04.30 น.
พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทยแอร์เวย์ ประตู 3 เคาน์เตอร์ D สายการบิน Thai Airways โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
**หมายเหตุ**
สำหรับลูกค้าที่เลือกวันเดินทางพีเรียด 31 ต.ค.-04 พ.ย. // 21-25 พ.ย.62 ไฟล์ทบินขาไปจะเปลี่ยนเวลาบินออกจากกรุงเทพฯ เวลา 07.00 น. ถึงเดลี เวลา 09.55 น. เวลานัดหมายที่สุวรรณภูมิเวลา 04.00 น. (กรุณาเช็คหรือสอบถามที่เจ้าหน้าที่ก่อนทำการจอง)
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองชัยปุระ หรือที่ทุกคนจะรู้จักกันในชื่อ “นครสีชมพู” (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง) เป็นเมืองหลวงของรัฐราชสถาน มีประชากรมากกว่า 3 ล้านคน เป็นศูนย์กลางในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็น ด้านคมนาคม สาธารณูปโภค และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองชัยปุระที่มีความสวยงามทั้งสถานที่และประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหา ทำให้เมืองชัยปุระ เป็นเมืองยอดนิยมในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่ พระราชวังสายลม (HAWA MAHAL) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1799 โดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ (Maharaja Sawai Pratap Singh) ออกแบบโดยลาล ชันด์ อุสถัด (Lal Chand Ustad) ซึ่งพระราชวังแห่งนี้สร้างด้วยหินทรายสีชมพู และสีแดง ถอดแบบมากจากทรงของมงกุฎพระนารายณ์ ลักษณะเด่นของพระราชวังสายลมแห่งนี้ มีความสูงถึง 5 ชั้น และสูงถึง 15 เมตร มีหน้าต่างทั้งหมด 953 บาน เป็นช่องลมลายฉลุเพื่อให้อากาศถ่ายเทและให้แสงลอดผ่านได้ คล้ายกับรังผึ้ง สร้างขึ้นเพื่อให้นางสนมในวังสามารถมองเห็นวิถีชีวิตผู้คนในเมือง หรือขบวนพิธีการต่างๆที่เกิดขึ้นภายนอกเมืองได้ ซึ่งคนภายนอกจะไม่สามารถเห็นนางสนมในวังได้ เนื่องจากสมัยก่อนจะมีความเคร่งครัดในการใช้ผ้าคลุมหน้าสำหรับผู้หญิง นำท่านถ่ายรูปหน้าพระราชวังสายลมที่เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของผู้ที่มาเยือนตามอัธยาศัย
นำท่านสู่ AMBER FORT หรือป้อมปราการใหญ่แห่งเมืองชัยปุระ ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงของเมืองอาเมร์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1592 โดยมหาราชาแมนสิงห์ (Raja Man Singh) แต่เดิมที่แห่งนี้เป็นป้อมปราการที่สำคัญสามารถป้องกันข้าศึกที่มารุกรานได้ มีทั้งแม่น้ำล้อมรอบ และขนาดกำแพงของป้อมปราการที่มีขนาดใหญ่และหนาแน่น คล้ายกับกำแพงเมืองจีน ด้วยความยาวกว่า 13 กิโลเมตร และสามารถมองเห็นได้ระยะไกลจากมุมสูงของปราการได้อีกด้วย ซึ่งภายในยังประกอบไปด้วยพระตำหนักอันสวยงามมากมาย ออกแบบสถาปัตยกรรมภายในเป็นการผสมผสานระหว่างราชปุตกับโมกุล (พิเศษ ให้ท่านนั่งรถจีปขึ้นไปชมพระราชวัง)
นำท่านผ่านชม พระราชวังกลางน้ำ (JAL MAHAL) ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ Man Sagar Lake โดยมีเทือกเขานหาร์การห์ตั้งอยู่ด้านหลัง และตัวอาคารสร้างด้วยหินทรายสีแดง พระราชวังแห่งนี้มีทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่ง 4 ชั้นล่างจะถูกน้ำท่วมเมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงสุด และเหลือให้เห็นเพียงชั้นบนสุดเท่านั้น
บ่าย
นำท่านสู่ พระราชวังหลวง (CITY PALACE) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1797 สมัยมหาราชาไสวจัย ซิงห์ ที่ 2 สร้างโดยการผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบราชปุตกับโมกุล ในปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้สามารถเข้าชมได้ จุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปอยู่ที่ “ลานนกยูง” ซึ่งเป็นลานแสดงของเหล่านางรำที่จะมาร่ายรำ ณ ลานแห่งนี้ และล้อมรอบด้วยประตู 4 บาน ที่ทุกบานจะมีภาพวาดที่เป็นสัญลักษณ์ของ 4 ฤดู ประตูที่ 1 จะเป็นตัวแทนของฤดูฝน ที่จะเป็นประตูที่ใช้ในการเข้าออก ประตูที่ 2 คือประตูดอกบัวเป็นตัวแทนของฤดูร้อน ประตูที่ 3 ประตูโค้งสีเขียวเป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ผลิ และประตูที่ 4 ประตูดอกไม้สีม่วงตัวแทนของฤดูหนาว และเมื่อท่านมองไปยังด้านบนสุดของพระราชวังก็จะเห็นห้องพักส่วนพระองค์ของราชวงศ์อีกด้วย
จากนั้นนำท่านสู่ วัดพระพิฆเนศ (GANESH TEMPLE) เป็นสถานที่ยอดนิยมที่ชาวต่างชาติและชาวอินเดียเดินทางมาเคารพสักการะ เพื่อเป็นสิริมงคล สร้างขึ้นโดย Seth Jai Ram Paliwal ในช่วงศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ซึ่งพระพิฆเนศวรช้างหัวเทพในศาสนาฮินดูถือว่าเป็นพระเจ้าแห่งความเป็นมงคล ภูมิปัญญา ความรู้ และความมั่งคั่ง เปรียบเสมือนชีวิตแห่งการค้นหาความสุขนิรันดร์
วันที่ 3
ชัยปุระ - อัครา - แชนด์ เบารี - อัครา ฟอร์ท
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัครา ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง
จากนั้นนำท่านสู่ แชนด์ เบารี (CHAND BAORI) โบราณสถานอันเก่าแก่ เป็นบ่อน้ำขั้นบันไดที่ลึกที่สุดในอินเดีย มีขั้นบันไดถึง 3,500 ขั้น สูง 13 ชั้น ลึกกว่า 30 เมตร เนื่องจากใ ศตวรรษที่ 9 ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำเป็นอย่างมาก จึงได้มีการรวบรวมชาวเมืองมาสร้างบ่อน้ำแห่งนี้ขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ ในช่วงแห้งแล้ง
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม
บ่าย
นำท่านสู่ อัคราฟอร์ท (AGRA FORT) ป้อมปราการที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งและยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึงสามยุคของกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล มีความโดนเด่นด้วยการสร้างโดยอิฐส้ม ล้อมรอบด้วยกำแพงถึงสองชั้น ภายในจะแบ่งเป็นโซนต่างๆ ทั้งห้องส่วนพระองค์ ท้องพระโรง ลานน้ำพุ สวนดอกไม้ และยังเป็นป้อมที่พระเจ้าชาห์ชะฮานถูกขุมขัง โดยลูกชายของท่านเองได้นำพระองค์มาขังไว้ เนื่องจากทรงโศกเศร้าเสียพระทัยที่พระมเหสี มุมตัช มาฮาล สิ้นพระชนน์ และพระองค์ได้ใช้ชีวิต ณ ป้อมแห่งนี้ เฝ้ามองทัชมาฮาล จากอัคราฟอร์ท ระลึกถึงพระมเหสีอันเป็นที่รักจนสิ้นพระชนน์
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
MANSINGH / THE FERN HOTEL ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 4
ทัช มาฮาล - นิวเดลี - ประตูเมืองอินเดีย - วัดลักษมีนารายัน - ตลาดจันปาท
เช้าตรู่
นำท่านสู่ ทัชมาฮาล (TAJ MAHAL) ชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า ซึ่งถือเป็นวิวที่น่าชมที่สุด ซึ่งทัชมาฮาลนั้นเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าชาห์ชะฮานกับพระมเหสีที่พบรักกันตั้งแต่ทรงมีพระชนมายุ 14 พรรษา และ 5 ปีหลังจากนั้น ทั้งสองพระองค์ก็ทรงอภิเษกสมรสกันในที่สุด พระเจ้าชาห์ชะฮาน จึงเรียกพระมเหสีว่า มุมตัช มาฮาล ที่แปลว่า “อัญมณีแห่งราชวัง” ซึ่งทัชมาฮาลสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นหลุมฝั่งศพของพระนางมุมตัช มาฮาล ที่ทรงสิ้นพระชนษ์หลังจากให้กำเนิดธิดาองค์ที่ 14 ใช้ผู้สร้างและร่วมออกแบบกว่า 20,000 คน และใช้เวลาสร้างถึง 22 ปี มีความกว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง และประดับด้วยเพชร พลอย หิน จากหลากหลายประเทศไม่ว่าจะเป็น รัชเซีย อียิปต์ เนปาล ฯลฯ
หลังจากนั้น นำท่านกลับเข้าสู่ โรงแรมที่พัก
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ นิวเดลี ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านสู่ ประตูเมืองอินเดีย (INDIA GATE) หรือ อนุสรณ์สถานแห่งสงครามของอินเดีย ตั้งอยู่ในเมืองนิวเดลี สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารอินเดีย 70,000 นาย ที่สละชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 ลักษณะของประตูเมืองอินเดียแห่งนี้สร้างขึ้นตามแบบอย่างของประตูชัย โดยเลียนแบบประตูชัยคอนสแตนตินในโรม โดยใช้หินทรายสีแดงในการสร้าง มีความสูงถึง 42.3 เมตร ส่วนโค้งของซุ้มประตู กว้าง 9.1 เมตร สูง 22.8 เมตร ในปัจจุบันถือว่าเป็นอนุสรณ์สถานสงครามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย
จากนั้นนำท่านสู่ วัดลักษมีนารายัน (LAKSHMI NARAYAN TEMPLE) หรือเรียกอีกอย่างว่า เบอร์ลาแมนเดียร์ (Birla Mandir) ตามชื่อของผู้สร้าง คือ นาย Raja Baldev Birla ซึ่งเป็นนักธุรกิจคนสำคัญของอินเดีย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2481 เพื่อบูชาพระนารายณ์ (พระผู้พิทักษ์โลก) และพระลักษมี (เทพแห่งความมั่งคั่ง) มีทั้งชาวอินเดียและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาเคารพสักการะ เนื่องจากเชื่อว่า ถ้ามาขอพรที่วัดนี้จะสมดั่งคำปรารถนา **หมายเหตุ ตั้งแต่ เดือนกันยายน 62 เป็นต้นไป เปลี่ยนจาก วัดลักษมีนารายัน เป็น วัดอักชาร์มดัม แทนค่ะ**
นำท่านสู่ วัดอักชาร์มดัม (AKSHARDHAM TEMPLE) หรือ เดลี อักชาร์มดัม ได้รับการประกาศจาก Guinness World Record ในปี 2007 ว่าเป็นวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอักชาร์มดัม หมายถึง ศาสนสถานนิรันดร์กาลของพระเจ้าสูงสุด โดย Yogiji Maharaj กูรูองค์ที่ 4 ของนิกายมีดำริอยากสร้างวัดนี้ขึ้นริมฝั่งแม่น้ำยมุนา แต่ก็ยังไม่มีการก่อสร้างใดๆ จนมาถึง กูรูองค์ที่ 5 Pramukh Swami Maharaj ได้มาสานต่อเจตนารมณ์ในการสร้างวัดนี้ และใช้เวลาสร้างเพียง 5 ปี สร้างแล้วเสร็จในปี 2005 ออกแบบสไตล์สถาปัตยกรรมดั้งเดิมของอินเดีย สร้างจากหินอ่อนสีขาวและหินทรายสีชมพู ตกแต่งด้วยภาพแกะสลักรูปสัตว์ต่างๆ ประติมากรรมช้าง รูปปั้นบุคคลต่างๆ
จากนั้นนำท่านเพลิดพลินช้อปปิ้ง ตลาดจันปาท (JANPATH MARKET) เลือกซื้อของฝากหรือของที่ระลึกต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับตกแต่ง อัญมณีต่างๆได้ตามอัธยาศัย
**ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมไม่ไปตลาดจันปาทหากมีเวลาไม่เพียงพอ**
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติอินทิราคานธี เตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ
23.30 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TG316 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
วันที่ 5
สนามบินสุวรรณภุมิ(กรุงเทพฯ)
05.25 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
**หมายเหตุ**
สำหรับลูกค้าที่เลือกวันเดินทางพีเรียด 24-28 ต.ค. // 31 ต.ค.-04 พ.ย. // 21-25 พ.ย. 62 ไฟล์ทบินขากลับ จะเปลี่ยนเวลาบินออกจากเดลี เวลา 00.20 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 05.45 น.(กรุณาเช็คหรือสอบถามที่เจ้าหน้าที่ก่อนทำการจอง)