14.15 น.
เดินทางถึง สนามบินงูระห์ไร Ngurah Rai International Airport เมืองเดนพาร์ซ่าร์หรือเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย สนามบินแห่งนี้ตั้งชื่อไว้เพื่อเป็นเกียรติแก่ พันโท อี กุสตี งูระห์ไร ผู้บัญชาการกองกำลังชาวอินโดนีเซีย วีรบุรุษในการสู้รบที่มาร์กาเมื่อตกอยู่ในวงล้อมของกองกำลังชาวดัตช์ ระหว่างการปฏิวัติอินโดนีเซียเพื่ออิสรภาพ สนามบินแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากทางใต้ของเมืองเดนพาร์ซ่าร์ ประมาณ 13 กิโลเมตร (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่น นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดอูลูวาตู (Uluwatu Temple) วัดที่ตั้งอยู่บนหน้าผาริมทะเลที่สูงเกือบ 70 เมตร ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ตั้งของเกาะบาหลี เป็นวัดสำคัญ 1 ใน 5 แห่งที่อยู่ริมทะเล สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 11 มีการบูรณะในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 และได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ภายในวัดแบ่งเป็น 3 ส่วนตามความเชื่อ คือ สวรรค์ มนุษย์ และ ภูตผีปีศาจ ประตูวัดแกะสลักหินเป็นรูปปีกครุฑตั้งอยู่สองข้าง เว้นช่วงตรงกลาง ประตูถัดไปมีรูปสลักเป็นหน้ากาก ดูน่าเกรงขามเป็นผู้พิทักษ์คุ้มครองอยู่เหนือประตู ข้างประตูประดับด้วยรูปสลักพระพิฆเณศ ชั้นสุดท้ายเป็นเจดีย์ซึ่งถือเป็นบริเวณที่มีความสำคัญที่สุดนั้น จะอนุญาตให้เข้าได้เฉพาะชาวฮินดูที่จะสวดบูชาเทพแห่งท้องทะเล โปรดระวัง แว่นตา, หมวก หรือเครื่องประดับต่างๆ เนื่องจากมีฝูงลิงจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในวัดแห่งนี้ วัดนี้จัดได้ว่าเป็นจุดที่สวยงามแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะในเวลาที่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า
จากนั้นนำท่านชม ระบำไฟ (Kacak Fire Dance) โชว์ระบำไฟบูชาเทพเจ้าที่มีชื่อเสียงของชาวบาหลี เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างหนุมานและทศกัณฑ์โดยมีหมู่คนรายล้อมคอยร้องและส่งเสียงเป็นจังหวะประสาน
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หาดจิมบารัน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านชม ศูนย์ผ้าบาติก ชมกระบวนการผลิตผ้าบาติกในรูปแบบต่างๆ ซึ่งมีลวดลายสีสันความแตกต่างจากผ้าบาติกทั่วไป ศูนย์เครื่องเงิน ให้ท่านได้ชมงานฝีมือการทำเครื่องเงิน และเครื่องประดับของใช้ต่างๆ ที่มีการออกแบบไว้อย่างสวยงามเป็นสินค้าส่งออกที่มีชื่อเสียงของบาหลี
จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง หมู่บ้านคินตามณี หมู่บ้านแห่งนี้เป็นจุดชมวิว ภูเขาไฟบาร์ตูห์ และทะเลสาบบาร์ตูห์ ที่สวยงามที่สุด ชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟ และทะเลสาบบาร์ตูห์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกและมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี
บ่าย
ให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์ภูเขาไฟบาร์ตูห์ ที่ตั้งอยู่บนระดับความสูงกว่า 1,717 เมตร และ ทะเลสาบบาร์ตูห์ ที่เกิดขึ้นจากการยุบตัวของภูเขาไฟ ท่ามกลางสายหมอกที่ลอยพัดผ่าน อิสระให้ท่านได้เก็บภาพแห่งความประทับใจ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดทานาห์ลอต ( Pura Tanah Lot ) ได้รับฉายาว่า"วัดที่มีทิวทัศน์สวยงามที่สุดของบาหลี" คำว่า ทานา แปลว่าโลก คำว่า ลอต แปลว่า ทะเล เชื่อว่าวัดแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของการบรรจบกันของธรรมชาติและจักรวาล เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนชายหาดริมทะเล มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล สร้างอยู่บนโขดหินลักษณะคล้ายเกาะ เวลาน้ำขึ้นจะดูเหมือนวัดอยู่กลางทะเล เวลาน้ำลดสามารถเดินข้ามไปยังตัววัดได้ วัดนี้สร้างขึ้นโดยนักบวชฮินดูชื่อ ดัง ฮยัง นิราร์ธา ในสมัยศตวรรษที่ 11 เพื่ออุทิศให้แก่เทพเจ้าและปีศาจแห่งท้องทะเล ให้ท่านเก็บภาพสวยของบรรยากาศริมฝั่งทะเลยามอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้าที่แสนงดงาม
วันที่ 3
บาหลี - ยอร์คจาร์กาต้า(บินภายใน) - มหาเจดีย์บุโรพุทโธ - วัดปะวน - วัดเมนดุท - วัดพราห์มนันต์ - บาหลี(บินภายใน)
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก หรือ Breakfast Box
..... น.
ออกเดินทางต่อสู่ ยอร์คยาการ์ต้า โดยสายการบิน... เที่ยวบินที่ ....
..... น.
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอาดิสุคิปโต เมืองยอร์คยาการ์ต้า
นำท่านเดินทางสู่ มหาเจดีย์บุโรพุทโธ “Borobudor” ศาสนสถานของศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในโลกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์แห่งราชวงศ์ไศเลนทร์ เป็นสถูปแบบมหายาน สันนิษฐานว่าสร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 7-9 หรือพุทธศักราช 1393 ตั้งอยู่ทางภาคกลางของเกาะชวา บนที่ราบเกฑุ ทางฝั่งขวาใกล้กับแม่น้ำโปรโก ห่างจากยอกยาการ์ตา ทางตะวันตกเฉียงเหนือ 40 กิโลเมตร มหาสถูปบุโรพุทโธ อันงดงามนั้นรังสรรค์ขึ้นด้วยความรักความศรัทธาอย่างเปี่ยมล้นต่อพระพุทธศาสนาของชนชาวศรีวิชัย ประติมากรรมแต่ละชิ้นได้รับการจัดวางอย่างงดงามลงตัวและมีความหมายอันมีนัยถึงธรรม ธรรมชาติ หรือจักรวาล โดยสร้างขึ้นจากหินลาวา มีพื้นที่โดยรวมประมาณ 55,000 ตารางเมตร รูปทรงด้านฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวด้านละ 123 เมตร แต่ละด้านมีบันไดและซุ้มประตูขึ้นสู่มหาเจดีย์ ซึ่งมีทั้งหมด 10 ชั้น ชั้น 1-6 มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม ส่วนชั้นที่ 7-10 มีลักษณะเป็นรูปทรงกลม ส่วนฐานของบุโรพุทโธ ประกอบด้วยขั้นบันไดใหญ่ 4 ขั้น กำแพงรอบฐานมีภาพสลักประมาณ 160 ภาพ เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ที่ยังข้องอยู่ในกาม ผูกพันกับความสุข สนุกสนาน ความปรารถนาทางโลกอันไม่รู้จบ ส่วนนี้จัดอยู่ในขั้นกามภูมิ ในส่วนที่สอง คือส่วนบนของฐานนั้น ผนังทั้งด้านนอกด้านในมีรูปสลักเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติและชาดกต่างๆ ประมาณ 1,460 ภาพ ในส่วนนี้ถือเป็นขั้นรูปภูมิ คือขั้นตอนที่มนุษย์หลุดพ้นจากกิเลสทางโลกมาได้บางส่วนส่วนที่สาม คือส่วนของฐานกลมที่มีเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ จำนวน 72 องค์ แต่ละองค์บรรจุด้วยพระพุทธรูป ตั้งเรียงรายอยู่ 3 ระดับ โอบล้อมพระเจดีย์องค์ใหญ่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สุดยอดของบุโรพุทโธ จำนวน 72 นั้น หากพิจารณาในทางธรรมแล้วหมายถึง รูป 18 เจตสิก 52 จิต 1 นิพพาน 1 และฐานพระเจดีย์ที่เป็นรูปบัวผลิบานนั้นบ่งบอกถึงการรู้ตื่นและเบิกบาน ส่วนพระเจดีย์องค์ใหญ่นั้นภายในไม่ได้บรรจุสิ่งใดไว้ อาจสื่อให้เห็นถึงความว่าง อันถึงที่สุดของนิพพานแล้ว ย่อมไร้ลักษณ์ ไร้รูปรอยใดๆ ในส่วนนี้ถือเป็นขั้นอรูปภูมิ ที่มนุษย์ไม่ผูกพันกับทางโลกอีกต่อไป
จากนั้นนำท่านสู่ ศูนย์เครื่องเงิน ท่านจะได้ชมการสาธิตการทำเครื่องเงินอย่างละเอียด โดยช่างฝีมือที่ประณีต
จากนั้นนำท่านชม วัดปะวน (Candi Pawon) เป็นวัดที่ได้สร้างขึ้นเป็นที่สำหรับเก็บน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อชำระล้างจิตใจก่อนเข้าไปสู่มหาวิหารบุโรพุทโธ
จากนั้นนำท่านชม วัดเมนดุท (Candi Mendut) ซึ่งถือเป็นวัดที่เก่าแก่ โดยสันนิษฐานว่าสร้างในเวลาไล่เลี่ยกันกับบุโรพุทโธ โดยกษัตริย์แห่งราชวงศ์ไศเลนทร (Sailendra Dynasty) วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน Mendut ห่างจากกลุ่มวัดบุโรพุทโธ ประมาณ 3 กิโลเมตร พระอุโบสถ เป็นรูปทรงสูงคล้ายเจดีย์ ด้านในมีพระประธาน 3 องค์ วัดแห่งนี้ถูกค้นพบในปี 1836 อยู่ในสภาพซากปรักหักพังจนกระทั่งได้รับการบูรณะในปี 1897 ในปัจจุบันยังมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ในวัดนี้ ซึ่งในระหว่างการบูรณะบุโรพุทโธ นักโบราณคดีก็พากันประหลาดใจที่พบว่า วัดทั้ง 3 แห่งนี้ ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เป็นเส้นตรงเดียวกัน ทำให้นักโบราณคดีส่วนหนึ่งเชื่อว่า Candi Mendut และ Candi Pawon คือ ส่วนหนึ่งของบุโรพุทโธ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านชม วัดพรามนันต์ ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกจาก Unesco ในปี 1991 หมู่วิหารแห่ง ปรัมบานันของฮินดู สร้างเสร็จราวปี 856 เพื่อฉลองชัยชนะของระไก ปีกาตัน (ทายาทผู้สืบทอดราชวงศ์สันชัย) วิหารปรัมบานัน ตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน ปรัมบานัน ทางทิศตะวัน ออกของเมืองยอกยา ปรัมบานัน เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าบุโรพุทโธ เพราะเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย วิหารแห่งนี้มีเทวาลัยหลักขนาดใหญ่ 3 หลังด้วยกัน คือ องค์ประธานหลังกลางที่ใหญ่ที่สุด เด่นที่สุด และสูงที่สุด (ประมาณ 47 เมตร) เป็นเทวาลัยที่สร้างขึ้นถวายแด่พระอิศวร อีก 2 หลังเล็กลงมา แบ่งเป็นเทวาลัยทิศเหนือที่สร้างถวายแด่พระนารายณ์ และเทวาลัยทิศใต้ที่สร้างขึ้นถวายแด่พระพรหม นอกจากนี้ ปรัมบานัน ยังมีเทวาลัยขนาดเล็กรายรอบอีกร่วม 250 หลังเป็นองค์ประกอบ รวมไปถึงรูปปั้นรูปสลักอีกมากมาย ซึ่งด้วยความเก่า ความเก๋า ความขลัง ความงาม ความยิ่งใหญ่อลังการและความสำคัญแห่งรอยอดีตในศาสนาฮินดู
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
..... น.
นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองบาหลี โดยสายการบิน... เที่ยวบินที่....
..... น.
เดินทางถึง สนามบินงูระห์ไร Ngurah Rai International Airport เกาะบาหลี
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ ที่พัก ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย
ที่พัก
Mega Boutique Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 4
ทะเลสาบบราตัน - วัดอูลันดานู บราตัน - ช้อปปิ้งร้านกฤษณา - บาหลี - กรุงเทพฯ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบบราตัน
นำท่านชม วัดอูลันดานู บราตัน (Pura Ulun Danu Bratan) เป็นวัดที่สำคัญ 1 ใน 5 ของเกาะบาหลี ตั้งอยู่บริเวณริมทะเลสาบบราตันที่มีความสวยงามและมีมนต์ขลัง มีฉากหลังเป็นภูเขาที่สวยงามบนความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 เพื่อใช้ทำพิธีกรรมทางศาสนาพุทธและฮินดู และสร้างไว้เพื่ออุทิศแด่ เทวี ดานู เทพแห่งสายน้ำท้องทะเลสาบบราตัน ลักษณะเด่นของวัดแห่งนี้จะมีศาลาซึ่งมีหลังคาทรงสูง หรือ เมรุ มุงด้วยฟางซ้อนกันถึง 11 ชั้น อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ตีพิมพ์รูปลงด้านหลังธนบัตรแบบ 50,000 รูเปี๊ยะห์ของอินโดนีเซีย
จากนั้นนำท่านสู่ ร้านกฤษณา ร้านขายของฝากชื่อดังที่ได้รวบรวมของฝากหลากหลายชนิดของเกาะบาหลีแห่งนี้ อาทิ เช่น ขนมพื้นเมือง, เสื้อผ้าบาติก, งานแกะสลักไม้ และ เครื่องประดับสวยงาม ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อของฝากก่อนเดินทางกลับ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
14.00 น.
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ สนามบินงูระห์ไร Ngurah Rai International Airport
17.40 น.
นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงเทพมหานคร โดย สายการบินไทย (Thai airway) เที่ยวบินที่ TG432
20.50 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ