10.30 น.
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ บริเวณผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 9 เคาน์เตอร์ U เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน Royal Brunei (BI) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับอำนวยความสะดวกในการเช็คอินรับบัตรโดยสาร
**หมายเหตุ**
- เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที และผู้โดยสารพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 30 นาที
- เที่ยวบินขาไปและขากลับ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลาบิน ทั้งนี้เป็นการารเปลี่ยนแปลงตามตารางบิน
ของแต่ละเดือนแต่ละซีซั่น ก่อนทำการออกตั๋วภายในทุกครั้ง กรุณาเชคกับทางเจ้าหน้าที่บริษัท ตามวันที่ ที่ลูกค้าเดินทาง
23.35 น.
เดินทางถึง สนามบินงูระห์ไร Ngurah Rai International Airport เมืองเดนพาร์ซ่าร์ หรือ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย สนามบินแห่งนี้ตั้งชื่อไว้เพื่อเป็นเกียรติ แก่ พันโท อี กุสตี งูระห์ไร ผู้บัญชาการกองกำลังชาวอินโดนีเซีย วีรบุรุษในการสู้รบที่มาร์กาเมื่อตกอยู่ในวงล้อมของกองกำลังชาวดัตช์ ระหว่างการปฏิวัติอินโดนีเซียเพื่ออิสรภาพ สนามบินแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากทางใต้ของเมืองเดนพาร์ซ่าร์ ประมาณ 13 กิโลเมตร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าไทย 1 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่นเพื่อสะดวกในการนัดหมาย) นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าชมโชว์การแสดงอันตื่นตาตื่นใจกับ “ระบำบารอง” (Barong Dance) การแสดงที่สะท้อนท่วงทำนอง แห่งจิตวิญญาณ ระบำบารองคือหนึ่งในมนตร์เสน่ห์ ที่ผู้คนไม่น้อยมักสนใจในวัฒนธรรมของชาวอินโดนีเซีย โดยเฉพาะวิถีชีวิตของคนบนเกาะบาหลี เกาะเล็กๆที่เต็มเปรี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมอันมีเสน่ห์ นักท่องเที่ยวจาก ทุกมุมโลกต่างเดินทางมาที่บาหลีเพื่อจะได้เห็นท่วงท่าลีลาการร่ายรำแสนดุดันด้วยตาตัวเองสักครั้ง
นำท่านเดินทางไปยัง หมู่บ้านคินตามณี หมู่บ้านแห่งนี้เป็นจุดชมวิว ภูเขาไฟบาร์ตูห์ ที่ตั้งอยู่บนระดับความสูงกว่า 1,717 เมตร และ ทะเลสาบาร์ตูห์ ที่เกิดขึ้นจากการยุบตัวของภูเขาไฟ ท่ามกลางสายหมอกที่ลอยพัดผ่าน อิสระให้ท่านได้เก็บภาพเป็นที่ระลึก
บ่าย
หลังมื้อกลางวันนำท่านสู่ หมู่บ้านตัมปะซิริง
นำท่านชม วัดเตียร์ตาอัมปีล วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งคนไทยมักจะเรียกกันว่า วัดตัมปะซีริง (Tampak siring) ตามตำนาน เกอโบอีวา มหาเสนาบดีผู้ยิ่งใหญ่ของเบอดูลูใช้เวทมนต์แกะสลัก อนุสรณ์สถานนี้ด้วยเล็บมือของตน เป็นอนุสรณ์สถานแห่งราชวงศ์วาร์มาเดวาใช้ในประเพณีปลงพระศพของราชวงศ์ (ซึ่งเชื่อกันว่าทำให้ราชวงศ์ หลังจากเสียชีวิตลงได้กลายเป็นเทพเจ้า) ภายในวัดท่านจะได้พบกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันนี้ยังมีน้ำผุดขึ้นมาตลอดเวลาเชื่อกันว่าพระอินทร์ทรงสร้างขึ้นตอนที่เจาะพื้นพิภพ เพื่อสร้างบ่อน้ำอมฤตชุบชีวิตนักรบของพระองค์ สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 10 บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ใสสะอาดที่ผุดขึ้นจากใต้ดิน เป็นที่เคารพสักการะของชาวบาหลี ชาวบาหลีเชื่อว่าถ้าได้มาอาบน้ำ จะเป็นสิริมงคลและขับไล่สิ่งเลวร้าย และรักษาโรคต่างๆ ในทุกๆปีจะผู้คนนิยมเดินทางมา เพื่อชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ที่น้ำพุแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
อิสระช้อปปิ้งของฝากของที่ระลึกที่ ตลาดปราบเซียน ของฝากบาหลี ราคาถูกและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผ้าโสร่ง งานแกะสลักไม้ ของแต่งบ้าน แมกเน็ต และอื่นๆอีกมากมาย
วันที่ 3
วัดทามันอายุน (วัดเม็งวี) - เทือกเขาเบดูกัล - วัดอูลันดานูบราตัน - ชมวิวนาขั้นบันได - วัดทานาห์ลอต
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดทามันอายุน (Taman Ayun Temple) หรือที่เรียกกันว่า วัดเม็งวี 1 ใน 6 วัดที่มีความสวยงามที่สุดของบาหลี สร้างในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ในอดีตวัดหลวงของกษัตริย์ของราชวงค์เม็งวี ใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของราชวงค์เม็งวี ให้ท่านได้ชมเจดีย์บาหลีที่มีเอกลักษณ์ในการสร้างโดยสร้างขึ้นเป็นชั้นๆ สูงขึ้นไปแล้วมุงด้วยฟาง ชมความงามของกำแพง ประตูวัดที่ก่อด้วยหินสูง แกะสลักลวดลายต่างๆไว้อย่างงดงาม
จากนั้นเดินทางขึ้นสู่ เทือกเขาเบดูกัล เทือกเขาที่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ระหว่างการเดินทางท่านจะได้เห็นวิถีชีวิตการทำเกษตรกรรมของชาวบาหลีในแบบต่างๆ เช่น การทำนาขั้นบันได สวนผัก และสวนผลไม้
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบบราตัน
นำท่าน ชมวัดอูลันดานู บราตัน (Pura Ulun Danu Bratan) เป็นวัดที่สำคัญ 1 ใน 5 ของเกาะบาหลี ตั้งอยู่บริเวณริมทะเลสาบบราตันที่มีความสวยงามและมีมนต์ขลัง มีฉากหลังเป็นภูเขาที่สวยงามบนความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 เพื่อใช้ทำพิธีกรรมทางศาสนาพุทธและฮินดู และสร้างไว้เพื่ออุทิศแด่ เทวี ดานู เทพแห่งสายน้ำท้องทะเลสาบบราตัน ลักษณะเด่นของวัดแห่งนี้จะมีศาลาซึ่งมีหลังคาทรงสูง หรือ เมรุ มุงด้วยฟางซ้อนกันถึง 11 ชั้น อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ตีพิมพ์รูปลงด้านหลังธนบัตรแบบ 50,000 รูเปี๊ยะห์ของอินโดนีเซีย
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดทานาห์ลอต ได้รับฉายาว่า"วัดที่มีทิวทัศน์สวยงามที่สุดของบาหลี" คำว่า ทานา แปลว่า โลก คำว่า ลอต แปลว่าทะเล เชื่อว่าวัดแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของการบรรจบกันของธรรมชาติและจักรวาล เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนชายหาดริมทะเล มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล สร้างอยู่บนโขดหินลักษณะคล้ายเกาะ เวลาน้ำขึ้นจะดูเหมือนวัดอยู่กลางทะเล เวลาน้ำลดสามารถเดินข้ามไปยังตัววัดได้ วัดนี้สร้างขึ้นโดยนักบวชฮินดูชื่อ ดัง ฮยัง นิราร์ธา ในสมัยศตวรรษที่ 11 เพื่ออุทิศให้แก่เทพเจ้าและปีศาจแห่งท้องทะเลเย็น
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ ตัวเมือง
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
Mega Boutique Hotel ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 4
ร้านขายของที่ระลึก - สวนวิษณุ - จุดชมวิว Water Blow - อิสระเวลา ณ หาดจิมบารัน
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านแวะชม ร้านขายของฝากพื้นเมือง ที่ได้รวบรวมของฝากหลากหลายชนิดของเกาะบาหลีแห่งนี้ อาทิ เช่น ขนมพื้นเมือง, เสื้อผ้าบาติก, งานแกะสลักไม้ และ เครื่องประดับ เครื่องเงิน ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อของฝากก่อนเดินทางกลับ
จากนั้นนำท่านชม สวนพระวิษณุ (GWK Garuda Wisnu Kencana) ชมอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่แบบครึ่งรูป ได้แก่ อนุสาวรีย์รูปสักการะของพระวิษณุ (พระนารายณ์) 1 ใน 3 เทพเจ้าสูงสุดของชาวฮินดู พระผู้ปกป้องโลก และอนุสาวรีย์ครุฑ หรือเทพการูด้า เทพเจ้าแห่งอิสระเสรีภาพของชาวฮินดู ซึ่งเป็นพาหนะของพระองค์ มีความสูง 150 เมตร กว้าง 64 เมตร ขนาดน้ำหนัก 4,000 ตัน ให้ท่านอิสระถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกับรูปปั้นขนาดใหญ่ของพระวิษณุ หรือเดินชมบรรยากาศในสวน และสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเวิ้งอ่าวบาหลีตอนใต้ได้จากที่นี่ได้อีกด้วย
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยัง หาด Nusa Dua เป็นที่ตั้งของ Water Blow อันลือชื่อ ทั้งสองข้างทางจะเต็มไปด้วยรีสอร์ทระดับ 5 ดาว เรียงราย ซึ่งต่างก็มีการตกแต่งสวนโดยรอบเป็นอย่างดี ตัว Water Blow เป็นผลจากการเคลื่อนที่ของคลื่นที่มาโดยตรงจาก มหาสมุทรอินเดีย ซึ่งมาปะทะโดยตรงกับชายฝั่งทางตะวันตก ซึ่งจากระยะทางผสานกับหน้าผาของชายหาดทำให้เกิดเป็นคลื่นสูง เมื่อปะทะกัน ในบางครั้งอาจมีความสูงถึง 30 เมตรเลยทีเดียว ซึ่งผลจากการปะทะจากคลื่น ท่านจะสังเกตได้จากบริเวณชายหาดจะไม่มีหาดทรายอยู่เลย อีกทั้งตลอดทั้งทางหน้าผาจะเป็นตะปุ่มตะป่ำ สาเหตุจากการกัดเซาะของคลื่นเป็นเวลานับหมื่นปี จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าเมือง
อิสระเวลาให้ท่านได้เดินเล่นชมวิวชายหาด ณ หาดจิมบารัน (Jimbaran Beach) ที่สวยที่สุดในบาหลี ชายหาดสุดแสนโรแมนติก จิมบารัน ถือเป็นชายหาดที่ค่อนข้างเงียบสงบ มีทิวทัศน์ที่งดงาม เหมาะแก่การเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อน เล่นน้ำทะเล หรือเดินทางมาชมความงดงามของท้องทะเลบาหลียามพระอาทิตย์อัสดงก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน ดื่มด่ำกลิ่นไอทะเล หาดทราย สายลม แสงแดดยามเย็น และนี่คือหนึ่งในจุดหมายของเหล่านักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกเข้ามาพักผ่อน
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
Mega Boutique Hotel ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 5
บาหลี - บรูไน - มัสยิด Jame Asr Hassanil Bolkiah - พิพิธภัณฑ์ Royal Regalia - หมู่บ้านกลางน้ำ - ผ่านชมพระราชวัง Istana Nurul Iman - บรูไน - กรุงเทพฯ
04.00 น.
ออกเดินทางไปยัง สนามบินงูระห์ไร Ngurah Rai International Airport
07.10 น.
บินลัดฟ้าสู่ กรุงบันดาเสรีเบกาวัน ประเทศบรูไน โดย สายการบิน รอยัล บรูไน ROYAL BRUNEI เที่ยวบินที่ BI758 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
09.35 น.
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ Brunei International Airport ประเทศบรูไน (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าไทย 1 ช.ม. กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่นเพื่อสะดวกในการนัดหมาย) นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว ออกเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง
นำท่านชม มัสยิด Jame Asr Hassanil Bolkiah สร้างขึ้นในโอกาสฉลอง 25 ปี แห่งการครองราชย์ของสุลต่านองค์ปัจจุบัน มัสยิดทองคำแห่งนี้ เป็นมัสยิดแห่งชาติของบรูไน และมีสถาปัตยกรรมสวยงามที่สุดในบรูไน โดยมีการนำเข้าวัสดุในการก่อสร้างและตกแต่งมาจากทั่วโลก อาทิเช่น หินอ่อนจากประเทศอิตาลี, แชนเดอเลียร์ ทองคำแท้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจากประเทศออสเตรีย เป็นต้น เริ่มก่อสร้างในปี 1987 แล้วเสร็จในปี 1994 ภายในประกอบด้วย ห้องสวดมนต์ 2 ห้องแยกชาย หญิง, โดมทองคำจำนวน 29 อัน โคมไฟ 29 ดวงเพื่อเป็นเกียรติแก่ องค์สุลต่านแห่งบรูไน สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ ซึ่งเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีองค์ที่ 29 องค์ปัจจุบันของบรูไน
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านชม พิพิธภัณฑ์ Islamic Gallery พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นแหล่งรวบรวมของสะสมโบราณล้ำค่าขององค์สุลต่านจากประเทศมุสลิมทั่วโลกมาแสดงไว้ อาทิเช่น คัมภีร์อัลกุระอาน ขนาดเล็กที่สุดในโลก
จากนั้นนำท่านล่องเรือชม หมู่บ้านกลางน้ำ Kampong Ayer หมู่บ้านกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำบรูไน เป็นหมู่บ้านกลางน้ำที่มีคนอยู่อาศัยต่อเนื่องกันมายาวนานกว่า 1,300 ปี การสร้างบ้านเรือนแบบปลูกสร้างอยู่บนเสาค้ำยันและเชื่อมต่อกันด้วยสะพาน หมู่บ้านกลางน้ำนี้มีทั้ง บ้านพักอาศัย, มัสยิด, โรงเรียน, สถานีอนามัย, สถานีตำรวจ, ร้านค้า, ร้านอาหาร ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้มีประชากรกว่าสามหมื่นคนคิดเป็นเกือบร้อยละ๑๐ของจำนวนประชากรบรูไนและเป็นสถานที่ที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมริมน้ำของบรูไนสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ได้มาชมหมู่บ้านแห่งนี้ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางไปยังสนามบิน ระหว่างทางไปสนามบินท่านจะผ่านชม พระราชวัง Istana Nurul Iman เอกลักษณ์ทางสถาปัตถยกรรมของบรูไนที่มีความงามโดดเด่นทั้งภายในและภายนอก บนพื้นที่กว่า 19,400 ตารางเมตร พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1987 ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 1.4 ล้านดอลลาร์ ภายในพระราชวังถูกตกแต่งอย่างประณีตด้วยวัสดุชั้นเลิศและทองคำแท้ ประกอบไปด้วยห้องมากถึง 1,788 ห้อง และ 5 สระน้ำ นอกจากนี้ ยังมีห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ซึ่งบรรจุได้ถึง 5,000 คน เดินทางถึงสนามบิน
18.40 น.
ออกเดินทางกลับ ประเทศไทย โดย สายการบิน Royal Brunei (BI) เที่ยวบินที่ BI519
20.25 น.
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ