14.00 น.
นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เครื่องเพชรพลอย (National Jewels Museum) สถานที่แห่งนี้ถูกดูแลรักษาและการบริหารงานอย่างเข้มงวดโดยธนาคารชาติของอิหร่าน ภายในเต็มไปด้วยเครื่องเงินทองและเครื่องประดับอัญมณีเพชรพลอยไข่มุกอันล้ำค่ามากมายเกินกว่าจะประมาณราคา ซึ่งมีของที่สำคัญต่างๆ หลายอย่าง เช่น เพชรสีชมพู (Darya e Noor/Sea of Light)เป็นเพชรสีชมพูที่เม็ดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็น 1 ใน 5 ของโลก มีน้ำหนักถึง 182 กะรัต ลูกโลก(Global of Jewel)ที่ประดับด้วยอัญมณีเพชรนิลจินดา 51,366 ชิ้น ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 18,200 กะรัต พระราชบัลลังก์ฯ(Naderi Shah Throne)เป็นของกษัตริย์นาเดรี ซาห์ ที่ทรงสั่งให้สร้างมีความสูง 2.25 เมตร ประดับด้วยเพชรนิลจินดามากกว่า 26,000 ชิ้น มงกุฎเกียนี(Kiani Crown)ซึ่งทำขึ้นในราชวงศ์ของฟาทห์ อาลี ซาฮ์ ที่ขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ.1797-1834 ทำด้วยไข่มุกและอัญมณีที่มีค่าอีกมากมายรวมแล้วมีน้ำหนัก 4.5 กก. และมงกุฎปาห์ ลาวี(Pahlavi Crown)ถูกทำขึ้นในปี ค.ศ.1925 ตอนที่ขึ้นครองราชย์และนอกจากนั้นยังมี เครื่องประดับต่างๆ อีกมากมายที่สุดจะประเมินค่าฯ
อิสระให้ท่านช๊อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ ตลาดบาร์ซาร์
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเมราห์บัด เพื่อขึ้นเครื่องไป เมืองชีราซ
09.30 น.
ออกเดินทางจาก เตหะราน สู่เมืองชีราซ โดยเที่ยวบินที่ W5 1089
10.50 น.
เดินทางมาถึง สนามบินเมืองชีราซ ซึ่งเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดฟาร์ส
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านไปชม สุเหร่าสีชมพู (Pink Mosque) หรือมีชื่อว่า Nasir al MolkMosque ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสุเหร่าที่มีความสวยงามและสำคัญที่สุดของอิหร่านตอนใต้ เอกลักษณ์ของสุเหร่านี้ คือ ส่วนต่างๆจะถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องสีชมพู ถูกสร้างขึ้นโดยมีร์ซา ฮาซาน อลี นาซีร์อัลมอล์ค ในปี ค.ศ.1876 และสำเร็จเรียบร้อยในปี ค.ศ.1887
ชม สวนนาเรนเจสตาน (Narenjestan Garden) ซึ่งเป็นสวนที่สวยอีกแห่งของชีราช ซึ่งเคยเป็นที่พำนักของเจ้าเมืองในอดีต ส่วนอีกด้านหนึ่งยังมีการตกแต่งภายในและมีพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งของบุคคลที่สำคัญในอดีตของเปอร์เซีย
นำท่านไปชม ที่ฝังศพฮาเฟซ (Mausoleum of Hafez)ซึ่งมีชื่อเต็มว่า ซัมซุดดิน มูฮัมหมัด ฮาเฟซ เป็นกวีเอกที่มีชื่อเสียง เกิดที่เมืองชีราซเมื่อปี ค.ศ.1324 และเสียชีวิตเมื่อปีค.ศ. 1391 ฮาเฟซมีความสามารถในการแต่งบทกวีที่ได้ความไพเราะ ที่เข้าใจวิถีชีวิตของผู้คนและแต่งกวีที่ใช้คำง่ายๆขึ้นมาให้เป็นคติสอนคนให้เป็นคนดี อนุสรณ์สถานที่ฝังศพของนักกวีที่ยิ่งใหญ่ที่สร้างได้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ.1936-1938 เพื่อให้เป็นที่รำลึกถึงคุณงามความดีของท่าน
นำท่านไปชม ป้อมคาริม ข่าน (Karim Khan Fort)ที่คาริม ข่านได้สั่งให้สร้างที่พักอาศัยและเป็นศูนย์กลางการบริหารงานขึ้นที่ใจกลางเมือง ที่พักอาศัยนี้ถูกออกแบบมีลักษณะเหมือนป้อม มีพื้นที่ประมาณ 12,800 ตรม. มีกำแพงล้อมรอบทั้ง 4 ด้านภายในยังตกแต่งด้วยต้นไม้เพื่อให้มีความร่มรื่นให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย
เลือกซื้อของฝากที่ ตลาดวากิลบาซาร์ (Vakil Bazaar) เป็นตลาดบาซาร์ที่ตั้งอยู่ในบริเวณดาร์บ อี ชาห์ซาเดห์ ซึ่งอยู่ใกล้กับมัสยิดวาคิล ภายในจะมีสินค้าหลายอย่างรวมทั้งเครื่องเทศต่างๆ มากมาย
ค่ำ
รับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคาร / โรงแรม
ที่พัก
ELYSEEHOTEL โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 4
ชีราซ - เปอร์เซโพลิส - ยาซ์ด
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านออกเดินไปยัง เมืองมาร์พดาสท์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองชีราซไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 60 กม. เป็นที่ตั้งของ นครเปอร์เซโพลิส (Persepolis)ในอดีตสถานที่นี้ได้เป็นเมืองหลวง และศูนย์กลางที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเปอร์เซีย และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีค.ศ.1979ให้ท่านได้ชมโบราณสถานที่สร้างโดยกษัตริย์ดาริอุสมหาราชก่อนคริสตกาลประมาณ 520 ปี จนถึงรัชสมัยของดาริอุสที่ 3 ซึ่งได้ถูกก่อสร้างปรับปรุงต่อเติมมาตลอดระยะเวลา 200 ปี นครแห่งนี้เป็นป้อมปราการและนครศูนย์กลางที่ประกอบด้วยราชวังต่างๆ ห้องโถงใหญ่ ที่เก็บทรัพย์สมบัติ ที่เก็บสิ่งของมีค่าต่างๆ ที่มีความสำคัญที่สุด แต่ในปี ค.ศ. 330 ก่อนคริสตกาล ได้ถูกกองทัพ ของอเล็กซานเดอร์มหาราช บุกเข้าทำลายเผาผลาญจนพินาศไป เหลือแต่ซากปรักหักพังไว้ให้ชม
จากนั้นนำท่านไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสุสานที่ฝังศพของกษัตริย์ 4 องค์ เนโครโพลิส (Necropolis)ให้ท่านได้ชมสถาปัตยกรรมที่เด่นในการแกะสลักบนผาหินและที่สำคัญเป็นสุสานของษัตริย์ดาริอุสที่ 1 และกษัตริย์องค์ต่อๆมาอีก 3 พระองค์ซึ่งเคยปกครองนครเปอร์เซโพลิสมาก่อน
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านออกเดินไปยัง เมืองยาซ์ด (Yazd) ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ มีระยะทางประมาณ 380 กม. โดยเดินทางผ่านเมืองพาร์ซากาด ซึ่งในอดีตได้เคยเป็นที่ตั้งของเมืองหลวง ถูกสร้างโดยกษัตริย์ไซรัสมหาราชของอาณาจักรเปอร์เซียระหว่างทางให้ท่านได้หยุดที่เมืองอะบาร์คูซ เพื่อชมต้นไม้ไซเพรส (Cypress Tree)ที่มีอายุมากที่สุดประมาณ 4,000 ปี และตามสถานที่ต่างๆก็ได้ทำเป็นรูปสัญลักษณ์ของต้นไม้นี้
เดินทางมาถึง เมืองยาซ์ด ซึ่งเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดยาซ์ด ที่ตั้งอยู่ทางใต้ในเขตทะเลทรายคาวีร์และได้ชื่อว่าเป็น ไข่มุกแห่งทะเลทราย (The Pearl of Desert)
นำท่านไปเที่ยวชมความสวยงามของ เมืองยาซด์ (Yazd) ในสมัยดั้งเดิมประมาณ 3,000 ปี เคยเป็นส่วนหนึ่งของมีดีสด้วย จนกระทั่งในสมัยของอะคาเมนิดส์ จากประวัติศาสตร์การปกครองที่ผ่านมา มีการส่งกองกำลังเข้ายึดและทำลายบ้านเมืองให้เสียหาย แต่เนื่องจากเมืองยาซ์ดได้ตั้งอยู่ไกลและมีสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ จึงทำให้รอดพ้นจากความเสียหายและไม่มีอันตรายจากการโจมตีของข้าศึก จึงทำให้เมืองยาซ์ดยังคงไว้ซึ่งสิ่งที่เป็นศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมมาจนถึงทุกวันนี้ ในสมัยของอเล็กซานเดอร์มหาราช ได้เคยสร้างเป็นคุกสำหรับขังนักโทษ (Alexander’s Prison) คนสำคัญของพวกเปอร์เซียไว้ที่นี่ และต่อมาภายหลังได้กลายเป็นเมืองที่มีคนอยู่อาศัยอย่างถาวร ตัวเมืองและสิ่งก่อสร้างที่เหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยในทะเลทราย โดยมีการสร้างห้องใต้ดินเพื่อหลบลมร้อนซึ่งได้ผลดีและเหมาะสมกว่าใช้เครื่องปรับอากาศ
นำท่านไปชม มัสยิด จาเม (Jame’s Mosque) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยกษัตริย์ของราชวงศ์ อัล อี บูเยห์ และได้ถูกขยายได้ใหญ่ขึ้นในปี ค.ศ.1324-1365 และยังมีเสามินาเรท์คู่ของสุเหร่าที่สูงที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นในอิหร่าน ภายในยังถูกตกแต่งให้สวยงามในสถาปัตยกรรมของเปอร์เซียและสถานที่แห่งนี้ยังคงถูกใช้ประกอบพิธีมาจนทุกวันนี้
นำท่านไปชม หอคอยแห่งความเงียบ (Silent Tower) ที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลทรายและภูเขาทางด้านใต้ของเมืองยาซ์ด ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเปอร์เซียโบราณนับถือพระเจ้าอะฮูรา มาสดาในศาสนาโซโรแอสเตียน เพราะมีความเชื่อว่าคนที่ตายไปแล้วไม่ควรที่จะนำไปฝัง แต่ต้องนำศพมายังสถานที่แห่งนี้ เพื่อให้พระทำพิธีและนำศพนั้นไปยังหอคอยเพื่อให้นกแร้งได้จิกกินเนื้อจนเหลือแต่กระดูกที่สะอาด แล้วจึงนำไปฝังหรือเก็บใส่ในสุสานที่ได้จัดเตรียมไว้
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
ที่พัก
MOSHIR GARDEN HOTEL โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 5
ยาซ์ด - เมย์บอด - อีสฟาฮาน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านไปชม วิหารของลัทธิบูชาไฟ (Fire Temple) ของศาสนาโซโรแอสเตอร์ ซึ่งในอดีตได้เคยเป็นศาสนาประจำชาติ ก่อนที่ศาสนาอิสลามจะเข้ามา ในวิหารจะมีกระถางไฟที่ติดลุกโชนอยู่ตลอดเวลาโดยจะมีพระคอยดูแลฯ และทุกๆ ปีจะมีการเฉลิมฉลองกันที่ในวิหารแห่งนี้
นำท่านไปชม อนุสรณ์สถานอาเมียร์เช็คห์แมก (Amir Chakhmaq Monument)ซึ่งถูกสร้างขึ้นในบริเวณที่เป็นจัตุรัสอยู่กลางเมือง ถูกสร้างขึ้นโดยจาดิน อัล อาเมียร์เช็คห์แมก ในขณะที่ท่านเป็นผู้ว่าการของยาซ์ดในสมัยของราชวงศ์ตีมูร์ สถานที่แห่งนี้มีรูปแบบและการออกแบบที่เข้ากับความสวยงามซึ่งมีน้ำพุอยู่ตรงกลาง และยังมีมัสยิดที่มีชื่อเดียวกันถูกสร้างอย่างสวยงาม นอกจากนั้นยังมีที่พักของคนเดินทางคาราวานซาราย มีที่อาบน้ำและมีน้ำเย็นสำหรับดื่ม เมื่อเวลาพลบค่ำก็จะมีแสงสีส้มที่สวยงามที่ออกมาจากส่วนโค้งข้างในมัสยิดซึ่งทำให้เป็นภาพที่น่าตื่นเต้น
นำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองเมย์บอด (Maybod) ระยะทางห่างประมาณ 50 กม.เมืองนี้ตั้งอยู่ในทะเลทรายทางด้านตะวันตกของยาซ์ด เป็นเมืองโบราณที่นับย้อนหลังไปในระยะเวลาก่อนอิสลามและเป็นตั้งของสิ่งก่อสร้างที่สวยงามและน่าสนใจหลายแห่ง ที่กำลังถูกยื่นเพื่อการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลก
ให้ท่านชม ปราสาทนารินจ์ (Narinj Castle)ซึ่งถูกสร้างด้วยก้อนหินที่ทำจากดินเหนียวให้เป็นปราสาท ตัวปราสาทถูกสร้างขึ้นมานคาดว่าประมาณ 2,000 ปีมาซึ่งจะเหมือนกับก้อนหินในยุคของราชวงศ์เมเดสอะคาเมนิดและซัสซานิด ตัวปราสาทสูงขึ้นจากพื้นดินประมาณ 40 เมตร ด้านบนตามมุมมีหอคอยทั้งสี่ด้าน ตามริมกำแพงถูกสร้างให้เป็นทางเดินโดยมีขั้นบันไดสำหรับขึ้นลงไปยังด้านล่างที่ทำเป็นห้องมีลักษณะคล้ายกับที่คุมขังนักโทษ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้น นำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองอีสฟาฮาน (Isfahan) ที่เป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดฯ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกระยะทางห่างประมาณ 130 กม.
นำท่านไปชม สะพานคาจู (Khaju Bridge) ซึ่งถูกสร้างได้สวยงามตามแบบที่ไม่เคยพบเห็นในที่ใดมาก่อน ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1650 โดยกษัตริย์ชาห์ อับบาสที่ 2 ที่มีความกว้าง 12 เมตร และยาวถึง 132 เมตร เพื่อสำหรับข้ามแม่น้ำซายันเดห์ ในขณะเดียวกันก็ใช้เป็นเขื่อนด้วย
จากนั้นนำท่านไปชม สะพานอัลลาห์เวอร์ดี ข่าน หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ซีโอ เซโปล (SioSepol)เป็นสะพานที่ถูกสร้างในสมัยกษัตริย์ชาห์ อับบาสที่ 1 ในปี ค.ศ.1599 และเสร็จเรียบร้อยในปี ค.ศ.1602 ซึ่งถูกสร้างให้เป็นสะพานที่มีความสวยงามสำหรับข้ามแม่น้ำซายันเดห์ มีความกว้าง 14 เมตร และมีความยาวถึง 360 เมตร ตลอดสองข้างทางของสะพานจะมีการตกแต่งเป็นทางเดินที่สวยงามและฐานด้านล่างถูกสร้างเป็นส่วนโค้ง 33 โค้ง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
ที่พัก
PIROOZY HOTEL โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาวหรือเทียบเท่า
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
08.30 น.
นำท่านเที่ยวชมความสวยงามของ เมืองอีสฟาฮาน (Isfahan) ซึ่งเป็นเมืองที่มั่งคั่งด้านศูนย์กลางการค้าขาย อุตสาหกรรม ศูนย์กลางของวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ศิลปกรรม วรรณกรรมและวิทยาการ จนถึงขั้นสูงสุดในเกือบทุกด้าน โดยเฉพาะการทอพรมเปอร์เซีย การประดิษฐ์อักษรภาพอิสลามอันแสนวิจิตรสวยงามแบบเปอร์เซีย
จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยังชุมชนของชาวอาร์เมเนียน ชมความสวยงามของ วิหารแวงค์ (Vank Church)ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวอาร์เมเนียนที่นับถือศาสนาคริสต์ ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1655 ในรูปแบบผสมผสานศิลปะของยุโรปและของเปอร์เซีย พร้อมกับชมพิพิธภัณฑ์ของโบสถ์ ซึ่งจะแสดงเกี่ยวกับหนังสือฯ เครื่องแต่งกายประวัติศาสตร์ความเป็นมา และที่สำคัญที่สุดคือการแกะสลักตัวอักษรบนเส้นผม
นำท่านไปชม พระราชวังเชเหลโชตุน (ChehelSotun Palace) หรือวัง 40 เสา ซึ่งความจริงแล้วมีเสาเพียง 20 ต้นเท่านั้น แต่เมื่อมองผ่านเข้ามาทางสระน้ำหน้าวังจะเป็นเงาในน้ำอีก 20 ต้น ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1614 โดยสถาปนิก ชื่อ ชีคห์บาไฮ พื้นที่ของพระราชวังประมาณ 67,000 ตรม. ด้านหน้ามีสระน้ำมีความยาว 100 เมตร และกว้าง 16 เมตร และตัวพระราชวัง 2 ชั้นสูง 15 เมตร มีการแกะสลักลวดลายประตูหน้าต่างที่สวยงาม และล้อมรอบไปด้วยสวนดอกไม้ที่เขียวชอุ่มเพื่อให้เป็นที่พักผ่อนของกษัตริย์และนางสนมต่อมาใช้เป็นที่ต้อนรับพระราชอาคันตุกะ ซึ่งต่อมาก็ได้ถูกต่อเติมโดยกษัตริย์ชาห์ อับบาส ที่ 2 และเสร็จเรียบร้อยในปี ค.ศ.1647
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านไปชม จัตุรัสอิหม่าม ซึ่งมีพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณแปดหมื่นกว่าตารางเมตรที่มีความกว้างประมาณ 165 เมตร และมีความยาวประมาณ 510 เมตร ซึ่งมีสถาปนิก อาลี อัคบาร์ เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างจัตุรัสแห่งนี้ เพื่อให้เป็นสถานที่สำคัญในด้านกิจการทหารและเล่นกีฬาโปโล นอกจากนั้นบริเวณรอบๆยังมีการตกแต่งเป็นรูปโดมที่สวยงาม และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีค.ศ.1979
ชม พระราชวังอาลี คาปู (Ali Qapu Palace) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ ชาห์ อับบาสที่1 โดยมีการสร้างเพิ่มเติมจนมีทั้งหมด 6 ชั้นซึ่งแต่ละชั้นได้ถูกตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมหลากหลายโดยฝีมือจิตรกรชั้นครูในสมัยนั้นพระราชวังฯแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับและรับรองฯ พร้อมกันนี้ชั้นบนสุดยังได้ตกแต่งเป็นห้องสำหรับฟังเพลงและเล่นดนตรี
ชม มัสยิดชีคห์ลอทฟอลลาห์ (Sheikh Lotfollah Mosque) ซึ่งสร้างโดยชาห์อับบาสที่ 1 เช่นเดียวกันซึ่งจะใช้เป็นมัสยิดส่วนพระองค์และราชวงศ์เท่านั้น โดยเฉพาะตัวโดมซึ่งถือได้ว่างดงามที่สุดในประเทศ
ชม มัสยิดอิหม่าม (Imam Mosque)ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่ง หนึ่งของโลกถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1612 และสำเร็จเรียบร้อยในปี ค.ศ.1638 โดยมียอดโดมสูงประมาณ 30 เมตร และมีเสามินาเรท์ที่มีความสูงประมาณ 40 เมตร ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย เลือกซื้อของฝากต่างๆที่บริเวณจตุรัสแห่งนี้
อิสระให้ท่านได้ช๊อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ ตลาดบาร์ซาร์ บริเวณอิหม่ามสแควร์
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
ที่พัก
PIROOZY HOTEL โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 7
อีสฟาฮาน - แอบยาเนห์ - คาชาน - เตหะราน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
08.00 น.
นำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองคาชาน (Kashan)ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านเหนือของอีสฟาฮาน ประมาณ 200 กม. เป็นเมืองในโอเอซิสที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์
ระหว่างทาง ให้ท่านได้ชมความสวยงามของ หมู่บ้านแอบยาเนห์ (Abyaneh Village) ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,400 เมตร ซึ่งถูกสร้างอยู่บนเนินเขาคาร์คาส ชมความเป็นอยู่ของชุมชนหมู่บ้านเก่าแก่ที่ใช้อิฐดินดิบเป็นวัสดุในการสร้างบ้าน และยังคงสภาพเดิมที่เคยเป็นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16-18 เมื่อสมัยก่อนนี้ ชาวเมืองนับถือศาสนาโซโรแอสเตอร์ ซึ่งต่อมาได้รับเอาศาสนาอิสลามเข้ามา และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ.2007
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองคาชาน ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสวยงามในทะเลทรายหรือที่เรียกว่า โอเอซิส ที่อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยต้นไม้ พันธุ์ดอกไม้ต่างๆ
นำท่านไปเที่ยวชม สวนฟิน (Fin Garden) ซึ่งเป็นสวนที่อยู่ติดกับที่ราบเชิงเขาซาโกรซถูกสร้างขึ้นในราชวงศ์ซาฟาวิดโดยชาห์ อับบาสที่ 1 ออกแบบให้เป็นสวนแบบเปอร์เซียภายในสวนได้ถูกตกแต่งด้วยน้ำพุ ที่เกิดจากแหล่งน้ำธรรมชาติซึ่งมีความดันจากน้ำใต้ดิน สามารถให้มีกำลังน้ำที่ไหลไปตามท่อต่างๆ และไหลไปหล่อเลี้ยงต้นไม้ต่างๆ ภายในสวนด้วยและยังมีวังอันสวยงามที่ถูกสร้างเป็น 2 ชั้นสำหรับเป็นที่ประทับพร้อมกันนั้นก็มีห้องอาบน้ำและอบไอน้ำ
จากนั้นไปชม โบรูเจอร์ดี เฮาส์ (Borujerdi Historical House) บ้านหรือคฤหาสน์หลังนี้ได้ถูกสร้างขึ้นโดยพ่อค้าที่มีชื่อเสียงของเมืองคาชาน ชื่อว่า ฮัจ เซเยส จาฟาร์ นาทานซี เพราะว่าได้ทำการส่งสินค้าออกไปยังเมืองบรูเจอร์ดี บ้านหลังนี้ได้ถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ.1875 ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 18 ปี ภายในประกอบไปด้วยสนามหญ้าที่ถูกตกแต่งด้วยต้นไม้ และตัวบ้านมีลักษณะเป็นช่องลมเพื่อให้อากาศได้ถ่ายเทและหมุนเวียน อีกทั้งยังทำการตกแต่งลวดลายฝาผนังด้วยการแกะสลักปูนปั้นและทาสีให้มีความสวยงามตามแบบลักษณะของอิหร่านอีกด้วย
สมควรแก่เวลานำท่านออกเดินทางต่อไปยัง กรุงเตหะราน ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 200 กม.
ค่ำ
นำท่านออกเดินทางไปยัง สนามบินโคไมนี่ เพื่อตรวจเอกสารการเดินทาง
รับประทานอาหารค่ำ ระหว่างทาง (อาหารกล่อง/แซนด์วิช)
21.10 น.
ออกเดินทางจาก เตหะราน สู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ W5 051(รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน)
วันที่ 8
กรุงเทพฯ /สุวรรณภูมิ
07.25 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิ์ภาพ