12.00 น.
ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธีร์ เมืองเดลลี (New Delhi) ตามเวลาท้องถิ่น ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
จากนั้น นำท่านเดินทางไปชม อัชดัม (Swaminrayan Akshrdham) สรวงสรรค์บนดิน ณ สถานที่แห่งนี้เป็นตัวอย่างของวัฒนธรรมอินเดียกว่า 10,000 ปี และ ยังเป็นเสมือนเป็นหัวใจสำคัญของงานสถาปัตยกรรมอินเดียโบราณอย่างแท้จริง ที่แสดงถึงวัฒนธรรมความรุ่งเรืองด้านศิลปะ ตลอดจนแสดงถึงจิตวิญญาณของอินเดีย และยังเป็นสัญลักษณ์ของความสุข ความเจริญ และการปรองดองของมนุษยชาติ เป็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ของศาสนาฮินดู สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวและสีชมพูดูสวยงามากๆ วัดอัคชาร์ดาม สร้างขึ้นโดยองค์กร BAPS ในเดลี ซึ่งผสมผสานลักษณะทางสถาปัตยกรรมอันหลากหลายของอินเดียเข้าด้วยกันใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 5 ปี ใช้ช่างศิลปะและสถาปนิกจำนวน 7,000 คน วัดอัคชาร์ดาม ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อ ปี 1968 แต่ก็ยังก่อสร้างได้ไม่มากนัก จนกระทั่ง 18 ปีให้หลัง จึงได้มีการก่อสร้างอย่างจริงจังเมื่อปี 2000 และสร้างจนเสร็จสิ้นในปี 2005
จากนั้น เดินทางสู่ เมืองอัครา (เดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วแต่สภาพการจราจร) อัคระอดีตเมืองหลวงของอินเดียในสมัยที่ยังเรียกว่า "ฮินดูสถาน" (Hindustan) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนา (Yamuna) ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ถึงอัคระ นำท่านเข้าสู่ที่พัก
08.00 น.
นำท่านชม ทัชมาฮาล (Taj Mahal) สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุลผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ทัชมาฮาลถูกพิจารณาให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอัครา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี ทัชมาฮาลมีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ เป็นที่ตั้งของมัสยิด มีหออาซาน (หอสูงสำหรับร้องแจ้งเวลาทำนมาซ) และมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ นายช่างที่ออกแบบ ชื่อ อุสตาดไอซาถูกประหารชีวิตเพื่อมิให้ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใด ๆ ที่สวยกว่าได้
ชม พระราชวังอัคราฟอร์ด (Agra Fort) เป็นป้อมปราการประจำเมืองซึ่งสร้างเป็นกำแพงหินทรายสีแดง ตั้งตระหง่านสวยงาม ด้วยสถาปัตยกรรมแบบอัครา พระเจ้าอัคบาร์สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1565 และสร้างต่อเติมกันเรื่อยมาจนถึงรุ่นหลานคือ พระเจ้าชาร์เจฮาน กษัตริย์องค์ที่ 5 ของราชวงศ์โมกุล ซึ่งปรับเปลี่ยนจากป้อมปราการทางทหารมาเป็นพระราชวัง มีกำแพงสูงกว่า 20 เมตร และยาว 2.5 กิโลเมตร ภายในอัคราฟอร์ดมีห้องสวยงามที่สร้างด้วยหินอ่อนแกะสลักฝังโดยรอบ โดยเฉพาะห้องมุขแปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นห้องที่มีความสำคัญที่สุดภายในพระราชวังแห่งนี้และภายในห้องนี้ท่านจะได้พบกับสถานที่ที่กษัตริย์ชาร์จาฮาถูกลูกชายจับมาขังไว้จนสิ้นพระชนน์ พระองค์ถูกกักขังอยู่ถึง 8 ปี จนกระทั่งสวรรคตในปี ค.ศ. 1666 ตามตำนานกล่าวว่าให้วันสุดท้ายของชีวิตพระองค์ใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมองเศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล และสิ้นพระชนม์ด้วยเศษกระจกในกำมือ พระองค์ถูกฝังในทัชมาฮาล เคียงข้างพระมเหสีซึ่งพระองค์ไม่เคยลืม มีบางคนกล่าวว่าสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์จาฮัน มิได้ประสงค์ที่จะถูกฝังร่วมกับพระมเหสี แต่พระองค์มีแผนการที่จะสร้างสุสานอีกแห่งด้วยหินอ่อนสีดำ เพื่อเป็นสุสานของพระองค์ แต่ผู้รู้หลายท่านเชื่อว่าพระองค์ประสงค์ที่จะถูกฝังเคียงข้างพระนางมุมตัซ มาฮาล
จากนั้น นำท่านช้อปปิ้ง สินค้าหัตถกรรม และงานฝีมือพื้นเมือง อาทิเช่นผ้าไหมอินเดียเครื่องประดับ อัญมณี ไม้จันทร์หอมแกะสลัก ผลิตภัณฑ์จากหินอ่อน ของตกแต่งประดับบ้าน
13.00 น.
เดินทางสู่ เมืองเดลลี (ระยะทางประมาณ 203 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง แล้วแต่สภาพการจราจร) เดลีเป็นศูนย์กลางด้านการเมืองการปกครองของประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากรกว่าสิบล้านคน มีพื้นที่1,500 ตารางกิโลเมตรโดยแบ่งออกเป็นเขตเดลีเก่ากับนิวเดลีใหม่
วันที่ 3
เดลลี - (แคชเมียร์) ศรีนาคา - หุบโซนามาร์ค
เช้า
บริการอาหารเช้า แบบกล่อง
05.00 น.
นำท่านเดินทางไปสนามบินภายในประเทศ เพื่อเดินทางสู่ แคชเมียร์
07.25 น.
เหิรฟ้าสู่ เมืองศรีนาคา (Srinagar) เมืองหลวงของแคว้นจามมู (Jammu) และ แคชเมียร์ (Kashmir) โดย สายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบินที่ AI 827 (เครื่องบินจอดแวะที่จัมมู 30 นาทีไม่ต้องลงจากเครื่อง) (บนเครื่องมีบริการของว่าง)
08.40 น.
เดินทางถึง สนามบิน ศรีนาคา (Srinagar) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและพร้อมรับสัมภาระ นำคณะออกเดินทางโดยตู้เทมโบ(Tempo )เมืองหลวงคือศรีนาการ์ (Srinagar) ของแคชเมียร์ เป็นดินแดนทางตอนเหนือของอินเดีย อยู่ในแคว้นจัมมู-แคชเมียร์ (คนอินเดียเรียกกัศมีร์) แต่คนแคชเมียร์ไม่นิยมเรียกตัวเองว่าเป็นคนอินเดีย แต่จะเรียกตัวเองว่า Kashmiri มีภาษาเป็นของตัวเองและนับถือศาสนาอิสลาม
จากนั้น นำท่านชม สวนโมกุล (Mughal Gardens) สวนสวรรค์แห่งดอกไม้ ช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน ดอกไม้เมืองหนาวออกดอกชูช่ออย่างสวยงาม สวนโมกุล ได้แบ่งออกเป็นส่วนๆ 3 ส่วน ซึ่งภายในสวนมีการประดับตกแต่งในแบบสไตล์สวนเปอร์เซีย ซึ่งประกอบไปด้วย สระน้ำ ลำธารและแปลงไม้ดอก
ชม สวนชาลิมาร์ (Shalimar Garden) เป็นสวนดอกไม้ที่สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์โมกุล ก่อสร้างโดยจักรพรรดิ JEHANGIR เพื่อภรรยา Nur Jehan และเมืองศรีนาคา แคชเมียร์ เป็นที่มีชื่อเสียงในการจัดสวนตามแบบสมัยของราชวงศ์โมกุล เนื่องจากภูมิอากาศเย็นเหมาะสมในการเจริญเติบโตของต้นไม้ ดอกไม้เมืองหนาว จึงกลายเป็นที่ประทับพักผ่อนของกษัตริย์ราชวงศ์โมกุลในอดีต ชมต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี ต้นปอปลาร์ ดอกทิวลิป และดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล
ชม สวนนิชาท (Nishat) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุด มีต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี ต้นปอปลาร์ ต้นทิวลิป และดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล ตั้งอยู่ริมทะเลสาบดาล มีภูเขา Zabarwan ซึ่งตั้งเป็นฉากหลัง
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ โซนามาร์ค (Sonamarg) (ประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง) เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันมีวิวทิวทัศน์อันสวยงาม อยู่บนเส้นทางระหว่างเมืองศรีนาคากับเมืองเลห์ ในบริเวณหุบเขาโซนามาร์คนี้มีธารน้ำแข็งสีขาวบริสุทธิ์ที่ปกคลุมอยู่ตามลาดไหล่เขา อีกทั้งเทือกเขาหิมะที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกายสีทอง จึงเป็นที่มาของชื่อ โซนามาร์ค และยังมีเทือกเขาหิมาลัยเป็นฉาก หลัง ที่เรียกขานตามท้องถิ่นว่า ทาจิวาส ภูเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี มีแม่น้ำสินธุ ลดเลี้ยวผ่านหุบเขาในอีกฟากของถนน “โซนามาร์ค” เป็นสถานีเริ่มต้นที่จะมุ่งหน้าไปยังลาดัคห์ หรือเป็นรู้จักกันดีในชื่อว่า “ประตูสู่ลาดัคห์” เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยงาม ตลอดเส้นทางจึงเป็นเส้นทางที่ให้ขับรถไปถ่ายรูปไปเลยทีเดียว
ค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ โรงแรม อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
ที่พัก
Sultan Resort (Sonamarg) (หรือเทียบเท่า)
วันที่ 4
(แคชเมียร์) หุบโซนามาร์ค - หุบกุลมาร์คศรีนาคา - ศรีนาคา
07.00 น.
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
08.00 น.
นำท่านชม จากนั้นนำท่านเข้าสู่ ทุ่งโซนามาร์ค ชมธรรมชาติสัมผัสอากาศสบายๆ ไฮไลท์ ขี่ม้าชมกราเซีย ดาวหลงฟ้า ภูผา กลาเซียร์ หรือธารน้ำแข็งโซนามาร์ค อยู่เอเชียก็ชมวิวแบบสวิตได้ที่ “แคชเมียร์” ดินแดนสวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย ชมวิวภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะและสองฟากฝั่งถนนที่เต็มไปด้วยธารน้ำแข็ง ถนนบางช่วงต้องตัดผ่านช่องน้ำแข็งขนาดใหญ่ ที่นี่จะมีกิจกรรมแบบแคชเมียร์ให้ท่านได้ลองหาประสบการณ์ (ในช่วงฤดูหนาวธ.ค. – เม.ย.) ถึงเวลาอันสมควรนำท่านสู่โรงแรม
10.30 น.
จากนั้นออกเดินทางสู่ กุลมาร์ค ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง “กุลมาร์ค” เป็นภูเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งใน แคชเมียร์ (Kashmir) เดิมเรียกเการิมาร์ค ตั้งโดยสุลต่าน ยูซุปชาร์ ในศตวรรษที่ 16 เนื่องจากที่นี่เป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าตามฤดูกาล และในปัจจุบันยังเป็นสถานที่ตั้งของสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่สูงที่สุดในโลก จุดสูงสุดยอดกุลมาร์คมีชื่อว่า Apharwat Peak อยู่ที่ความสูง 4,390 เมตร ทำให้กุลมาร์คได้ตำแหน่ง World Record อีกตำแหน่งหนึ่งคือ Gulmarg Gondola ที่เป็นหนึ่งในสุดยอดกระเช้าลอยฟ้าที่มีความสูงที่สุด และมีสถานที่เล่นสกีในฤดูหนาวด้วย ตลอดเส้นทางสู่กุลมาร์คจะผ่านทุ่งนาข้าว หมู่บ้านชาวพื้นเมือง ฝูงแกะตามภูเขา และเทือกเขาหิมะสลับซับซ้อนสวยงาม ชาวแคชเมียร์กล่าวขานว่าทุ่งหญ้าแห่งดอกไม้ เป็นเส้นทางที่มุ่งสู่ชายแดนปากีสถาน กุลมาร์คเป็นแหล่งท่องเที่ยวในฤดูหนาว มีระดับความสูง 2,730 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในช่วงฤดูร้อนที่นี่จะเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟที่สูงที่สุดในโลก โดยรอบท่านจะได้พบเห็นกระท่อมรูปทรงแบบในเทพนิยาย และมีป่าสนเป็นฉากหลัง ที่นี่ยังสถานเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์อีกด้วย
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
บ่าย
นำท่านขึ้น เคเบิลคาร์ หรือ กอนโดลา สถานีที่ 1 (ราคารวมในทัวร์เฟส 1) ”กุลมาร์ค” “Gulmarg Hill” เป็นอีกหนึ่งสุดยอดสกีรีสอร์ทในทวีปเอเชียที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น Winter Sports of India จากสำนักข่าว CNN นอกจากนี้ยังเป็นลานสกีที่ได้ชื่อว่าถูกที่สุดในโลกอีกด้วย การมาเที่ยวกุลมาร์คจะต้องนั่งกระเช้ากอนโดลาขึ้นสู่ลานสกีบนยอดเขา ทิวทัศน์มุมสูงแบบพาโนรามาของเทือกเขาหิมาลัยที่เห็นจากยอดเขาแห่งนี้เรียกได้ว่าสวยงามไม่แพ้เทือกเขาแอลป์ในยุโรปเลยทีเดียว กระเช้ากอนโดลาของกุลมาร์คเป็นกระเช้าลอยฟ้าที่มีความสูงที่สุดในโลกด้วยความสูง 3,979 เมตรจากระดับน้ำทะเล
นำท่าน พิชิตภูเขาหิมะกุลมาร์ค กันได้ชิลๆ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็มาถึงสถานีที่ 1 ระหว่างทางจะเห็นหมู่บ้านยิปซีที่หากเป็นฤดูที่หนาวจัด เขาจะทิ้งบ้านไปชั่วคราวไปยังเขตที่อบอุ่นกว่า ต้นไม้แต่ละกิ่งถูกเกร็ดหิมะปกคลุมน่าดูไปอีกแบบ และจะกลับมาอยู่อาศัยในช่วงฤดูร้อน บนสถานีที่ 1 นั้น มีแนวสนและทิวเขาโดยรอบ ยอดเขาถูกปกคลุมด้วยภูเขาน้ำแข็ง ทุ่งหญ้าสีเขียวนี้หากถูกหิมะปกคลุมในหน้าหนาวก็กลายเป็นลานสกีน่าลองเล่นมาก ยอดเขากุลมาร์คภูเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยที่ปกคลุมด้วยหิมะสวยงามในทุกทิศทาง ถ้าหากฟ้าเป็นใจไม่มีหมอกจัดท่านได้ถ่ายรูปกับทิวทัศน์ภูเขา รวมถึงยอดเขา K2 ที่สูงเป็นอันดับสองรองจากยอดเขาเอเวอร์เรส ในช่วงฤดูร้อน สนามแห่งนี้ จะกลายเป็นสนามกอล์ฟที่เขาคุยว่าอยู่สูงที่สุดในโลก ****Gulmarg Gondola มีสองสถานีด้วยกัน เวลาซื้อตั๋วจะมีเฟส 1 และเฟส 2 เฟส 1 จาก Gulmarg ถึง Kungdoor (ไป-กลับ700 รูปี) และเฟส 2 คือจาก Kungdoor ถึงยอด Aparwath (ไป-กลับ 950-1000 รูปี)รวม 2 สถานีอยู่ที่ 1,950 รูปี(850-1200 บาท) เมื่อถึงบนยอดเขากุลมาร์ค ในฐานเป็นสถานที่ที่เล่นสกีซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งในอินเดีย นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาเที่ยวกันในช่วงฤดูหนาว อิสระให้ท่านถ่ายรูปกับทิวทัศน์หรือ สนุกสนานกับกิจกรรมนั่งเลื่อนหิมะหรือสกีได้ระหว่างฤดูใบไม้ผลิ มี.ค.-เม.ย. ตามอัธยาศัย กิจกรรมช่วง ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน " อิสระให้ท่านเพลิดเพลินไปกับกิจกรรม ขี่ม้าชมธรรมชาติ (ค่าขี่ม้า ประมาณ 1,000 รูปี /ต่อคนไม่รวมในค่ำทัวร์/ หรือ ATV (มีคนขับ) ประมาณ 20 นาที 1,500-3,000 รูปี/ต่อคัน ไม่รวมในรายการทัวร์ กรุณาสอบถามรายละเอียดและราคาจากหัวหน้าทัวร์หรือไกด์ท้องถิ่นของท่าน อิสระให้ท่านจนถึงได้เวลาพอสมควร เดินทางกลับสู่ศรีนาคาเส้นทางเดิม
**หมายเหตุ หากเคเบิลคาร์ปิดไม่สามารถขึ้นได้เนื่องจากสภาพอากาศ หรือ ทางประเทศอินเดียประกาศปิด จึงไม่สามารถขึ้นได้ ทางบริษัทฯ จะคืนค่าเคเบิลคาร์ให้ และขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรมเที่ยวสถานที่อื่น โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า**
ค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ โรงแรมบ้านเรือ บ้านเรือในทะเลสาบ ในเมืองศรีนาคา บ้านเรือนี้ถือกำเนิดจากสมัยที่เจ้าผู้ครองแคว้นแคชเมียร์ยังครองอำนาจกับ อังกฤษที่เข้ามาปกครองอินเดีย และไม่อนุญาตให้อังกฤษมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน คนอังกฤษจึงหาทางออกด้วยการสร้างบ้านเรือลอยลำอยู่ในทะเลสาบแทน
ที่พัก
DELUXE HOUSE BOAT อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
บ้านเรือ วิมานบนดินแห่งแคชเมียร์ นักท่องเที่ยวในช่วงต้น คริสต์ศตวรรษที่ 20 มีบันทึกว่า...ขณะที่ ชีวิตยังมีลมหายใจความสุขบนพื้นพิภพในนี้ 1 ใน 50 อย่างที่ควรทำ คือเดินทางสู่ทะเลสาบดาล (Dal lake) แห่งแคว้นแคชเมียร์....แล้ว พักนอนHouseBoats...!!! ...House Boats อันเป็น วิมานบนดิน เกิดขึ้นในยุคควีนส์วิคตอเรีย ซึ่งอังกฤษได้เข้ามา ครอบครองอินเดียบ้านเรือนี้ถือกำเนิดจากสมัยที่เจ้าผู้ครองแคแคชเมียร์ยังครองอำนาจกับ อังกฤษที่ เข้ามาปกครองอินเดีย และไม่อนุญาตให้อังกฤษมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน คนอังกฤษจึงหาทางออกด้วยการสร้างบ้านเรือลอยลำอยู่ในทะเลสาบแทน
วันที่ 5
(แคชเมียร์) หุบโซนามาร์ค - หุบกุลมาร์คศรีนาคา - ศรีนาคา
07.00 น.
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมเรือ
08.00 น.
นำท่านชม นำท่านล่องเรือสิคารา(เรือพายแบบแคชเมียร์) ชมความงดงามทะเลสาบให้ท่านได้ชื่นชมทัศนียภาพของเทือกเขาหิมะที่ล้อมรอบชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำ (ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 1ชม.) รอบทะเลสาบ นกนานาชนิด พืชดอกไม้น้ำทะเลสาบใสสวยงามสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในทะเลสาบดาลเป็นชีวิตที่คู่กับสายน้ำอันเงียบสงบ โดยมีเรือเป็นพาหนะสำคัญของการสัญจรในทะเลสาบกว้างใหญ่แต่งแต้มสีสันด้วยสวนผักลอยน้ำ และตลาดน้ำยามเช้าที่มีชีวิตชีวาพอดู ชีวิตของชาวแคชเมียร์จึงดำเนินไปไม่แตกต่างชาวเอเชียอื่น ๆ ที่มีแม่น้ำ ลำคลอง เป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงชีวิต ชม บรรยากาศบ้านบนน้ำบริเวณร้านขายของ และท่านจะเพลินเพลินกับการ เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองของชาวแคชเมียร์ที่นำของมาขายให้ท่านได้เลือกซื้อในราคาตามความสามารถได้เวลาสมควรพายเรือกลับที่พัก
นำท่านชม จามามัสยิด “Jama Masjid” ซึ่งสร้างเป็นครั้งแรกสมัยสุลต่านสิคานเดอร์ และบูรณะต่อมาอีกหลายสมัย เป็นมัสยิดที่สร้างด้วยรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบจีนและเนปาล ด้วยหลังคาทรงสี่เหลี่ยม ภายในมีเสาที่ตัดจากต้นซีดาลทั้งต้นกว่า 300 ต้น ได้เวลาสมควรก่อนกลับที่พัก
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรมเรือ
12.00 น.
นำท่านเดินทางไป สนามบินภายในประเทศ เพื่อเดินทางสู่ แคชเมียร์
14.15 น.
เหิรฟ้าสู่ เมืองเดลลี (New Delhi) โดย สายการบินแอร์ อินเดีย เที่ยวบินที่ AI822 เครื่องบินจะจอดแวะ 30 นาทีไม่ต้องลงจากเครื่อง (บนเครื่องมีบริการของว่าง)
17.15 น.
ถึง เมืองเดลลี (New Delhi) ตรวจรับสัมภาระและนำเข้าสู่อาคารระหว่างประเทศเพื่อเชคอินระหว่างประเทศ
19.00 น.
เช็คอิน ที่เคาเตอร์ สายการบิน AIR INDIA เพื่อโหลดสำภาระ จากนั้นผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง อิสระช๊อปปิ้งสินค้าภายในสนามบินได้ ตามอัธยาศัย และ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
ค่ำ
อิสระอาหารค่ำ ใน สนามบิน ตามอัธยาศัย เพื่อสะดวกกับการเชคอิน
23.00 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ ฯ โดย สายการบินแอร์ อินเดีย เที่ยวบินที่ AI 332 (บนเครื่องมีบริการอาหารร้อนและเครื่องดื่ม พร้อมจอทีวีทุกที่นั่ง)
วันที่ 6
สุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ)
04.40 น.
ถึง ท่าอากาศสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยความสวัสดิภาพ