วันที่ 3
โมนาโค - หมู่บ้าน Saint Paul de Vence - นีซ - ริเวียร่าแห่งฝรั่งเศส
08.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น.
นำชม โมนาโควิลล์ เมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางท้องทะเลสวย, หมู่ตึกระฟ้าและทิวเขาอันงดงาม เข้าสู่มหาวิหารที่เคยใช้จัดงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสของ เจ้าหญิงเกรซเคลลีแห่งโมนาโค สตรีผู้สูงศักดิ์ที่ชีวิตเปรียบเสมือนเทพนิยายจากหญิงสาวธรรมดาที่โชคชะตาพลิกผันให้เป็นเจ้าหญิงในพระราชวัง วันนี้เธอเป็นตำนานที่ไม่ใช่เพียงเจ้าหญิงผู้เลอโฉม แต่เธอนำพาชื่อเสียงให้ โมนาโคเป็นที่รู้จักด้านสาธารณะประโยชน์องค์กรการกุศลต่าง ๆ มากมาย
แล้วไปถ่ายรูปกับ ปาเล เดอ แปรงซ์ (Palais De Princes) ปราสาทที่ประทับของเจ้าชายแห่งรัฐ สร้างขึ้นบนส่วนที่เป็นเดอะร็อก ท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงาม แล้วไปชมวิวทิวทัศน์ที่ขนาบด้วยท่าเรือสองแห่งคือ Port De Fontvieille และ Port Hercule ท่าจอดเรือยอร์ชอันหรูหราแสดงถึงความมั่งคั่งและร่ำรวยของดินแดนแห่งนี้
12.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น.
นำคณะเดินทางสู่ แซงต์ปอล เดอ วองซ์ เมืองโบราณในโปรวองซ์ (Provence) เคยถูกโรมันยึดครอง ในยุคกลางเมืองถูกรุกรานจากสเปน กษัตริย์ฟรองซัวส์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศส โปรดให้สร้างกำแพงหินล้อมรอบเมือง ความขลังและสวยงามดึงดูดศิลปินมารังสรรค์งานที่นี่ ทั้งนักเขียน นักกวี นักแสดง กองถ่ายภาพยนตร์ ล้วนแต่หลงเสน่ห์แซงต์ปอล เดอ วองซ์ หรือจะเรียกอีกนัยหนึ่งว่า “ถิ่นศิลปิน” ก็ไม่ผิด
จากนั้นเข้าสู่เมืองตากอากาศชื่อดังของฝรั่งเศส “นีซ” (Nice) มีความใหญ่เป็นอันดับ 5 ของฝรั่งเศสในแคว้นที่ชื่อว่า โพรวองซ์-แอลป์-โกต-ดาซูร์ (Provence-Alpes-Côte d'Azur) ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีชายหาดหินที่สวยงาม เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่จะมาเดินกันอยู่ที่ถนนเรียบชายหาด ลา-พรอมมินาด-เด-ซองเกส (La Promenade des Anglais) เขตย่านเมืองเก่า จัดได้ว่าเป็นเมืองที่น่าเดินชมบรรยากาศแบบชาวโพรวองซ์เป็นอย่างยิ่ง
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
AC MARRIOTT NICE HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียว กัน
วันที่ 4
เที่ยวกราซ - โรงงานน้ำหอมฟราโกนาร์ด - เมืองคานส์ - เลโบเดอโพร วองซ์ - อาวีญง
07.30 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.30 น.
เดินทางสู่ เมืองกราซ (Grasse) เพื่อให้ท่านได้เข้าชม โรงงานผลิตน้ำหอม ที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ชมกระบวนการผลิตน้ำหอมด้วยการสกัดและการกลั่น ตลอดจนห้องจัดนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาของการผลิตน้ำหอมและคอลเล็กชั่นขวดน้ำหอมต่าง ๆ อย่างมากมาย เมือง กราซ (Grasse) หรือที่รู้จักกันในนาม “เมืองหลวงแห่งโลกน้ำหอม” การผลิตน้ำหอมทั้งหลายส่วนใหญ่เริ่มต้นที่นี่ โรงงานผลิตน้ำหอมที่มีประวัติ ศาสตร์ยาวนาน เปิดให้ท่านได้ชมเรื่องราวและขั้นตอนการผลิต และโชว์รูมขายผลิตภัณฑ์ให้ท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝาก
แล้วพาท่านเที่ยวชม เมืองคานส์ เมืองแห่งเทศกาลหนังนานาชาติ ที่จัดขึ้นประมาณเดือนพฤษภาคมของทุกปี หากใครที่คลั่งไคล้ดาราแล้วละก็พลาดไม่ได้ที่กับการวัดรอยมือดาราคนโปรดที่หน้า ปาเล่ เด เฟสติวาล (Palais des Festivals) ที่เหล่าดาราชื่อดังทั้งหลายได้ประทับรอยมือไว้ให้เป็นที่ระลึก เมืองคานส์ ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความหรูหราริมชายหาดริเวียร่า และถนนที่ทอดยาวริมชายหาดที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ลาโพรมานาด เดอ ลา ครัวเซท (La Promenade de la Croisette) นอกจากนี้ยังมีท่าจอดเรือยอร์ชลำงาม ๆของบรรดามหาเศรษฐีทั้งหลายด้วย
12.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำคณะเข้าสู่บรรยากาศแห่ง โปรวองซ์ ชมหมู่บ้านที่สวยที่สุดในโปรวองซ์ที่ศิลปินชื่อดังแวนโก๊ะห์ (Van Gogh) ยังหลงใหลและใช้ชีวิตผลิตงานศิลปะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
หมู่บ้านเลโบ-เดอ โพรวองซ์ Les Baux de Provence เมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ซึ่งปัจจุบันยังคงรักษาเอกลักษณ์ของบ้านเรือน ชุมชน ตลอดจนศิลปะและวัฒนธรรมโบราณเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นหมู่บ้านที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น “หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส”
แล้วเข้าสู่ เมืองอาวีญง (Avignon) เมืองประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำโรห์น (Rhône)
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
HOTEL NOVOTEL AVIGNON CENTRE หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 5
อาวีญง - ท่อส่งน้ำโรมันปงต์ดูการ์ - มงต์เปลลิเย่ร์ - บาร์เซโลน่า
07.30 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.30 น.
นำท่านไปชม ปงต์ ดู การ์ (Pont du Gard) หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่ชาวโรมันสร้างเมื่อ 2000 ปีมาแล้ว คือทางส่งน้ำซึ่งมีความยาว 275 เมตร สามารถส่งน้ำได้ 34.8 ล้านลิตรต่อวัน ปงดูการ์ เป็นสะพานส่งน้ำจุดหนึ่งในการส่งน้ำระหว่าง เมือง Uzès และเมือง Nîmes ซึ่งมีระยะทางถึง 50 กิโลเมตร ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมื่อปีค.ศ. 1985
เดินทางสู่ เมือมงต์เปลลิเย่ร์ อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของประเทศฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในรอบ 25 ปีที่ผ่านมาของประเทศฝรั่งเศส นอกจากนี้แล้ว เมืองมงต์เปลลิเย่ร์ ยังเป็นเมืองหลวงของจังหวัดเอโร (Herault) ในแคว้นล็องก์ด็อก-รูซียง (Languedoc-Roussillon) ประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมงต์เปลลิเย่ร์ (Montpellier University) อีกหนึ่งมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย
12.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
เดินทางสู่ เมืองบาร์เซโลนา ในประเทศสเปน ซึ่งได้รับการขนานนามให้เป็นนครหลวงในเมดิเตอร์เรเนียน ที่สวยงามเจริญรุ่งเรืองด้วยธุรกิจท่าเรือ และการค้าอีกทั้งยังผสมผสานประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่และความทันสมัยให้สมกับเป็นเมืองโอลิมปิก เป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
SILKEN DIAGONAL BARCELONA HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 6
บาร์เซโลน่า - เที่ยวชมเมือง - กรานาด้าแฟมิเลีย สนามฟุตบอล เอล กัมป์ โนว - ถนนลารัมบร้า - ชมระบำฟลามิงโก
07.00 น
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น.
เที่ยวชม เมืองของเกาดี้ ที่ชาวบาร์เซภาคภูมิใจจนมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า City of Gaudi บนถนนกราเซีย ท่านจะได้พบกับงานสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าคือกาซ่า บัตโย ที่เกาดี้ออกแบบให้กับเศรษฐีสิ่งทอในบาร์เซโลน่า อีกหนึ่งแห่งที่น่าชมคือกาซา มิลา เกาดี้ ออกแบบให้กับนักธุรกิจผู้มั่งคั่งในปี ค.ศ.1906 แสดงถึงฐานะความมั่งคั่ง, ความคิดสร้างสรรค์ซึ่งถือเป็นแฟชั่นในยุคนั้น
แล้วไปชม สวนสาธารณะเกวล (Park Guell) เป็นหนึ่งในงานสุดรักสุดหวงที่เกาดี้อุทิศให้กับชาวเมือง ออกแบบตั้งแต่ปี ค.ศ.1900-1914
สถานที่สุดท้ายของเกาดี้คือโบสถ์ซากราด้า แฟมิเลีย ที่ยังคงสร้างไม่เสร็จจนถึงปัจจุบัน ความพิเศษในงานของเกาดี้คือการรวบรวมรูปทรงและพื้นผิวต่างๆในธรรมชาติมาใช้ และสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของยอดเขาและความสูงของมองต์เซร์ราต
12.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำเข้าชม สนามฟุตบอล เอล กัมป์ โนว ของทีมบาร์เซโลน่า หรือคัมป์ นู (Camp Nou) ความจุ 98,787 คน เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ในเมืองบาร์เซโลน่า นิตยสารฟอร์บส์ ได้จัดให้เป็นอันดับ 2 ในฐานะที่เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีฐานะร่ำรวยมากสุดในโลก ประจำปี 2558 รองจากทีมเรียล แมดริด นำชมความยิ่งใหญ่ของทีมในส่วนที่จัดแสดงเป็นมิวเซียม มีห้องถ้วยรางวัล, ห้องจัดแสดงประวัติและเรื่องราวของทีม, ห้องผลงานของเมสซี ที่รวบรวมแมทช์และการทำประตูอันน่าประทับใจ บางเรื่องราวบอกผ่านด้วยระบบมัลติมีเดีย รวมถึงการชมแมทช์การแข่งขันแบบพาโนรามา ห้องแถลงข่าว และห้องเก็บตัวของนักฟุตบอลชื่อดังระดับโลก (ในกรณีวันเข้าชมตรงกับการแข่งขัน ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินค่าเข้าชม)
เข้าสู่ จัตุรัสกาตาลุนญา จุดเริ่มของย่านถนนคนเดิน Las Ramblas ถนนที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในบาร์เซโลน่า มีทั้งสินค้านานาชนิด, แผงดอกไม้, ศิลปินเร่และละครใบ้ เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวเดินชมอย่างไม่รู้เบื่อ ปลายสุดของถนนเป็นอนุสาวรีย์โคลัมบัส นักเดินเรือผู้ค้นพบโลกแถบใหม่หมู่เกาะเวสต์อินดีส
18.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำคณะชม โชว์ระบำฟลามิงโก้ การแสดงที่เร่าร้อนประกอบเสียงเพลงดนตรีพื้นบ้าน สวยงามสนุกสนานเร้าใจ
ที่พัก
SILKEN DIAGONAL BARCELONA HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 7
บาร์เซโลน่า - ซาราโกซ่า - รถไฟด่วน AVE สู่แมดริด
07.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น.
นำโค้ชท่านออกเดินทางสู่ เมืองซาราโกซ่า (ZARAGOZA) ซึ่งเป็นเมืองหลักของแคว้นและของราชอาณาจักรอารากอน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสเปน ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันหลากหลาย และงดงามแปลกตา
13.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
เที่ยว เมืองซาราโกซ่า เมืองเล็กๆ เก่าแก่ที่สำคัญแห่งหนึ่งของสเปน ไฮไลท์ของเมืองนี้น่าอยู่ที่โบสต์ซานตามาเรีย เดอฟิลลาร์ ซึ่งเป็นโบสต์ประจำเมืองที่สวยงาม และเป็นที่เคารพศักการะของชาวคริสต์ เพราะเชื่อกันว่าพระแม่มารีเคยมาปรากฎกายให้เห็นบนเสาภายในโบสต์แห่งนี้ จัตุรัสเอสปันญ่า ศูนย์กลางของเมืองมีอนุสาวรีย์ และอาคารสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก
ผ่านชม พระราชวัง Aljafería ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 11 เป็นพระราชวังฤดูร้อนสำหรับผู้ปกครองมุสลิมในสมัยอดีต และย่านเมืองเก่า ที่มีซากปรักหักพัง กำแพงโรมัน ปราสาทมัวร์ (Moorish castle) ที่ยังคงหลงเหลืออยู่จนถึงปัจจุบัน
รถไฟด่วน AVE (HIGH SPEED TRIAN) นำคณะเดินทางสู่ กรุงแมดริด เมืองหลวงที่เก่าแก่และสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก (ใช้เวลาเดินทาง 1.15 ชั่วโมง) AVE TRAIN เปิดให้บริการเฉพาะการเดินทางในประเทศสเปนเท่านั้น
20.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
SILKEN PUERTA AMERICA MADRID หรือเทียบ เท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 8
เมืองโตเลโด้ - แมดริด
08.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น.
ออกเดินทางสู่ เมืองโตเลโด้ อดีตเมืองหลวงเก่าตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปน ชื่อเมืองหมายถึงการผสมผสานของสาม วัฒนธรรม คริสเตียน, อิสลามและฮีบรู ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเบื้องล่างล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำตาโฆเหมาะแก่การป้องกันการรุกรานจากข้าศึก
เริ่มต้นการเที่ยวชมเมืองจากหน้า สถานีรถไฟแบบนีโอมูเดฆาร์ ที่รูปทรงทางสถาปัตยกรรมที่แปลกตา ข้าม สะพานแบบโรมันดั้งเดิม (ปูเอนเต เด อัลกานตารา) บนเนินเขาท่านจะเห็น กัสตีโย เด ซาน เซร์บานโด ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ชาวโรมันสร้างขึ้นเพื่อปกปักษ์รักษาเมือง
แล้วเข้าสู่ เขตเมืองเก่า โดยผ่าน ประตูเมืองปูเอร์ตา เด บิซากรา หนึ่งในประตูเมืองที่มีความสำคัญที่สุด ทุกแห่งของเมืองท่านจะได้ชื่นชมกับความแตกต่างของสถาปัตยกรรมแบบอารบิค, มูเดฆาร์, โกธิคและเรอเนสซองส์ เมื่อท่านมาเยือนโตเลโด้แล้วต้องแวะชมคือ มหาวิหารแห่งโตเลโด้ สถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ใช้เวลาสร้างยาวนาน เดิมมุสลิมใช้เป็นสุเหร่าต่อมาได้ก่อสร้างรูปทรงแบบโกธิคในปีค.ศ. 1226 และเพิ่มศิลปะแบบมูเดฆาร์ บาร็อกและนีโอคลาสสิค จนเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปีถัดมา นับเป็นมรดกแสดงความเป็นเมืองศาสนาของสเปน ภายในมหาวิหารมีการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตรด้วยไม้แกะสลักและภาพสลักหินอ่อน อีกด้านหนึ่งท่านจะเห็นป้อมอัลคาซาร์เป็นผลงานของสถาปนิกระดับสุดยอดในสมัยศตวรรษที่ 16 ได้รับการบูรณะและเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน แล้วมีเวลาให้ท่านหาซื้อของที่ระลึกในย่านกลางเมืองเป็นงานฝีมือที่รู้จักกันดีมีชื่อเสียงของนครโตเลโด้คือดาบและมีดเหล็กกล้า แบบเคลือบดำฝังเงินทองและลวดทองแดง นอกจากนี้ยังมีงานเซรามิคทุกประเภทให้ท่านได้สะสมเป็นของประดับบ้านอีกด้วย
13.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
ก่อนอำลาเมืองแวะจุดชมวิว เพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองโตเล โด้ทั้งเมือง ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่จิตรกรชื่อดังของสเปนเอล เกรโก (EI Greco) ได้จำลองลงในแผ่นภาพที่งดงามยิ่งกว่าของจริง
20.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร the oldest restaurant in the world
ที่พัก
SILKEN PUERTA AMERICA MADRID หรือเทียบ เท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 9
เที่ยวกรุงแมดริด - พระราชวังหลวง - น้ำพุไซเบเลส - ปูเอต้า เดอ โซล - อิสระช้อปปิ้ง
08.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น.
นำคณะเที่ยว กรุงแมดริด เมืองหลวงของประเทศสเปนเก่าแก่นับพันปี ตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียน ในระดับความสูง 650 เมตร เป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เข้าชม พระราชวังหลวง (Palacio Real) ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นๆในทวีปยุโรป จากแนวความคิดเปรียบเทียบความใหญ่โตของแวร์ซายส์ และความสวยงามของลูฟว์ในฝรั่งเศส พระราช วังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างด้วยหินทั้งหลังในปีค.ศ.1738 ในสไตล์บาร็อก โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากมายถึง 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น รวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆ อาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ, เครื่องใช้, อาวุธ ฯลฯ
แล้วชม อุทยานหลวง ที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาล ดอกไม้งดงามตลอดปี ใกล้กันเป็นปลาซา เดอ เอสปันญา (Plaza de Espana) ชมอนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปน ที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้ในสวนสาธารณะ
13.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำเที่ยวชม น้ำพุไซเบเลส (Cibeles Fountain) ที่สร้างอุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน ใช้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆ ของเมืองและอาคารสวยงามใกล้ๆ กันคือ ที่ทำการไปรษณีย์
ผ่าน ประตูชัยอาคาล่า (Puerta de Alcala) ที่สร้างถวายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
นำคณะเข้าสู่ ปลาซา มายอร์ (Plaza Mayor) จัตุรัสสำคัญของกรุงมาดริด อาคารเก่าแก่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมศตวรรษที่ 17 และอดีตที่ทำการเมือง ติดกันเป็นตลาดซันมีเกล (San Miquel) ปัจจุบันย่านนี้เป็นถนนคนเดิน เต็มไปด้วยร้านกาแฟน่ารัก
เข้าสู่ ปูเอต้า เดล ซอล หรือประตูพระอาทิตย์ จัตุรัสใจกลางเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปนแล้ว (กิโลเมตรที่ศูนย์) ยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดินและรถเมล์ทุกสาย และยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมืองที่หนาแน่นด้วยร้านค้ามากมาย และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ El Corte Ingles ชมอนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนา สัญลักษณ์ของเมือง
จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเที่ยว ย่าน Walking Street ตามอัธยาศัย
18.30 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
SILKEN PUERTA AMERICA MADRID HOTEL หรือเทียบ เท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 10
สนามบินแมดริด - เดินทางสู่กรุงปารีสโดยสายการบินภายในประเทศ - เดินทางกลับกรุงเทพฯ
06.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำคณะออกเดินทางสู่ สนามบิน Barajas กรุงแมดริด เพื่อเดินทางสู่ กรุงปารีส
08.00 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงปารีส โดยสายการบิน Vueling Airlines เที่ยวบินที่ VY8204
10.05 น.
คณะถึง สนามบินชาร์ลเดอโกล มีเวลาให้ท่านได้ทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน
13.40 น.
ออกเดินทางโดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG931
วันที่ 11
เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ
05.55 น.
นำท่านเดินทางกลับถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ