วันที่ 3
สตราสบูร์ก - หมู่บ้านริคเวียร์ - EGUISHEIM - กอลมาร์ - สตราสบูร์ก
07.00 น.
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เช้า
นำท่านเดินทางเที่ยว หมู่บ้านริคเวียร์ (RIQUEWIHR) ระยะทางประมาณ 65 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง ในแคว้นอัลซาส ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆน่ารักๆในหุบเขาโอบล้อมไปด้วยไร่องุ่น มีชื่อเสียงในเรื่องของไวน์ ถือเป็นแหล่งผลิตไวน์ มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของประเทศ และได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งใน LES PLUS BEAUX VILLAGES DE FRANCE หมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส บรรยากาศภายในหมู่บ้านจะคล้ายกับเมืองแห่งเทพนิยาย สีสันสดใส บ้านเกือบทุกหลังจะตกแต่ง และประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่น่ารักๆเต็มไปหมด
นำท่านเที่ยวชม หมู่บ้านเล็กน่ารักเมืองหนึ่งที่ติดใจมากมายคือ EGUISHEIM เนื่องจากตั้งอยู่ในเส้นทางชมชิมเที่ยวไร่ไวน์ของแคว้นอัลซาส ซึ่งมีชื่อในการผลิตไวน์ จึงมีนักท่องเที่ยวไปเยือนพอควรแม้จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่มีพลเมืองแค่ 1,600 คน ความน่ารักของหมู่บ้านนี้มีแค่ไหน ดูได้จากเครดิตที่ได้รับเลือกเป็นหมู่บ้านที่เป็นที่โปรดปรานชื่นชอบที่สุดของฝรั่งเศส (VILLAGE PRÉFÉRÉ DES FRANÇAIS) ประจำปี 2013 และยังเป็นสมาชิกในกลุ่ม LES PLUS BEAUX VILLAGES DE FRANCE ซึ่งแปลว่า “หมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส” โดยมีคุณสมบัติตรงตามกำหนดที่ว่า ต้องมีพลเมืองไม่เกิน 2,000 คน ต้องมีลักษณะบรรยากาศของความเป็นชนบทอยู่ และต้องมีโบราณสถานแห่งชาติอยู่ในเมืองให้ท่านได้เดินเที่ยวชม
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองกอลมาร์ ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1.15 ชั่วโมง
นำท่าน ชมเมืองกอลมาร์ ดินแดนแห่งความงาม ที่มีตึกราบ้านช่องสวยงาม มีจุดเด่นอยู่ที่ความงามของดอกไม้ที่มีอยู่ทั่วเมือง จัดเป็นอีกเมืองที่ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก จนได้รับการขนานนามว่า ลิตเติ้ลเวนิซปัจจุบันเมืองเก่าแก่แห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่น่ามาเยือนเป็นอันดับต้นๆของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรม และบรรยากาศของเมืองโบราณมีบ้านเรือนที่สวยงาม ซึ่งบ้านเรือนแบบนี้ เรียกว่า COLOMBAGE (ฝรั่งเศส) หรือ FACHWERKHAUS (เยอรมัน) เป็นบ้านครึ่งไม้ซุงซึ่งเป็นแบบบ้านที่เป็นเอกลักษณ์และเห็นได้ทั่วไปในแคว้นอัลซาส ลักษณะพิเศษของบ้านจะขึ้นโครงบ้านด้วยไม้ทั้งหลังรวมทั้งหลังคาก่อน จากนั้นก็จะโบกปูนระหว่างช่องไม้แล้วทาทับด้วยสีสันสวยงามตามใจเจ้าของบ้าน เมืองนี้ยังมีคลองน้ำไหลผ่าน ซึ่งบริเวณนี้ถูกเรียกว่า LITTLE VENICE เป็นมุมบังคับที่นักท่องเที่ยวส่วนมากต้องมาเก็บภาพเป็นที่ระลึก
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ที่พักที่ ชานเมืองสตราสบูร์ก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
7 HOTEL & FITNESS IIKIRCH GRAFFENSTADEN หรือเทียบเท่า
วันที่ 4
สตราสบูร์ก - ลูเซิร์น - อนุสาวรีย์สิงโตลูเซิร์น - สะพานไม้ชาเปล - เซนต์กัลเลน
07.00 น.
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เช้า
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น ระยะทางประมาณ 228 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3.30 ชั่วโมง เมืองที่คุ้นเคยดีสำหรับคนไทย เมืองที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเยือนมากที่สุด และยังมีความสำคัญในด้านการก่อกำเนิดสมาพันธรัฐอีกด้วย เมืองนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อว่าเวียวาลด์สแตร์ทเตอร์หมายถึงทะเลสาบสี่พันธรัฐ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านชม อนุสาวรีย์สิงโตลูเซิร์น (LION MONUMENT) อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์น และเป็นอนุสาวรีย์สำหรับทหารสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น สำหรับความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ในหน้าที่ แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่คศ1819-1821สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และรักภักดี
นำท่านชม สะพานไม้ชาเปล (CHAPEL BRIDGE) สัญลักษณ์ของเมืองที่ใครๆ ก็มักมาถ่ายรูปที่สะพานแห่งนี้ เป็นสะพานไม้อันเก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีอายุมากกว่า 600 ปี สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดยตลอดแนวสะพานนั้นถูกประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติของประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนมาก สร้างขึ้นเพื่อทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายมากในปี 1993 แม้บางส่วนจะถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม
ให้ท่านมีเวลาเที่ยวชม เมืองลูเซิร์น เมืองสวยงามที่น่าช้อปปิ้ง หรือจะเรียกว่าเมืองบูติกก็ไม่ผิด ท่านสามารถเดินเล่นไปตามถนนสายแคบๆ หรือจตุรัส สแควร์และเพลิดเพลินไปกับร้านค้าโอ่อ่า ได้พบสินค้าที่ถูกใจ เช่น นาฬิกาสวิส และเครื่องอัญมณีที่ทรงคุณค่าระดับโลก สินค้าแฟชั่นนำสมัยมีสไตล์ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ช็อกโกแลตสวิสที่ใครๆก็อยากลิ้มรส
ออกเดินทางสู่ เมืองเซนต์กัลเลน (St. Gallen) ระยะทางประมาณ 147 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.15 ชั่วโมง เป็นเมืองทางตอนเหนือของประเทศ Switzerland ที่ได้รับชื่อมาจากนักบุญ Gallus ที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในชุมชนเล็กๆเมื่อศตวรรษที่ 7 เมืองเซนต์กัลเลนมีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวและเป็นศูนย์กลางทางศาสนา มหาวิหาร Abbey of Saint Gall ที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมือง ภายนอกของมหาวิหารอาจจะดูธรรมดาไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่การตกแต่งภายในมหาวิหารนั้นอลังการงานสร้างมากจริงๆ
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
RADISSON BLU HOTEL ST. GALLEN หรือเทียบเท่า
วันที่ 5
เซนต์กัลเลน - เซนต์มอร์ริทซ์ - เบอร์นีน่าเอ็กซ์เพรส(มรดกโลก) - ทิราโน่ - มิลาน
07.00 น.
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เช้า
ออกเดินทางสู่ เมืองเซนต์มอร์ริทซ์ ระยะทางประมาณ 190 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.45 ชั่วโมง เมืองตากอากาศและศูนย์กลางกีฬาสกีที่มีชื่อเสียงระดับโลกเมืองตากอากาศฤดูหนาวที่แสนสงบและในปี ค.ศ.1864 ได้สร้างโรงแรมแห่งแรกของเมือง และเชิญแขกชาวอังกฤษมาพัก ทำให้เกิดกิจกรรมกีฬาฤดูหนาวต่างๆ และเป็นสถานที่แข่งขันกีฬาระดับเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ และกีฬาโอลิมปิก บรรยากาศโดยรอบตัวเมืองถูกโอบล้อมไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์ และวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบอันสวยงาม กล่าวได้ว่าในบรรดาเมืองตากอากาศของสวิสฯไม่มีที่ใดจะหรูและแพงยิ่งกว่าเมืองนี้อีกแล้ว
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
ให้ท่านได้ สัมผัสประสบการณ์นั่งรถไฟสายประวัติศาสตร์เบอร์นีน่าเอ็กซ์เพรส (BERNINA EXPRESS) จาก เมืองเซนต์มอริทซ์ มุ่งหน้าสู่สถานีปลายทาง สถานีเมืองทิราโน่ ซึ่งเป็นรถไฟสายที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1910 สัมผัสประสบการณ์การเดินทาง ผ่านสะพานกว่า 196 สะพาน และอุโมงค์กว่า 55 อุโมงค์ ไต่ระดับเป็นขั้นๆสู่ความสูงกว่า 2,253 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ชมความงามของขุนเขา สลับทุ่งหญ้า และหุบเขาสวิสแอลป์อันสวยงาม ซึ่งเส้นทางสายเบอร์นีน่า เอ็กซ์เพรสได้รับการประกาศเป็นหนึ่งในมรดกโลกของประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อปี ค.ศ. 2008
*** หากรถไฟเบอร์นีน่าเอ็กซ์เพรสไม่สามารถรอบรับคณะได้ บริษัทจะจัดให้นั่งรถไฟ REGULAR TRAIN ในเส้นทางเดียวกันแทน ***
เดินทาง ถึงสถานีเมืองทิราโน่ เมืองเล็กๆอยู่ในแคว้นเวทติน ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เป็นเมืองชายแดนระหว่างประเทศอิตาลี และสวิส เมืองริมทะเลสาบ และวิลล่าเรียบหรูแสดงถึงฐานะของผู้ครอบครอง เน้นความเรียบง่ายท่ามกลางบรรยากาศแห่งธรรมชาติ และต้นไม้ ดอกไม้ สวนน้ำ น้ำพุ ทะเลสาบ เนินเขา ที่ล้อมรอบ ทำให้ดูโดดเด่น
ออกเดินทางสู่ เมืองมิลาน หรือ มิลาโน่ ระยะทางประมาณ161 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชั่วโมง มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่น ศิลปะ และเครื่องหนัง เป็นเมืองแห่งแฟชั่นสำคัญเมืองหนึ่งของโลก “มิลาน”เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดียในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีประชากรประมาณ1,308,500 คน และมีชื่อเสียงเกี่ยวกับประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า “ปาเนตโตเน” อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลานและสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน มีภาพวาดเฟรสโก้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
KILMA HOTEL MILANO FIERE หรือเทียบเท่า
วันที่ 6
มิลาน - ดูโอโมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน - แกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมมานูเอลที่ 2 - ช้อปปิ้ง SERRAVALLE OUTLET - เวียนนา(แวะเปลี่ยนเครื่อง) - กรุงเทพฯ
07.00 น.
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เช้า
นำท่านชม ดูโอโมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo) ที่เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นที่สุดของเมืองนี้ และไม่ถูกทำลายลงในช่วงสงคราม ด้านหน้าคือ พระบรมราชาสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอริโอเอมมานูเอลที่ 2 (Vittorio Emanuele II Monument) ขณะทรงม้า ด้านในดูโอโมมีกระจกสีที่สวยงาม กล่าวกันว่าสถานที่นี้คือสถานที่ใช้เก็บตะปูซึ่งใช้ตรึงพระเยซู ตะปูนี้จะนำลงมาให้ประชาชนเข้าชมปีละครั้งในเดือนกันยายน
จากนั้นอิสระท่านที่ แกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมมานูเอลที่ 2 (Galleria VittorioEmanuele II) ซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งอาเขตที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 12 ปี เพื่อให้เป็นห้องรับแขกแห่งกรุงมิลาน (Milan) เป็นอาคารหลังแรกๆ ของยุโรปที่ใช้โครงเหล็กในการก่อสร้าง พื้นตกแต่งด้วยโมเสกเป็นรูปทวีปต่าง ๆ อาคารอย่างมีรสนิยมโดยสถาปนิกชื่อดังชาวอิตาลี
นำทุกท่านสู่ SERRAVALLE OUTLET ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม 3 ชั่วโมง กับสินค้ามากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย
เที่ยง
***อิสระอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย เพื่อให้ท่านช้อปปิ้งได้อย่างต่อเนื่อง***
บ่าย
พร้อมกันที่จุดนัดหมาย บริการรถโค้ชนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน
20.35 น.
เหินฟ้าสู่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดย สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS 516
22.05 น.
เดินทางถึง สนามบินกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง
23.20 น.
เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS 025
15.20 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ