บ่าย
นำท่านชม พระราชวังทอปกาปึ Topkapi Palace สร้างขึ้นในสมัยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1924 พิพิธภัณฑ์พระราชวังทอปกาปิ ห้องที่โด่งดังและเป็นที่สนใจคือห้องท้องพระคลังอันเป็นที่เก็บสมบัติ และวัตถุล้ำค่ามากมาย โดยมีกริชแห่งทอปกาปึด้ามประดับด้วยมรกตใหญ่ 3 เม็ด กับเพชร 86 กะรัต เป็นไฮไลท์ที่สำคัญ
ส่งท้ายช่วงบ่าย ด้วยการนำท่านสู่ย่านการค้าชื่อดัง “แกรนด์บาร์ซาร์” Grand Bazaar ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยกลาง ค.ศ. 15 เป็นตลาดค้าพรมและทองที่ใหญ่ที่สุดของตุรกี มีร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการ เลือกซื้อสินค้าที่มีชื่อเสียงของตุรกีอย่างจุใจ เช่น โคมไฟ, ของฝาก, ผ้าพันคอ ฯลฯ
วันที่ 3
ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส - พระราชวังโดลมาบาเช่ - ช้อปปิ้ง สไปซ์ มาร์เก็ต - เมืองชานัคคาเล่
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่าน ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส Cruise Along the Bosphorus ซึ่งเป็นช่องแคบขนาดใหญ่และสองฝั่งมีความสวยงามมาก ช่องแคบนี้ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรป และเอเชีย เชื่อมระหว่าง ทะเลดำ The Black Sea เข้ากับ ทะเลมาร์มาร่า Sea of Marmara มีความยาว 32 กิโลเมตร ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ทั้งสองข้างที่สวยงามตระการตาของ ช่องแคบบอสฟอรัสที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้
นำท่านเข้าชม พระราชวังโดลมาบาเช่ Dolmabahce Palace เป็นพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม และไม่คำนึงถึงความสิ้นเปลืองใด ๆ ทั้งสิ้น ภายนอกประกอบด้วยสวนไม้ดอกรายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็ก ๆ ที่ ช่องแคบบอสฟอรัส Bosphorus ภายในประกอบด้วยห้องหับต่าง ๆ และฮาเร็ม ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรงแก้วเจียระไน และโคมไฟมหึมาหนัก 4.5 ตัน
ส่งท้ายครึ่งวันช่วงเช้าด้วยการนำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้ง ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต Spice Market หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ฯลฯ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชเลียบชายฝั่งสู่ เมืองอีเซียบัท Eceabat (ระยะทาง 307 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.20 ชั่วโมง) เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่บริเวณท่าเรือที่จะข้ามฟากสู่ เมืองชานัคคาเล่ ระหว่างทางท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามของขุนเขาสลับกับรถวิ่งชายทะเล ผ่านบ้านเรือนของบรรดาเหล่าเศรษฐี ปศุสัตว์ แปลงการเกษตร เมืองถึงท่าเรือ ณ เมืองอีเซียบัทแล้ว
นำท่านข้ามฟากสู่ เมืองชานัคคาเล่ Canakkale (ใช้เวลานั่งเรือ ประมาณ 45 นาที) ตั้งอยู่ริมทะเลมาร์มาร่า
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมแบบบุฟเฟต์
ที่พัก
Kolin Hotel 5* หรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรกี
วันที่ 4
ม้าไม้เมืองทรอย - วิหารอะโครโปลิส - เมืองคูซาดาซึ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านสู่ กรุงทรอย Troy ชม ม้าไม้แห่งกรุงทรอย Wooden Horse of Troy อันโด่งดัง เป็นหนึ่งในอาวุธยุทโธปกรณ์อันชาญฉลาดในสมัยนั้น สร้างขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่หลงใหลในมหากาพย์อีเลียดได้เห็นด้วยตาของตนเองอีกด้วย
ได้เวลาพอสมควรนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองเปอร์กามัม Pergamum เป็นสถานที่ตั้งของโบราณสถานที่สำคัญ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านชมความสวยงามของ วิหารอะโครโปลิส Acropolis ซึ่งถูกกล่าวขวัญถึงประหนึ่งดินแดนในเทพนิยายมี โรงละครที่ชันที่สุดในโลกซึ่งจุผู้ชมได้ถึง10,000 คน ให้ท่านได้ถ่ายภาพกับโบราณสถานที่มีความสวยงาม และรู้ถึงความเฉลียวฉลาดของชาวเติร์กในสมัยโบราณ ให้ท่านได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซึ Kusadasi (ระยะทาง 199 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.20 ชั่วโมง) เป็นเมืองท่าที่สำคัญทางการค้าอีกเมืองหนึ่งของตุรกี
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมแบบบุฟเฟต์
ที่พัก
Le Bleu Hotel 5* หรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรกี
วันที่ 5
บ้านพระแม่มารี - เมืองโบราณเอฟฟิซุส - เมืองปามุคคาเล่
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่เยี่ยมชม บ้านพระแม่มารี House of Virgin Mary ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้างหลังนี้ ถูกค้นพบอย่าปาฏิหาริย์ โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมัน ชื่อ แอนนา แคเทอรีน เอมเมอริช Anna Catherine Emmerich เมื่อปี ค.ศ. 1774-1824 ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลง มีคนพยายามสืบเสาะค้นห้าบ้านหลังนี้ จนพบในปี ค.ศ. 1891 ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ภายในมีรูปปั้นของพระแม่มารี ซึ่งพระสันตปาปา โป๊ป เบเนดิกส์ที่ 6 ได้เคยเสด็จเยือนที่นี่ บริเวณด้านนอกของบ้าน มีก๊อกน้ำสามก๊อก ที่ มีความเชื่อว่าเป็นก๊อกน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์ แทนความเชื่อในเรื่อง สุขภาพ ความร่ำรวย และความรัก ถัดจากก๊อกน้ำเป็น กำแพงอธิษฐาน ซึ่งมีความเชื่อว่าหากต้องการให้สิ่งที่ปรารถนาเป็นความจริงให้เขียนลงในผ้าฝ้ายแล้วนำไปผูกไว้แล้วอธิษฐาน
ได้เวลาพอสมควรนำเดินท่านสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส City of Ephesus อดีต เป็นเมืองหลวงแห่งเอเชียของอาณาจักรโรมัน ชม อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของ นครเอฟฟิซุส คือ ห้องสมุดของเซลซุส Library of Celsus และอาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน Temple of Hadrian สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก
จากนั้นปิดท้ายกันที่สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุส คือ โรงละคร Great Theatre ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น สร้างสมัยกรีกโบราณ แต่พวกโรมันมาปรับปรุงให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น
นำท่านช้อปปิ้ง ณ ศูนย์ผลิตเสื้อหนังคุณภาพสูง ซึ่งตุรกีเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุด อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace , Prada , Michael kors อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ Pamukkale (ระยะทางประมาณ 189 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก นำท่านชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ณ เมืองปามุคคาเล่ Pamukkale คำว่า “ปามุคคาเล่” ในภาษาตุรกี หมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” Pamuk หมายถึง ปุยฝ้าย และ Kale หมายถึง ปราสาท เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซี่ยมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อล้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน จนทำให้ ปามุคคาเล่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988
นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (ปามุคคาล่) เมืองแห่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน นำท่านชมหน้าผาที่ขาวกว้างใหญ่ด้านข้างของอ่างน้ำ เป็นรูปร่างคล้ายหอยแครงและน้ำตกแช่แข็ง ถ้ามองดูจะดูเหมือนสร้างจากหิมะ เมฆหรือปุยฝ้าย น้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ห้อยย้อยเป็นรูปร่างต่าง ๆ อย่างมหัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิประมาณ 33-35 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
Pam Thermal Hotel 5* หรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรกี
วันที่ 6
เมืองคอนย่า - พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า - เมืองคัปปาโดเกีย
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองคอนย่า Konya (ระยะทาง 402 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ นิยมใช้เป็นจุดพักของการเดินทางในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุกเติร์ก ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของชาวเติร์กในตุรกี หรือที่ยุคนั้นเรียก อนาโตเลีย เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย
ท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เมฟลานา Mevlana Museum เดิมเป็นสถานที่นักบวชในศาสนาอิสลามใช้สำหรับทำสมาธิ Whirling Dervishes โดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย ก่อนไปทำการหมุนต้องอดอาหาร มีการเข้าห้องฝึกทรมานร่างกายก่อนที่จะไปหมุนได้ ผู้ที่มีสมาธิมากตัวจะลอยขึ้นเมื่อหมุนไปช่วงเวลาหนึ่ง ก่อตั้ง โดยเมฟลาน่า เจลาเลดดิน รูมี่ ผู้วิเศษในศาสนาอิสลาม ส่วนหนึ่งของ พิพิธภัณฑ์เมฟลาเป็นสุสานของ เมฟลานา เจลาเลดดิน รูมี Mevlana Celaleddin Rumi ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใน ภายในประดับประดาฝาผนังแบบมุสลิม โดยใช้สีมากมายตระการตาซึ่งหาชมได้ยาก และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตรของเมฟลาด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย Cappadocia (ระยะทาง 236 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.20 ชั่วโมง)
ระหว่างทางให้ท่านได้แวะพักเปลี่ยนอิริยาบถด้วยการเข้าชม Caravansarine สถานที่พักแรมของพ่อค้าชาว เติร์ก สมัยออตโตมัน ที่ยิ่งใหญ่
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมแบบบุฟเฟต์
จากนั้นนำท่านชม “ระบำหน้าท้อง” Belly Dance ประกอบดนตรีของสาวน้อยชาวตุรกี
ที่พัก
Goreme Kaya Hotel 5* โรงแรมตกแต่งสไตล์ถ้ำ หมายเหตุ ในกรณีที่โรงแรมถ้ำเต็ม ขอสงวนสิทธิเปลี่ยนเป็นนอนโรงแรมระดับ 5 ดาว แทน
วันที่ 7
นครใต้ดินไคมัคลึ - พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เกอเรเม่ - เข้าชมบ้านของมนุษย์ถ้ำ - ช้อปปิ้ง - อิสตันบูล - กรุงเทพมหานคร
05.00 น.
สำหรับท่านที่สนใจ ทัวร์ขึ้นบอลลูน ชมพระอาทิตย์ยามเช้า พร้อมกัน ณ บริเวณล๊อบบี้ของโรงแรม (ทัวร์นั่งบอลลนนี้ไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ค่าขึ้นบอลลูนประมาณท่านละ 230USD ในกรณีที่ชำระเป็นเงินสด และ 240USD ในกรณีที่ชำระด้วยบัตรเครดิต) เจ้าหน้าที่บริษัทบอลลูน รอรับท่าน เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด (สำหรับท่านที่ไม่ได้ซื้อ ทัวร์ขึ้นบอลลูน อิสระพักผ่อนที่โรงแรมได้ตามอัธยาศัย)
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านชม นครใต้ดินไคมัคลี Underground City of Derinkuyu or Kaymakli เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรูนครใต้ดินไคมัคลีมีชั้นล่างที่ลึกที่สุดลึกถึง 85 เมตร เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองแบบบุฟเฟต์
บ่าย
นำท่านชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ Goreme Open Air Museum ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์
ชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา St. Barbar Church โบสถ์มังกร Snake Church และ โบสถ์แอปเปิ้ล Apple Church ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับภูเขารูปทรงต่าง ๆ ได้ตามอัธยาศัย
นำท่านชม เมืองคัปปาโดเกีย Cappadocia ดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์แปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหิน และเสารูปทรงต่าง ๆ ที่งดงาม คัปปาโดเกีย Cappadocia เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรก ๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี เป็นพื้นที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และ ภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว เถ้าลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายทั่วบริเวณจนทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแส น้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ กัดเซาะกร่อนหิน แผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อย ๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูป แท่ง กรวย ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยายจนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า ปล่องไฟนางฟ้า ในปี ค.ศ. 1985 ยูเนสโก้ได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์
แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี พิเศษ!! เข้าชม บ้านพักของมนุษย์ถ้ำพื้นเมือง Local Cave House ของชาวพื้นเมือง Cappadocia พร้อมดื่มชา กาแฟ เนื่องจากธรรมเนียมของชาวเมืองตุรกี เมื่อมีผู้มาเยี่ยมเยียนก็จะมอบชา กาแฟ เป็น Welcome Drink เพื่อแสดงถึงน้ำใจและมิตรภาพระหว่างเพื่อนใหม่ จากนั้นอิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพบ้านพื้นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่จริงๆ
จากนั้นให้ท่านได้แวะชม โรงงานทอพรม และ โรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบิน
20.40 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดย สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 2009 (ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
22.15 น.
เดินทางถึง สนามบิน กรุงอิสตันบูล (แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน)
01.50 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดย สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 68 (ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 9.25 ชั่วโมง)
14.50 น.
เดินทางถึง สนามบิน สุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ