วันที่ 1
กรุงเทพฯ - หลวงพระบาง - พระธาตุภูษี - ตลาดมืด
11.30 น.
พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมืองอาคาร 1 ขาออก ชั้น 2 ประตู 1 เคาน์เตอร์สายการบินไทยแอร์เอเชีย Thai Air Asia (FD) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
14.30 น.
ออกเดินทางสู่ เมืองมรดกโลกหลวงพระบาง โดยเที่ยวบิน FD 1030
**หมายเหตุ** สายการบินแอร์เอเชีย มีบริการล็อกที่นั่งและ Hot Seat บริการสำหรับลูกค้าที่มีความประสงค์ต้องการนั่งแถวหน้าและนั่งติดกัน หรือเลือกที่นั่งได้ เนื่องจากตั๋วเครื่องบินของคณะเป็นตั๋วกรุ๊ประบบ Random ไม่สามารถล็กที่นั่งได้ ที่นั่งอาจจะไม่ได้ติดกันในคณะ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสายการบิน
*ในกรณีต้องการล็อกที่นั่งไป-กลับ ค่าใช้จ่ายใจการล็อกที่นั่งไปกลับ 200 บาท/ท่าน/เที่ยว
*ต้องการล็อกที่นั่งแถวหน้า Hot Seat
แถวที่ 1 ค่าบริการล็อกที่นั่ง ขาละ 500 บาท/เที่ยว/ท่าน ไปกลับ 1,000 บาท/ท่าน
แถวที่ 2-5 ค่าบริการล็อกที่นั่ง ขาละ 400 บาท/เที่ยว/ท่าน ไปกลับ 800 บาท/ท่าน
แถวที่ 6-8 ค่าบริการล็อกที่นั่ง ขาละ 200 บาท/เที่ยว/ท่าน ไปกลับ 4,00 บาท/ท่าน
**กรุณาแจ้งพนักงานขายทุกครั้งก่อนทำการจอง**
16.00 น.
เดินทางถึง เมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
นำท่านเดินขึ้นบันได 328 ขั้นสู่ พระธาตุภูษี (Phou Si Mountian) สองข้างทางร่มรื่นด้วยต้นดอกจำปา ภูษีนี้หมายถึง “ภูศรี” คือ เป็นศรีของเมืองหลวงพระบางนั่นเองตั้งโดดเด่นกลางใจเมืองมีจุดชมวิวก่อนถึงยอดพระธาตุ มองเห็นวัด บ้านเรือนทอดยาวขนานกับแม่น้ำโขงจรดปากแม่น้ำคานยอดสูงสุดของภูษี อยู่บนพื้นที่ราบแคบๆตัวพระธาตุเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทองตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตรจะสวยมากในยามเย็น แบบนี้แสงแดดจะส่ององค์พระธาตุเป็นสีทองสุกปลั่งมีทางเดินรอบองค์พระธาตุสามารถชมทิวทัศน์ตัวเมืองหลวงพระบางได้เกือบรอบเลยทีเดียว
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารเมืองหลวงพระบาง
หลังทานอาหาร นำท่านชม ถนนข้าวเหนียว ของหลวงพระบาง หรือ ตลาดมืดเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองไว้เป็นของฝากหรือเป็นที่ระลึก
ที่พัก
Chitchareune Mouang Luang Hotel ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 2
ตักบาตรข้าวเหนียว - บ้านผานม - ถ้ำติ่ง - บ้านช่างไห - น้ำตกตาดกวางสี - พิธีบายศรีสู่ขวัญ
05.00 น.
ตื่นเช้าไปร่วม ทำบุญ-ตักบาตร กับชาวหลวงพระบาง ทุกเช้าชาวหลวงพระบางทุกบ้าน จะพากันออกมานั่งรอตักบาตรพระสงฆ์ที่เรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อยๆ รูปซึ่งเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของหลวงพระบาง โดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุขและความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมของชาวล้านช้าง
นำท่านแวะ เที่ยวชมตลาดเช้า
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านแวะช้อปปิ้งผ้าพื้นเมืองที่ บ้านผานม เป็นหมู่บ้านชาวไทลื้อ มีฝีมือในการทอผ้าอย่างสวยงาม อดีตเป็นแหล่งทอผ้าถวายแด่เจ้ามหาชีวิต ปัจจุบันผ้าทอจากบ้านผานมนี้ มีชื่อเสียงมากและมีการรวมกลุ่มตั้งเป็นศูนย์หัตถกรรมแสดงสินค้า และยังมีการสาธิตให้ท่านชมด้วย
จากนั้นนำท่านลงเรือเดินทางชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขง ถ้ำติ่ง (Ting Cave) ซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำโขงมีอยู่ 2 ถ้ำ คือ ถ้ำล่างและถ้ำบนถ้ำติ่งลุ่ม หรือ ถ้ำล่างสูง 60 เมตร จากพื้นน้ำมีลักษณะเป็นโพรงน้ำตื้นๆมีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวนนับ 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืนมีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ถ้ำติ่งบน จะไปทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถ้ำไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถ้ำแต่ไม่มากเท่าถ้ำล่างสมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่งต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามาและจึงทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนาแล้วล่องเรือกลับก่อนถึงตัวเมืองหลวงพระบาง
จากนั้นแวะ บ้านช่างไห ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขงมีอาชีพในการหมักสาโท และต้มเหล้าขาวจำหน่ายและยังเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวก ผ้าทอลวดลายสวยงามมากมาย มีเครื่องเงิน วางจำหน่ายอย่างเป็นระเบียบ ชมความร่วมมือของชาวบ้านที่ได้จัดแต่งลานบ้านอย่างสวยงาม เพื่อรอรับนักท่องเที่ยว
ได้เวลาพอสมควรลงเรือเดินทางกลับสู่ ตัวเมืองหลวงพระบาง
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำเดินทางผ่าน หมู่บ้านชนบท ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านสู่ น้ำตกตาดกวางสี (Tat Kuang Si Waterfalls) ห่างจากหลวงพระบาง 30 กิโลเมตรไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง
ชมความงามของน้ำตกที่ตกลดหลั่นเป็นชั้นๆอย่างสวยงาม แต่ละชั้นเกิดจากการผสมของหินปูน สูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้น สภาพป่าร่มรื่น มีสะพาน และเส้นทางเดินชมรอบๆน้ำตก
ได้เวลาสมควรนำทุกท่านเดินทางกลับเข้าสู่ เมืองหลวงพระบาง
ที่พัก
Chitchareune Mouang Luang Hotel ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 3
วัดเชียงทอง - วัดวิชุนราช - วัดใหม่สุวรรณภูมาราม - พระราชวังเก่า - หอพระบาง - กรุงเทพฯ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเที่ยวชม วัดเชียงทอง (Xieng Thong Temple) เป็นวัดหลวงคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปเวียงจันทน์ และยังได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเจ้าชีวิตศรีสว่างวงศ์วัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของลาวบริเวณ ที่ตั้งของวัดอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองหลวงพระบาง ใกล้บริเวณที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกันกับแม่น้ำโขง มีพระอุโบสถ หรือภาษาลาวเรียกว่า "สิม" เป็นหลังไม่ใหญ่โตนัก หลังคาพระอุโบสถแอ่นโค้งและลาดต่ำลงมาก ซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น เป็นศิลปะแบบหลวงพระบาง ส่วนกลางมี ช่อฟ้า ประกอบด้วย 17 ช่อ ซึ่งเป็นที่สังเกตกันว่า เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้างขึ้นจึงมี 17 ขั้นส่วนสามัญจะสร้างกันแค่ 1-7 ช่อ เชื่อกันว่าจะเก็บของมีค่าไว้ในนั้นด้วยส่วนหน้าบัน หรือภาษาลาวว่า "โหง่" เป็นรูปเศียรนาค
นำท่านเทียวชม วัดวิชุนราช นมัสการพระธาตุหมากโม เป็นเจดีย์ปทุมหรือพระธาตุดอกบัว แต่ชาวลาวทั่วไปเรียกว่า พระธาตุหมากโม เนื่องจากเห็นว่ามีรูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่งหรือทรงโอคว่ำ คล้ายสถูปฟองน้ำที่สาญจี ประเทศอินเดีย ยอดพระธาตุมีลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย บริเวณมุมฐานชั้นกลางและชั้นบนมีเจดย์ทิศทรงดอกบัวตูมทั้งสี่มุม
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหารนำท่านเดินทางไป วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือที่ชาวหลวงพระบางเรียกกันสั้นๆว่า "วัดใหม่" เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาวและยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบางในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินฤทธิ์ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2437 จึงได้อัญเชิญพระบางไปประดิษฐานในหอพระบางภายในพระราชวังจวบจนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อมาเยือนวัดแห่งนี้สิ่งที่เราจะสังเกตเห็นถึงความแตกต่างจากวัดอื่นๆ คือตัวอุโบสถ(สิม) ลักษณะจะเป็นอาคารทรงโรง หลังคามีขนาดใหญ่ มีชายคาปกคลุมทั้งสี่ด้านสองระดับต่อเนื่องกัน
จากนั้นนำท่านชม พระราชวังเก่า (Royal Palace Museum) เป็นวังที่เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ทรงประทับอยู่ที่นี่จนสิ้นพระชนม์ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ.2518 พระราชวังก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วยหอฟังธรรม ห้องรับแขกของเจ้ามหาชีวิตและพระมเหสี ห้องท้องพระโรง ทางด้านหลังก็เป็นพระตำหนักซึ่งมีเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ จัดเก็บไว้เป็นระเบียบเรียบง่าย และ นมัสการหอพระบางซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง เป็นพระพุทธรูปประทับยืนปรางค์ห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปศิลปะขอมสมัยหลังบายน น้ำหนัก 54 กก. ประกอบด้วยทองคำ 90% และยังมีพระพุทธรูปนาคปรกสลักศิลาศิลปะขอมอีก 4 องค์ประดิษฐานอยู่
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ สนามบินนานาชาติหลวงพระบาง
16.30 น.
ออกเดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทยแอร์เอเซีย เที่ยวบินที่ FD 1031
17.55 น.
เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ