14.00 น.
จากนั้นนำท่านเดินทางไปชม อัชดัม (Swaminrayan Akshrdham) สรวงสรรค์บนดิน ณ สถานที่แห่งนี้เป็นตัวอย่างของวัฒนธรรมอินเดียกว่า 10,000 ปี และ ยังเป็นเสมือนเป็นหัวใจสำคัญของงานสถาปัตยกรรมอินเดียโบราณอย่างแท้จริง ที่แสดงถึงวัฒนธรรมความรุ่งเรืองด้านศิลปะ ตลอดจนแสดงถึงจิตวิญญาณของอินเดีย และยังเป็นสัญลักษณ์ของความสุข ความเจริญ และการปรองดองของมนุษยชาติ เป็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ของศาสนาฮินดู สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวและสีชมพูดูสวยงามากๆ วัดอัคชาร์ดาม สร้างขึ้นโดยองค์กร BAPS ในเดลี ซึ่งผสมผสานลักษณะทางสถาปัตยกรรมอันหลากหลายของอินเดียเข้าด้วยกันใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 5 ปี ใช้ช่างศิลปะและสถาปนิกจำนวน 7,000 คน วัดอัคชาร์ดาม ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อ ปี 1968 แต่ก็ยังก่อสร้างได้ไม่มากนัก จนกระทั่ง 18 ปีให้หลัง จึงได้มีการก่อสร้างอย่างจริงจังเมื่อปี 2000 และสร้างจนเสร็จสิ้นในปี 2005
วันที่ 3
(แคชเมียร์)ศรีนาคา - พาฮาลแกม - ศรีนาคา
06.00 น.
บริการอาหารเช้า ณ บ้านเรือ
จากนั้น ขบวนรถโตโยต้าอีโนว่า (4-5 ท่าน/คัน) ออกเดินทางจากศรีนาคา สู่ หมู่บ้านพาฮาแกม หรือ หมู่บ้านหุบเขาแกะ หมู่บ้านที่อยู่บนที่มีความสูง 2,130 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นสถานที่มีชื่อเสียงที่สุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอินเดีย
ระหว่างทางชมแวะถ่ายรูปกับ ทุ่งมัสตาร์ด Mustard ทุ่งดอกไม้สีเหลืองอร่าม ดอกมัสตาร์ด มีหลักฐานพบว่า ถูกใช้เป็นเครื่องปรุงแต่งรสอาหารมานานหลายพันปีแล้ว มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่แถบยูเรเซีย และเมดิเตอร์เรเนียน เพราะมัสตาร์ดเป็นพืชเมืองหนาว ดังนั้น จึงเติบโตได้ดีในโซนยุโรปและในเอเชียระหว่างทางสองข้างทางท่านจะผ่านพบวิถีชีวิตของชาวแคชเมียร์ที่หลากหลาย เช่นหมู่บ้านที่ทำ ครกหิน หมู่บ้านที่ทำไม้แบดสำหรับกีฬาคลิกเก็ต ที่เราจะพบเห็นชาวแคชเมียร์เล่นกีฬาประเภทนี้ได้ตามสนามทั่วไป ไม้แบดนี้ทำมาจากต้นหลิว (Willow Tree) ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปทั้งในและนอกเมือง แต่จะพบเห็นได้มาก นอกจากนี้ จะได้เห็นทุ่งโล่งๆ ซึ่งในฤดูใบไม้ร่วงประมาณเดือนตุลาคม ท้องทุ่งแห่งนี้เป็นแหล่งปลูกหญ้าฝรั้น หรือ Saffron ที่ใหญ่ที่สุด ลักษณะดอกจะเป็นสีม่วง ว่ากันว่าเกสรของหญ้า ฟรั้นมีสรรพคุณในการช่วยลดคลอเรสเตอรอลได้ดี
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม
บ่าย
นำท่านอิสระ ชม เมืองพาฮาลแกม (Pahalgam) ที่นี่ คือ ดินแดนสรวงสวรรค์ของแคชเมียร์ นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศต่างยกย่องให้ ดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งหากคุณยังไม่เชื่อก็ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเองเท่านั้น คำว่า พาฮาลแกม หมายถึง หมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ (Village of Shepherds) หรือ หุบเขาแกะ และด้วยทัศนียภาพอันงดงามจนน่าทึ่งของพาฮาลแกม ดินแดนแห่งนี้ได้รับความสนใจจากนักสร้างภาพยนตร์ จนกลายเป็นสถานที่มีชื่อเสียง ที่สุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอินเดีย ปัจจุบันพาฮาลแกมได้รับสมญานามว่าเป็น "สวิสเซอร์แลนด์แห่งอินเดีย" ไปแล้ว พาฮาลแกม ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่พักผ่อนปิกนิก ตกปลาเทราต์ และขี่ม้าชมวิวเท่านั้น ช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมของทุกปี ผู้แสวงบุญชาวฮินดูจำนวนมากจะมาประกอบพิธีกรรมยาตราเพื่อไปสักการะถ้ำอัมรนาถอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งถือเป็นที่ประทับของพระศิวะ เทศกาลนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม Amarnath Yatra การท่องเที่ยวในพาฮาลแกมนั้น คือ การชื่นชมในความงดงามของธรรมชาติ ป่าสนขนาดใหญ่และหมู่บ้านที่มีวิถีชีวิตแบบพื้นบ้านของชาวแคชเมียร์
กิจกรรมเด่นพิเศษแนะนำสุนกสนามกับการ ขี่ม้าชมหุบเขาพาฮาลแกม (Pahalgam) (ไม่รวมใน รายการทัวร์ ค่าขี่ม้า 600 รูปี ไม่รวมทิป) การขี่ม้าจะใช้เวลาไป-กลับประมาณ 1-2 ชั่วโมง ที่นี่ คือ ดินแดนสรวงสวรรค์ของแคชเมียร์ นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศต่างยกย่องให้ ดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งหากคุณยังไม่เชื่อก็ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเองเท่านั้น
จนถึงเวลานัดหมายเดินทางกลับ ศรีนาคา
ค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ โรงแรมบ้านเรือ
ที่พัก
DELUXE HOUSE BOAT อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 4
(แคชเมียร์) ศรีนาคา - หุบกุลมาร์ค - ศรีนาคา
07.00 น.
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมเรือ
08.00 น.
ออกเดินทางโดยรถโตโยต้าอีโนวาสู่ กุลมาร์ค (Gulmarg) (คันละ 4-5 ท่าน) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 -3 ชั่วโมง กุลมาร์ค เป็นภูเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งใน แคชเมียร์ (Kashmir) เดิมเรียกเการิมาร์ค ตั้งโดยสุลต่าน ยูซุปชาร์ ในศตวรรษที่ 16 เนื่องจากที่นี่เป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าตามฤดูกาล และในปัจจุบันยังเป็นสถานที่ตั้งของสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่สูงที่สุดในโลก (3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล) และมีสถานที่เล่นสกีในฤดูหนาวด้วย ตลอดเส้นทางสู่กุลมาร์คจะผ่านทุ่งนาข้าว หมู่บ้านชาวพื้นเมือง ฝูงแกะตามภูเขา และเทือกเขาหิมะสลับซับซ้อนสวยงาม ชาวแคชเมียร์กล่าวขานว่าทุ่งหญ้าแห่งดอกไม้ เป็นเส้นทางที่มุ่งสู่ชายแดนปากีสถาน กุลมาร์คเป็นแหล่งท่องเที่ยวในฤดูหนาว มีระดับความสูง 2,730 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในช่วงฤดูร้อนที่นี่จะเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟที่สูงที่สุดในโลก โดยรอบท่านจะได้พบเห็นกระท่อมรูปทรงแบบในเทพนิยาย และมีป่าสนเป็นฉากหลัง ที่นี่ยังสถานเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์อีกด้วย
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม
13.00 น.
นำท่านขึ้น เคเบิลคาร์เฟส 1 (ราคารวมกระเช้าลอยฟ้าหรือกอนโดลาเฟส 1) ไปจนถึง ยอดเขากุลมาร์ค “Gulmarg Hill” ระหว่างทางขึ้นสู่ยอดเขากุลมาร์ค ท่านจะพบเห็นหมู่บ้านยิปซี ซึ่งจะอพยพไปอยู่ที่เมืองจัมมูในช่วงฤดูหนาว และจะกลับมาอยู่อาศัยในช่วงฤดูร้อน เมื่อถึงบนยอดเขากุลมาร์ค ให้ท่านถ่ายรูปกับทิวทัศน์ภูเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยที่ปกคลุมด้วยหิมะสวยงามในทุกทิศทาง ถ้าหากฟ้าเป็นใจไม่มีหมอกจัดท่านได้ถ่ายรูปกับทิวทัศน์ภูเขา รวมถึงยอดเขา K2 ที่สูงเป็นอันดับสองรองจากยอดเขาเอเวอร์เรส จากนั้นอิสระให้ท่านถ่ายรูปทิวทัศน์ของภูเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย และ กุลมาร์คมีชี่อเสียงในฐานเป็นสถานที่ที่เล่นสกีซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งในอินเดีย นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาเที่ยวกันในช่วงฤดูหนาว(ราคาไม่รวมขึ้นกระเช้าเฟสที่ 2)
จนถึงเวลานัดหมายนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองศรีนาคา ตามเส้นทางเดิม
นำท่านชม จามามัสยิด “Jama Masjid” ซึ่งสร้างเป็นครั้งแรกสมัยสุลต่านสิคานเดอร์ และบูรณะต่อมาอีกหลายสมัย เป็นมัสยิดที่สร้างด้วยรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบจีนและเนปาล ด้วยหลังคาทรงสี่เหลี่ยม ภายในมีเสาที่ตัดจากต้นซีดาลทั้งต้นกว่า 300 ต้น ได้เวลาสมควรก่อนกลับที่พัก
ค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ โรงแรมบ้านเรือ
อิสระหลังอาหาร สนุกสนานกับการช้อปปิ้ง สินค้าเพื้อนเมือง ที่จะมีพ่อค้าชาวแคชเมียร์พายเรือมาขายให้ถึงที่เลย อาทิ ผ้าพาศมิน่า,เปเปอร์มาเช่,สร้อยคอ,กำไร,และเครื่องเงินต่างๆ มากมาย ให้ทุกท่านใช้ความสามารถพิเศษให้เต็มที่กันเลยค่ะ
ที่พัก
DELUXE HOUSE BOAT อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 5
(แคชเมียร์) ศรีนาคา - โซนามาร์ค - ศรีนาคา
07.00 น.
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมบ้านเรือ
08.00 น.
นำท่านเดินทางสู่ โซนามาร์ค (Sonamarg) (ประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันมีวิวทิวทัศน์อันสวยงาม อยู่บนเส้นทางระหว่างเมืองศรีนาคากับเมืองเลห์ ในบริเวณหุบเขาโซนามาร์กนี้มีธารน้ำแข็งสีขาวบริสุทธิ์ที่ปกคลุมอยู่ตามลาดไหล่เขา อีกทั้งเทือกเขาหิมะที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกายสีทอง จึงเป็นที่มาของชื่อ โซนามาร์ค และยังมีเทือกเขาหิมาลัยเป็นฉากหลัง ที่เรียกขานตามท้องถิ่นว่า ทาจิวาส ภูเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี มีแม่น้ำสินธุ ลดเลี้ยวผ่านหุบเขาในอีกฟากของถนน “โซนามาร์ค” เป็นสถานีเริ่มต้นที่จะมุ่งหน้าไปยังลาดัคห์ หรือเป็นรู้จักกันดีในชื่อว่า “ประตูสู่ลาดัคห์” เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยงาม ตลอดเส้นทางจึงเป็นเส้นทางที่ให้ขับรถไปถ่ายรูปไป...เลยทีเดียว
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเที่ยว ชม ชุดชมวิวโซนามาร์ค อิสระเดินชมธรรมชาติสัมผัสอากาศสบายๆ ชมวิวภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะและสองฟากฝั่งถนนที่เต็มไปด้วยธารน้ำแข็ง ถนนบางช่วงต้องตัดผ่านช่องน้ำแข็งขนาดใหญ่ ที่นี่จะมีกิจกรรมแบบแคชเมียร์ให้ท่านได้ลองหาประสบการณ์ (ค่าเลี่อน,ค่าสกี,ค่าขี่ม้า,ไม่รวมในราคาทัวร์ค่ะ)
โปรแกรมแนะนำ ท่านที่หลงใหลในธรรมชาติ สามารถขี่ม้าชมความงามของทิวทัศน์อย่างไกล้ชิดมากขึ้น(ราคารวมขี่ม้าชมกราเซีย ไม่รวมที่ท่านละ 300 รูปี) หรือ สนุกการนั่งเลื่อน (มีคนลาก) สู่เนินหิมะด้านบนจากนั้นปล่อยให้ลื่นไหลลงมา (ค่านั่งเลื่อน 350-400 รูปี )
จากนั้นเดินทางกลับ ศรีนาคา ในเส้นทางเดิม
ค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ โรงแรมบ้านเรือ
ที่พัก
DELUXE HOUSE BOAT อิสระพักผ่อนตาม
วันที่ 6
(แคชเมียร์) ศรีนาคา - เดลลี
06.00 น.
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมบ้านเรือ
นำท่าน ล่องเรือสิคารา (เรือพายแบบแคชเมียร์) ชมความงดงามทะเลสาบ ให้ท่านได้ชื่นชมทัศนียภาพของเทือกเขาหิมะที่ล้อมรอบ ชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำ (ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 1 ชม.) รอบทะเลสาบ นกนานาชนิด พืชดอกไม้น้ำ ทะเลสาบใสสวยงาม สนุกสนานกลางทะเลสาบเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองของชาวแคชเมียร์ที่นำของมาขายให้ท่านได้เลือกซื้อในราคาตามความสามารถได้เวลาสมควรพายเรือกลับที่พัก
10.00 น.
บริการอาหารกลางวัน ณ บ้านเรือ
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่สนามบินภายในประเทศเพื่อเดินทางกลับสู่ เมืองเดลลี (New Delhi)
14.15 น.
เหิรฟ้าสู่ เมืองเดลลี (New Delhi) โดย สายการบินแอร์ อินเดีย เที่ยวบินที่ AI822 เครื่องบินจะจอดแวะ 30 นาทีไม่ต้องลงจากเครื่อง
17.15 น.
เดินทางต่อถึง เมืองเดลลี (New Delhi) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และพร้อมรับสัมภาระเข้าสู่อาคารระหว่างประทศ
ค่ำ
มอบ Cash Back ท่านละ 500 รูปี อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
19.00 น.
เช็คอินทที่เคาเตอร์ สายการบิน AIR INDIA จากนั้นผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง อสระช๊อปปิ้งสินค้าภายในสนามบินได้ ตามอัธยาศัย
23.00 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ ฯ โดย สายการบินแอร์ อินเดีย เที่ยวบินที่ AI 332 (บริการอาหารบนเครื่อง)
วันที่ 7
เดลลี - (สุวรรณภูมิ) กรุงเทพฯ
04.40 น.
ถึง ท่าอากาศสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ