23.45 น.
ออกเดินทางสู่ สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต อันทันสมัยของประเทศเยอรมนี ศูนย์ กลางการการพาณิชย์และการบิน โดยเที่ยวบินที่ TG920
หมายเหตุ ทางบริษัทได้เตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ก่อน 15 วัน โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองที่พัก, ร้านอาหาร สถานที่เข้าชมต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าให้กับกรุ๊ปทัวร์ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การจลาจล, ภัยพิบัติ, การถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ทำให้การเดินทางล่าช้า หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายตามโปรแกรมได้ หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ชำระแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกิดขึ้นนอกจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัท ฯ มิอาจรับผิดชอบได้
วันที่ 3
ทะเลสาบคอนสแตนซ์ - หมู่บ้านชวานสเกา - ปราสาทนอยชวานสไตน์ - การ์มิช พาร์เท่นเคียร์เช่น
07.30 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านเดินทางเลาะเลียบ ทะเลสาบคอนสแตนซ์ (Lake Constance) หรือ ทะเลสาบโบเดนเซ (Bodensee) ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรป และกินอาณาเขตพรมแดน 3 ประเทศได้แก่เยอรมัน ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์
จากนั้นเข้าสู่ เส้นทางสายโรแมนติกของเยอรมัน (Romanticstrasse) เส้นทางท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดโดยสิ้นสุดที่ฟืสเซ่น เมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติก เคยมีความรุ่งเรืองในอดีตตั้งแต่ยุคโรมัน ที่ใช้เมืองนี้เป็นจุดแวะพักขนถ่ายสินค้าและซื้อขายเกลือมาแต่โบราณ ชมเมืองที่แสนจะน่ารัก มีร้านอาหาร, โรงแรมที่พัก ตลอดจนร้านขายของที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
12.00 น
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
14.00 น.
นำท่านออกเดินทางสู่ หมู่บ้านชวานสเกา เป็นที่ตั้งของปราสาทแห่งเทพนิยายนอยชวานสไตน์ ปราสาทสวยที่แม้แต่ราชาการ์ตูนวอลท์ดิสนีย์ยังหลงใหล และนำไปเป็นต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทรา ในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ บันทึกภาพสวยที่มี ปราสาทนอยชวานสไตน์ และ ปราสาทโฮเฮนชวาน สเกาเป็นฉากหลัง กษัตริย์ลุควิคที่2 ทรงมีพระประสงค์ที่จะสร้างปราสาท 3 แห่งที่ยิ่งใหญ่อันได้แก่นอยชวานสไตน์, ลินเดอฮอฟ และแฮเรนคิมเซ่ ให้เป็นมรดกอันล้ำค่าแห่งรัฐบาวาเรีย ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของตัวปราสาทที่โดดเด่น และมีทะเลสาบและธารน้ำแข็งล้อมรอบจากสะพานมาเรีย ซึ่งพาดผ่านโตรกผาพอลเล็ท เป็นจุดชมวิวที่งดงามที่สุดของปราสาทที่สร้างบนหน้าผาสูง 200 เมตร ในปี ค.ศ. 1869 คริสเตียน จังค์ เป็นผู้ออกแบบตัวปราสาทภายนอก ให้เหมือนฉากละครในอุปรากรของวากเนอร์ เข้าสู่ภายในตัวปราสาทเพื่อชมความสวยที่ได้รับการตกแต่งอย่างอลังการ ด้วยภาพเขียนเกี่ยวกับเรื่องราวอุปรากรและห้องทรงงาน,ห้องท้องพระโรง,ห้องบรรทม ล้วนแต่งดงามจนยากที่จะพรรณนา (มี Audio ภาษาไทยบรรยาย)
จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ เมืองการ์มิช พาร์เท่นเคียร์เช่น จุดหมายปลายทางของนักสกี
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
ATLAS GRAND HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 4
การ์มิช พาร์เท่นเคียร์เช่น - ยอดเขาชุกสปิตเซ่ - อินสบรูค
07.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
จากนั้น นำท่านสู่ขึ้นสู่ ยอดเขาซุกสปิตเซ่ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี ระหว่างทางท่านจะได้ชมวิวทะเลสาบที่อยู่เบื้องล่าง เก็บภาพประทับใจ จากจุดชมวิวบนยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี คือ 9,721 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ที่ทำให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยวได้ทั้งปี เมื่อมองจากยอดเขาจะเห็นทิวทัศน์งดงามกว้างไกล ไปถึง 4 ประเทศด้วยกัน คือ เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลี และสวิสเซอร์แลนด์ โดยมียอดเขาที่อยู่เคียงกันอีก 3 ยอด คือแอล์ปสปิตซ์ (Alpspitz) ครอยเซ็ค (Kreuzeck) และวังค์ (Wank) ซึ่งล้วนแต่เป็นสวรรค์ของนักเดินทาง (62 ก.ม.)
12.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร SUMMIT บนยอดเขา
บ่าย
จากนั้นหลังอาหารออกเดินทางสู่ อินสบรูค เมืองหลวงแห่งแคว้น ทีโรล เจ้าของดินแดนออสเตรียนแอลป์ นำท่านเที่ยวชมเมืองอินสบรูค ที่ได้รับการกล่าวขานว่างดงามเมืองหนึ่งในเทือกเขาแอลป์ แม้แต่ราชสำนักของราชวงศ์ฮัปสบูรก์ที่ยิ่งใหญ่ยังคงสร้างที่พำนักไว้เสน่ห์ของเมืองอยู่ที่ อาคารหลังคาทองคำ (Goldness Dachl) ที่สร้างขึ้นด้วยความประณีตละเอียดอ่อน และมีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ประทับใจกับ เฮลบลิงเฮ้าส์ (Helblinghaus) ตึกสมัยโกธิคตอนปลายที่มีการเพิ่มศิลปะแบบโรโคโคเข้าไปในศตวรรษที่ 18 ทำให้ดูโดดเด่นและหรูหรายิ่งขึ้น โรงแรมโกลเดนเนอร์แอดเลอร์ สร้างตั้งแต่ค.ศ.ที่ 16 เป็นโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและยังเคยใช้ต้อนรับอะคันตุกะจากต่างแดนมาแล้วอย่างมากมาย ฮอฟบูรก์ (Hofburg) พระราชวังที่ราชสำนักใช้แปรพระราชฐานในช่วงฤดูหนาว และบันทึกภาพสวยจากอาคารเรอเนสซองส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของออสเตรีย ฮอฟเกอเค่ (Hofkirche) ที่ถูกสร้างขึ้นในค.ศ.1563 ตามพระประสงค์ของจักรพรรดิแมกซิมิเลี่ยนที่ 1 ตรงข้ามเป็นสวนสาธารณะ (Hofgarten) ให้ความร่มรื่นและงดงามไปด้วยไม้ดอกนานาพันธุ์
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
HOTEL GRAUER BAR หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 5
วัตเท่น - คริสตัลเวิร์ด - ซาลส์บวร์ก - สวนมิราเบล - ทะเลสาบเซนต์วูลฟ์กัง
07.30 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
ออกเดินทางสู่เมืองวัตเท่น นำท่านเข้าชมคริสตัลเวิลด์ อันเกิดจากแนวคิดสะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ งดงาม และแพรวพราว ผนังคริสตัลที่ทอดยาวจะนำท่านเข้าสู่ห้องจัดแสดงคริสตัลเวิลด์ จุดเริ่มต้นการเข้าสู่ห้องสมบัติยักษ์ และห้องบทกวีในอากาศ เมื่อเดินข้ามสะพานไปยังห้องการเปลี่ยนแปรรูปลักษณ์ และห้องเครือข่ายโลก ผ่านมิติเข้าสู่ป่าคริสตัล ล้วนแต่ออกแบบโดยศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคนี้ควรค่าแก่การเข้าชม เชิญท่านเลือกซื้อเครื่องแก้วเจียระไนชั้นดีของ Swarovski ที่มีชื่อเสียงที่สุดในออสเตรียและได้รับการยกย่องไปทั่วโลก
10.30 น.
จากนั้นนำคณะออกเดินทางต่อสู่ เมืองซาลส์บวร์ก เมืองที่มีชื่อเสียงจากการใช้สถานที่ต่างๆของเมืองในการถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อก้องโลก “เดอะซาวด์ออฟมิวสิค” เมืองที่แสนโรแมนติก ที่มีทะเลสาบ และภูเขาเป็นฉากสวย ในปีนี้เป็นปีที่ชาวออสเตรียนเฉลิมฉลองครบรอบ 250 ปีของคีตกวีเอกโมสาร์ต เมืองอนุรักษ์ที่ตั้งอยู่สองฝั่งของแม่น้ำซาลซ่า
13.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเข้าชม “สวนมิราเบล” ภายในพระราชวังเดิม ที่ตกแต่งพันธุ์ไม้หลากหลายสีสัน ข้ามฝั่งสู่เมืองเก่าที่มีปราสาทโฮเฮนซาลส์บวร์กตั้งเด่นตระหง่านอยู่บนเนินเขา แล้วผ่านไปชมบ้านเกิดคีตกวีเอกของโลกชาวออสเตรียน “โมสาร์ต” ที่สร้างผลงานทางด้านดนตรีไว้อย่างมากมาย
นำท่านไปชมมหาวิหารประจำเมืองมหาวิหารแห่งซาลส์บวร์ก ที่สร้างขึ้นจากความร่ำรวยที่เกิดจากการทำเหมืองเกลือ บนถนนเกรไทรเด้ที่มีชื่อเสียงประดับประดาได้ด้วยป้ายบอกชื่อร้านค้า เอกลักษณ์อันโดดเด่นของที่นี่
ต่อจากนั้นเดินทางสู่ภูมิภาคซาลส์ซัมเมอกูทที่มีทะเลสาบเซนต์วูลฟ์กังเป็นเสน่ห์อันน่าติดตรึง
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
HOTEL SCALARIA หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 6
เซนต์วูลฟ์กัง - หมู่บ้านฮัลสตัท - เบิร์ชเทสกาเด้น - เที่ยวชมเหมืองเกลือ - บาดไรเค่นฮาล
07.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
ออกเดินทางสู่ ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี เดินเที่ยวชมเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด เมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
แล้วเดินทางต่อสู่ภูมิภาคซาลส์ซัมเมอกูท ที่มีทะเลสาบเซนต์วูลฟ์กังเป็นเสน่ห์อันน่าติดตรึง
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองเบิร์ชเทสกาเด้น เจ้าของเส้นทางดิอัลไพน์โร้ด เส้นทางเก่าแก่ที่สุดที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้ เลาะเลียบเทือกเขาแอลป์ ถูกก่อตั้งขึ้นให้เป็นศูนย์กลางทางการค้าและการสำรวจหาเกลือและสินแร่ เมืองเก่าแห่งนี้เต็มไปด้วยศิลปะการสร้างอาคารในรูปแบบบาวาเรียตอนบน
13.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำคณะเที่ยวชม เหมืองเกลือเก่า สร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1517 ซึ่งในสมัยโบราณเหมืองเกลือเป็นสถานที่ต้องห้ามของบุคคลทั่วไป เนื่องจากเกลือมีค่าจนได้ชื่อว่าเป็นทองคำขาว แต่ในปัจจุบันได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมภายในที่ยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ทุกประการ แต่ต้องสวมชุดคนงานที่มีเตรียมไว้ให้
นำท่าน นั่งรถรางลอดอุโมงค์ ยาว 700 เมตร ไปยังถ้ำเกลืออันระยิบระยับ และทะเลสาบใต้ภูเขาที่งดงามด้วยแสงเสียง บรรยากาศราวกับอยู่ในเหมืองจริงเมื่อ 500 ปีก่อน ภายใต้อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส
แล้วออกเดินทางสู่ เมืองบาดไรเค่นฮาล (Bad Reichenhall) เป็นเมืองแห่งบ่อเกลือ บ่อน้ำพุร้อน สปา และเป็นสถานที่รักษาบำบัดสุขภาพ และแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนของชาวยุโรป
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
AMBER RESIDENZ BAVARIA, BAD REICHENHALL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 7
บาดไรเค่นฮาล - ปรีน - พระราชวังแฮเรนคิมเซ - มิวนิค
07.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านเดินสู่ หมู่บ้านปรีน ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดริมทะเลสาบคีมเซ หรือทะเลสาบบาวาเรีย ตั้งอยู่ใจกลางแคว้นบาวาเรียตอนเหนือระหว่างเมืองมิวนิคและซาล์สบวร์ก
นำท่านล่องเรือไปยัง เกาะแฮเรนอินเซล หรือเกาะผู้ชาย ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลสาบอันเป็นที่ตั้งของปราสาทชื่อก้องโลก “แฮเรนคีมเซ” ของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 โดยมีพระประสงค์ให้สร้างเลียนแบบพระราชวังแวร์ซายน์ แต่ให้หรูหราอลังการกว่าด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยในยุคนั้น
นำท่านเที่ยวชมห้องภายใน พระราชวังแฮเรนคีมเซ่ ห้องฑูตานุทูต, ห้องทรงงาน, ห้องบรรทม, ห้องเสวย และห้องกระจก ที่ประดับตกแต่งอย่างสง่างามด้วยทองและแพรพรรณหลากสี แต่น่าเสียดายที่ปราสาทแห่งนี้ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ด้วยพระเจ้าลุควิกที่ 2 สิ้นพระชมน์ไปก่อน
12.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำคณะออกเดินทางสู่ นครมิวนิค ซึ่งถือได้ว่าเป็นประตูของยุโรป เมืองมิวนิค หลากหลายด้วยสถาปัตยกรรมที่แตกต่าง อีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นบาวาเรียอีกด้วย
อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้ง เริ่มจากโรงละครแห่งชาติ เป็นจุดเริ่มต้นของถนนสายสำคัญคือ ถนนแมกซิมิเลียน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ได้ชื่อว่าเป็นถนนที่สวยอีกแห่งหนึ่งของเมืองนี้ เป็นที่ตั้งร้านขายของแบรนด์เนมราคาแพง และเป็นที่ตั้งของโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว นักท่องเที่ยวมาเดินเล่นบนถนนสายนี้อาจได้กระทบไหล่ดาราหรือมหาเศรษฐีระดับโลก จัตุรัสมาเรียนใจกลางเมืองเก่า นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้ที่จะชมตุ๊กตาเต้นรำ ที่ประดับอยู่บนอาคารเทศบาลเมืองเก่า เวลา 11.00 น. และ 17.00 น. ของทุกวัน ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร เลิศรสกับขาหมูเยอรมันต้นตำรับแท้
ที่พัก
COURTYARD BY MARRIOTT MUNICH CITY CENTER HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 8
เที่ยวชมเมืองมิวนิค - จัตุรัสมาเรียน - เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
07.00 น.
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น.
เที่ยวชม เมืองมิวนิค ที่มีความหลากหลายด้วยสถาปัตยกรรมที่แตกต่าง เมืองหลวงแห่งแคว้นบาวาเรียแห่งนี้เคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์วิทเทลสบาค และพัฒนาเมืองให้มีความสำคัญที่สุดทางตอนใต้ของเยอรมนี เป็นแหล่งผลิตเบียร์ ศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ BMW
นำท่านบันทึกภาพกับ พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก หรือ พระราชวังฤดูร้อน เข้าสู่เขตเมืองเก่า อาทิ โบสถ์ที่มีรูปโดมหัวหอม, ประตูชัย, ย่านมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่, หอสมุดแห่งชาติ, โรงละครโอเปร่า, เรสซิเด้นท์
10.45 น.
ได้เวลาอันสมควร นำคณะออกเดินทางสู่ สนามบินนครมิวนิค เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ มีเวลาให้ท่านได้ทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน
14.25 น.
ออกเดินทางโดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG925
วันที่ 9
เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ
06.05 น.
เดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ