วันที่ 3
แอนทีโลปแคนยอน - Horse Shoe Bend Point
เช้า
รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ แอนทีโลปแคนยอน (Antelope Canyon) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.50 ชั่วโมง) อีกหนึ่งความอัศจรรย์ที่ธรรมชาติบันดาลให้ปรากฏ หุบเขาพิศวง แห่งนี้ เกิดจากการพังทลายของชั้นหิน Navajo Sandstone ซึ่งถูกกัดเซาะอย่างฉับพลันจากกระแสน้ำที่ซัดผ่าน ผสานความแรงจากกระแสลม พายุฝน ผ่านฤดูกาลต่างๆ ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน Antelope Canyon จึงกลายเป็นหุบเขาที่อันตรายที่สุด เนื่องจากบริเวณนั้นอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ตลอดเวลา และระดับน้ำสามารถสูงถึง 10 เมตร
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย
นำท่านชมความมหัศจรรย์ของ แอนทีโลปแคนยอน หุบเขาที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งดึงดูดใจช่างภาพทั่วโลก เพราะสีสันจากธรรมชาติซึ่งเกิดจากการตกกระทบของแสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านช่องแคบ สะท้อนกับสีของชั้นหิน Navajo Sandstone เกิดเป็นความสวยงามสุดประทับใจแก่ทุกสายตา ด้วยความคดเคี้ยวดุจเกลียวคลื่นเว้าแหว่งไปตามซอกหน้าผา สีสันที่เห็นใน Antelope Canyon จึงเปลี่ยนไปตามการหักเหของแสงในฤดูกาลต่างๆ เช่น ฤดูร้อน สีสันจะเป็นโทนสีแดง ส้ม และ ม่วง ฤดูใบไม้ร่วง จะเป็นโทนสีอ่อน สบายตา แม้ Antelope Canyon จะขึ้นชื่อว่าเป็น หุบเขาที่อันตรายที่สุด ขณะเดียวกันก็ถือว่าเป็น หุบเขาที่สวยที่สุด และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และได้รับความนิยมในการถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งในอเมริกา อิสระให้ท่านเก็บภาพความสวยงามตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านท่านชม ฮอสชูเบน (Horse Shoe Ben Point) จุดชมโค้งแม่น้ำรูปเกือกม้าบนหน้าผาสูงกว่า 1,000 ฟุต นับเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามมาก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก
Antelope Lake Powell Resort / Holiday Inn Express & Suite Page Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 4
หุบเขาโมนูเมนต์ - โฟร์คอนเนอร์ โมนูเมนต์ - อุทยานแห่งชาติเมซา เวอร์เด - เมืองโบราณใต้ผา
เช้า
รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาโมนูเมนต์ (Monument of Valley Navajo Tribal Park) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง)
นำท่านเที่ยวชมและถ่ายรูปกับ หุบเขาโมนูเมนต์ (Monument Valley) ซึ่งตั้งอยู่ที่เส้นเขตแดนระหว่างรัฐยูทาห์กับรัฐแอริโซนาทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ชื่อหุบเขามีที่มาจากแท่งหินค้ำขนาดมหึมา ซึ่งกระจัดกระจายอยู่บนที่ราบไม้พุ่มอันแห้งแล้ง ภูมิภาคแถบนี้เต็มไปด้วยแท่งหินหรือซากหินที่หลงเหลือจากการสึกกร่อน นักธรณีวิทยาเรียกแท่งหินลักษณะดังกล่าวนี้ว่าโมนูเมนต์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายสิ่งก่อสร้างจากฝีมือมนุษย์เช่น ตึกสูง หินแท่งรูปร่างแปลกตาจำนวนมากเหล่านี้ถูกเรียกขานว่า "หินรูปประสาท" ซึ่งเป็นแท่งหินที่มีลักษณะยอดราบ หรือเรียกอีกอย่างเนิน "เมซา"(mesa) สูงกว่า 300 เมตร และด้านบนมีหินคล้ายใบเสมาปรากฏอยู่ นอกจากนี้ยังมี "หินรูปถุงมือ" ซึ่งมีลักษณะเป็นเนินยอดป้านดูคล้ายนิ้วมือทั้งสี่ นอกจากนี้ยังมีหินรูปร่างแปลกตาอีกมากมาย ในกลุ่มแท่งหิน สูงกว่า 245 เมตร หุบเขาแห่งนี้ยังเป็นฉากในภาพยนตร์ฮอลลิวู้ดหลายต่อหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น Mission Impossible II, Transformer, Forrest Gump, Back to the Future and etc. อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความน่าอัศจรรย์และสวยงามของหุบเขาโมนูเมนต์ตามอัธยาศัย
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติเมซา เวอร์เด (Mesa Verde National Park) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นอุทยานที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา โดยมีบริเวณที่เป็นจุดเชื่อม 4 รัฐที่เรียกว่า โฟร์คอร์เนอร์ (4 corners) อันประกอบด้วยรัฐยูทาห์ โคโลราโด นิวเม็กซิโก และ อริโซนา ภายในอุทยานจะเป็นหน้าผา ซึ่งคนโบราณได้สร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ปัจจุบันได้กลายเป็นโบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา สำหรับ เมซาเวอร์เด ยังถือว่าเป็นแหล่งศึกษาประวัติศาสตร์ของชาวอินเดียนแดงโบราณ เผ่าปัวโบล (Pueblos) เนื่องจากบริเวณนี้เต็มไปด้วยชะง่อนผาที่ยื่นออกไป ทำให้ข้างใต้เกิดเป็นลักษณะเหมือนถ้ำ ชาวอินเดียนแดงโบราณเผ่าปัวโบล (Pueblos) จึงใช้ประโยชน์จากแหล่งกำบังทางธรรมชาติโดยสร้างบ้านเรือนอยู่ใต้ชะง่อนผา ชุมชนชะง่อนผาเหล่านี้ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงรูปโต๊ะ ซึ่งมีความสูงถึง 3,650 เมตร ชาวปัวโบลขยายตัวออกไปและได้สร้างชุมชนเป็นหมู่บ้านเล็กบ้างใหญ่บ้างใต้ชะง่อนผานับได้กว่า 600 แห่ง แต่แห่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีชื่อว่าคลิฟพาเลซ (Cliff Palace) เป็นเสมือนอพาร์ทเมนต์หรือคอนโดมิเนียม มี 6 ชั้น มีจำนวนห้องถึง 217 ห้อง และมีความยาวถึง 88 เมตร อยู่ได้ถึง 600 คน สำหรับอุทยานแห่งชาติเมซา เวอร์เด ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้เพื่ออนุรักษ์โบราณสถานแห่งนี้ให้เป็นสมบัติของมวลมนุษยชาติสืบไป อิสระให้ท่านได้เก็บภาพเมืองโบราณใต้ชะง่อนผาตามอัธยาศัย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พัก
Holiday Inn Express Mesa Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 5
อุทยานแห่งชาติเมซา เวอร์เด - อุทยานแห่งชาติอาร์เชส - โคโลราโด แคนยอน
เช้า
รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติอาร์เชส (Arches National Park) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) หรือ อุทยานแห่งชาติหินโค้ง ซึ่งมีเนื้อที่ 300 ตารางกิโลเมตร มีสะพานหินโค้งมากกว่า 200 แห่ง สะพานหินโค้งแลนด์สเคป ยาวกว่า 89 เมตร เป็นสะพานหินโค้งที่ยาวที่สุดในโลก แม้จะเป็นอุทยานเล็กๆ มีเนื้อที่ไม่มาก แต่ที่นี่เป็นบันทึกหน้าสำคัญทางธรณีวิทยา เป็นที่ชุมนุมของหินโค้งหรือทับศัพท์จากภาษาอังกฤษว่าอาร์ช (arch) ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติถึงกว่า 2000 พันชิ้น มีขนาดน้อยใหญ่ รูปร่างแตกต่างกัน และ มีสะพานหินโค้งเดลิเคต ซึ่งสะพานแห่งนี้สูงโดดเด่นเหนือของแอ่งหินขนาดใหญ่ ตัวสะพานสูงเท่าตึก 7 ชั้น เป็นจุดเด่นของอุทยานแห่งนี้ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความงามของอุทยานหินโค้งตามอัธยาศัย
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ โคโลราโด แคนยอน (Colorado National Monument Canyon) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ซึ่งได้รับการจัดอันดับและขึ้นทะเบียนเป็นแกรนด์แลนสเคป (Grand landscapes) ของอเมริกาตะวันตก
นำท่านชมจุดชมวิวและ ถ่ายรูปโคโลราโดแคนยอน ได้สวยที่สุด นำท่านชม ผาหินแดง (Red Rock Canyon) อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของผาแดงแห่งโคโลราโด ได้ตามอัธยาศัย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก
ที่พัก
Holiday Inn Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 6
ป่าไวท์ ริเวอร์ - เดนเวอร์ - แรพิดซิตี้
เช้า
รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ป่าไวท์ริเวอร์ หรือ ป่าแห่งแม่น้ำสีขาว (White River National Forest) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) อันเป็นที่ตั้งของ Maroon Bells อันงดงาม ซึ่งเป็นยอดเขายาวต่อกันที่โผล่ขึ้นมาเหนือทะเลสาบน้ำใส ให้ท่านได้มีเวลาเก็บภาพความสวยงามของเทือกเขายอดสูงที่ปกคลุมด้วยหิมะ สะท้อนกับผืนน้ำใส เรียกได้ว่าเป็นฉากหลังที่สวยงามไม่แพ้เทือกเขาร๊อกกี้ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เดนเวอร์
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเดนเวอร์ (Denver) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของ รัฐโคโลราโด ชื่อเล่นของเดนเวอร์ คือ ไมล์ไฮซิตี้ เนื่องจากตัวเมืองสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1 ไมล์ เดนเวอร์ยังได้ชื่อทางประวัติศาสตร์ว่า Queen City of the Plains เนื่องจากความสำคัญของอุตสาหกรรมการเกษตรของเมือง ทำให้เรือรบสหรัฐอเมริกา หลายลำใช้ชื่อว่า USS Denver เพื่อเป็นการให้เกียรติเมืองนี้ นำท่านเที่ยวชมเมืองเดนเวอร์
18.00 น.
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเดนเวอร์
19.50 น.
ออกเดินทางจากสนามบินเดนเวอร์ สู่ สนามบินสนามบินแรพิด ซิตี้
ค่ำ
****** อิสระอาหารค่ำ ในสนามบินตามอัธยาศัย*****
20.58 น.
เดินทางถึง สนามบินสนามบินแรพิด ซิตี้ นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
ที่พัก
Hilton Garden Inn Rapid City Hotel หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1)
วันที่ 7
อนุสรณ์สถานแห่งชาติเมาท์รัชมอร์ - อุทยานแห่งชาติ วินด์เคฟ
เช้า
รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ อนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์ (Mt. Rushmore National Memorial) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นประติมากรรมแกะ สลักบนหน้าผาของภูเขาหินแกรนิต ชื่อเขารัชมอร์ ซึ่งชื่อในภาษาลาโกตา ซู แปลว่า ปู่หกคน ใกล้เมืองคีย์สโตนรัฐเซาท์ดาโกต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา แกะสลักโดยชาวเดนมาร์ก-อเมริกันชื่อ Gutzon Borglum และลูกชายของเขาชื่อ ลินคอล์น ประติมากรรมเป็นใบหน้าของอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาสูง 60 ฟุต (18 เมตร) 4 ท่าน ได้แก่ จอร์จ วอชิงตัน (1732-1799) โทมัส เจฟเฟอร์สัน (1743-1826) ทีโอดอร์ รูสเวล (1858-1919) และ อับราฮัม ลินคอล์น (1809-1865) ซึ่งเป็นประติมากรรมที่ตั้งตระหง่านบนหน้าผาที่สูงชันบนเทือกเขา แบล็คฮิลส์ เซาธ์ดาโกตา อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปกับประติมากรรมหน้าผาหินของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาทั้ง 4 คน
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติ วินด์เคฟ (Wind Cave National Park) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นอุทยานที่ตั้งของถ้ำขนาดใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของอเมริกา โดยอุทยานแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 7 ของอเมริกาในสมัยของประธานาธิบดี ทีโอดอร์ รูสเวลล์ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 1903 และเป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งขึ้นเพื่อป้องกันและอนุรักษ์ถ้ำวินเคฟ ถ้ำขนาดใหญ่ที่มีหินงอกหินย้อยสวยงามยิ่ง
นำท่านเข้าชม ความงามของถ้ำวินเคฟ (Wind Cave) ซึ่งมีอายุนับล้านล้านปี นอกจากนี้อุทยานแห่งนี้ยังเป็นที่อยู่ของควายไบซัน และ สัตว์ป่านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นกวาง หมี ซึ่งอาจสามารถพบเห็นโดยรอบ อิสระให้ท่านเก็บภาพความงามและความน่าอัศจรรย์ของภูมิประเทศที่แตกต่างของรัฐเซาท์ดาโกตา ได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองแรพิด ซิตี้
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก
Hilton Garden Inn Rapid City Hotel หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2)
วันที่ 8
แรพิตซิตี้ - อุทยานแห่งชาติ เยลโลว์สโตน (พักค้าง 2 คืน)
เช้า
รับประทานอาหารเช้าในโรงแรมแบบ Breakfast box
06.00 น.
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินแรพิต ซิตี้ เพื่อเชคอิน
07.30 น.
ออกเดินทางจาก สนามบิน แรพิต ซิตี้ สู่ สนามบินบอสแมน เยลโลว์สโตน โดยเที่ยวบิน UA4545/UA452
12.56 น.
เดินทางถึงสนามบินบอสแมน เยลโลว์สโตน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติ เยลโลว์สโตน (Yellow Stone National Park) อุทยานแห่งชาติแห่งแรก ของโลกที่ตั้งอยู่ต้นสายของแม่น้ำเยลโลว์สโตน หรือ Hidatsa ที่แปลว่าหินสีเหลือง ตามภาษาชาวอินเดียแดง เผ่า Minnetaree ที่พบหินสีเหลืองอยู่โดยรอบแม่น้ำสายนี้ และถูกนำมาใช้เป็นชื่อของอุทยานแห่งชาติ ในปี 1872 ปัจจุบันมีเนื้อที่ครอบคลุมถึง 3 รัฐ (ไอดาโฮ, ไวโอมิ่ง และมอนทาน่า) บนเนื้อที่ทั้งหมด 2,219,789 เอเคอร์ มีสัตว์สายพันธุ์ต่างๆมากกว่า 400 สายพันธุ์ อาทิเช่น กวางมูส หมี และหมาป่า เป็นต้น พันธุ์ไม้มากกว่า 1,000 สายพันธุ์ นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ในเขต Super volcano ที่เคยเกิดการปะทุมาแล้ว 3 ครั้ง (ครั้งสุดท้าย 640,000 ปีก่อน) จึงทำให้พื้นที่แห่งนี้เกิดความอุดมสมบูรณ์เนื่องจากการสะสมและทับซ้อนของลาวาและขี้เถ้าจากการระเบิดของภูเขาไฟจึงทำให้มีแร่ธาตุที่เหมาะสมแก่การเพาะปลูก และยังให้มีทัศนียภาพที่งดงามอีกด้วย จึงทำให้อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก
Holiday Inn West Yellow Stone หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
วันที่ 9
อุทยานแห่งชาติ เยลโลว์สโตน
เช้า
รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านชม แกรนด์แคนยอนแห่งเยลโลว์สโตน(Grand Canyon of Yellow Stone) หุบเหวที่เกิดจากการแยกตัวของพื้นโลก อันมีสาเหตุจากภูเข้าไฟระเบิด การเคลื่อนตัวของน้ำแข็ง ในยุคที่น้ำแข็งละลาย จึงทำให้ปัจจุบันนี้แม่น้ำเยลโล่ว์สโตนไหลผ่านกว่า 38 กิโลเมตรเลยทีเดียว
นำท่านชมความงดงามของ แม่น้ำเยลโลว์สโตน(Yellow Stone River) เป็นหนึ่งในสาขาของแม่น้ำมิสซูรี่ มีความยาวประมาณ 1,114 กิโลเมตร นอกจากนี้ผิวน้ำบริเวณน้ำตกนั้นจะถูกเคลือบด้วยน้ำแข็ง สลับไปด้วยสีสันสวยงามของผาหินสีแดงแกมน้ำตาลที่เต็มไปด้วยสีขาวของหิมะที่ค้างอยู่ตามซอกชั้นหลืบผา และสีเขียวเข้มเกือบดำของป่าสน จึงทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย
นำท่านชม Fountain Paint Pots บ่อโคลนเดือดที่เกิดจากไอร้อนที่เกิดจากแมกม่าในชั้นใต้ดินของผิวโลกที่ผสมผสานการดินโคลนในแถบนั้นจึงทำให้เกิดเป็นบ่อโคลนเดือดและเกิดสีแดง สีเหลืองและสีน้ำตาลตามสีของชั้นดินในแถบนั้น
กลางวัน
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ซึ่งจะมีจำหน่ายที่ศูนย์นักท่องเที่ยว ทางทัวร์จัดค่าอาหาร ท่านละ 20 USD
บ่าย
นำท่านชม โอลด์เฟธฟูล เกย์เซอร์ (Old Faithful Geyser) น้ำพุร้อนที่สามารถพุ่งสูงได้กว่า 100 – 200 เมตร และจะพุ่งออกมาทุก 40 ถึง 120 นาที
จากนั้นนำท่านชม บ่อน้ำพุร้อนนอริส (Norris Geyser Basin) บ่อน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดและเปลี่ยนแปลงบ่อยที่สุดในอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนที่มีความยาวประมาณ 3.6 กิโลเมตรซึ่งทุกท่านจะได้เดินชมบ่อน้ำพุร้อนPorcelian และบ่อน้ำพุร้อนBack ที่อยู่ในเขตบ่อน้ำพุร้อนนอริสซึ่งท่านจะได้เห็นทัศนียภาพอันงดงามทางธรรมชาติที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของสีของธรรมชาติที่รายล้อมอยู่โดยรอบบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้
นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติ เยลโลว์สโตนฝั่งตะวันตก (West Yellow Stone) อีกด้านหนึ่งที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำพุร้อนแกรนด์พริสมาติคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกโดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 110 เมตร ความลึกประมาณ 40 เมตร
นำท่านชม บ่อน้ำร้อนแกรนด์พริสมาติค (Grand Prismatic Spring) บ่อน้ำร้อนที่ถูกค้นพบโดย เฟอร์ดินาน แวนเดอเวียร์ เฮย์เด้น นักธรณีวิทยาชาวอเมริกันใน ปีค.ศ. 1871 เป็นบ่อน้ำร้อนรายล้อมไปด้วยสีสันของสายรุ้งรอบบ่อซึ่งเกิดจากการทับถมของแบคทีเรียและพืชเซลล์เดียว
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก
Holiday Inn West Yellow Stone หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
วันที่สิบ
ซีแอตเทิล - ช้อปปิ้งเอาท์เลต
เช้า
รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
09.00 น.
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินบอสแมน เยลโลว์สโตนเพื่อเชคอิน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
12.00 น.
นำท่านเชคอิน ณ เคาน์เตอร์เชคอินสายการบิน AS
.
****** อิสระอาหารกลางวัน ในสนามบินตามอัธยาศัย*****
13.20 น.
ออกเดินทางสู่ สนามบินซีแอตเทิล โดยเที่ยวบิน AS2453 (ใช้เวลาบินประมาณ 2.05 ชั่วโมง)
14.25 น.
เดินทางถึงสนามบินซีแอตเทิล
นำท่านสู่ ซีแอตเทิลพรีเมี่ยมเอาท์เลต (Seattle Premium Outlet) ซึ่งเป็นเอาท์เลตขนาดใหญ่ในซีแอตเทิล มีร้านค้าเอาท์เลตกว่า 110 ร้าน ทั้ง Coach, Polo, Ralph Lauren, DKNY, Guess, Calvin Klien, Burberry, Banana Republic Factory, Adidas, Kate Spread, Kipling, Tumi, Samsonite และ อื่นๆอีกมากมาย อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
20.00 น.
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
22.30 น.
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินซีแอตเทิล เพื่อเชคอิน
01.30 น.
ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดยเที่ยวบิน BR25 (ใช้เวลาบินประมาณ 12.20 ชั่วโมง)
********* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล *******
สายการบินมีบริการอาหารเช้า และ อาหารกลางวันบนเครื่องบิน
05.10 น.
เดินทางถึง สนามบินไทเป ประเทศไต้หวัน
08.25 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบิน BR211 (ใช้เวลาบินประมาณ 3.30 ชม.)
11.10 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (Bon Voyage)