วันที่ 1
กรุงเทพฯ - หลวงพระบาง - น้ำตกตาดกวางสี - ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน - ตลาดมืด
06.30 น.
พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 4 เคาท์เตอร์ F สายการบินบางกอกแอร์เวย์ Bangkok Airway (PG) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
09.55 น.
ออกเดินทางสู่ หลวงพระบาง โดยเที่ยวบิน PG 941 (บริการอาหารบนเครื่อง)
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำเดินทางผ่านหมู่บ้านชนบท ชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน สู่ น้ำตกตาดกวางสี (Kuang Xi Waterfall) ห่างจากหลวงพระบาง 30 กิโลเมตรไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยผ่านหมู่บ้านชนบทริมถนน 2 ข้างทาง เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง มีแม่น้ำใสสีมรกตตลอดปี
ชมความงามของน้ำตกที่ตกลดหลั่นเป็นชั้นๆอย่างสวยงาม แต่ละชั้นเกิดจากการผสมของหินปูนสูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้นสภาพป่าร่มรื่น มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆน้ำตก ให้เวลาอิสระดื่มด่ำกับธรรมชาติ และอิสระกับการเล่นน้ำ
ค่ำ
นำท่าน ล่องเรือ เพื่อชมบ้านเรือน และการดำรงชีวิตของชาวเมืองหลวงพระบาง ให้ท่านเพลิดเพลินกับบรรยากาศพระอาทิตย์อัสดง และอิ่มอร่อยกับอาหารบนเรือ
จากนั้นนำท่านเลือกซื้อสินค้าที่ ตลาดมืด ซึ่งชาวหลวงพระบางจะวางของขายตามถนนศรีสว่างวงศ์จนถึงหน้าพระราชวัง ให้ทุกท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัยพื้ไว้เป็นของฝากหรือเป็นของที่ระลึก
ที่พัก
Chitchareune Mouangluang Hotel ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 2
บ้านช่างฆ้อง - ถ้ำติ่ง - บ้านช่างไห - พระราชวังเก่า - วัดเชียงทอง - วัดใหม่ - พระธาตุษูสี - บายศรีสู่ขวัญ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม บ้านช่างฆ้อง ศูนย์หัตกรรมพื้นบ้านอีกแห่งหนึ่งของเมืองหลวงพระบาง ที่รวบรวมสินค้าหัตกรรมงานฝีมือต่างๆ ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมหรือเรียนรู้วิธีการทำ อาทิ การทำงานกระดาษสา การทอผ้าไหมของลาว
จากนั้นเดินทางสู่ท่าเรือ บ้านช่างไห เพื่อล่องเรือเดินทางชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงสู่ถ้ำติ่ง ซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำโขงมีอยู่ 2 ถ้ำ คือถ้ำล่างและถ้ำบน ถ้ำติ่งลุ่มหรือถ้ำล่างสูง 60 เมตรจากพื้นน้ำ มีลักษณะเป็นโพรงน้ำตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวนนับ 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพรและปางห้ามญาติ ถ้ำติ่งบนจะไปทางแยกซ้าย เดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถ้ำไม่ลึกมาก มีพระพุทธรูปอยู่ในถ้ำแต่ไม่มากเท่าถ้ำล่าง สมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณผีฟ้าผีแถนเทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนา เป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามาและจึงทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
บ่าย
นำท่านเดินทางกลับสู่ บ้านช่างไห ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขง มีอาชีพในการหมักสาโทและต้มเหล้าขาวจำหน่าย และยังเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวกผ้าทอลวดลายสวยงามมากมาย เครื่องเงินวางจำหน่ายอย่างเป็นระเบียบ ชมความร่วมมือของชาวบ้านที่ได้จัดแต่งลานบ้านอย่างสวยงามเพื่อรอรับนักท่องเที่ยว
จากนั้นเยี่ยมชม พระราชวังเก่า (Royal Palace Museum) สร้างขึ้นปี พ.ศ.2447 โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบ เป็นวังที่เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ทรงประทับอยู่ที่นี่จนสิ้นพระชนม์ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ.2518 พระราชวังก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในมีหอที่ประดิษฐานองค์พระบางพระพุทธรูปปางห้ามญาติ สูง 83 ซม. หนัก 54 กก. และยังประกอบด้วยหอฟังธรรมห้องรับแขกของเจ้ามหาชีวิตและพระมเหสี ห้องท้องพระโรง ทางด้านหลังก็เป็นพระตำหนักซึ่งมีเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆจัดเก็บไว้เป็นระเบียบเรียบง่าย
จากนั้นเยี่ยมชม วัดเชียงทอง เป็นวัดหลวงคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปเวียงจันทน์ มีพระอุโบสถหรือภาษาลาวเรียกว่า “สิม” เป็นหลังไม่ใหญ่โตนัก หลังคาพระอุโบสถแอ่นโค้งและลาดต่ำลงมากซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น เป็นศิลปะแบบหลวงพระบาง ส่วนกลางมีช่อฟ้าประกอบด้วย 17 ช่อ ซึ่งเป็นที่สังเกตกันว่า เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้างขึ้น จึงมี 17 ช่อ ส่วนสามัญจะสร้างกันแค่ 1 - 7 ช่อเชื่อกันว่าจะเก็บของมีค่าไว้ในนั้นด้วย ส่วนหน้าบัน หรือ ภาษาลาวเรียกว่า “โหง่” เป็นรูปเศียรนาค ความงามของวัดอยู่ที่ความสงบ สง่า สะอาด มีการวางผังออกแบบและบำรุงรักษาอย่างดีเยี่ยม
นำท่านไหว้พระที่ วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือที่ชาวหลวงพระบางเรียกกันสั้นๆว่า "วัดใหม่" เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาว และยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบาง ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินฤทธิ์จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2437 จึงได้อัญเชิญพระบางไปประดิษฐานในหอพระบาง ภายในพระราชวังจวบจนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อมาเยือนวัดแห่งนี้สิ่งที่เราจะสังเกตเห็นถึงความแตกต่างจากวัดอื่นๆ คือตัวอุโบสถ(สิม) ลักษณะจะเป็นอาคารทรงโรงหลังคา มีขนาดใหญ่ มีชายคาปกคลุมทั้งสี่ด้านสองระดับต่อเนื่องกัน
จากนั้นนำท่านสู่ พระธาตุภูษี เป็นยอดเขาที่มีความสูงประมาณ 150 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง เปรียบเสมือนเสาหลักของเมือง และยังเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมไปชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน และสามารถมองเห็นวิวเมืองหลวงพระบางได้ 360 องศา บันไดทางขึ้นมีทั้งหมด 328 ขั้น ชาวหลวงพระบางกล่าวว่า “ไปเยี่ยมนครหลวงพระบาง ถ้าไม่ได้ขึ้นภูษีถือว่าไม่ถึงหลวงพระบาง”
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารเมืองหลวงพระบาง (พิเศษ!! พิธีบายศรีสู่ขวัญตามประเพณีพื้นบ้านของหลวงพระบาง) ตามประเพณีพื้นเมืองของคนลาว ที่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และร่วมรับประทานอาหารตามแบบพื้นบ้าน (ขันโตก)
ที่พัก
Chitchareune Mouangluang Hotel ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 3
ใส่บาตรข้าวเหนียว - วัดวิชุนราช - บ้านผานม - กรุงเทพฯ
เช้า
ตื่นเช้าไปร่วม ทำบุญ - ใส่บาตรข้าวเหนียว กับชาวหลวงพระบาง ทุกเช้าชาวหลวงพระบางทุกบ้านจะพากันออกมานั่งรอตักบาตรพระสงฆ์ ที่เรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อยๆรูป ซึ่งเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของหลวงพระบาง โดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุขและความเลื่อมใสศรัทธา ที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึก ลงในวัฒนธรรมของชาวล้านช้าง
นำท่านแวะเที่ยวชม ตลาดเช้า ที่เต็มไปด้วยอาหารพื้นเมืองและของฝาก แวะชิมกาแฟลาวที่ขึ้นชื่อ ร้านประชานิยม ให้ท่านได้ลิ้มรสกาแฟลาวคู่กับขนมคู่ หรือ ปาท่องโก๋
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม วัดวิชุนราช นำท่านนมัสการ พระธาตุหมากโม เป็นเจดีย์ปทุม หรือ พระธาตุดอกบัว แต่ชาวลาวทั่วไปเรียกว่า พระธาตุหมากโม เนื่องจากเห็นว่ามีรูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่งหรือทรงโอคว่ำ คล้ายสถูปฟองน้ำที่สาญจี ประเทศอินเดีย ยอดพระธาตุมีลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย บริเวณมุมฐานชั้นกลางและชั้นบน มีเจดีย์ทิศทรงดอกบัวตูมทั้งสี่มุม
จากนั้นนำท่านแวะช้อปปิ้งผ้าพื้นเมืองที่ บ้านผานม เป็นหมู่บ้านชาวไทลื้อ มีฝีมือในการทอผ้าอย่างสวยงาม อดีตเป็นแหล่งทอผ้าถวายแด่เจ้ามหาชีวิต ปัจจุบันผ้าทอจากบ้านผานมนี้มีชื่อเสียงมาก และมีการรวมกลุ่มตั้งเป็นศูนย์หัตถกรรมแสดงสินค้าและยังมีการสาธิตให้ท่านชมด้วย
ได้เวลาสมควรเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติหลวงพระบาง เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
12.48 น.
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG 942 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
14.50 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม