เช้ามืด
จุดชมวิวไทเกอร์ฮิลล์ : เป็นจุดชมวิวเทือกเขาหิมาลัยยามเช้า ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของเมืองดาร์จีลลิ่งที่ระดับ 2590 เมตรจากระดับทะเล จึงเหมาะแก่การชมวิวหากฟ้าเปิดเราจะได้เห็นยอดเขาคันเชงจุงก้า ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
08.00 น.
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่าน ชม โรงงานผลิตชาไร่ชาแฮปปี้วัลเล่ย์ (Happy Valley) ชมขั้นตอนการผลิตชาที่มีชื่อเสียงของเมืองดาร์จีลิ่ง ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อครั้งอังกฤษเข้ามาปกครองอินเดีย
12.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านขึ้นชม ทรอยเทรน (Toy Train ) สถานีรถไฟนี้มีชื่อเต็มๆว่า Darjeeling Himalayan Railway สร้างในปี ค.ศ. 1879-1881 ใช้ระบบเครื่องจักรไอน้ำ ยังได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้ทางรถไฟสายนี้เป็นมรดกโลกด้วยนั่งรถไฟชมรอบเมือง จะมีการจอดให้ลงถ่ายรูปในแต่ละสถานที่ที่น่าสนใจ
แวะชม สถานีบาตาเซียลูป (Batasia Loop) เป็นรางรถไฟที่สร้างขึ้นให้มีลักษณะเป็นวง ใช้เป็นจุดเลี้ยวกลับของรถไฟที่มาจากสถานีดาร์จิลลิง ส่วน War emorial สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1994 ในบริเวณบาตาเซียลูป เป็นอนุสาวรีย์ที่มีลักษณะสามเหลี่ยม สูง 30 ฟุต สร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารหาญชาวดาร์จิลิงที่เสียชีวิตจากสงคราม รอบๆตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิด และมีกล้องส่องทางไกลให้ได้ส่องชมเมืองดาร์จิลิงอีกด้วย ลงจากรถไฟ
แวะชม ชม พิพิธภัณฑ์กูม ด้านในแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างทางรถไฟเส้นนี้ ตั้งแต่อุปกรณ์ต่างๆ ภาพถ่ายเหตุการ์สำคัญ ป้ายประจำสถานี ประกาศนียบัตรจากองค์การยูเนสโก
จากนั้นนำท่านเดินช้อปปิ้ง ย่านช้อปปิ้งชอร์ราสตา (Chawrasta) ตลาดพื้นเมืองชอร์รัสต้าแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง เป็นย่านที่ถนนสี่สายมาบรรจบกัน เพราะฉะนั้นที่นี่จึงมีถนนแยกไปได้หลายสาย โดยเฉพาะย่านถนน The Mall ซึ่งเป็นถนนที่สวยงาม มีสินค้าพื้นเมือง ของฝาก ของที่ระลึกมากมายให้เลือกช้อปปิ้งกัน
จากนั้นนำท่านเข้าที่พัก
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก
SUMMIT SWISS HERTAGE HOTEL (DARJEELING) หรือเทียเท่า อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 4
เมืองดาร์จีลิ่ง - เมืองกังต๊อก
06.00 น.
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
07.00 น.
นำท่านเดินทางเมืองหลวงสู่ กังต็อก (Gangtok) เมืองหลวงแห่งรัฐสิกขิม (ประเทศอินเดีย) เมืองสายหมอก รัฐสิกขิม (Sikkim) เป็นรัฐทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย มีภูมิประเทศแบบที่ราบสูงบนเทือกเขาหิมาลัย มีพรมแดนติดกับหลายประเทศ อาทิ เขตปกครองตนเองทิเบต, เนปาล และภูฏาน แต่เดิมสิกขิมเป็นรัฐเอกราช มีขนาดใหญ่กว่ากรุงเดลี เมืองหลวงของอินเดียเล็กน้อย ปกครองโดยราชวงศ์นัมเยล ด้วยความเป็นรัฐเอกราชเล็กๆ อาจถูกบั่นทอนจากจีนซึ่งยึดทิเบตได้แล้วขณะนั้น เมื่ออินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ รัฐสิกขิม จึงยอมอยู่ใต้เอกราชเดียวกับอินเดียชมวิวทัศน์ระหว่างสองข้างอย่างสวยงาม(ประมาณ 3-4 ชม.)
นำท่านชม ความงามแห่งดงดอกไม้นานาพันธ์ ณ FLOWER SHOW HALL ซึ่งภายในจะจัดแสดงพันธุ์ไม้เมืองสิกขิมหลากหลายพันธุ์และท่านช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกจากเมืองมากมายที่ตลาดกังต็อก
12.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านชม วัดรุมเต็ก (Rumtek Monastery) อยู่ในเมืองกังต๊อก รู้จักกันในนามของศูนย์ธรรมจักร (Dharmachakra Centre) สร้างโดย การ์มาปา วังชุก ดอร์เจ ที่9 ในศตวรรษที่ 16 สำหรับใช้เป็นที่พักอาศัยของผู้สืบเชื้อสาย Karma Kagyu ในสิกขิม แต่เมื่อวัดถูกทำลาย พื้นที่ถูกปล่อยร้างจนพระสังฆราชการ์มาปาที่ 16 ซึ่งเป็นชาวทิเบตได้ลี้ภัยมายังสิกขิมในปี ค.ศ. 1959 เนื่องจากกองทัพจีนบุกไปยืดทิเบต พระองค์ได้สร้างวัดรุมเต็กอีกครั้ง เพื่อใช้เป็นที่ลี้ภัยจากกองทัพจีนโดยได้รับความช่วยเหลือจากราชวงศ์สิกขิมและรัฐบาลอินดียที่ตรงนี้มีลักษณะภูมิประเทศที่ดี มีลำธาร ภูเขาอยู่ด้านหลัง ภูเขาหิมะอยู่ด้านหน้าและมีแม่น้ำอยู่ด้านล่างใช้เวลาสร้างนาน 4 ปี มีสถาปัตยกรรมแบบทิเบตปัจจุบันเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในสิกขิม จากนั้นไม่นานพระสังฆราชการ์มาปาที่ 16 ได้สถาปนาวัดนี้เป็น ศูนย์ธรรมจักร สถานที่ใช้เรียน ฝึกฝนและปฏิบัติตนของชาวพุทธรวมทั้งเผยแผ่คำสอนของพระพุทธเจ้าในวันขึ้นปีใหม่ของทิเบต ในปี ค.ศ. 1966
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก
DENZONG RESIDENCY HOTEL(Gangtok) หรือเทียบเท่า อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 5
เมืองกังต๊อก - ทะเลสาบฌางโก - คเณศต็อก
06.00 น.
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบฌางโก (Tsomgo Lake) (ระยะทาง 34 กม.ประมาณ 2 ชม.) ทะเลสาบฌางโก สูงประมาณ 3,774 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของสิกขิม มีลักษณะคล้ายรูปไข่ยาว 1 กิโลเมตร ลึก 15 เมตร เป็นทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูและชาวพุทธ ในช่วงหน้าหนาวน้ำจะกลายเป็นน้ำแข็ง และละลายในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม รอบๆจะมีกุหลาบพันธ์ปี ดอกไอริส และดอกป็อปปี้ รวมถึงสัตว์ป่าหายากเช่น แพนด้าแดง เป็ด Brahmini และนกอพยพต่างๆ รวมถึง แย็ก (Yak หรือจามรี)มีรูปทรงสัณฐานเป็นวงรีลึกประมาณ 15 เมตร เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำลุงเฌ่ชูไหลไปบรรจบกับแม่น้ำรังโปและถือกันว่าเป็นแหล่งต้นน้ำธรรมชาติที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ในสมัยอดีตพระลามะหลวงจะทำนายดวงชะตาเมืองจากการเพ่งกสิณ ณ ทะเลสาบแห่งนี้ สนุกสนานกับกิจกรรม ขี่จามรี สัตว์ภูเขาที่ได้รับการแต่งตัวด้วยสีสันสดใส พักผ่อน ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก กันตามอัธยาศัย
จนถึงเวลานัดหมายได้เวลาอันสมควรกลับสู่ เมืองกังต็อก
13.30 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
ระหว่างทาง นำท่านแวะชม คเณศต็อก (Ganesh Tok) เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู ชาวบ้านนิยมมาสวดมนต์ ด้านบนสามารถชมวิวเมืองกังต็อกได้ 180 องศา ถ้าอากาศดีจะมองเห็นวิวยอดเขาคันเช็งฌองกาได้ด้วย ภายนอกประดับธงแบบทิเบต วัดนี้ตั้งอยู่บนความสูง 6,100 ฟุต ติดกับทีวีทาวเวอร์ เป็นวัดเล็กๆ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับลอร์ดกาเนชซึ่งเป็นวัดสำคัญของศาสนาฮินดู ประดิษฐานพระพิคเณศเทพเจ้าแห่งการขจัดอุปสรรคและเป็นเทพแห่งศิลปะทุกแขนง
ชม หนุมานต็อก เป็นวัดในศาสนาฮินดู ที่สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่หมุมานทหารกล้าของพระรามในวรรณคดีก้องโลกรามเกียรต์ชาวสิกขิมบูชาและเคารพท่านในฐานะเทพผู้กล้าหาญ และจงรักภักดีต่อพระราม หนุมานจึงเป็นเสมือนหนึ่งเทพเจ้าองค์หนึ่งที่ชาวสิกขิมนับถือเป็นอย่างมากหากต้องการความกล้าหาญและความหึกเหิมใจต้องมาบูชาท่านและที่วัดหนุมานนี้ยังเป็นจุดชมวิวยอดเขาคังซังจังก้า ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกและเทือกเขาหิมาลัยอีกด้วย ในวันที่ฟ้าสดใส
อิสระช้อปปิ้ง ถนนมหาตมคานธี มาร์ก หรือ ถนนเอ็มจีมาร์ก (Mahatma Gandhi Road) M.G. Marg ถนนมหาตมคานธีเป็นถนนช้อปปิ้งสายหลักของสิกขิมที่มีร้านค้าจำนวนมาก โดยถนนเส้นนี้ในช่วงเย็นจะกลายเป็นถนนคนเดิน ห้ามรถวิ่งผ่านไปมา ถือเป็นถนนที่น่าเดินเล่น
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก
DENZONG RESIDENCY HOTEL (Gangtok) หรือเทียบเท่า อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 6
เมืองกังต๊อก - หมู่บ้านลาชุง
06.30 น
จัดกระเป๋าใบเล็ก สำหรับไปพักที่หมู่บ้านลาชุง 1 คืน จะมีอุณหภูมิหนาวที่สุดในโปรแกรมของเรา อย่าลืมจัดเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นที่สุดไปด้วยค่ะส่วนกระเป๋าใบใหญ่ฝากไว้ที่โรงแรมในเมืองกังต๊อก
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
07.30 น.
นำท่านเดินทางออกจาก เมืองกังต๊อก เพื่อไปหมู่บ้านลาชุง
นำท่านชม วัดเอนเซย์ (Enchey Monastery) ขึ้นมาในปี ค.ศ. 1840 กังต็อกจึงกลายเป็นศูนย์กลางของการแสวงบุญไปโดยปริยาย ต่อมาในปี ค.ศ. 1894 ธูทอบ นัมเกล (Thutob Namgyall) กษัตริย์ผู้ปกครองสิกขิมซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษอีกที ได้ย้ายเมืองหลวงจากเมืองทุมลอง (Tumlong) มาอยู่ที่เมืองกังต็อก (Gangtok) แทน นับแต่นั้นมา กังต็อกซึ่งมีบทบาทมากในฐานะเมืองหลวงแห่งสิกขิม (แม้ว่าภายหลังสิกขิมจะกลายเป็นรัฐที่ 22 ภายใต้การปกครองของอินเดีย กังต็อกก็ยังเป็นเมืองหลวงเช่นเดิม)กังต็อกประกอบด้วยชาวเนปาล ภูฏาน และชาวอินเดียเป็นส่วนใหญ่
แวะ จุดชมวิวทาชิ (Tashi View Point) ซึ่งเป็นจุดชมความงดงาม ยอดเขาคันชังจุงก้า ยอดที่สูงเป็นอันดับสามของโลก ที่ดีที่สุดในเมืองกังต็อก ถ้าอากาศดี ฟ้าเปิดจะมองเห็น ยอดเขาชิโนชู (Siniolchu)กลางเมืองกังต็อก ที่ท่านจะสามารถมองเห็นความสลับซับซ้อนของเทือกเขาทางภาคเหนือได้ดีที่สุด ขึ้นชมทิวทัศน์ของเมืองกังต๊อก เมืองหลวงของอาณาจักรสิกขิม
นำท่านออกเดินทางสู่ หมู่บ้านลาชุง (Lachung) ในอดีตเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างสิกขิมและทิเบต ที่นี่มีหุบเขายุมถัง หรือสวิตเซอร์แลนด์แห่งดินแดนตะวันออกและวัดลาชุง (ช่วงเดือน ธันวาคม – กุมภาพันธ์ อาจขึ้นมาที่หมู่บ้านนี้ไม่ได้เนื่องจากหิมะตกหนัก) มีอาณาเขตติดต่อกับจีน คำว่าลาชุง แปลว่า ภูเขาขนาดเล็ก จากเมืองกังต็อกใช้เวลานั่งรถจีปประมาณ 6-7 ชั่วโมงคะ ท่านจะได้สัมผัสกับภูมิทัศน์และบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติหมู่บ้านนี้โอบล้อมด้วยเทือกเขาหิมาลัย และวิวทิวทัศน์อันสวยงามตลอดเส้นทาง
12.30 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
13.30 น.
นำท่านเดินทางต่อ ในระหว่างทางไป ลาชุง เราจะได้แวะ น้ำตกเจ็ดสาวน้อย เป็นน้ำตกขนาดเล็กไม่ใหญ่มาก และแวะชมน้ำตกอันสวยงามตลอดเส้นทาง ท่านจะได้เห็นและสัมผัสกับน้ำตกที่สวยงามและแปลกตา บางช่วงปรากฏสายน้ำทิ้งตัวพุ่งดิ่งผ่านผาสูงลิบลิ่ว (จุดหมายไม่ใช่ปลายทางแต่ในระหว่างทางเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด)
18.30 น
ถึง หมู่บ้านลาชุง หมู่บ้านที่โอบล้อมด้วยเทือกเขาหิมาลัย ท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดโรแมนติกและยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดนำท่านเข้าสู่ที่พัก
19.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก
NORLING ZIMKHANG (Lachung) หรือเทียบเท่า อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 7
หมู่บ้านลาชุง - หุบเขายุมถัง - หุบเขาแห่งดอกไม้ - เมืองกังต๊อก
07.30 น.
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
08.00 น.
นำท่านเดินทางสู่ หุบเขายุมถังหรือทุ่งหญ้าลอยฟ้า (Yumthang Valley) หุบเขายุมถัง ตั้งอยู่บนระดับความสูง3,659 เมตร สวิสเซอร์แลนด์แห่งสิกขิม สถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามที่สุดของสิกขิมและยังเป็นดินแดนแห่งตำนานและความฝันเป็นเหมือนสวนสวรรค์สุขาวดีที่งดงามราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์ยุมถังเป็นหุบเขาแสนสวยสองข้างทางมียอดเขาหิมะของเทือกหิมาลัยตั้งตระหง่านผ่านธารน้ำแข็งน้อยใหญ่และป่าสนกับยอดเขาสูงเสียดฟ้าถ้ามาช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมซึ่งเป็นฤดูใบไม้ผลิจะเห็นป่ากุหลาบพันปีมากกว่า36 สายพันธุ์ผลิดอกบานสะพรั่งทั้งหุบเขาหรือถ้ามาเดือนพฤศจิกายน-เดือนมกราคม จะเห็นเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะสวยงามแบบสวิสเซอร์แลนด์ยุมถัง ดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “สวิสแห่งเอเชีย” ที่นี่นอกจากจะเป็นดินแดนแห่งดอกไม้ และดอกกุหลาบพันปีหลากหลายสายพันธุ์แล้ว ยังมีน้ำพุร้อน และที่ปลายสุดของยอดเขาสูง“Zero Point” หุบเขาหิมะแห่งสิกขิมดินแดนสวยงามที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะมีความสูงถึง4,800เมตรจากระดับน้ำทะเลช่วงที่เหมาะที่จะเที่ยวที่หุบเขายุมถังคือช่วงเดือนเมษายน–กลางเดือนมิถุนายนซึ่งจะเป็นช่วงที่ดอกไม้บานสวยงามมากแต่ถ้าหากอยากเห็นตอนภูเขาปกคลุมไปด้วยหิมะและท้องฟ้าสดใสเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงเดือนพฤศจิกาย– เดือนมกราคม ยกเว้นถ้ามีหิมะตกหนัก ก็ไม่สามารถขึ้นไปได้ ระหว่างการเดินทางผ่านความงดงามของธรรมชาติที่ได้สรรสร้างท้องฟ้าสีน้ำเงินสดโอบล้อมหุบเขาที่เต็มไปด้วยหิมะในช่วงฤดูใบไม้ผลิระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมทั่วทั้งอาณาบริเวณของยุมถังจะเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้นานาพันธุ์จนได้รับสมญานามว่า“หุบเขาแห่งดอกไม้”และเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนไปตลอดทั้งปีและมีหิมะมากยิ่งขึ้นในฤดูหนาว อิสระถ่ายภาพความกับทรงจำอันสวยงามที่ไม่รู้ลืม
จนได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ หมู่บ้านลาชุง ระหว่างทางแวะจิบน้ำชากาแฟและของว่าท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามของพุ่มดอกกุหลาบพันปีและพิมมูล่าแมคโนเลียระหว่างเส้นทางของหุบเขายุมถัง
12.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
หลังอาหารเดินทางสู่ เมืองกังต็อก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง) ชมแสงอาทิตย์ที่ทอแสงผ่านสายหมอกที่พาดพันขุนเขาสูงเปลี่ยนเป็นลำแสงพราวพรรณตกลงต้องหุบเขาและแม่น้ำทิสต้า“TESTA” ที่อยู่เบื้องล่างอิสระชมทิวทัศน์ระหว่างสองข้างทางที่สวยงามตลอดเส้นทางชมแสงอาทิตย์ที่ทอแสงผ่านสายหมอกที่พาดพันขุนเขาสูงเปลี่ยนเป็นลำแสงสีทองตกลงต้องกับหุบเขาและแม่น้ำทิสต้าที่อยู่เบื้องล่างอิสระชมทิวทัศน์ระหว่างสองข้างทางที่สวยงามตลอดเส้นทาง
18.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก
DENZONG RESIDENCY HOTEL (Gangtok) หรือเทียบเท่า อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 8
เมืองกังต๊อก - สิริกูรี(บักโดกรา) - กัลกัตต้า - กรุงเทพฯ
06.00 น
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้น นำท่านชม NAMGYAL INSTITUTE OFTIBETOLOGY ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมประวัติความเป็นมาของอาณาจักรสิกขิม จากนั้นนำท่านนมัสการ องค์พระสถูปโดดูร์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2488 ถือว่าเป็นสุดยอดสถูปแห่งความศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในอาณาจักรสิกขิม สร้างโดยพระมหาเถระตรุลศรี รินโปเช ประธานสงฆ์แห่งนิกายน์ญิงมาในพระพุทธศาสนามหายานในธิเบต บริเวณรอบสถูปประกอบด้วย 108 วงล้อภาวนาที่พุทธศาสนิกาชนใช้หมุนไปพร้อมกับการสวดมนต์ โอม มณี ปัท เม ฮุม ซึ่งหมายถึงอัญมณีในดอกบัว
06.30 น.
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานบักโดกรา เมืองสีลิกูรี (บักโดกรา BAGDOGRA) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 4 ชั่วโมง)
10.30 น.
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
16.35 น.
โดย สายการบิน INDIGO AITLINES เที่ยวบินที่ 6E534 สู่ เมืองกัลกัตตา
17.50 น.
ถึง สนามบินเมืองกัลกัตา นำท่านเข้าเชคอินระหว่างประเทศเพื่อเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ
อิสระอาหารค่ำเพื่อสะดวกแก่การเชคอิน
20.50 น.
เหิรฟ้าสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบิน INDIGO AITLINES เที่ยวบินที่ 6E77 (2050-0150+1)
วันที่ 9
กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา เที่ยงคืน )
01.50 น.
เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ