บ่าย
เดินทางสู่ หมู่บ้านนางสุชาดา (Sujata Village) มีลักษณะเป็นกองอิฐเนินสูง ซึ่งนางสุชาดาเป็นผู้ที่ถวายข้าวมธุปายาสให้กับพระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้
ระหว่างทางก็จะผ่าน แม่น้ำเนรัญชร (Niranjana River) ปัจจุบันเรียกว่า Falgu River หรือ PhalguRiver เป็นแม่น้ำที่ถ้าฝนหยุดตก น้ำในแม่น้ำก็จะแห้งไปอย่างรวดเร็ว และจะอยู่ในสภาพที่แห้ง สามารถเดินข้ามได้อย่างสบาย
นำท่านเดินทางสู่ พุทธคยา หรือ วัดมหาโพธิ์ (Mahabodhi Temple) ที่เป็นจุดกำเนิดของศาสนาพุทธ เพราะเป็นสถานที่ที่เจ้าชายสิทธัตถะ ได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่นี่เป็นเวลา 2,500 กว่าปีมาแล้ว เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้แล้ว พระองค์ก็ได้ประทับอยู่ ณ พุทธคยา เพื่อเสวยวิมุตติสุข (ความสุขอันเกิดจากความหลุดพ้น) อยู่ 7 สัปดาห์ โดยมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นต้นไม้แห่งการตรัสรู้ มีทั้งหมด 4 ต้น นับเป็นอนุสรณ์สถานอันทรงคุณค่าและสถานที่แห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกประเภทมรดกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกอีกด้วย
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองพาราณสี (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ7 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอินเดียและยังจัดเป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โลกอีกด้วย
บ่าย
นำท่านชม สังเวชนียสถาน สารนาถเป็นพุทธสังเวชนียสถานแห่งที่ 3 เดิมมีชื่อว่า “ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน” สักการะธรรมเมกสถูปสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ลวดลายดอกไม้ที่รอบองค์พระสถูป เป็นศิลปะของยุคคุปตะแต่การสำรวจพบว่า แผ่นอิฐข้างในพระสถูปเป็นของยุคเมารยัน จึงสันนิษฐานไว้ว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าอโศกนำชมเสาพระเจ้าอโศก สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระปฐมเทศนาประกอบด้วยทางแห่งความสงบและความหลุดพ้น บนยอดเสาจะเป็นรูปสิงค์ 4 ตัว เสามีฐานบัวคว่ำ และฐานเสาทั้ง 4 ด้าน สลักเป็นธรรมจักรและรูปช้าง ม้า โค และสิงค์
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน ล่องเรือสู่แม่น้ำคงคา ชมความสวยงามของ เมืองพาราณสี และ ชมพิธีคงคาอารตี (Ganges Aarti) หรือ ที่เรียกอีกอย่างว่า พิธีบูชาไฟ เป็นพิธีกรรมหนึ่งที่ปฎิบัติกันมาแต่โบราณ เป็นการแสดงความเคารพสูงสุดต่อพระแม่คงคา แต่ไม่เพียงแค่บูชาไปเท่านั้น ยังมีหลายอย่างที่ใช้ในการประกอบพิธี เช่น สังข์, ระฆัง, ธูป, ภาชนะหรือหม้อใส่น้ำ, การบูร, ดอกไม้, กำยาน, ตะเกียงน้ำมันฆี, พัดขนนกยูง และแส้หางจามรี เป็นต้น (พิเศษ! กระทงลอยขอพรแม่น้ำคงคา)
วันที่ 3
พาราณสี - ลุมพินี (เนปาล)
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลุมพินี (เนปาล) ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
PAWANOR NEW CRYSTAL HOTEL ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 4
ลุมพินี (เนปาล) - กุสินารา
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านสู่ ลุมพินีวัน หรือปัจจุบันเรียกว่า รุนมินเด เป็นพุทธสังเวชนียสถานแห่งแรก เป็นสถานที่ที่พระนางสิริมหามายาประสูติเจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อวันศุกร์ วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี ซึ่งโดยรอบลุมพินีวันนั้น มีซากอิฐเก่า สระโบกขรณี ซึ่งมีลักษณะเป็นสระทรงสี่เหลี่ยมพื้นผ้า เป็นสระที่พระนางสิริมหามายาได้ทรงสรงสนาม(อาบน้ำ) ชำระพระวรกายในวันประสูติเจ้าชายสิทธัตถะ และ วิหารมายาเทวี (Mayadevi Temple) สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระนางสิริมหามายา โดยภายในวิหารเป็นจุดที่พระพุทธเจ้าทรงย่างพระบาทแรกหลังออกจากครรภ์พระราชมารดา ตัววิหารสูง 3 เมตร และมีบันไดขึ้น-ลงได้ 2 ด้าน ภายในยังมีภาพหินทรายแกะสลักรูปพระประสูติกาลของเจ้าชายสิทธัตถะ และภาพเจ้าชายสิทธัตถะยืนอยู่องค์เดียว และบริเวณด้านข้างประดิษฐาน “เสาศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราช” หรือ เสาอโศก (Ashokan Pillar) พบว่าที่เสาอโศกนั้น จารึกอักษรพราหมที่มีความหมายว่า “พระพุทธเจ้าประสูติที่นี่” ซึ่งลุมพินีวันแห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ.2540 อีกด้วย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองกุสินารา (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง)
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
บ่าย
นำท่าน ชมสังเวชนียสถาน เมืองกุสินาราเป็นเมืองเอกหนึ่งในสองของแคว้นมัลละ อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำคู่กับเมืองปาวา เป็นที่ตั้งของสาลวโนทยาน หรือป่าไม้สาละ ที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานและเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า
ชม มหาปรินิพพานวิหาร (Mahaparinirvana Temple) ภายในประดิษฐาน “พระพุทธรูปปางปรินิพพาน” อยู่บนพระแท่นทำด้วยหินทรายแดง ประทับนอนบรรทมตะแคงขวา โดยหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก
นำท่านชม มหาปรินิพพานสถูป ตั้งอยู่ทางด้านหลังของ มหาปรินิพพานวิหาร ลักษณะเป็นสถูปทรงโอคว่ำขนาดใหญ่ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้
จากนั้นชม มกุฏพันธนเจดีย์ (Ramabhar Stupa) ตั้งอยู่ถัดจาก มหาปรินิพพานสถูป ป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
OM RESIDENCY / MAITREY HOTEL ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 5
กุสินารา - เวสาลี - ปัตนะ
เช้า
รับประทานรอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปัตนะ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
บ่าย
นำท่านสู่ เมืองเวสาลี เป็นชื่อของเมืองหลวงของแคว้นวัชชี เป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สำคัญรวมถึงเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองอย่างมากในสมัยพุทธกาล แต่ในปัจจุบัน แคว้นวัชชี เป็นอำเภอเวสาลี เป็น 1 ใน 14 อำเภอขึ้นตรงกับรัฐพิหาร ประเทศสาธารณรัฐอินเดีย โดยพระพุทธเจ้าเคยเสด็จเยี่ยมเมืองแห่งนี้ในปีที่ 5 หลังการตรัสรู้
นำท่านชม เสาอโศกรูปสิงค์ ณ วัดป่ามหาวัน ซึ่งถือว่าที่แห่งนี้เป็นเสาสิงค์ที่สมบูรณ์ที่สุด
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองปัตนะ
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
PANACHE / PATLIPUTRA HOTEL ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 6
ปัตนะ - นาลันทา - ราชคฤห์ - พุทธคยา
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ มหาลัยนาลันทา (Nalanda University) มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของโลก สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช โดยมีจุดประสงค์ให้เป็นสถานศึกษาของพระภิกษุในพระพุทธศาสนามีการสอนในหลากหลายวิชา ทั้ง พุทธปรัชญา พระไตรปิฎก วรรณคดี แพทยศาสตร์ เป็นต้น มีพระสงฆ์จากต่างประเทศเดินทางมาศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นจำนวนมาก แต่ครั้ง พ.ศ.1742 มหาลัยนาลันทานั้นถูกเข้าใจว่าเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ จึงถูกทหารชาวมุสลิมเติร์กเข้าทำลาย ทำให้คัมภีร์ทางศาสนาถูกเผาทั้งหมด
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
บ่าย
นำท่านสู่ ที่คุมขังพระเจ้าพิมพิสาร เป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ทางพระพุทธศาสนามีลักษณะเป็นซากฐานกำแพงสูงประมาณ 6 ฟุตล้อมรอบบริเวณ ซึ่งจากจุดนี้สามารถมองเห็นพระคันธกุฎีบนยอดเขาคิชฌกูฏอันสวยงามได้อีกด้วย
นำท่านสู่ วัดเวฬุวันมหาวิหาร (Venuvan Vihara)หรือ พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน หมายถึง วัดสวนป่าไผ่ เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ตั้งอยู่ใกล้เชิงเขาเวภารบรรพต บนริมฝั่งแม่น้ำสรัสวดีซึ่งมีตโปธาราม (บ่อน้ำร้อนโบราณ) และวัดนี้ยังเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่พระสาวกจำนวน 1,250 รูป ซึ่งในปัจจุบันยังคงเป็นซากโบราณสถานในสวนไผ่ที่ร่มรื่น
จากนั้นนำท่านสู่ ตโปธาราม เป็นบ่อน้ำร้อนโบราณ (Hot Water Spring) อันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพราหมณ์ที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปีเป็นที่อาบน้ำสาธารณะของวรรระต่างๆ วิธีการอาบจะแบ่งเป็นชั้นๆตามวรรณะสูงต่ำเชื่อกันว่าการอาบน้ำ ณ ที่แห่งนี้จะสามารถชำระบาปและรักษาโรคได้
จากนั้นเดินทางสู่ เขาคิชฌกูฏ(Girdhkut Cave) มีลักษณะเป็นภูเขาที่เอียงลาดยาวขึ้นและเป็นลานกว้าง จุดเด่นที่น่าสนใจ คือ อิฐปรักหักพังลักษณะทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าก่อนเสด็จดับขันปริพนิพพาน และกุฏิวิหารสำหรับพระภิกษุสงฆ์อีกหลายท่าน และยังเป็นสถานที่ที่เงียบสงัด และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับผู้คนที่มาศักการะ
นำท่านเดินทางสู่ เมืองพุทธคยา
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
DHAMMA / MAHABODHI HOTEL ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 7
พุทธคยา - กรุงเทพฯ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ได้เวลาอันสมควร เดินทางเข้าสู่ สนามบินคยา เมืองพุทธคยา
10.40 น.
ออกเดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD123 (มีบริการอาหารบนเครื่อง)
14.50 น.
เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม