร์ก เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านความปลอดภัยของเมืองทางด้านทิศตะวันตกเเละควบคุมการค้าขายทางเรือในช่องเเคบโอเรซุนด์ นอกจากนี้เเล้วปราสาทเเห่งนี้ ยังโด่งดังเพราะชาวเดนมาร์ก ใช้เป็นสถานที่คุมขัง เจมส์ เฮปเบิร์น พระสวามีคนที่สามของสมเด็จพระราชินีแมรี่แห่งสก็อตเเลนด์ เเละในช่วงศตวรรษที่ 19 ยังใช้ลานของปราสาทเป็นลานประหารอีกด้วย
จากนั้นนำท่านชม ศาลาว่าการเมืองมัลโม (Malmö Town Hall) สไตล์ดัตช์เรอเนสซองส์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1353 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในอาคารเก่าแก่ที่สุดของเมือง โดยอาคารเเห่งนี้มีความโดดเด่นเเละมีเสียงดนตรีขับกล่อมอยู่ตลอดเวลา โดยตั้งอยู่บริเวณของจัตุรัส Stortorget บริเวณตรงกลางจัตุรัสมีรูปปั้นของพระเจ้า Karl Gustav ที่ 10 ซึ่งออกแบบและแกะสลักโดย John Börjeson อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าตามร้านบริเวณรอบๆจตุรัสตามอัธยาศัย
เที่ยง
***อิสระอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย***
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือ เพื่อ ลงเรือสำราญ DFDS (Scandinavian Seaway) ที่พรั่งพร้อมไปด้วยร้านขายของ, ร้านค้าปลอดภาษี,ร้านอาหาร, ห้อง Sauna, Spa ฯลฯ
ออกเดินทางสู่ กรุงออสโล (Oslo) ประเทศนอร์เวย์ (Norway)
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำแบบ "สแกนดิเนเวียนบุฟเฟ่ต์" ณ ภัตตาคารบนเรือ
ที่พัก
พักค้างคืนบนเรือสำราญ DFDS SCANDINAVIAN SEAWAYS (ห้องพักแบบ SEA VIEW)
(ในกรณีที่ห้องพัก Sea view cabin มีจำนวนห้องที่ไม่เพียงพอต่อคณะ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ในการคืนค่าใช้จ่ายให้ท่านละ 700 บาท)
วันที่ 4
ออสโล - สวนประติมากรรมวิกเกลแลนด์ - เกียร์โล
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เรือเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือออสโล (Oslo) ประเทศนอร์เวย์ เมืองที่ถูกสถาปนาขึ้นเมื่อประมาณ 60 ปี แต่มีประวัติศาสตร์ย้อนหลังกว่า 900 ปี
นำท่านชม สวนประติมากรรมวิกเกลแลนด์ (Vigeland Sculpture Park) ความพิเศษของสวนแห่งนี้อยู่ที่ผลงานศิลปะประติมากรรม การแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตมนุษย์ เป็นผลงานของกุสตาฟ วิกเกอร์แลนด์ ปฏิมากรชาวนอร์เวย์ชื่อดัง อีกทั้งสวนนี้ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นสวนประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
จากนั้นนำท่านถ่ายรูป ศาลาว่าการเมืองออสโล ซึ่งสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามด้วยลักษณะของอาคารหอคอยคู่ ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำซึ่งรายล้อมด้วยอาคารที่สวยงามริมออสโลฟยอร์ด
นำท่านช้อปปิ้งย่าน คาร์ล โจฮันเก้นเกท (Karl Johangen Gate) ย่านถนนคนเดิน สินค้าของฝาก ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคือ เครื่องครัว พวงกุญแจ เป็นต้น แต่สินค้าและของที่ระลึกต่างๆมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากนอร์เวย์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเกียร์โล (Geilo) เมืองแห่งสกีรีสอร์ทแสนสวยกลางหุบเขา และดินแดนแห่งกลาเซียร์ที่มีชื่อเสียงของนอร์เวย์
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
ที่พัก
USTEDALEN หรือเทียบเท่า
วันที่ 5
เกียร์โล - ฟลัม - นั่งรถไฟสายโรแมนติคฟลัมไมดรัล - ล่องเรือซองฟยอร์ด - เกียร์โล
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองฟลัม ให้ท่านสัมผัสประสบการณ์ นั่งรถไฟสายโรแมนติกฟลัม-ไมดรัล (The World famous flam-banen) Flamsbana - The Most Beautiful Train Journey in The World นับเป็นเส้นทางรถไฟสายที่โรแมนติกที่สุดในยุโรปเหนือ ลอดอุโมงค์ที่เจาะทะลุภูเขา ผ่านทะเลสาบ แม่น้ำ และน้ำตก เหนือคณานับที่เกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขา มุ่งสู่ สถานีไมดรัล (Myrdal) ศูนย์กลางของรถไฟสายโรแมนติก ตั้งอยู่บนความสูง 857 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลใกล้กับฟยอร์ด Aurland ที่มีภูมิทัศน์งดงามสุดสายตา ที่ท่านจะได้ชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติฟยอร์ด อันเกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งปกคลุมเหนือพื้นดิน
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
บ่าย
จากนั้นเปลี่ยนบรรยากาศให้ท่าน ล่องเรือชมความงามของซองฟยอร์ด (Sognefjord) มุ่งหน้าสู่ เมืองกุดวานเก้น (Gudvangen) ซึ่งฟยอร์ดนี้นอกจากจะได้รับการจัดอันดับเป็นมรดกโลกแล้ว ยังได้รับการขนานนามว่าเป็นฟยอร์ดที่ยาวและลึกที่สุดในโลก (The longest and deepest fjord in the world) ช่วงที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดคือ NARROW FJORD ระหว่างทางเพลิดเพลินกับภูผาสูงชันอันเขียวขจี ธารน้ำตกนับร้อยสาย สำหรับฟยอร์ดนั้นนับว่าเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่เกิดจากการกัดเซาะของแผ่นธารน้ำแข็งในยุคน้ำแข็งเมื่อหลายล้านปีก่อน ในโลกนี้มีไม่กี่ประเทศที่มีฟยอร์ด แต่ฟยอร์ดที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกคือฟยอร์ดในประเทศนอร์เวย์ ซึ่งช่องฟยอร์ดแห่งนี้ได้ชื่อว่าสวยติดอันดับโลกเช่นกัน ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับเมืองเกียร์โล
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
ที่พัก
USTADELEN หรือเทียบเท่า
วันที่ 6
เกียร์โล - ออสโล - คาร์ลสตัท
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ออกเดินทางสู่ กรุงออสโล (Oslo) ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกแทนที่โตเกียว ออสโลตั้งอยู่ขอบด้านเหนือของอ่าวฟยอร์ด ระหว่างเส้นทางท่านจะได้พบกับสภาพธรรมชาติที่แปลกใหม่ ซึ่งเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้งโบราณ จัดแสดงเกี่ยวกับเรือไวกิ้งที่สร้างจากไม้ ในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยขุดได้จากรอบๆ ออสโลฟยอร์ด นอกจากนี้ยังจัดแสดงเกี่ยวกับเครื่องมือในชีวิตประจำวันที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี เป็นตำนานของชาวไวกิ้งเรือถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะชาวไวกิ้งใช้เรือทั้งในเรื่องของการรบทำการค้าและออกสำรวจหาดินแดนใหม่ๆ จนมีคำกล่าวว่าถ้าไม่มีเรือไวกิ้งก็จะไม่มียุคที่รุ่งเรืองที่สุด
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคาลสตัท (Karlstad) เมืองสวยงามเล็กๆ ริมทะเลสาบอยู่ระหว่างเมืองสต็อคโฮล์ม ของประเทศสวีเดนและเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ เพราะเป็นเมืองผ่านระหว่างสองเมืองใหญ่นี้ สร้างเมืองโดยกษัตริย์คาร์ลที่ 9 (Karl IX) ในปีค.ศ.1604 ชื่อเมืองจึงเรียกตามพระนามของพระองค์ Karl-stad ที่นี่มีโบสถ์ใหญ่ของเมือง สร้างขึ้นเมื่อปี 1730, จัตุรัสใจกลางเมือง, ศาลากลางประจำจังหวัด และสะพานหิน
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
ที่พัก
BEST WESTEN GUSTAF FRODING หรือเทียบเท่า
วันที่ 7
คาร์ลสตัท - อุปซอลา - สต็อกโฮล์ม
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอุปซอลา เป็นเมืองที่อยู่อาศัยและเป็นเมืองมหาวิทยาลัย ตั้งอยู่ในเขตมณฑลอุปซอลา และอยู่ในเขตภูมิศาสตร์ที่เรียกว่าอุปลันด์ (Uppland) มีมหาวิทยาลัยที่สำคัญอยู่สองแห่งคือ มหาวิทยาลัยอุปซอลา (Uppsala Universitet) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุด และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แห่งสวีเดน (Sveriges Lantbruksuniversitet) เนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของสวีเดนในยุคไวกิ้ง ทำให้มี หลักฐานทางด้านโบราณคดีหลายอย่าง ทั้งโบราณสถานและโบราณวัตถุ เช่น เมืองเก่าอุปซอลา Gamla Uppsala โบสถ์หลวงประจำเมือง และยังพบศิลาจารึก ในยุคไวกิ้งเป็นจำนวนมาก
นำท่านถ่ายรูป มหาวิหารอุปซอลา (Uppsala Cathedral) เป็นมหาวิหารที่ตั้งอยู่ในบริเวณใจกลางเมือง และยังได้รับการยอมรับว่าเป็นมหาวิหารที่มีความสูงที่สุดในแถบสแกนดิเนเวีย มหาวิหารนั้นถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 13 โดยมหาวิหารนั้นมีความสูง ประมาณ 118.7 เมตร
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ กรุงสต็อกโฮล์ม (Stockholm) เมืองหลวงใหญ่แสนสวยของประเทศสวีเดน (Sweden) เป็นนครหลวงอันงดงามที่สุดในสแกนดิเนเวีย จนได้รับขนานนามว่า ราชินีแห่งทะเลบอลติก ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย 14 เกาะที่โอบล้อมด้วยทะเลบอลติก (Baltic Sea) ทะเลสาบมาลาเร็น (Lake Malaren) ทำให้สต็อกโฮล์มเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก กรุงสต็อกโฮล์ม งดงามแปลกตาในบรรยากาศรอบๆเมืองที่ตั้งอยู่บนพื้นน้ำ มีสถานที่สำคัญ อาทิ อาคารรัฐสภา,พิพิธภัณฑ์ในยุคกลาง,มหาวิหารแห่งเมือง,พระราชวังหลวงและพิธีเปลี่ยนการ์ดทหารด้านหน้าของลานจัตุรัสกว้าง เป็นต้น
ค่ำ
***อิสระอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย***
ที่พัก
QUALITY HOTEL FRIENDS หรือเทียบเท่า
วันที่ 8
สต็อกโฮล์ม - ศาลาว่าการกรุงสต็อกโฮล์ม - พิพิธภัณฑ์เรือวาซา - เรือ SILJALINE
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเข้าชม ศาลาว่าการกรุงสต็อกโฮล์ม (City Hall) ซึ่งใช้เวลาสร้างถึง 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังของสวีเดน คือ Ragnar Ostberg สร้างด้วยอิฐแดงกว่า 8 ล้านก้อน และมุงหลังคาด้วยหินโมเสค สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1911 และทุกๆวันที่ 10 ของเดือนธันวาคมของทุกปี จะมีพิธีเลี้ยงรับรองผู้ได้รับรางวัลโนเบล (Nobel Prize)
นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เรือวาซา (Vasa Museum) เป็นเรือที่ถูกกู้ขึ้นมาในศตวรรษที่ 17 เนื่องจากสามารถรักษาชิ้นส่วนเดิมของเรือไว้ได้กว่า 95 เปอร์เซ็นต์ และตกแต่งประดับประดาด้วยรูปแกะสลักนับร้อยชิ้น เรือวาซาเป็นทรัพย์สมบัติทางศิลปะที่โดดเด่นและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโลกในพิพิธภัณฑ์ประกอบไปด้วยนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับเรือลำนี้ 9 นิทรรศการ ยังมีภาพยนตร์เกี่ยวกับเรือวาซา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่สุด ในบรรดาพิพิธภัณฑ์ในสแกนดิเนเวีย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงสต็อกโฮล์ม (Stockholm) เพื่อนำท่านชมบริเวณ เมืองเก่ากัมลาสตัน อันเป็นบริเวณที่ตั้งของพระราชวังหลวงให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือ เพื่อลงเรือสำราญ TALLINK SILJA LINE ที่พร้อมไปด้วย ร้านขายของ, คาสิโน, ร้านค้าปลอดภาษี, ร้านอาหาร,ห้อง Sauna, Spa ฯลฯ
เดินทางสู่ เรือสำราญ TALLINK SILJA LINE นำท่านออกเดินทางสู่ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำแบบ "สแกนดิเนเวียนบุฟเฟ่ต์" ณ ภัตตาคารบนเรือ
ที่พัก
พักค้างคืนบนเรือสำราญ TALLINK SILJA LINE (Sea view cabin ห้องพักแบบเห็นวิวทะเล)
(ในกรณีที่ห้องพัก Sea view cabin มีจำนวนห้องที่ไม่เพียงพอต่อคณะ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ในการคืนค่าใช้จ่ายให้ท่านล่ะ700 บาท)
วันที่ 9
เฮลซิงกิ - สนามบิน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เดินทางถึง ณ ท่าเทียบเรือกรุงเฮลซิงกิ (Helsinki) (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) เมืองหลวงใหญ่ของประเทศฟินแลนด์ (Finland) ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ เฮลซิงกิได้รับฉายาว่าเป็น “ธิดาแห่งทะเลบอลติก” ความงดงามของสถาปัตยกรรมอันได้รับอิทธิพลจากทั้งทางฝั่งยุโรปและรัสเซีย
ชม ตลาดนัดริมทะเล (Market Square) ที่มีชื่อเสียงเป็นตลาดใจกลางเมืองขายของที่ระลึก ขายปลานานาชนิด อาหาร ผลไม้ และดอกไม้ แล้วยังเป็นที่ตั้งสถานที่สำคัญ อาทิเช่น ทำเนียบประธานาธิบดี ศาลากลางและโบสถ์
จากนั้นนำท่านชม จัตุรัสซีเนเตอร์ (Senate Square) รายล้อมไปด้วยอาคารสำคัญๆที่สร้างในยุคที่อยู่ใต้การปกครองของรัสเซียและเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเฮลซิงกิ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
บ่าย
นำท่านชม อนุสาวรีย์ซิเบลิอุส (Sibelius monument) ตั้งอยู่ในสวนซิเบลิอุส สร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่ Jean Sibelius นักประพันธ์เพลงคลาสสิก เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่กลางแจ้ง ดูแปลกตา ทันสมัย เป็นผลงานของศิลปิน Eila Hiltunen สร้างโดยนำเอาแท่งเหล็ก 600 แท่ง มาเชื่อมเข้าด้วยกันจนออกมาเป็นรูปร่างของออร์แกนลม กว้าง 10.5 เมตร ลึก 6.5 เมตร หนัก 24 ตัน ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่า
17.30 น.
ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ AY141
**สำหรับคณะที่ออกเดินทางตั้งแต่ 19 ต.ค. จะออกเดินทางเวลา 16.50 น. และไปถึงกรุงเทพฯ เวลา 07.25 น.**
07.15 น.
ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ด้วยความสวัสดิภาพ