วันที่ 3
เรคฮอลท์ - น้ำตกเฮินฟอซซ่า - บ่อน้ำพุร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์ - เรคยาวิค - เพอร์ลัน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านชมความสวยงามของ น้ำตกเฮินฟอซซ่า (Hraunfossar Waterfalls) ซึ่งเป็นน้ำตกสาขาหนึ่งของน้ำตกใหญ่ที่ก่อกำเนิดจากแหล่งลำธาร และแม่น้ำสายต่างๆเป็นระยะทางกว่า 900 ม. ของทุ่งลาวาที่เกิดจากภูเขาไฟที่อยู่ภายใต้ธารน้ำแข็งแลงค์โจคูล (Langjokull)
หลังจากนั้นนำท่านชม บ่อน้ำพุร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์ (Deildartunguhver Thermal Spring) ที่มีอุณหภูมิน้ำสูงที่สุดถึง 97 องศาเซลเซียสเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ และไหลเร็วที่สุดในยุโรปอีกด้วย
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางต่อสู่ กรุงเรคยาวิค (Reykjavik)
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านชม เมืองหลวงแห่งของประเทศไอซ์แลนด์
นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) โบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ เป็นจุดที่สูงอีกจุดหนึ่งของเมือง โบสถ์นี้มีความสำคัญในฐานะเป็น ศาสนสถาน เป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ของสถาปนิกกุดโยน (Guðjón Samúelsson) ซึ่งเป็นผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมแนวอิมพราสชั่นนิสท์ เริ่มสร้างในปี ค.ศ.1945 จนกระทั่งแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1986 รวมเวลาก่อสร้างกว่า 38 ปี
นำท่านชม เพอร์ลัน (Perlan) หรือ The Pearl เป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไว้สำหรับต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองโดยสถาปนิกชื่อดัง อิงกิ มูนดูร์ เป็นผู้ออกแบบ อาคารรูปทรงคล้ายลูกโลกครึ่งวงตั้งอยู่บนฐานที่คล้ายถังน้ำมองเห็นได้ในระยะไกล แบ่งเป็นส่วนต่างๆ เช่น ร้านอาหาร, ร้านไอศกรีม, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ไวกิ้ง, สวนน้ำ และร้านขายของที่ระลึก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ที่พัก
STORM HOTEL หรือเทียบเท่า
*** สำหรับยามค่ำคืนเมื่อท่านมองไปที่บนท้องฟ้าของประเทศไอซ์แลนด์ ท่านจะมีโอกาสได้พบเห็นกับแสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) ซึ่งเป็นแสงสีเขียวที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในพื้นที่ๆมีอากาศหนาวเท่านั้น (การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสําคัญ) ***
วันที่ 4
เรคยาวิค - Golden Circle - อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ - น้ำตกกูลฟอสส์ - เฮกลา
เช้า
นำท่านเที่ยวชมความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติของไอซ์แลนด์ ในเส้นทาง วงกลมทองคำ หรือ (Golden Circle) ทัศนียภาพของทุ่งหญ้าตัดกับทุ่งลาวา มีฝูงแกะ วัว และม้าไอซ์แลนด์หากินอยู่ตามธรรมชาติ
นำท่านชมความงามของธรรมชาติที่สรรสร้างขึ้นภายใน อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir national park) ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ตั้งอยู่ระหว่างรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Þingvallavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส (Reykjanes) และภูเขาไฟเฮนกิลล์ Hengill เป็นจุดกำเนิดทางประวัติศาสตร์และทางธรณีวิทยา เพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกเป็นระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร ซิงเควลลิร์ตั้งอยู่ตรงรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Singvellavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส (Reykjanes) และ ภูเขาไฟเฮนกิลล์ (Hengill) เป็นจุดกำเนิดทางด้านประวัติศาสตร์และทางธรณีวิทยา เพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร ระหว่างทางแวะชม ร่องรอยปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้วมีน้ำท่วมขังจนเป็นทะเลสาบกว้าง
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
จากนั้นนำท่านชม น้ำตกกูลฟอสส์ หรือ ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ (Gullfoss) ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศนี้ และยังจัดว่าเป็น 1 ใน 3 ที่ไอซ์แลนด์จัดให้อยู่ในเส้นทางเส้นทางวงกลมทองคำ (Golden Circle) ที่ผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ต้องมาท่องเที่ยวน้ำตกทองคำ(Gullfoss) โดยมาจากคำว่า Gull ที่แปลว่าทองคำ และ Foss ที่แปลว่าน้ำตก ถือว่าหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งและลดระดับลงในโตรกเขาเบื้องล่างที่มีความสูงกว่า 30 เมตร จากนั้นชมน้ำพุร้อนหรือเกย์ซีร์ (Geysir) ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า กีเซอร์ ที่ใช้กันทั่วโลก น้ำพุร้อนที่นี่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ในทุกๆ 7-10 นาที ประเทศไอซ์แลนด์เหมือนพระเจ้าบรรจงสร้างขึ้นมาอย่างประณีต พลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก ขับเคลื่อนออกมาเป็นน้ำพุร้อน ช่วยให้อากาศอบอุ่นเย็นสบาย และรัฐบาลได้แปลงความร้อนให้เป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศ
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
STRACTA หรือเทียบเท่า
*** สำหรับยามค่ำคืนเมื่อท่านมองไปที่บนท้องฟ้าของประเทศไอซ์แลนด์ ท่านจะมีโอกาสได้พบเห็นกับแสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) ซึ่งเป็นแสงสีเขียวที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในพื้นที่ๆมีอากาศหนาวเท่านั้น (การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสําคัญ) ***
วันที่ 5
เฮกลา - น้ำตกสโกก้าฟอสส์ - น้ำตกเซลยาลันส์ฟอสส์ - ทุ่งน้ำแข็งไมดรัลโจกูล - ขับรถสโนว์โมบิลตะลุยหิมะ - วิค
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางต่อสู่ ทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ระหว่างทางชมทัศนียภาพสองข้างทางที่เต็มไปด้วยฟาร์มปศุสัตว์ของชาวนาและฉากหลังเป็น ภูเขาไฟเฮกลา (Hekla) ที่มีความสูงถึง 1,491 เมตรเหนือระดับน้าทะเลและมีชื่อเสียงที่สุดในไอซ์แลนด์ ผ่านการระเบิดมาแล้วถึง 18 ครั้งและครั้งล่าสุดในปี 2000
นำท่านถ่ายรูปกับ น้ำตกสโกก้าฟอสส์ (Skogafoss Waterfalls) ที่มีความสูง 62 เมตร เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ โดยน้ำตกแห่งนี้จะตกลงมาจากหน้าผาสูง แรงกระเทกของน้ำจะแผ่ละอองออกไปทั่วอาณาบริเวณ รอบๆจะเต็มไปด้วยหญ้าตระกูลมอสและเฟิร์นโอบล้อมน้ำตกไว้อย่างสวยงาม
จากนั้นนาท่านชมน้ำตกอีกแห่งที่สวยงามไม่แพ้กันคือ น้ำตกเซลยาลันส์ฟอสส์ (Seljalandsfoss Waterfalls) ที่มีความสูงใกล้เคียงกันอยู่ที่ 60 เมตร เป็นอีกหนึ่งน้ำตกที่มีชื่อเสียงของไอซ์แลนด์ ซึ่งน้ำตกแห่งนี้ท่านสามารถเดินผ่านม่านน้ำเข้าไปสัมผัสวิวด้านหลังได้อีกด้วย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ ทุ่งน้ำแข็งไมดรัลโจกูล (Myrdalsjokull Glacier) บนดินแดนที่สูงที่สุดในโลก มีความกว้างใหญ่เป็นอันดับ 4 พื้นที่กว่า 596 ตารางกิโลเมตร
นำท่าน ขับรถสโนโมบิล (Snow mobile) ตะลุยหิมะ ให้ท่านได้สนุกตื่นเต้นกับลานน้ำแข็งกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นประสบการณ์สุดสนุกและเร้าใจเป็นอย่างยิ่ง
** หากมีเหตุปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถขับรถสโนว์โมบิลได้ เช่น สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย หรือปัจจัยด้านความปลอดภัย ทางบริษัทจะขอคืนเงินท่านล่ะ 5,800 บาท **
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านวิค (Vik) หมู่บ้านเล็กๆทางตอนใต้สุดของไอซ์แลนด์ ที่มีรายชื่อในการจัดอันดับชายหาดที่สวยที่สุดในโลกเมื่อปี 1991 เป็นหมู่บ้านที่มีฝนตกมากที่สุดในไอซ์แลนด์ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ชายหาดที่ดีที่สุดแต่ก็เป็นสถานที่น่ามหัศจรรย์ที่น่าไปชมเป็นอย่างยิ่ง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
DYRHOLAEY หรือเทียบเท่า
*** สำหรับยามค่ำคืนเมื่อท่านมองไปที่บนท้องฟ้าของประเทศไอซ์แลนด์ ท่านจะมีโอกาสได้พบเห็นกับแสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) ซึ่งเป็นแสงสีเขียวที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในพื้นที่ๆมีอากาศหนาวเท่านั้น (การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสําคัญ) ***
วันที่ 6
วิค - ทะเลสาบโจกุลซาลอน - ล่องเรือชมความสวยงามของทะเลสาบน้ำแข็ง - อุทยานแห่งชาติสเกฟตาลเฟลล์ - วิค
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบโจกุลซาลอน (Jokulsarlon) เพื่อล่องเรือชมความสวยงามของทะเลสาบน้ำแข็ง หรือ ไอซ์เบิร์ก (Iceberg) ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ เกิดจากการละลายธารน้ำแข็ง ปัจจุบันมีพื้นที่กว้างถึง 18 ตารางกิโลเมตร โดยมีความความลึกของน้ำในทะเลสาบถึง 200 เมตร ตื่นตาตื่นใจกับไอซ์เบิร์ก (Iceberg) หรือ ภูเขาน้ำแข็งก้อนโต เรียงรายโผล่พ้นพื้นน้ำของทะเลสาบ ยามกระทบแสงแดดก่อให้เกิดสีสันสวยงามที่มีอยู่ไม่กี่แห่งในโลก
*** หากมีเหตุปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถล่องรือได้ เช่น สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย หรือปัจจัยด้านความปลอดภัย ทางบริษัทจะขอคืนเงินท่านล่ะ 1,800 บาท ***
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติสเกฟตาลเฟลล์ (Skaftafell National Park) ระหว่างทางผ่านเมือง Kirkjubaejarklaustur ชมมวลลาวา (Lava) ขนาดใหญ่เป็นแนวกว้างที่เกิดการเย็นลงอย่างช้าๆ ทำให้เกิดแนวแตกเป็นเสาเหลี่ยม เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง จนเข้าสู่เขตอุทยานฯที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ตั้งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดเรียกว่าวาตนาเยอคูตล์ (Vatnajökull) มีขนาด 8,300 ตารางกิโลเมตร เท่ากับธารน้ำแข็งในทวีปยุโรปรวมกันและขนาดความหนามากที่สุดประมาณ 1,000 เมตร
นำท่านแวะชม หาดทรายสีดำ (Black Beach) ซึ่งเกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวาและแนวหินบะซอลต์ นับเป็นหนึ่งในชายหาดที่แปลกตาและมีความสวยงามที่หนึ่งบนโลก มหัศจรรย์กับแท่งหินที่ตั้งซ้อนขึ้นเป็นทิวแถว ลดหลั่นมากมาย ริมฝั่งมหาสมุทร นับเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่น่ามหัศจรรย์อย่างยิ่ง หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่หมู่บ้านวิค
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
DYRHOLAEY หรือเทียบเท่า
*** สำหรับยามค่ำคืนเมื่อท่านมองไปที่บนท้องฟ้าของประเทศไอซ์แลนด์ ท่านจะมีโอกาสได้พบเห็นกับแสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) ซึ่งเป็นแสงสีเขียวที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในพื้นที่ๆมีอากาศหนาวเท่านั้น (การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสําคัญ) ***
วันที่ 7
วิค - กรินก์วิก - บลูลากูน - เรคยาวิค
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองกรินก์วิก (Grindavik)
เพื่อนำท่านสู่ บลูลากูน (Blue Lagoon) แหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงโด่งดังของไอซ์แลนด์ เป็นเขตที่มีการเคลื่อนตัวของหินหลอมละลายใต้ดิน มากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง การเคลื่อนตัวนี้ทำให้น้ำในบ่อร้อนขึ้นและมีไอน้ำระเหยขึ้นมา เป็นสถานที่อาบน้ำแร่ขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก เป็นบ่อน้ำร้อนที่มีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์หลายชนิด ซึ่งช่วยรักษาผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง เชิญอิสระตามอัธยาศัยให้ท่านแช่ตัวในสระธรรมชาติ ผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทาง ทดสอบพอกหน้าด้วยโคลนสีขาวของบลูลากูนที่ทำให้ผิวพรรณผ่องใสเรียบลื่นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลากชนิดของบลูลากูนเป็นสินค้ายอดนิยมของผู้ไปเยือน (มีบริการผ้าเช็ดตัวรวมอยู่ในค่าทัวร์ และมีชุดว่ายน้ำให้เช่า)
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางกลับ กรุงเรคยาวิค เมืองหลวงประเทศไอซ์แลนด์
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ที่พัก
STORM HOTEL หรือเทียบเท่า
*** สำหรับยามค่ำคืนเมื่อท่านมองไปที่บนท้องฟ้าของประเทศไอซ์แลนด์ ท่านจะมีโอกาสได้พบเห็นกับแสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) ซึ่งเป็นแสงสีเขียวที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในพื้นที่ๆมีอากาศหนาวเท่านั้น (การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสําคัญ) ***
วันที่ 8
เรคยาวิค - ล่องเรือชมปลาวาฬ - เรคยาวิค
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเข้าสู่ ท่าเรือเรคยาวิค เพื่อให้ท่านได้สนุกไปกับ กิจกรรมล่องเรือชมปลาวาฬ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ในการชมวาฬแบบธรรมชาติ วาฬมิงค์ (Minke Whale) หรือในสำเนียงภาษาไอซ์แลนด์เรียกว่า มิงคี (Minke) โดยการล่องเรือชมวาฬใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
*** หากมีเหตุปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถล่องเรือชมปลาวาฬได้ เช่น สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย หรือปัจจัยด้านความปลอดภัย ทางบริษัทจะขอคืนเงินท่านล่ะ 2, 500 บาท ***
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับ เมืองเรคยาวิค โดยเมืองหลวงแห่งนี้นั้นเป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด โดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลมากนัก โดยบ้ายเรือนของเมืองหลวงแห่งนี้จะเต็มไปด้วยสีสันสวยงาม บางหลังมีการวาดการ์ตูนและทำเป็นกราฟฟิตี้ที่ดูดีมีเรื่องราว
นำท่านเดินทางสู่ ย่านเมืองเก่า ให้ท่านเดินเล่นซื้อสินค้าที่ระลึกหรือถ่ายรูปกับบ้านเรือและวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ตามอัธยาศัย
ค่ำ
รับประทาอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
STORM HOTEL หรือเทียบเท่า
*** สำหรับยามค่ำคืนเมื่อท่านมองไปที่บนท้องฟ้าของประเทศไอซ์แลนด์ ท่านจะมีโอกาสได้พบเห็นกับแสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) ซึ่งเป็นแสงสีเขียวที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในพื้นที่ๆมีอากาศหนาวเท่านั้น (การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสําคัญ) ***
วันที่ 9
เรคยาวิค - สนามบิน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า แบบกล่อง (Breakfast Box)
นำคณะเดินทางสู่ สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำคืนภาษี (Tax Refund) และ มีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
09.25 น.
เดินทางกลับสู่ กรุงเทพ โดยเที่ยวบิน AY992
***สำหรับคณะที่ออกเดินทางตั้งแต่ 13 พ.ย. 62 จะออกเดินทางเวลา 10.20 น. และไปถึงกรุงเฮลซิงกิเวลา 15.50น.***
15.50 น.
เดินทางถึง กรุงเฮลซิงกิ และรอเปลี่ยนเครื่อง
17.30 น.
เดินทางต่อกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบิน AY141
*** สำหรับคณะที่ออกเดินทางตั้งแต่ 13 พ.ย. 62 จะออกเดินทางเวลา 16.50 น. และไปถึงกรุงเทพเวลา 07.25 น.***
07.15 น.
เดินทางถึง กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ