วันที่ 3
ออสโล - กอล - ฟลัม - นั่งรถไฟสายโรแมนติก FLAMBANA
เช้า
บริการอาหารมื้อเช้าแบบสแกนดิเนเวียน ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
09.30 น.
เรือเทียบท่า ณ กรุงออสโล จากนั้นนำท่านเดินทางขึ้นเหนือเข้าสู่แหล่งแนวฟจอร์ดอันงดงามชื่นชมกับธรรมชาติของน้ำตกที่ไหลรินจากภูผาอันสูงชันลงสู่เบื้องล่างเป็นภาพที่ติดตาตรึงใจไปอีกนานแสนนานแวะเมืองเกลโลเพื่อรับประทานอาหารเป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงของประเทศนอร์เวย์
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟลัม นั่งรถไฟสายโรแมนติค “ฟลัมสบานา” (FLAMSBANA) หนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สูงและสวยที่สุดในโลกฟลัมบาน่าเป็นเส้นทางรถไฟสายเก่าแก่ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปีค.ศ.1940
ระหว่างนั่งรถไฟแวะจอดที่ สถานีน้ำตกจอสฟอสเซ่น (Kjosfossen) ชมความสวยงามและสัมผัสความชุ่มฉ่ำจากละอองน้ำของน้ำตกที่มีความสูงถึง 225 เมตร ท่านจะประทับใจกับทัศนียภาพที่สวยงามตลอดเส้นทาง
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
STALHEIM HOTEL / FREITHEIM HOTEL หรือระดับใกล้เคียง
วันที่ 4
ล่องเรือชม ฟจอร์ด - เบอร์เกน - ชมเมือง
เช้า
บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าสู่ ท่าเรือฟลัม นำท่าน เดินทางสู่ท่าเรือ ลงเรือ เพื่อชม ซอจ์นฟจอร์ด ชื่นชมทัศนียภาพชวนฝันของฟจอร์ด ที่สวยที่สุดของโลก ท่านจะ เห็นภูผาหินสูงตระหง่านที่ธรรมชาติบรรจงสลักไว้ดูวิจิตรพิสดารบนเนินลาดริมฝั่งมีบ้านซัมเมอร์เฮ้าส์ ที่สร้างจากไม้สน ระหว่างล่องเรือจะนกนางนวลบินตามลำเรือ สร้างความประทับใจให้แก่ทุกท่าน
จากนั้นเดินทางสู่เมือง “เบอร์เกน”
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
เดินทางเข้าสู่ เมืองเบอร์เก้น เมืองท่าโบราณเเละมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของนอร์เวย์โดยได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองเเห่งเจ็ดขุนเขาของนอร์เวย์เพราะด้วยที่ตั้งที่รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงที่มีความงดงาม
นำท่านนั่งรถรางขึ้นสู่ ยอดเขา Floyen บนความสูง 320 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลชมวิวทิวทัศน์ของเมืองอันเป็นภาพบรรยากาศที่งดงามและประทับใจ
ได้เวลาสมควร นำท่านลงเขา เดินเล่นชมเมือง เริ่มจากเขตเมืองเก่าอันเป็นที่ตั้งของ Fish Market ที่เป็นทั้งตลาด ปลาอันเก่าแก่และศูนย์การคมนาคมทางทะเลและท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้
ชม หมู่บ้านชาวประมงโบราณ Bryggen สิ่งก่อสร้างเก่าแก่ที่ยังคงอนุรักษ์อาคารไม้สีสันสวยงามที่มีอายุเกือบ 300 ปี เรียงรายตลอดแนวนับเป็นตัวอย่างการก่อสร้างที่โดดเด่นและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจนได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (Unesco) ในปี1970
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
SCANDIC HOTEL BERGEN หรือระดับใกล้เคียง
วันที่ 5
ออสโล - ลานกระโดดสกี “ฮอลเมนโคลเลน” - ปราสาทและปราการอาร์เคอร์ชูร์ - ช้อปปิ้งย่านถนน “คาร์ล โจฮัน”
เช้า
บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
07.40 น.
เดินทางสู่ กรุงออสโล โดย สายการบิน Norwegian Airlines เที่ยวบินที่ ......
08.40 น.
ถึง กรุงออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์เมืองเก่าอายุกว่า 900 ปีซึ่งในยุคนั้นออสโลถือเป็นในเมืองอาณานิคมใหญ่ของจักรวรรดิ์ไวกิ้งโบราณ
ชม ลานกระโดดสกี“ฮอลเมนโคลเลน” ที่เคยใช้ในการแข่งขันสมัยนอร์เวย์เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิคฤดูหนามเมื่อปี 1952
ชม “อุทยานฟรอกเนอร์”ลานปฎิมากรรมกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากผลงานของ“กุสตาฟวิคเกอร์แลนด์” ปฏิมากรชื่อดังซึ่งที่นี่มีปฎิมากรรมมากกว่า 200 ชิ้น โดยผลงานชิ้นเอกเป็นเสากลางอุทยานซึ่งมีควมสูงถึง17 เมตรชื่อ Monolitten รอบเสาแกะสลักเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ลักษณะของเสาโมโนลิทเป็นรูปคนจำนวนมากมายปีนป่ายกันอยู่บนเสาใช้เวลาสร้างรวม 22 ปี
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
หลังอาหารนำท่านเดินชมบริเวณ ชม ปราสาทและป้อมปราการอาร์เคอร์ชูร์ AkershusFortress ปราสาทและป้อมโบราณแห่งนี้ที่สร้างขึ้นในปี 1299 ในสมัยของกษัตริย์ฮากอนที่ 5 บนเดินเขาริมทะเล และในสมัยกษัตริย์คริสเตียนที่ 4 ทรงบูรณะซ่อมแซมป้อมปราการแห่งนี้ให้เป็นปราสาทในรูปแบบเรอเนสซองส์ และใช้เป็นที่ประทับของราชวงศ์มาตลอดในยุคของพระองค์
นำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า พระราชวังหลวง“Royal Palace” แห่งกรุงออสโล พระราชวังแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกที่สวยงาม โดยมีรูปปั้นกษัตริย์เฟรเดอริกที่ 5 (Frederik V) ทรงม้าบริเวณด้านหน้าพระราชวัง และเมื่อมองลงไปจากเนินพระราชวังแล้วจะเห็นสวนSlottsparken และ “ถนนคาร์ล โจฮัน” ถนนช้อปปิ้งที่มีสินค้ามากมาย รวมถึงยังเป็นที่ตั้งของ “โรงละครแห่งชาติ” ที่สร้างขึ้นในปี1899, “มหาวิทยาลัยออสโล” มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของนอร์เวย์ สร้างขึ้นในปี1852, และ“อาคารรัฐสภา” “Stortinget” ที่เปิดใช้มาตั้งแต่ปี1866
จากนั้นอิสระกับการเดินเล่นถ่ายภาพอาคารเก่าแก่โบราณตลอดเส้นทางเดินลงมาจากเนินด้านหน้าพระราชวัง หรือช้อปปิ้ง ย่านถนนคาร์ลโจฮัน ตามอัธยาศัย
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
RADISSON BLU HOTEL OSLO หรือระดับใกล้เคียง
วันที่ 6
ออสโล - อัลต้า - หมู่บ้านเฮียมเมลุฟต์ - ฮอนนิ่งสแวค - Ice Bar - นอร์ทเคป “ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนพร้อมจิบแชมเปญ และรับใบประกาศนียบัตร”
เช้า
บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก หลังอาหารเดินทางสู่ สนามบิน
08.30 น.
เดินทางสู่ เมืองอัลต้า โดย สายการบิน Norwegian Airlines เที่ยวบินที่ .....
10.25 น.
เดินทางถึง สนามบินอัลต้าอัลตา เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฟินน์มาร์คและได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งแสงเหนือและหอดูแสงเหนือแห่งแรกของโลกซึ่งสร้างขึ้นที่นี่บนเขาฮาลด์เดอในค.ศ.1899
เดินทางสู่ หมู่บ้าน“เฮียมเมลุฟต์” (Hjemmeluft) ชมหินแกะสลักอัลตา“Rock Art of Alta” สำรวจภาพวาดและการแกะสลักนับพันรูปที่แกะลงบนโขดหินทรายโดยมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1985
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
เดินทางผ่านธรรมชาติป่าอันงดงามตามแบบฉบับของเขตขั้วโลกเหนือนำท่านลอดอุโมงค์ใต้ทะเลเข้าสู่ เกาะมาเกอโรย่า (Magerøya Island) สู่ เมืองฮอนนิ่งสแวค เมืองเอกประจำเกาะซึ่งเป็นดินแดนที่มีชุมชนอยู่เหนือสุดของประเทศนอร์เวย์
นำท่านเข้าชมภายใน อาร์ติโกไอซ์บาร์ (ARTICO ICE BAR) บาร์แห่งนี้ตั้งอยู่ใน เมืองฮอนนิ่งสแวกค์ (Honningsvag) สัมผัสกับบรรยากาศความหนาวเย็นภายในบาร์ ซึ่งถูกตกแต่งไปด้วยน้ำแข็งไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเก้าอี้เคาน์เตอร์บาร์เครื่องใช้ต่างๆรวมไปถึงแก้วที่ไว้ใส่เครื่องดื่มล้วนทำมาจากน้ำแข็งโดยทางบาร์จะมีเสื้อกันหนาวเตรียมไว้สำหรับทุกท่านพร้อมเครื่องดื่มบริการด้านใน
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นเดินทางต่อสู่ นอร์ธเคป จุดเหนือสุดของยุโรปชมศาลาไทยที่จัดสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการเสด็จประพาสของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อปีพ.ศ. 2450 และทรงลงพระปรมาภิไธยย่อ“จปร” ไว้บนศิลาภายในศาลาเป็นที่เก็บรวบรวมเรื่องราวในการเสด็จประพาสของพระองค์ฯนับเป็นพิพิธภัณฑ์ไทยที่อยู่เหนือสุดของโลก
ชมปรากฏการณ์ธรรมชาติ“พระอาทิตย์เที่ยงคืน” ริมฝั่งมหาสมุทรอาร์คติคแห่งขั้วโลกเหนือพร้อมชื่นชมดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงสุกสว่างยามราตรี *** พิเศษจิบแชมเปญแกล้มคาเวียร์ฉลองการมาเยือนและท่านจะได้ประกาศนียบัตรรับรองการเดินทางมาชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนในครั้งนี้
ที่พัก
SCANDIC NORDKAPP / SCANDIC HONNINGVAG หรือระดับใกล้เคียง
วันที่ 7
ฮอนนิ่งสแวค (นอร์ธเคป) - ทะเลสาบอินารี - โรวาเนียมิ
เช้า
บริการอาหารมื้อเช้าณโรงแรมที่พัก
หลังอาหารเดินทางสู่ เมืองอิวาโร่ เมืองเล็กที่อยู่ในเขตแลปแลนด์ริมฝั่งแม่น้ำอิวาโล่ผ่านชม“ทะเลสาบอินารี”แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ และที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองชาวซามิ
จากนั้นนำท่านเข้าชม “พิพิธภัณฑ์ชาวแลปป์” ชมสภาพจำลองความเป็นอยู่ของชาวแลปป์คนท้องถิ่นพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในแถบขั้วโลกเหนือ กระจายอยู่ในประเทศรัสเซีย ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และบางส่วนของสวีเดนมาเป็นเวลานาน
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
หลังอาหารเดินทางสู่ เมืองโรวาเนียมี “Rovaniemi” เมืองหลวงของเขตแลปแลนด์โดยเมืองนี้ตั้งอยู่บนเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล (Arctic Circle) พอดีอันเส้นละติจูดที่ใช้แบ่งเขตขั้วโลกเหนือกับเขตภูมิอากาศแบบอบอุ่นและเป็นเขตแดนที่สามารถมองเห็นปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ในช่วงฤดูร้อนและแสงเหนือในช่วงฤดูหนาว อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
SANTA CLAUSHOTEL / SOKOS VAAKUNA หรือระดับใกล้เคียง
วันที่ 8
โรวาเนียมี - หมู่บ้านซานต้า คลอส - เฮลซิงกิ
เช้า
บริการอาหารเช้า ณโรงแรมที่พัก
หลังอาหารนำท่านเข้าชม “หมู่บ้านซานตา คลอส” Santa Claus Village ซึ่งชาวฟินแลนด์ได้สร้างขึ้นเพื่อระลึก ถึงลุงซานตาคลอสผู้ใจดี ให้ท่านได้ถ่ายรูปคู่กับลุงซานต้า และท่านจะได้มีโอกาสส่งโปสการ์ดให้เพื่อนๆ ของท่านจากตู้ไปรษณีย์ของซานต้า พร้อมถ่ายรูปกับซานตา คลอส หรือเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
เที่ยง
บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหารเดินทางสู่ สนามบิน
15.20 น.
เดินทางสู่ กรุงเฮลซิงกิ โดย สายการบิน Norwegian Airlines
16.40 น.
ถึง กรุงเฮลซิงกิ จากนั้นนำท่านท่านเข้าสู่ตัวเมือง
ค่ำ
บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
RADISSON BLU HOTEL หรือระดับใกล้เคียง
วันที่ 9
เฮลซิงกิ - ชมเมือง - เรือซิลเรียไลน์
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
หลังอาหารนำท่านชม กรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงของฟินแลนด์ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างสวีดิชและรัสเซีย
นำท่านชม “โบสถ์หินเทมเปอเลียวคิโอ” Templiaukkio Churchหรือที่รู้จักกันในนาม "โบสถ์หิน" (Rock Church) โบสถ์แห่งนี้แต่เดิมเป็นภูหินแกรนิตใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางเมืองถูกสร้างขึ้นโดยการระเบิดชั้นหินธรรมชาติซึ่งออกแบบโดยTimoและTuomoSuomalainenสองพี่น้องสถาปนิกชาวฟินแลนด์
“มหาวิหาร”Uspenski Cathedral วิหารออร์ธอดอกซ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1864โดยใช้เวลาก่อสร้างถึง6ปีโดยตัววิหารเป็นสีน้ำตาลอิฐโดมสีฟ้าอ่อนและยอดโดมเป็นสีทองภายในตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยสีทองและอัญมณีมหาวิหารแห่งนี้ถือเป็นเครื่องแสดงถึงความสัมพันธ์ของฟินแลนด์กับรัสเซียโดยที่รัสเซียเคยปกครองฟินแลนด์อยู่ถึง 100 กว่าปี
จากนั้นเข้าสู่ เซเนทสแควร์ (Senate Square) เป็นจตุรัสกลางเมืองโดยใจกลางจตุรัสมีอนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ประดิษฐานอยู่อย่างโดดเด่นเป็นสง่าชมมหาวิหารเฮลซิงกิสร้างในรูปแบบนีโอคลาสสิค มาตั้งแต่ปีค.ศ.1830-1852 เพื่ออุทิศให้แก่นักบุญนิโคลัสซึ่งในอดีตเรียกว่าโบสถ์นิโคลัส“Nicholas Church”
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารไทย
บ่าย
หลังอาหารชม อนุสาวรีย์ซีบีริอุส “Sibelius Monument” ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์เเก่นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชาวฟินเเลนด์ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในระดับโลกอย่างJean Sibelius ซึ่งเขาคนนี้นี่เองที่เป็นผู้ประพันธ์เพลงปลุกใจชาวฟินเเลนด์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในชื่อเพลงฟินแลนเดียที่กล่าวถึงความรักชาติเเละอิสระเสรีภาพเพื่อปลุกใจให้ชาวฟินน์ทุกคนลุกขึ้นมาต่อสู้เรียกร้องเอกราชจากรัสเซีย
จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่น ย่าน“ตลาดนัดริมทะเล” Market Square ที่มีชื่อเสียงนอกจากจะเป็นตลาดย่านใจกลางเมืองที่ขายของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยวแหล่งขายปลานานาชนิด อาหารผลไม้ และดอกไม้หรือช้อปปิ้งที่ห้าง Stockman ตามอัธยาศัย
15.30 น.
นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือเพื่อเดินทางเปลี่ยนบรรยากาศโดย เรือสำราญขนาดมหึมา “ซิลเลียไลน์” Silja Line ซึ่งเป็นเรือสมุทรขนาดใหญ่ที่สุดของสแกนดิเนเวีย
ล่องผ่านทะเลบอลติกสู่กรุงสต๊อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เพลิดเพลินกับความสนุกสนานมากมายในเรือ อาทิ ภัตตาคาร,ร้านอาหาร,บาร์, ไนต์คลับ, ดิสโก้เธค, ศูนย์สันทนาการสำหรับครอบครัว, ร้านค้าปลอดภาษี และเสี่ยงโชคในคาสิโนมีระดับชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของหมู่เกาะแก่งหิน ท่าเรือ และบ้านไม้สมัยโบราณ
ค่ำ
บริการอาหารมื้อค่ำ แบบบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลเมนูพิเศษ สแกนดิเนเวียนซีฟู๊ด Scadinavian Seafood ณ ภัตตาคารภายในเรือ ประทับใจอาหารจากทะเลเหนือและทะเลบอลติก ทดลองชิมไข่ปลาคาร์เวียและปลาแซลมอนแบบต่างๆพร้อมทั้งชิมไวน์เลิศรสเพลิดเพลินกับความหรูหราที่ไม่ธรรมดาในคืนพิเศษนี้
ที่พัก
บนเรือสำราญซิลเลียไลน์ Silja Line (ในห้องแบบ Out Side เห็นวิวทะเล พักห้องละสองท่าน หากต้องการอัพเกรด ห้องพักเป็นห้องสวีท กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่)
วันที่ 10
สต๊อกโฮล์ม - ชมเมือง - ช้อปปิ้งที่ห้าง NK - เมนูพิเศษสวีดิส ล๊อบสเตอร์
เช้า
บริการอาหารมื้อเช้าแบบสแกนดิเนเวียน ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
09.30 น.
เรือเข้าเทียบฝั่ง กรุงสต๊อกโฮล์ม นำท่านเข้าสู่ “กรุงสต๊อกโฮล์ม” เมืองหลวงของประเทศสวีเดนที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จนได้รับการขนานนามว่า “ความงามบน ผิวน้ำ” Beauty on Water หรือ “ราชินีแห่งทะเลบอลติค”เที่ยวชมเมืองหลวงของประเทศสวีเดนนำท่านขึ้นสู่จุดชมวิวพร้อมชมความสวยงามของกรุงสต๊อกโฮล์ และเมืองเก่า“แกมล่าสแตน จากบริเวณจุดชมวิว
จากนั้นนำท่าน เข้าชม “พิพิธภัณฑ์เรือวาซา” ชม เรือรบวาซา ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการทำสงครามกับเยอรมนีแต่เรือรบลำนี้กลับไม่มีโอกาสที่จะได้ออกไปลอยลำต่อหน้าศัตรูของสวีเดนเลยเพราะหลังจากเรือรบวาซาร์ได้ถูกปล่อยลงน้ำได้เพียง 30 นาทีเรือรบวาซาร์ก็ล่มและจมลงสู่ก้นทะเลอย่างรวดเร็วและถูกทิ้งให้จมอยู่ใต้ทะเลบอลติคนานถึง333 ปี
เที่ยง
บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร ***เมนูพิเศษ กุ้งล๊อบสเตอร์ พร้อมหมึกทอด Calamari
บ่าย
นำท่านเข้าชม “ซิตี้ ฮอลล์” City Hall หรือศาลาว่าการเมืองซึ่งใช้เวลาสร้างถึง 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังของสวีเดน คือ RagnarOstbergสร้างด้วยอิฐแดงกว่า 8 ล้านก้อน และมุงหลังคาด้วยหินโมเสค สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1911 และทุกปีจะมีพิธีมอบรางวัล “โนเบล” Nobel Prize ที่ ซิตี้ ฮอลล์นี้
จากนั้นอิสระให้ท่านช้อปปิ้ง ที่ ห้างสรรพสินค้าเอ็นเค NK ซึ่งเป็น“ห้างที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเหนือ” หรือย่าน Walking Street อันทันสมัยที่เต็มไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมมากมาย เช่น Louis Vuitton,Chanel, NUDIE JEANS, Hermes, Burberry, Adidas, Nike ฯลฯ
ค่ำ
บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
SCANDIC TALK HOTEL หรือระดับใกล้เคียง
วันที่ 11
สต๊อกโฮล์ม - ซิกทูน่า(เมืองหลวงเก่า) - เดินทางกลับ
เช้า
บริการอาหารมื้อเช้าแบบสแกนดิเนเวียน
หลังอาหารชมเมือง “ซิกทูน่า” (Sigtuna) เมืองหลวงแห่งแรกของประวัติศาสตร์สวีเดน จนได้รับฉายาว่า City of Kings, Home of Vikings ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงสต็อคนึ่งในเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดเมืองหนึ่งของสวีเดนมาตั้งแต่ ศตวรรตที่ 10 หรือกว่า 1,100 ปีมาแล้ว กษัตริย์สวีเดนเคยประทับอยู่ที่เมืองนี้ราวๆ 250 ปี
ได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางสู่ สนามบิน
14.20
ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยการบินไทยเที่ยวบินที่ TG961
วันที่ 12
กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
05.30 น.
เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ