วันที่ 3
พระราชวังแวร์ซายส์ - นั่งรถไฟความเร็วสูงTGV - เมืองสตราสบูร์ก
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชม พระราชวังแวร์ซายส์ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของปารีส ณ เมืองแวร์ซายส์ นับเป็นพระราชวังวังที่มีความยิ่งใหญ่และงดงามอลังการมากจนติดหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม พระราชวังสร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์คริสต์ศตวรรษที่ 17 และ 18 ภายในประกอบด้วยห้องถึง 700 ห้อง รูปภาพทรงคุณค่า 6,123 ภาพ และงานแกะสลักจากศิลปินชั้นเอก 15,034 ชิ้น โดยมีห้องกระจก (GaleriedesGlaces หรือ TheHallofMirrors) อันแสนโด่งดังจากการเป็นห้องลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตรกับจักรวรรดิเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งถือเป็นห้องแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญทั้งยังมีขนาดใหญ่จำนวน 17 บาน ที่สามารถเป็นจุดชมวิวทัศน์ของสวนแวร์ซายที่สวยงาม ด้วยทุกๆเหตุผลมารวมกันจึงทำให้พระราชวังแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับเหล่านักท่องเที่ยวที่มาเยือนฝรั่งเศสไม่แพ้หอไอเฟล
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่าน นั่งรถไฟความเร็วสูงTGV เพื่อเดินทางสู่ เมืองสตราสบูร์ก TGV เป็นรถไฟที่ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศฝรั่งเศส โดยเริ่มต้นจากแนวความคิดที่ต้องการจะพัฒนารถไฟซึ่งถือได้ว่าเป็นระบบการคมนาคมขนส่งสาธารณะที่เป็นที่นิยมสูงที่สุดประเภทหนึ่งของแถบทวีป เนื่องจากประเทศฝรั่งเศสซึ่งเป็นประเทศขนาดใหญ่และอยู่เกือบใจกลางของทวีปยุโรป ดังนั้นการเดินทางทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศจึงต้องมีระบบการคมนาคมขนส่งที่มีความสะดวกรวดเร็ว
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
7 Hotel & Fitness Hotel หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 4
สตราสบูร์ก - มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก - อินเทอลาเก้น - ช้อปปิ้ง
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเที่ยวชม เมืองสตราสบูร์ก เป็นเมืองใหญ่ที่มีสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ให้ชาวเมืองปัจจุบันได้ชื่นชม
นำท่านชม จัตุรัสเกลแบร์ จัตุรัสที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางของเมืองสตราสบูร์ก โดยภายในจัตุรัสยังเป็นที่ตั้งของ รูปปั้นช็อง แบ๊บติสต์เกลแบร์ ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องสงครามการปฏิวัติของประเทศฝรั่งเศส นอกจากนั้นในบริเวณใกล้เคียงยังมีสิ้นค้าแบรนเนอมอีกมากมายให้ท่านได้เลือกซื้อกัน
นำท่านถ่ายรูปและเข้าชม มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก มหาวิหารประจำเมืองสตราสบูร์ก คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก มีความสูงอยู่ที่ 142 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1176 ถึง 1439 ที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพูดูงามระหงโดดเด่นเห็นแต่ไกลและถือว่าเป็นอาคารโบสถ์ที่สูงที่สุดในประเทศฝรั่งเศส
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเทอลาเก้น เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Tune lake) และ ทะเลสาบเบรียนซ์ (Brienz lake) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ พร้อมช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อนาฬิกายี่ห้อดังหลากหลายที่ผลิตในสวิส ไม่ว่าจะเป็น ROLEX, OMEGA, CHOPARD, TAG HEUER, PATEK PHILIPPE, LONGINES และอื่นๆ อีกมากมาย
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
City OberlandHotel หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 5
แองเกลเบิร์ก - ทิตลิส - ลูเซิร์น - สะพานไม้ชาเปล - รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองแองเกิลเบิร์ก เพื่อนั่งกระเช้าหมุนแห่งแรกของโลก สู่ ยอดเขาทิตลิส (TITLIS) แหล่งเล่นสกีของสวิตเซอร์แลนด์ภาคกลาง ที่หิมะคลุมตลอดทั้งปีสูงถึง 10,000 ฟิต หรือ 3,020 เมตร บนยอดเขาแห่งนี้หิมะจะไม่ละลายตลอดทั้งปี * นั่งกระเช้ายักษ์ที่หมุนได้รอบทิศเครื่องแรกของโลกที่ชื่อว่า REVOLVING ROTAIR จนถึงสถานีบนยอดเขาทิทลิสซึ่งเป็นอาคารใหญ่มีทั้งหมด 4 ชั้น และบริเวณชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด จะเป็นชั้นที่ท่านสามารถเดินย่ำหิมะออกไปยังลานกว้างซึ่งเป็นจุดชมวิวบนยอดเขาท่านสามารถเที่ยวชมส่วนอื่นๆของเยอดเขาได้ไม่ว่าจะเป็นถ้ำน้ำแข็ง ร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร
เที่ยง
อิสระอาหารกลางวัน ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารได้จากห้องอาหารบนยอดเขาทิตลิส
บ่าย
ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น อดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า หลังคาแห่งทวีปยุโรป (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม
นำท่านชมและแวะถ่ายรูปกับ สะพานไม้ชาเพล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด
นำท่านชม รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
Ibis Style Luzern City หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 6
มิลาน - มหาวิหารเมืองมิลาน - แกลเลอเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงมิลาน (MILAN) เมืองสำคัญทางภาคเหนือของอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ชื่อเมืองมิลานมาจากภาษาเซลต์คำว่า MID-LAN ซึ่งหมายถึงอยู่กลางที่ราบ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านถ่ายรูปบริเวณ ปิอาซซ่า เดล ดูโอโม่ (PiazzaDelDuomo) ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือที่เรียกว่าดูโอโม่ (DUOMO) ชื่อนี้ไว้ใช้เรียกมหาวิหารประจำเมือง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1386 แล้วเสร็จ 400 กว่าปีหลังจากนั้น ด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด จึงมีชื่อเรียกว่า "มหาวิหารเม่น" มีรูปสลักหินอ่อนจากยุคต่างๆ ประดับอยู่กว่าสามพันรูป บนยอดของมหาวิหารมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่า และบริเวณนั้นยังเป็นศูนย์กลางแหล่งชุมนุมของผู้คนมาทุกยุคสมัย
อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปตามอัธยาศัยและช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม ซึ่งมีจำหน่ายมากมายในบริเวณ แกลเลอเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล หรือจะเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
Klima Hotel Milano Fiere หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 7
เวนิส - พระราชวังดอดจ์ - จัตุรัสมาร์โค - สะพานถอนหายใจ - เวนิสเมสเตร้
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ท่านเดินทางสู่เมือง เวนิส เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ซึ่งเกาะเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็ก ๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียติก เป็นเมืองท่าโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุด
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ เพื่อเดินทางสู่ เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะและมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส
จากนั้นนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิสชม สะพานถอนหายใจ ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้าย
ระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ ซึ่งเชื่อมต่อกับ วังดอดจ์ อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือคาสโนว่านั่นเอง
นำท่านถ่ายรูปบริเวณ จัตุรัสซานมาร์โค ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้งโบสถ์ซานมาร์โค ที่มีโดมใหญ่ 5 โดมตามแบบศิลปะไบแซนไทน์
จากนั้นอิสระให้ท่านได้มีเวลาเที่ยวชมเกาะอันแสนโรแมนติก เช่น เพื่อชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส, ชม โบสถ์ซานมาร์โค, เลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่,หน้ากากเวนิส หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน CafeFlorian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1720หลังจากนั้น นำท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารสมควรแก่เวลา
นำท่านล่องเรือกลับขึ้นสู่ ฝั่งเมสเตร
ที่พัก
Bedbank Venice Mestre หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 8
McArthur Glen Outlet - สนามบิน - ดูไบ
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ NoventaDi PiaveDesigner Outlet ให้ท่านได้เลือกเดินซื้อสินค้าตามใจชอบ
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน
15.25 น.
ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 136 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
00.15 น.
เดินทางถึง เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
03.30 น.
ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK376 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
12.35 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ